พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่770 ขับไล่
ทที่770 ขับไล่
ในลานวัดมังกร
หลังจากที่รพีพงษ์พาอาจารย์โอบนิธิเข้าไปแล้วนั้น แขกบนลานวัดก็ส่งเสียงดังขึ้นมา
พวกเขาคาดไม่ถึง พระอรหันต์ที่สูงส่ง จะถูกหิ้วออกมาอย่างลูกเจี๊ยบน้อย
มีแขกจำนวนไม่น้อยที่เลื่อมใสในอาจารย์โอบนิธิถึงขั้นไม่พอใจ แม้ฝีมือของรพีพงษ์เก่งกว่าอาจารย์โอบนิธิ แต่อาจารย์โอบนิธิคือพระอรหันต์ ไม่ว่ายังไงก็ไม่ควรทำแบบนี้
“เมื่อกี๊ไอ้เด็กนั้นทำเกินไป มันกล้าทำแบบนี้กับอาจารย์โอบนิธิ ไม่เคารพศาสนาพุทธเกินไปแล้ว ฝีมือมันดีแล้วไง!”
“ถูก ไอ้นี่มันมองข้ามคนเกินไปแล้ว ที่อาจารย์โอบนิธิเป็นที่รู้จักกว้างขวาง ไม่ใช่เพราะความสามารถของเขา แต่เป็นเพราะเรื่องดีๆเหล่านั้นที่เขาทำไว้ต่างหาก แต่ไอ้นี่คิดว่าตัวเองเก่ง จึงปฏิบัติกับอาจารย์โอบนิธิแบบนี้ บ้าเกินไปแล้ว!”
“พวกเราจะต้องช่วยอาจารย์โอบนิธิ จะให้ชื่อเสียงของอาจารย์โอบนิธิถูกเหยียดหยามไปกว่านี้ไม่ได้!”
……
ในขณะที่ทุกคนกำลังถกเถียงกันอยู่นั้น รพีพงษ์ก็ลากอาจารย์โอบนิธิออกมาจากอุโบสถ
ทุกคนหันไปมอง หลังจากที่เห็นความทุกข์ทรมานของอาจารย์โอบนิธิแล้วนั้น ก็ยิ่งโกรธแค้นมากขึ้น
“ไอเด็กน้อย อาจารย์โอบนิธิป็นพระอรหันต์ เขาเป็นอาจารย์ที่อัศจรรย์ แกต่อยเขาจนเป็นแบบนี้ ยังมีจิตใจอยู่บ้างไหม!” มีคนตะคอกใส่รพีพงษ์
รพีพงษ์ได้ยินเสียงตะคอกของคนนี้ ก็ดูแคลน กล่าว “พระอรหันต์? คนเลวแบบมัน เหมาะกับการเรียกแบบนี้หรอ? วันนี้ผมจะทำให้พวกคุณรู้ว่าอาจารย์โอบนิธิอะไรนี่ มันเป็นคนยังไงกันแน่!”
พูดจบ รพีพงษ์หันไปดูด้านหลังของตัวเอง อารียากำลังพาเหล่าผู้หญิงที่โดดกักตัวอยู่นานออกมา
เพราะถูกกักตัวอยู่นาน บวกกับถูกอาจารย์โอบนิธิกดขี่ข่มเหง ดูๆไปผู้หญิงเหล่านั้นล้วนเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส หลังจากที่เห็นแสงอาทิตย์ก็ร้องออกมาทันที
ผู้คนที่ส่งเสียงดังทันใดนั้นก็เงียบลง ไม่คาดคิดว่าวัดมังกรจะซ่อนผู้หญิงไว้ ไม่ใช่แค่หนึ่งคน
ก่อนหน้าที่จะออกมา รพีพงษ์และอารียาได้ปลอบขวัญหญิงเหล่านี้แล้ว ผู้หญิงเหล่านี้ได้ตอบตกลงที่จะแฉความเลวของอาจารย์โอบนิธิต่อหน้าประชาชี
เห็นทุกคนเงียบลง หนึ่งในผู้หญิงนั้นได้ก้าวออกมา ร้องไห้และเล่าเรื่องที่ตัวเองเจอมาให้กับทุกคนฟัง
ทุกคนไม่มีใครกล้าพูดแทรก พิธีกรถึงขั้นยื่นไมค์ที่อยู่ในมือของตนให้ถือไว้ ให้ทุกคนได้ยินคำพูดของผู้หญิงคนนั้น
จากนั้นเมื่อฟังเรื่องราวของผู้หญิงแล้ว ทุกคนก็เงียบสงัดลง คนที่ตอนนั้นก็รับหน้าแทนอาจารย์โอบนิธิก็รู้สึกผิดขึ้นมา ล้วนก้มหน้า อยากจะมุดดินหายไปให้มันรู้แล้วรู้รอด
หลังกจากที่ผู้หญิงคนแรกพูดจบ ผู้หญิงที่เหลือก็มีความกล้า พูดเรื่องที่ตัวเองได้เจอออกมาให้ทุกคนฟัง
“ฉันรู้จักพวกเธอ พวกผู้หญิงพวกนี้ที่ก่อนหน้านี้หายตัวไปที่เขายุผิง พวกเธอไง ตอนนั้นฉันดูรูปพวกเธอแล้ว ไม่ผิดแน่นอน!” หลังจากที่ผู้หญิงเหล่านี้พูดจบ ก็มีคนตะโกนออกมา
ขณะนี้มีคนหาข่าวที่ตอนนั้นผู้หญิงหายไปตอนที่อยู่เขายุผิง จากนั้นก็เอารูปมาเทียบดู พบว่าเป็นผู้หญิงพวกนี้ไม่มีผิดแน่
ความโกรธแค้นในใจเริ่มเพิ่มขึ้น พวกเขาล้วนคิดไม่ถึงว่าอาจารย์โอบนิธิจะเป็นคนแบบนี้ ภายนอกดูท่าทางเป็นพระอรหันต์ แต่เบื้องหลังนี่เลวทรามต่ำช้ามาก
ทุกคนเริ่มขับไล่อาจารย์โอบนิธิที่ล้มอยู่กับพื้น
ตอนนี้อาจารย์โอบนิธิไม่มีแม้กระทั่งกะจิตกะใจจะแก้ตัว รพีพงษ์ได้ถีบเจ้าโลกของเขา ถึงตอนนี้เลือดก็ยังคงไหลไม่หยุด เลือดไหลมากจนเขาเริ่มจะไม่ค่อยรู้ตัวแล้ว
“ทุกคนก็ได้รับรู้ความเลวของคนต่ำช้าคนนี้แล้ว ถ้าพวกคุณอยากขับไล่เขา ผมไม่ห้าม” รพีพงษ์กล่าว จากนั้นก็ไปจากอาจารย์โอบนิธิ
ผู้คนเริ่มตื่นตัวแล้วล้อมรอบอาจารย์โอบนิธิ ตอนแรกหนึ่งคนขับไล่หนึ่งครั้ง มีคนจำนวนไม่น้อยบ้วนน้ำลายไปที่เขา และก็มีบางคนที่ทนไม่ได้ถึงขึ้นลงไม้ลงมือกับเขา สถานการณ์แบบนี้ ไม่มีใครสนใจว่าอาจารย์โอบนิธิจะเจ็บปวดหรือไม่อย่างไร
ผ่านไปสักพักใหญ่ ทุกคนเริ่มหายโกรธ จากนั้นก็เดินออกไปจากอาจารย์โอบนิธิ ขณะนี้อาจารย์โอบนิธิหน้าซีดเซียว ขาดอากาศหายใจ
รพีพงษ์เห็นอาจารย์โอบนิธิถูกขับไล่จนตาย ก็ไม่รู้สึกสงสารใดๆ คิดว่าเขาตายแบบนี้ ถือว่าเขายังได้เปรียบเสียด้วยซ้ำ
หายนะที่เหล่าผู้หญิงพวกนั้นได้เจอ ทำให้ผู้คนรู้สึกเป็นห่วงอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ต่อไป รพีพงษ์ก็ไม่ต้องใส่ใจอะไรกับเรื่องพวกนี้อีก
เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา ตอนที่ทุกคนกำลังเป็นห่วงผู้หญิงเหล่านั้นอยู่นั้น รพีพงษ์ก็พาอารียาออกไปจากที่นี่ รอให้ทุกคนอยากหารพีพงษ์เพื่อขอโทษ ก็ไม่รู้ว่าเขาไปไหนแล้ว
เรื่องที่อาจารย์โอบนิธิของวัดมังกรเขายุผิงกักขังหน่วงเหนี่ยวผู้หญิงไว้นั้นเป็นข่าวดังไปทั่วประเทศ ด้วยเหตุนี้เองเขายุผิงจึงถูกสั่งปิด ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอาจารย์โอบนิธิล้วนถูกจับทั้งหมด
และรพีพงษ์ที่ทวงคืนความยุติธรรมกลายเป็นฮีไร่ลึกลับ นอกจากคนพวกนั้นที่ได้เห็นรพีพงษ์ ที่เหลือก็ไม่มีใครรู้ว่ารพีพงษ์มาจากไหน
แม้วันนั้นมีคนจำนวนไม่น้อยได้ถ่ายวิดีโอแล้วอัพลงอินเตอร์เน็ต แต่ไม่นานก็ถูกลบออก ความนิยมของฮีโร่ลึกลับคนนี้ไม่นานก็ลดน้อยลง
นี่เป็นสิ่งที่รพีพงษ์วางแผนไว้ เขาไม่อยากเป็นฮีโร่ของประเทศ มีเรื่องน้อยก็ทุกข์น้อย อาจารย์โอบนิธิถูกกำจัด ก็พอแล้ว
ด้วยแบ็คกราวน์ของรพีพงษ์ ใช้อำนาจมาจัดการ ก็ง่ายมาก
ในขณะที่เรื่องของอาจารย์โอบนิธิกำลังโกลาหลอยู่นั้น รพีพงษ์และอารียาไม่ได้กลับไปเกียวโต แต่ไปเมืองเย็นหยางที่อยู่ข้างๆเขายุผิง
จากเมืองเย็นหยางไปเกียวโตมีระยะทางพันกว่ากิโลเมตร นานๆรพีพงษ์จะได้พาอารียาออกมา แม้จะเกิดปัญหาขึ้นนิดหน่อย แต่เขาก็ยังกลับไปไม่ได้
ช่วงนี้รพีพงษ์ได้พาอารียาเที่ยวเมืองเย็นหยาง ในตัวเมือง รพีพงษ์ค่อนข้างวางใจ เพราะไม่มีเหตุการณ์ใดๆ ที่นี่ไม่มียอดฝีมือแดนปรมาจารย์ปรากฏกายแน่นอน
และปัญหาที่จะเกิดขึ้นในเมืองทั้งหมด สำหรับรพีพงษ์แล้ว ไม่เรียกว่าเป็นปัญหา
ช่วงนี้รพีพงษ์กำลังเรียนรู้สิ่งของที่ได้มาจากอาจารย์โอบนิธิ แม้การเที่ยวปีนเขาไม่ค่อยราบรื่น แต่สิ่งที่ได้มาถือว่าไม่น้อยเลย
ยาพิษรพีพงษ์ได้ลองกับตัว เป็นยาพิษที่เขาถูกตอนอยู่คุกใต้ดินจริงๆ และยาถอนพิษก็มีประโยชน์จริงๆ รพีพงษ์เปลี่ยนภาชนะที่ใส่ยาพิษ จากนั้นก็ให้อารียา เมื่อเธอเจอเข้ากับอันตรายให้ใช้ของสิ่งนี้ แม้ไม่ใช่ยอดฝีมือแดนปรมาจารย์ แต่ก็มีโอกาสหนีตายได้
และยาที่ใช้เพิ่มพลังสองอันนั้น รพีพงษ์ยังไม่ได้ลอง เพราะเขาไม่รู้ว่าสิ่งที่อาจารย์โอบนิธิพูดนั้นเป็นความจริงหรือเท็จ ถ้าผลข้างเคียงไม่ได้เป็นแบบนั้น รพีพงษ์เสียใจก็ไม่ทันการแล้ว ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจรอให้หาคนที่เข้าใจในตัวยานี้ก่อนว่าจริงเท็จแค่ไหน แล้วค่อยคิดว่าจะลองหรือไม่
และในช่วงเวลานี้ รพีพงษ์ก็ได้ศึกษาเกี่ยวกับหยกและไม้ดำนั่น
เขาศึกษาหยกแล้วแต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม้ดำนั่นสิ ทำเอาเขาปวดหัว