พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่789 ขึ้นมาพร้อมกันเลยสี่คน
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่789 ขึ้นมาพร้อมกันเลยสี่คน
ทที่789 ขึ้นมาพร้อมกันเลยสี่คน
“ยาเสริมพลังจิตเหรอ”รพีพงษ์เห็นทัดเทพเปลี่ยนไป อดถามไม่ได้
ทัดเทพหัวเราะพูด“ยานี่แรงกว่ายาเสริมพลังจิตเยอะ เตรียมตัวตายเถอะ!”
พูดจบทัดเทพจึงกระโจนใส่รพีพงษ์ พร้อมปล่อยหมัดสะท้านฟ้า แล้วทุบลงไปบนหัวรพีพงษ์
รพีพงษ์หรี่ตา ฤทธิ์ยานี่ แรงกว่ายาเสริมพลังจิตจริงๆ พลังของทัดเทพตอนนี้ เหนือกว่าปภาวิชญ์ที่เคยกินยาในตอนแรก
เขาไม่รีรอ หมุนสะบัดตัว จู่โจมสุดกำลัง รับหมัดทัดเทพ
พลังสองคนปะทะ ตะลุมบอนบนเวทีราวพายุหมุน หลังจากที่มะรุมมะตุ้มใส่กัน เสื้อผ้าของผู้ชมก็พัดปลิว
รพีพงษ์ประเมินทัดเทพต่ำไป พอรับหมัดของเขา ก็ถอยหลังไปหลายก้าว จึงกำจัดพลังได้หมดสิ้น
ทัดเทพเองก็ไม่คิดว่ายานี่จะดีขนาดนี้ รู้สึกตื่นเต้นมาก มองไปเห็นแววตารพีพงษ์ไม่ปรากฏพลังใดๆ“รพีพงษ์ ฉันแพ้ครั้งนึงแล้วไง ครั้งนี้ ฉันจะมาแก้มือ สถิติการชนะของแกจบลงที่ฉันนี่แหละ ชีวิตของแก ก็จะถูกตีแผ่!”
รพีพงษ์แค่นเสียงพูด“ก็แค่พลังนอก ถ้าแกคิดว่าแค่นี้ชนะฉันได้ ก็ซื่อเกินไป”
พูดจบ รพีพงษ์พุ่งไป ปล่อยพลังใส่อกทัดเทพเต็มที่
“ฝ่ามือดาวฟ้า!”
ทัดเทพป้องมือบัง สองคนปะทะกันดุเดือด
หลังจากกินยา พลังทัดเทพก็เทียบเท่าระดับปรมาจารย์ พลังเขาเทียบเท่ารพีพงษ์ ในช่วงปะทะดุเดือดของคนทั้งคู่ เห็นคนในสนามต่างตกตะลึง
“คิดไม่ถึงว่าร่างกายจะมีขีดจำกัดสูงขนาดนี้ ดูท่าตอนนี้ คงเป็นที่หนึ่งของโลก”
“น่าสนใจจริง ชั่วชีวิตไม่เคยดูอะไรสนุกๆแบบนี้เลย มาเกียวโตครั้งนี้ ไม่เสียที”
“นี่เพิ่งหกยก ยังแข็งแกร่งขนาดนี้ ไม่รู้ว่ารพีพงษ์จะทนถึงสิบยกหรือเปล่า”
……
พวกบดีศวรเห็นพลังที่ทัดเทพปล่อยออกมา ต่างแสดงสีหน้าพึงใจ ในขณะเดียวกันต่างก็มั่นใจในผลของวันนี้เต็มที่
ตอนนี้ทุกคนมียาเสริมพลังในมือคนละเม็ด ต่อให้รพีพงษ์ชนะทัดเทพ ก็ยังมีอีกสี่คนรออยู่ วันนี้รพีพงษ์ไม่รอดแน่นอน
บดีศวรหันไปมองชายชุดดำ แววตานับถือ
ใต้หล้ามีคนสองประเภทที่มิอาจยั่วยุ หนึ่งคือกำลังเหลือแสน เป็นยอดฝีมือเหนือโลกธุลี อีกหนึ่งคือผู้ผลิตยาวิเศษ
เพราะไม่รู้ว่าคนประเภทนี้มียาอะไรติดตัว บางทียาเม็ดเล็กๆ ก็มากพอที่จะทำลายให้ถึงจุดจบ
การประลองดำเนินดุเดือดขึ้น แม้ว่าพลังทัดเทพทำให้รพีพงษ์ตกตะลึง แต่ว่าฤทธิ์ยาที่คงเหลือยังเทียบพลังวิเศษไม่ได้
เห็นตนเองกำจัดรพีพงษ์ไม่ได้ ทัดเทพก็ร้อนใจ กระบวนท่าทั้งหลายก็เอาไม่อยู่
“บ้าเอ๊ย ทำไมไอ้บ้านี่พลังเยอะฉิบ ไม่มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์!”ทัดเทพสบถ
รพีพงษ์หัวเราะ พูด“เน่ยจิ้งไม่มีวิทยาศาสตร์รองรับหรอก อีกอย่าง แกลงจากเวทีได้แล้ว”
พูดจบ รพีพงษ์รีบแสดงกระบวนท่า ซัดทัดเทพลงเวที
“ฝ่ามือธันเดอร์!”
กระบวนท่าที่แข็งที่สุดของรพีพงษ์
ทัดเทพเห็นสถานการณ์หน้าถอดสี แต่เวลานี้ดูทีคงจะสายเกินไปแล้ว จึงได้แต่กระพริบตามองรพีพงษ์ปล่อยหมัดใส่ตน
หลังจากเสียงโหยหวน ทัดเทพจึงกระเด็นร่วงเวทีไป เลือดกลบปาก
ทั้งคู่ได้แต่จ้องรพีพงษ์เขม็ง แววตาไม่สบอารมณ์ เดินทีคิดว่าหลังจากกินยาเข้าไป พลังเพิ่มขึ้น จะสู้ชนะรพีพงษ์ ศักยภาพรพีพงษ์แสดงให้เห็น ต่อให้ใช้พลังภายนอก ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้รพีพงษ์
รพีพงษ์จ้องทัดเทพเอ่ยปากพูด“ห้าตระกูลใหญ่ก็เท่านั้น ใช้ยา ก็ยังไม่คู่ควรต่อกรกับผม”
ทัดเทพกัดฟันกรอด สีหน้าเดือดดาล“อย่าลำพองไปหน่อยเลยแก ฉันสัมผัสได้ พลังทั้งหมดเมื่อกี้ แสดงให้เห็นว่าพลังแกก็แค่นั้น แกยังเหลืออีกสี่การประลอง กับประมุขสี่ท่าน และในมือพวกเขา ต่างมียาคนละเม็ด ฉันไม่เชื่อว่าแกต้านยกนี้ได้ จะต้านอีกสี่ยกได้!”
รพีพงษ์ขมวดคิ้ว มองไปทางบดีศวร เห็นพวกเขามองมาทางตนอย่างราบเรียบ ไม่ได้กังวลที่ทัดเทพแพ้
เขาคิดไม่ถึงว่าประมุขทั้งห้าจะกินยานั่นทั้งหมด ไม่ใช่ว่ายานั่นจะวิเศษมากมายแค่ไหน หากแต่ทำไมทุกคนมียาในมือคนละเม็ด
ไม่นาน นิรภาพประมุขตระกูลตระกูลยศบวรขึ้นเวที ยืนตรงหน้ารพีพงษ์
เขาแค่นยิ้มมองรพีพงษ์ เอ่ยปาก“รพีพงษ์ คำพูดประมุขตระกูลตะกั่วทุ่งแกคงได้ยิน ยาที่เขากิน ทุกคนมี ต่อให้แกแกร่งแค่ไหน ฉันไม่เชื่อว่าแกชนะได้ห้ายก ต่อให้ต้องสูญเสียพลัง พวกเราก็ต้องเอาแกจนตาย!”
รพีพงษ์หรี่ตา ตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกล้าพลัง ถ้าทุกคนมียานี่จริง เขาเกรงว่าสุดท้ายตนเองจะต้านไม่ไหว
แม้ว่าเขาก็มียาเพิ่มพลัง หรือถึงขั้นเคล็ดลับเพิ่มพลัง แต่ว่าต่อกรได้ในระยะสั้น อย่างมากในยกหนึ่ง พลังก็จะสูญหายไปเยอะ และเมื่อเขาอ่อนแอลง ก็จะถูกจัดการได้ง่าย
เห็นได้ชัด ดูจากสถานการณ์ของเขา เกรงว่าหลังจบการประลอง เขาต้องงัดกลยุทธ์ออกมา
“เจ้าหนู เริ่มเถอะ ต่อให้ฉันแพ้ก็ไม่เป็นไร สำคัญคือ แกต้องตายบนน้ำมือเราสักคน!”นิรภาพส่งสัญญาณประลอง
“ช้าก่อน”รพีพงษ์เอ่ย
นิรภาพตะลึง ไม่รู้รพีพงษ์คิดอะไร
รพีพงษ์นิ่ง หลังจากมองไปยังห้าตระกูลใหญ่ จึงทอดสายตาไปทางบดีศวร ขเยศ และธนพล“ฉันไม่อยากเสียเวลา สี่คนขึ้นมาทีเดียวเลยแล้วกัน ฉันจะสู้พร้อมกัน และวันนี้จะเป็นวันประลองวันสุดท้าย”
สิ้นเสียง ทั่วสนามตกตะลึง!