พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่816 ปัณณธร
บทที่816 ปัณณธร
รพีพงษ์และอุเอสึงิ ฮารุทั้งสองคนเดินตามปัณณธรเข้าไปในห้อง หลังจากที่เข้าไปด้านใน ปัณณธรมองออกไปที่ด้านนอก หลังจากนั้นปิดประตู
“คาดไม่ถึงว่าคุณหนูของตระกูลอุเอสึงิจะสวยขนาดนี้ สิบปากไม่เท่าตาเห็น ฉันไม่เคยหญิงที่สวยงามขนาดนี้มาก่อน”ปัณณธรมองอุเอสึงิ ฮารุตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างเจ้าชู้ ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มที่น่าพอใจทีเดียว
รพีพงษ์มองดูท่าทางของปัณณธร อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว คาดไม่ถึงว่าผู้อาวุโสของสำนักเทพยาเซียนจะเป็นคนที่บ้ากามตัณหากลับจริงๆ เมื่อเห็นสาวสวยก็ไม่สามารถละสายตาไปได้
เขาปกป้องอุเอสึงิ ฮารุไว้ด้านหลังตัวเอง เอ่ยปากว่า: “ผู้อาวุโสใหญ่ ถ้าหากที่ท่านพ่อสั่งไว้ไม่ผิด ฮารุ ก็เป็นส่วนหนึ่งในข้อตกลงแลกเปลี่ยน หลังจากทำการแลกเปลี่ยนเสร็จ ฉันถึงจะสามารถส่งมอบเขาให้ท่านได้”
ปัณณธรถึงได้ถอนสายตาตัวเองกลับมา หันหน้ามองไปที่รพีพงษ์แวบหนึ่ง เอ่ยปากว่า: “ตระกูลอุเอสึงิบอกว่าจะส่งปรมาจารย์ติดตามมาพร้อมกับหล่อนไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงได้เป็นเด็กหนุ่มแบบนี้ไปได้”
รพีพงษ์ยิ้มเล็กน้อย แล้วพูดว่า: “ฉันเป็นพี่ชายของฮารุ การแลกเปลี่ยนครั้งนี้มีความสำคัญกับตระกูลอุเอสึงิของฉันมาก ก็ต้องส่งคนไว้ใจได้มาเป็นธรรมดาอยู่แล้ว”
“หื้อ? นายเป็นพี่ชายของหล่อน เป็นไปได้เหรอที่นายจะฝืนใจส่งมอบหล่อนให้กับฉันแบบนี้?”ปัณณธรจ้องมองไปที่รพีพงษ์แล้วถาม
บนใบหน้าของรพีพงษ์ปรากฏรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา เอ่ยปากพูดว่า: “หล่อนเป็นลูกที่เกิดมาจากคนใช้ ตระกูลอุเอสึงิของพวกเราเก็บหล่อนไว้ ก็เป็นเพราะหล่อนยังมีค่าอยู่ ใช้หล่อนมาแลกเปลี่ยนกับของที่ตระกูลอุเอสึงิของฉันต้องการ ฉันก็ต้องเต็มใจเป็นธรรมดา จะว่าไป หล่อนก็เป็นเพียงแค่ของที่จะมีหรือไม่มีก็ได้เท่านั้นเอง”
เมื่อได้ยินรพีพงษ์พูดเช่นนี้ ปัณณธรก็หัวเราะเยาะทันที เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจกับพฤติกรรมของรพีพงษ์ แต่เขาก็ไม่ใช่คนดี ดังนั้นจึงไม่ได้พูดอะไรมากนัก
“นอกจากหล่อนแล้ว เอาใบทำยาที่ฉันต้องการมาด้วยหรือเปล่า?”ปัณณธรไม่ได้พูดจากไร้สาระต่อไป ตั้งใจว่าจะทำการแลกเปลี่ยนให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด แบบนี้เขาก็จะสามารถลิ้มลองรสชาติสาวสวยที่สุดแบบอุเอสึงิ ฮารุเป็นอย่างดี
“ต้องเอามาอยู่แล้ว”รพีพงษ์หยิบกระดาษหนังแกะที่ให้ความรู้สึกสะท้อนถึงหนึ่งทศวรรษออกมาจากเสื้อผ้าของตัวเองสามใบ โบกไปโบกมาอยู่ตรงหน้าปัณณธร
กระดาษหนังแกะสามใบนี้ เป็นใบทำยาที่ค่อนข้างเก่าแก่สามใบ ว่ากันว่าสามารถกลั่นยาที่ทรงพลังมากออกมาได้
อุเอสึงิ ฮารุเป็นคนให้ใบทำยากับรพีพงษ์เอง ใบทำยาทั้งสามใบนี้ เป็นสิ่งต่อรองแลกเปลี่ยนครั้งนี้กับปัณณธร
แม้ว่าปัณณธรจะมักมากในกาม แต่อยู่ในระหว่างการฝึกกลั่นยา ยิ่งบรรลุถึงขั้นหมกมุ่น ทั้งสำนักเทพยาเซียน แม้เจ้าสำนักจะศึกษาค้นคว้ายาเม็ดก็ตาม แต่ก็ไม่ลึกซึ้งเท่าปัณณธร
เขาเพื่อที่จะสามารถกลั่นยาชนิดที่ตัวเองต้องการให้ได้ ถึงขนาดเข้าสู่สภาวะหลงงมงาย
ดังนั้นนั่นคือเหตุผลที่เขาทำเพื่อใบทำยาทั้งสามใบนี้ และรับปากเงื่อนไขที่จะช่วยตระกูลอุเอสึงิรวบรวมดวงตาและเลือดเนื้อของเด็ก
ตามที่อุเอสึงิ ฮารุได้บอก ใบทำยาทั้งสามใบนี้ผู้อาวุโสของตระกูลอุเอสึงิไปเยือนประเทศจีนเมื่อหลายปีก่อน ได้มาจากยอดฝีมือปรมาจารย์ยาท่านหนึ่ง ใบทำยาทั้งสามใบนี้ ทุกใบ เพียงพอที่จะสามารถกลั่นยาชั้นเลิศออกมาได้
สิ่งของแบบนี้ สำหรับคนที่ไม่รู้เรื่องยาอย่างรพีพงษ์ มันก็ไม่ได้มีแรงดึงดูดมากนัก แต่สำหรับคนอย่างปัณณธรนักกลั่นยาที่เข้าสู่สภาวะหลงงมงายแล้ว นี่คือสมบัติล้ำค่าที่สุดในโลก ต่อให้เป็นสาวสวยที่สุดอย่างอุเอสึงิ ฮารุ ก็เทียบไม่ติด
หลังจากที่ปัณณธรเห็นใบทำยาในมือของรพีพงษ์ ก็แสดงสีหน้าตื่นเต้นออกมาอย่างเห็นได้ชัด และรีบคว้าใบทำยาทั้งสามใบทันที
รพีพงษ์รีบเก็บใบทำยาทั้งสามใบนี้กลับมาทันที ยิ้มแล้วพูดว่า: “สิ่งของที่คุณต้องการฉันก็ให้คุณดูแล้ว แล้วสิ่งของที่ฉันต้องการ คุณก็ควรจะได้ฉันดูบ้าง ข้อตกลงแลกเปลี่ยนของเราถึงจะสามารถดำเนินต่อไปได้”
ปัณณธรส่งเสียงเย็นชา เห็นได้ชัดว่ารุ่นน้องคนนี้ค่อนข้างไม่รู้เรื่องรู้ราว
แต่เขาก็ไม่ใช่คนไม่มีเหตุผล หลังจากเขม็งตาจ้องมองไปที่รพีพงษ์แวบหนึ่ง เอ่ยปากว่า: “ฉันรับปากเงื่อนไขของพวกนายแล้ว ไม่กลืนน้ำลายตัวเองอย่างแน่นอน ตามฉันมาเถอะ ฉันจะพาพวกนายไปดู”
หลังจากพูดเสร็จ เขาก็เดินไปที่ห้องด้านใน
รพีพงษ์และอุเอสึงิ ฮารุสบตากัน และเดินตามไปอย่างรวดเร็ว
ในตอนนี้รพีพงษ์ค่อนข้างหนักใจ ถ้าหากปัณณธรจัดเตรียมสิ่งของทั้งหมดในรายการไว้จริงๆ นั่นหมายความว่ามีเด็กหลายคนต้องเสียชีวิตจากความตาย ถึงตอนนั้นรพีพงษ์ก็ไม่แน่ใจว่าตัวเองจะสามารถควบคุมความโกรธในใจได้หรือไม่
แต่ถ้าหากปัณณธรทำเรื่องที่ไร้มโนธรรมแบบนี้จริงๆ เขาก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องควบคุมความโกรธ
ปัณณธรพารพีพงษ์และอุเอสึงิ ฮารุมาถึงห้องด้านในสุด จากนั้นเดินไปที่หน้าชั้นวางของ เอื้อมมือไปผลักแจกันบนชั้นวาง จากนั้นผนังข้างๆก็เปิดออกมาโดยอัตโนมัติ เผยให้เห็นช่องทางเดิน
มองออกว่าด้านหลังของกำแพงนี้เป็นภูเขา ซึ่งน่าจะเป็นห้องลับที่ขุดออกมาจากภูเขา
ปัณณธรมองไปที่รพีพงษ์และอุเอสึงิ ฮารุแวบหนึ่ง เอ่ยปากพูดว่า: “ฉันหวังว่าเมื่อพวกคุณเห็นสิ่งของด้านในแล้วอย่าได้พูดจาส่งเดชออกไป ที่นี่คือสำนักเทพยาเซียน ฉันยังมีสิทธิ์ที่จะพูด ถ้าพวกคุณไม่ยอมรับกฎ ต่อให้เป็นคนของตระกูลอุเอสึงิ ฮารุก็ช่วยพวกคุณไม่ได้”
“สบายใจ พวกเราไม่มีความจำเป็นต้องทำแบบนี้”รพีพงษ์ยิ้มแล้วพูด
จากนั้นทั้งสามคนเดินเข้าไปในช่องทางเดินข้างในนั้น เดินไปไกลมาก ภาพที่อยู่ตรงหน้าก็กลายเป็นขยายกว้างขึ้นมา
ที่นี่มองไปแล้วเหมือนกับถ้ำ พื้นที่ค่อนข้างใหญ่ มองเห็นร่องรอยที่มนุษย์เปลี่ยนแปลงสร้างขึ้นมา
เห็นเพียงบนพื้นถ้ำนี้ มีกล่องวางอยู่มากมาย มีวัตถุดิบยามากมายที่ถูกปิดผนึกไว้ในกล่อง ทุกประเภท หลากหลายสายพันธุ์
และในส่วนลึกของถ้ำ มีคุกใต้ดินที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษ ในขณะนี้ในคุกใต้ดิน มีเด็กและเด็กทารกจำนวนมากมายร้องไห้อยู่
หลังจากที่รพีพงษ์และอุเอสึงิ ฮารุเห็นเหตุการณ์นี้ ในใจก็หดหู่ ขังเด็กที่อายุน้อยขนาดนี้และเด็กทารกไว้ในคุกใต้ดินแบบนี้ได้ คงจะมีเพียงคนที่เสียสติถึงจะสามารถทำแบบนี้ได้
“พวกคุณก็น่าจะรู้ดีว่าสิ่งของที่พวกคุณต้องการไม่ใช่ว่าจะเก็บรักษาได้ง่ายๆ ดังนั้นฉันเพียงแค่ขังเด็กพวกนี้ไว้ที่นี่ ค่ำคืนนี้ ฉันจะถอดสิ่งของที่พวกคุณต้องการออกมาไม่ให้ขาดสักอย่างเดียว ใช้น้ำยาพิเศษของสำนักเทพยาเซียนของเรามีปิดผนึกรักษาไว้ พวกคุณพักค้างคืนที่นี่ชั่วคราวไปก่อนหนึ่งคืน พรุ่งนี้ พวกคุณก็จะได้ในสิ่งที่พวกคุณต้องการ”ปัณณธรมองไปรพีพงษ์และอุเอสึงิ ฮารุแล้วพูด
รพีพงษ์เห็นว่าเด็กเหล่านั้นยังคงอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ถอนหายใจด้วยความโล่งอกในใจ คิดว่ายังดีที่ตัวเองมาถึงที่สำนักเทพยาเซียนทัน ไม่อย่างนั้นเด็กเหล่านี้คงจะต้องทนทุกข์ทรมานอย่างเหลือทน
เขาพยักหน้าให้กับปัณณธร จากนั้นหันหลังกลับแล้วเดินออกจากถ้ำ
ทั้งสามคนมาถึงที่ห้องด้านนอกอีกครั้ง ปัณณธรปิดกลไก ยิ้มแล้วมองไปที่รพีพงษ์ แล้วพูดว่า: “คุณก็ได้เห็นของทุกอย่างแล้ว เหลือเพียงขั้นตอนสุดท้ายเท่านั้น ตอนนี้คุณสามารถเอาใบทำยาทั้งสามใบให้ฉันได้แล้ว”
รพีพงษ์จ้องมองปัณณธรแวบหนึ่ง จากนั้นต่อหน้าเขา ก็ใส่ใบทำยาทั้งสามใบลงไปในเสื้อผ้าของตัวเอง