พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่809 ความจริง
บทที่809 ความจริง
รพีพงษ์จ้องไปที่อุเอสึงิ ยูกิที่ล้มอยู่กับพื้น ชี้ไปที่รายการหน้าสุดท้าย ถาม “พวกแกต้องการของสิ่งนี้ไปทำอะไร? ทำไมต้องไปที่สำนักเทพยาเซียนเพื่อของพวกนี้? แม้พวกแกต้องการ ก็เอาคนของตระกูลอุเอสึงิไปเลยไม่ไ่ด้หรือไง?”
อุเอสึงิ ยูกิรู้ว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ไหวแล้ว ได้ยินคำถามของรพีพงษ์ ก็ยิ้มพลางกล่าวว่า “ของพวกนี้จะใช้คนของพวกฉันได้ไงกัน แม้แต่คนของประเทศญี่ปุ่น พวกเราก็ไม่ใช้ ถ้าจะใช้ต้องใช้คนของประเทศจีนของพวกแก”
“คนประเทศจีนเป็นคนที่เลวทรามต่ำช้า เกิดมาเพื่อรับใช้คนของประเทศญี่ปุ่น ยิ่งไปกว่านั้นประเทศคนของแกคนมากขนาดนั้น พวกฉันก็แค่ต้องการเด็กสิบกว่าคนก็เท่านั้น หาจากพวกแกสะดวกกว่าเยอะ”
ได้ยินคำพูดของอุเอสึงิ ยุกิ รพีพงษ์ก็เกรี้ยวกราด จึงได้ถีบไปที่อกของอุเอสึงิ ยูกิอีกครั้ง
อุเอสึงิ ยูกิกระอักเลือดออกมา สีหน้าขาวโพลน
“แม้แกจะฆ่าฉันก็ไร้ประโยชน์ ครั้งนี้ไม่สามารถเอาของจากสำนักเทพยาเซียนได้ คนของตระกูลอุเอสึงิของฉันก็สามารถหาของพวกนี้จากที่อื่นได้ ตอนนี้นายใหญ่ของตระกูลฉันกำลังหาทางอยู่ ถ้าเขาทำสำเร็จ ชนชั้นต่ำอย่างพวกแกก็ต้องอยู่ใต้อานัดของเขาแล้ว!” อุเอซึงิ ยูกิตะคอก
รพีพงษ์ดูแคลน กล่าว “หยุดฝันหวานได้ล่ะ พวกเราชาวจีน ประเทศเล็กๆอย่างพวกแกเทียบไม่ได้หรอก ฉันหนึ่งคน จะล้างบางตระกูลอุเอสึงิของพวกแกเอง!”
พูดจบ รพีพงษ์ก็ก้มลงไปบีบคอของอุเอสึงิ ยูกิ ใช้แรง หักคอเขาโดยตรง
สำหรับสัตว์ประหลาดที่จิตใจไม่ปกติ รพีพงษ์ไม่จำเป็นต้องอ่อนข้อใ้ห้
หลังจากที่รู้แล้วว่าตระกูลอุเอสึงิทำเรื่องไม่ดีไม่งามแบบนี้แล้วนั้น รพีพงษ์ไม่คิดจะเกรงใจตระกูลอุเอสึงิอีกต่อไป แค่คำพูดที่อุเอสึงิ ยูกิพูดนั้น แม้เขาจะไปล้างบางตระกูลอุเอสึงิก็ไม่ถือว่าทำเกินไป ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่จะไปแย่งหยกโยงจิตเลย
แล้วสิ่งที่ทำให้รพีพงษ์คิดไม่ถึงก็คือ สำนักเทพยาเซียนตกลงการแลกเปลี่ยนแบบนี้กับตระกูลอุเอสึงิ ทำให้รพีพงษ์รู้สึกรังเกียจสำนักเทพยาเซียนอย่างเข้าไส้
แล้วตอนนี้รพีพงษ์ก็ไม่รู้ว่าสำนักเทพยาเซียนได้เตรียมของที่ตระกูลอุเอสึงิต้องการไว้หรือยัง นี่เกี่ยวข้องกับชีวิตของเด็ก ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นด้วยเหตุผลอะไร รพีพงษ์จำเป็นต้องไปที่สำนักเทพยาเซียนสักครั้ง
หากสำนักเทพยาเซียนเป็นสำนักที่ร้ายกาจแบบนี้ รพีพงษ์ก็จะเปิดโปงสำนักเทพยาเซียนนี้อย่างไม่หยุดยั้ง
เสียงการต่อสู้ของทั้งสองเมื่อกี๊ค่อนข้างดัง อุเอสึงิ ฮารุที่อยู่ไม่ไกลเริ่มสังเกตเห็นเรื่องการณ์ตั้งนานแล้ว ดังนั้นจึงรีบเดินมา
ตอนที่เธอมาถึง ได้เห็นนพรพีพงษ์กำลังบีบคออุเอสึงิ ยูกิพอดี จากนั้นก็ส่งเสียงตกใจ หยิบมีดสั้นออกมาจากชุด ปาไปที่รพีพงษ์
“แกฆ่าลุงฉันทำไม แกกำลังหลอกพวกเราจริงๆ ฉันไม่ควรเชื่อแกเลย!” อุเอสึงิ ฮารุตะคอกใส่รพีพงษ์
รพีพงษ์กำลังเกรี้ยวกราด เห็นอุเอสึงิ ฮารุพุ่งเข้ามา ก็โบกมือ ปัดเธอออกไป
อุเอสึงิ ฮารุล้มลงกับพื้น มองรพีพงษ์ด้วยความโกรธแค้น แล้วกล่าว “ทำไมแกต้องทำแบบนี้! พวกเราไม่มีความแค้นกับแก คนที่จะฆ่าแกคือคนของสำนักเทพยาเซียน ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเรา ทำไมแกน่ารังเกียจขนาดนี้!”
“ผมน่ารังเกียจ? ยังมีหน้าพูดแบบนี้อีกนะ! ทำไมผมฆ่าเขาคุณไม่รู้หรือไง? ตระกูลอุเอสึงิของพวกคุณ เป็นแค่สัตว์ประหลาดเล่นไสยศาสตร์ก็เท่านั้น ยังกล้าที่จะเอาเด็กของประเทศจีน ผมไม่สับเขาเป็นชิ้นๆก็บุญขนาดไหนแล้ว!” รพีพงษ์กล่าวอย่างเกรี้ยวกราด
“เด็ก? เด็กอะไร? พวกเราจะเอาเด็กของประเทศจีนตั้งแต่เมื่อไหร่?” อุเอสึงิ ฮารุสงสัย
“หยุดเสแสร้งได้แล้ว คุณในฐานะของคนตระกูลอุเอสึงิ ไม่รู้ถึงรายละเอียดของการแลกเปลี่ยนกับสำนักเทพยาเซียนในครั้งนี้หรือไง?” รพีพงษ์จ้องไปที่อุเอสึงิ ฮารุอย่างใจจดใจจ่อ
อุเอสึงิ ฮารุไม่เข้าใจ แล้วกล่าว “ครั้งนี้ที่พวกเรามาสำนักเทพยาเซียน ก็แค่มาเอาวัตถุดิบยาก็เท่านั้น ผิดมากหรือไง?”
รพีพงษ์เห็นอุเอสึงงิ ฮารุท่าทีจริงจัง ราวกับว่าเธอไม่รู้เนื้อหาในการแลกเปลี่ยนในครั้งนี้จริงๆ บวกกับระหว่างทางที่อุเอสึงิ ยูกิและอุเอสึงิ ฮารุดูไม่ค่อยปกติ รพีพงษ์จึงเดาว่าอุเอสึงิ ฮารุไม่น่าจะรู้เกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนในครั้งนี้จริงๆ
เขาโยนใบรายการนั้นไปด้านหน้าของอุเอสึงิ ฮารุ แล้วกล่าว “ผิดไม่ผิด คุณดุเอาเองแล้วกัน!”
อุเอสึงิ ฮารุหยิบใบรายการนั้นขึ้นมา ดูอย่างละเอียด ด้านหน้าเธอไม่รู้สึกว่าไม่มีอะไรไม่ชอบมาพากล แต่เมื่อเธอเห็นหน้าสุดท้าย เธอก็ตาโตขึ้น หน้าซีดโพลน
“นี่……นี่มันเป็นไปได้ไง ทำไม มีของแบบนี้อยู่ด้วย?” อุเอสึงิ ฮารุพึมพำ
“ตระกูลอุเอสึงิของพวกคุณเป็นอะไรกันแน่ ทำไมต้องทำไสยศาสตร์อะไรแบบนี้ วันนี้ถ้าคุณไม่บอกผม งั้นคุณก็รอตายทั้งเป็นได้เลย” รพีพงษ์กล่าว
อุเอสึงิ ฮารุมองไปที่รพีพงษ์ กล่าว “ตระกูลอุเอสึงิของฉันไม่เคยทำเรื่องอะไรที่มันน่ารังเกียจแบบนี้ เนื้อหาที่อยู่ในใบรายการนี้ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนที่ฉันมา พวกเขาบอกแค่ให้ฉันมาเอาวัตถุดิบยา วัตถุดิบยาพวกนี้มีน้อย มีแค่สำนักเทพยาเซียนเท่านั้นที่มี”
“ถึงตอนนี้แล้วคุณยังจะตอแหลอีก ลักษณะของสัตว์ประหลาดตัวนี้ยังบอกอะไรไม่ได้อีกหรือไง?” รพีพงษ์จ้องอุเอสึงิ ฮารุแล้วกล่าว
อุเอสึงิ ฮารุมองไปที่อุเอสึงิ ยูกิ เมื่อกี๊เธอร้อนใจ จึงไม่ได้ดูลักษณะของอุเอสึงิ ยูกิ
มองอุเอสึงิ ยูกิที่พยาบาทแล้วนั้น อุเอสิงิ ฮารุก็ตกใจ แสดงท่าทีที่คาดไม่ถึงออกมา
“ทำ……ทำไมกัน? ทำไมถึงเป็นแบบนี้? ทำไมเขาถึงเปลี่ยนเป็นแบบนี้? ตระกูลอุเอสึงิของฉัน ไม่มีใครเล่นไสยศาสตร์แบบนี้” อุเอสึงิ ฮารุกล่าวอย่างคาดไม่ถึง
รพีพงษ์เห็นท่าทีตกใจของอุเอสึงิ ฮารุแล้วนั้น เหมือนกับเพิ่งรู้เรื่องของตระกูลอุเอสึงิอย่างไรอย่างนั้น ก็รู้สึกสงสัยขึ้นมา
ความจริง ตระกูลอุเอสึงิให้เธอมาทำการแลกเปลี่ยนกับสำนักเทพยาเซียนครั้งนี้ เธอต้องรู้ถึงเนื้อหาการแลปกเปลี่ยนแน่นอน มิเช่นนั้นเธอเน่ยจิ้งขั้นกลาง ก็ไม่จำเป็นต้องมา อุเอสึงิ ยูกิมาคนเดียวก็ได้แล้ว
ตระกูลอุเอสึงิไม่จำเป็นต้องจัดคนที่ไม่รู้เนื้อหาของการแลกเปลี่ยนมา ฝีมือก็ไม่ถือว่าดีมาก ถ้าพูดว่าตระกูลอุเอสึงิให้อุเอสึงิ ฮารุมาฝึกฝน รพีพงษ์ก็ไม่มีทางเชื่อ
“คุณหยุดแสดงละครได้แล้ว ถ้าคุณไม่รู้อะไรเลย แล้วตระกูลอุเอสึงิให้หญิงที่เป็นแค่เน่ยจิ้งขั้นกลางมาทำไม?” รพีพงษ์ถาม
อุเอสึงิ ฮารุรู้ว่ารพีพงษ์กำลังสงสัยอะไรอยู่ เธอก็ถอนหายใจ เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เธอก็ไม่จำเป็นต้องซ่อนอะไรอีกแล้ว
เธอเงยหน้ามองรพีพงษ์ เล่าเหตุผลที่ทำไมเธอต้องมาให้ฟังทั้งหมด