พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่805 แลกเปลี่ยน
บทที่805 แลกเปลี่ยน
รพีพงษ์หยิบกระดาษนั้นเดินไปยังด้านหน้าของชายชุดดำ จ้องไปที่เขาแล้วถาม “อุเอสึงิ ฮารุคือใคร?”
ชายชุดดำไม่อยากพูด ครองภพขยับมีสั้นที่ได้ปักเข้าไปบนขาอ่อนของเขาเล็กน้อย มีดกรีดบนเนื้อ ความเจ็บแบบนี้ไม่มีใครรับได้ ชายชุดดำร้องโอดครวญขึ้นมาอีกครั้ง
“พูดแล้ว ฉันจะพูดให้หมด แกรีบเอามีดนี่ออกไปซะ!” ชายชุดดำกล่าวอย่างสิ้นหวัง
ครองภพหยุดลง แต่ไม่ได้เอามีดออก
หน้าผากของชายชุดดำเต็มไปด้วยเหงื่อ หลังจากที่จ้องไปที่รพีพงษ์ก็ได้กล่าวว่า “นี่เป็นคนของตระกูลอุเอสึงิแห่งญี่ปุ่น”
“ตระกูลอุเอสึงิ คือประเทศญี่ปุ่นที่ปกปิดเบื้องหลัง ควบคุมเศรษฐกิจและศิลปะการป้องกันตัวของประเทศญี่ปุ่นไว้ครึ่งหนึ่ง ตระกูลอุเอสึงิมีนินจาสืบทอดหกรุ่น?” รพีพงษ์ถามต่อ
ชายชุดดำพยักหน้า คนที่รู้จักตระกูลอุเอสึงึนั้นมีตำนวนมาก ดังนั้นเขาจึงไม่แปลกใจอะไร
ที่รพีพงษ์รู้สถานการณ์ตระกูลอุเอสึงิ เพราะกระดาษที่อาจารย์ให้นั้นมีบนแนะนำอยู่คร่าวๆ ตระกูลอุเอสึงิถือว่าเป็นบอสใหญ่ของประเทศญี่ปุ่น แม้จะเป็นผู้มีอำนาจ ก็ไม่กล้าไปหาเรื่องคนของตระกูลอุเอสึงิได้
แต่หยกโยงจิต อยู่ในมือของตระกูลอุเอสึงิ ก่อนที่รพีพงษ์จะไปประเทสญี่ปุ่น ก็ต้องไปทักทายกับตระกูลอุเอสึงิเสียก่อน
เขาไม่คาดคิดว่าอุเอสึงิ ฮารุที่อยู่บนกระดาษ จะเป็นคนของตระกูลอุเอสึงิที่เขากำลังหาอยู่
“ทำไมแกถึงพกรุปของคนนี้ไว้?” รพีพงษ์สงสัย ไม่รู้ว่าทำไมสำนักเทพยาเซียนกับตระกูลอุเอสึงิถึงรวมกันได
ชายชุดดำรู้ว่าถ้าตัวเองไม่พูด จะต้องถูกทารุณกรรมอีกแน่นอน จึงได้กล่าวอย่างเบื่อหน่ายว่า “ความจริงครั้งนี้ที่ฉันออกมาจากสำนักเทพยาเซียน โดยหลักๆเลย ก็คือเจอกับอุเอสึงิ ฮารุ ที่พกรูปของเธอมา ก็เพื่อยืนยันตัวตน ที่มาเกียวโตล้างแค้นให้ชินาธิปก็เป็นแค่เรื่องรอง”
ตระกูลอุเอสึงิกับสำนักเทพยาเซียนมีข้อแลกเปลี่ยนกัน อุเอสึงิ ฮารุเป็นคนที่ตระกูลอุเอสึงิจัดมาให้เจอกับพวกเรา ภารกิจของฉันคือหลังจากที่เจอกับเธอแล้ว พาเธอไปสำนักเทพยาเซียน บรรลุข้อแลกเปลี่ยนในครั้งนี้”
“แลกเปลี่ยนอะไไร?” รพีพงษ์ถาม
“เรื่องนี้ฉันไม่รู้จริงๆ เนื้อหาในการแลกเปลี่ยนมีเพียงผู้อาวุโสเท่านั้นที่รู้ จากที่ผู้อาวุโสพูดนั้น นี่เป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างเขาและตระกูลอุเอสึงิ แม้เจ้าสำนักก็ไม่รู้ ตอนที่ฉันออกมาผู้อาวุโสเน้นย้ำฉันนักหนาว่าอย่าเพร่งพรายเรื่องนี้ให้ใครรู้” ชายชุดดำรีบกล่าว
รพีพงษ์และครองภพสบตากัน ไม่เชื่อในคำพูดของเขา ครองภพเริ่มจะลงมืออีกครั้ง ทรมานชายชุดดำให้หนำใจอีกสักครั้ง แต่ชายชุดดำพูดตลอดว่าตัวเองไม่รู้จริงๆ ทั้งสองจึงได้เชื่อเขา
จากนั้นรพีพงษ์ได้ถามชายชุดดำอีกครั้งว่าเมื่อไหร่อุเอสึงิถึง และถามถึงตำแหน่งของสำนักเทพยาเซียน
ความจริงรพีพงษ์ไม่อยากมีปัญหากับเทพยาเซียน เพราะมีเรื่องน้อยก็ทุกข์น้อย ไม่มีใครรู้ว่าเขาจับชายชุดดำไว้ เพียงแค่เรื่องนี้ถูกปกปิดไว้ อนาคตเขาและสำนักเทพยาเซียนก็จะไม่แตกแยกกัน
แต่สำนักเทพยาเซียนกับตระกูลอุเอสึงิกลับมีความสัมพันธ์กัน นี่ทำให้รพีพงษ์ต้องไตร่ตรองถึงเรื่องระหว่างตระกูลอุเอสึงิและสำนักเทพยาเซียนว่าจะกระทบกับการเอาหยกโยงจิตจากตระกูลอุเอสึงิหรือไม่
ปลอดภัยไว้ก่อน รพีพงษ์จะต้องรู้ก่อนว่าตระกูลอุเอสึงิกับสำนักเทพยาเซียนมีการแลกเปลี่ยนอะไร ถ้าเป็นไปได้ล่ะก็ เขาอาจจะสามารถเอาหยดโยงจิตจากตระกูลอุเอสึงิได้เลย
หยกโยงจิตเป็นสิ่งล้ำค่าที่หาได้ยาก คนของตระกูลอุเอสึงิไม่โง่ ไม่ใช่ว่ารพีพงษ์จะเอาแล้วพวกเขาจะให้ ดังนั้นรพีพงษ์ต้องเตรียมการไว้
เขาก็คิดว่าจะผ่านอุเอสึงิ ฮารุ เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับตระกูลอุเอสึงิ
และในตอนแรก รพีพงษ์จะเป็นตัวแทนของชายชุดดำไปเจอกับอุเอสึงิ ดูว่าจะสามารถล้วงความลับอะไรจากอุเอสึงิได้บ้าง ถ้าไม่ได้จริงๆ ค่อยใช้วิธีอื่น
หลังจากที่ถามเรื่องนี้อย่างละเอียดแล้ว รพีพงษ์ได้ให้ชายชุดดำดูยาสองอันและไม้ดำที่ได้จากอาจารย์โอบนิธิในตอนนั้น ถามเขาว่ารู้จักไหม
ตอนที่เห็นยาสองอันนั้น ชายชุดดำตะลึง ถามรพีพงษ์ว่ามียาที่ดีที่สุดอย่างนี้ได้ไงกัน รพีพงษ์รีบถามต่อว่าอะไรคือยาที่ดีที่สุด
ชายชุดดำอธิบายว่ามีประสิทธิภาพสูงสุด เป็นยาที่วิเศษ
ยาแบบนี้จะไม่มีผลค้างเคียง ผลลัพธ์ที่ได้ก็ถือได้ว่าดีที่สุดเลยทีเดียว
รพีพงษ์ไม่คาดคิดว่ายานี้จะเยี่ยมขนาดนี้ ถึงขั้นดีที่สุดเลยทีเดียว แสดงว่าตอนนั้นอาจารย์โอบนิธิไม่ได้หลอกเขา
วิธีปฏิบัติมันชั่งยิ่งใหญ่เสียจริงๆ แต่เมื่อใช้แล้วจะทำให้คนอ่อนแอ รพีพงษ์ได้สลบไปถึงเจ็ดวัน ข้อเสียหนักมาก และยาที่ไม่มีผลข้างเคียงแบบนี้ เป็นของล้ำค่าที่หาที่เปรียบมิได้
หลังจากที่เก็บยาไว้แล้วนั้น รพีพงษ์ได้ถามถึงไม้ดำนั้น ชายชุดดำดูอยู่นาน ก็ดูไม่ออกว่าไม้ดำเอาไว้ทำอะไร เพียงแค่รู้สึกพิเศษ บอกว่าบางทีเจ้าสำนักอาจจะรู้ว่านี่คืออะไร
รพีพงษ์เซ็ง ทำได้เพียงยอมแพ้ แม้แต่คนของสำนักเทพยาเซียนยังดูไม่ออกว่าท่อนไม้นี้ใช้ทำอะไร ก็แสดงว่าที่มาของไม้นี้ไม่ธรรมดาอย่างมาก
ถ้ามีโอกาสล่ะก็ รพีพงษ์อยากไปถามเจ้าสำนักของสำนักเทพยาเซียน
เขาไม่ใส่ใจว่าคนของสำนักเทพยาเซียนจะหาเรื่องเขา เพราะคนของสำนักเทพยาเซียนไม่รู้ว่าเขาจับชายชุดดำไว้
หลังจากจบการซักถาม รพีพงษ์ให้ครองภพขังชายชุดดำนี้เอาไว้ก่อน คนนี้ออกมาจากสำนักเซียน ต้องรู้เกี่ยวกับการทำยาอย่างแน่นอน ถ้าสามารถเรียนวิธีปรุงยาจากเขาได้ ก็ถือเป็นเรื่องที่ไม่เลว
แต่เรื่องที่ชายชุดดำทำร้ายอารียา รพีพงษ์ไม่มีทางปล่อยเขาไว้แน่ ดังนั้นการที่เขาอยากจะกลับไปสำนักเทพยาเซียนนั้น ไม่มีทางเป็นไปได้แล้ว
ครึ่งเดือนผ่านไป
รพีพงษ์ได้มอบหมายของชลาธิปดูแลเรื่องในตระกูลลัดดาวัลย์อีกครั้ง แล้วยังเน้นย้ำให้สองพี่น้องปวัตรและปวิชให้ดูแลความปลอดภัยของอารียาสองแม่ลูกให้ดี หลังจากที่ร่ำลากับอารียาและหนูลินแล้ว ก็ออกจากเกียวโต ไปยังสถานที่ที่ชายชุดดำได้นัดอุเอสึงิ ฮารุไว้
การเดินทางในครั้งนี้ กว่าจะกลับมา ก็ต้องเป็นตอนที่หาหยกโยงจิตเจอแล้ว
เมืองเล็กๆทางตอนใต้
ที่ตีนเขามีบ้านพังๆหลังเล็กๆอยู่ รพีพงษ์กำลังนั่งอยู่บนอิฐทดสอบพลังที่แท้จริงของตัวเองอยู่ กำลังคิดว่าจะทำอย่างไรให้ตัวเองได้มีพลังวิเศษเสนที่เต็มสูบได้เสียที
ถ้าเขาเดาไม่ผิด การที่จะระเบิดพลังวิเศษเสนได้นั้น ก็น่าจะเป็นการใช้พลังวิเศษเสนภายนอกแล้ว
เขามาถึงที่นี่เมื่อวาน ตามที่ชายชุดดำพูดไว้ว่า วันนี้เป็นวันที่นัดเจอกับคนของตระกูลอุเอสึงิ
ในขณะที่รพีพงษ์กำลังคิดอะไรเพลินๆอยู่นั้น ด้านนอกมีเสียงเดินเท้าดังขึ้น จากนั้นก็มีเงาของสองคนเดินเข้ามายังที่ๆรพีพงษ์อยู่
รพีพงษ์เงยหน้าขึ้น เห็นว่าคนที่เข้ามาคนหนึ่งเป็นผู้หญิงคนหนึ่งเป็นคนแก่
เห็นเพียงสาวรูปงาม งามดั่งรูปภาพ ท่าทางงดงาม สง่างามเหลือล้น สวยงามกว่าใคร งดงามเหลือเกิน
แว็บแรก แม้รพีพงษ์ก็ต้องตะลึง