พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่826 แผนสำรอง
บทที่826 แผนสำรอง
กลุ่มผู้อาวุโสรายล้อมอยู่ข้างๆบ่อน้ำ มองดูสีของน้ำที่กำลังจะจางหายไป ต่างก็กระวนกระวายใจ และถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า
รพีพงษ์ยังคงนั่งสมาธิอยู่ในบ่อน้ำ โดยไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ แต่เทียบกับไม่กี่วันก่อน ผิวหน้าของรพีพงษ์เริ่มมีสีแดงขึ้นมาเล็กน้อย ซึ่งคล้ายกับตอนที่กำลังใช้พลังวิธีลับแล้วร่างกายใกล้จะระเบิด
“ผ่านมาครึ่งเดือนแล้ว เด็กคนนี้อยู่ในนี้มาได้ครึ่งเดือน น้ำในบ่อก็แทบจะไม่มีสี ซึ่งนั่นหมายความว่าฤทธิ์ยาในบ่อกำลังจะถูกเขาดูดซึมไปทั้งหมด”
“ฤทธิ์ยาที่มีอยู่ในน้ำในบ่อนี้ได้รวมเอาคุณสมบัติของยาหลายร้อยหลายพันชนิดเข้าด้วยกัน รวมทั้งฤทธิ์ยาที่มีอยู่ในบ่อน้ำนั้น ไม่ได้ผ่านการแปรรูป สำหรับร่างกายมนุษย์แล้ว ค่อนข้างรุนแรง อยู่ในนั้นเป็นเวลานาน ร่างกายจะทนไม่ไหว เด็กคนนี้ก็ทนเกินไปแล้ว”
“เป็นประวัติการณ์จริงๆ ในประวัติศาสตร์ของสำนักเทพยาเซียน คนที่อยู่ในบ่อน้ำนี้เป็นเวลานานที่สุด ก็ไม่เกินเวลาห้าวันเท่านั้น แต่เขากลับอยู่ได้ครึ่งเดือน ทำให้คนได้เปิดประสบการณ์ใหม่ๆจริงๆ”
“ตอนนี้นายยังคงมีความรู้สึกอยู่ในใจ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป สมบัติล้ำค่าของสำนักเทพยาเซียนของฉันจะถูกเด็กคนนี้กอบโกยไปหมด ในอนาคตสำนักเทพยาเซียนของฉันจะบ่มเพาะผู้แข็งแกร่งได้อย่างไร นี่เป็นเหตุการณ์สำคัญที่เกี่ยวข้องกับการขึ้นและลงของสำนักเทพยาเซียนของฉัน”
……
ในเวลานี้จิรภัทรก็มองไปที่รพีพงษ์ที่อยู่ในบ่อน้ำอย่างกังวล บนใบหน้าก็เสียใจอย่างสุดซึ้ง ถ้ารู้ก่อนว่ารพีพงษ์จะอยู่ในบ่อน้ำได้นานขนาดนี้ ตอนนั้นเขาก็คงจะไม่พูดคำพูดที่ว่าให้รพีพงษ์อยากอยู่นานแค่ไหนก็อยู่นานแค่นั้น
ตอนนี้ฤทธิ์ยาในบ่อน้ำนี้ถูกรพีพงษ์ดูดซึมไปคนเดียวจนเกือบจะหมด จิรภัทรก็เจ็บปวดเช่นกัน
“น้องรพีพงษ์ พวกเราพอดีก็พอแล้ว นายอยู่ข้างในนานขนาดนี้ ก็ไม่กลัวเหรอว่าฤทธิ์ยาที่รุนแรงในบ่อน้ำนี้จะระเบิดนาย นายรีบออกมาเถอะ ถ้ายังไม่ออกมาอีก หน้าของฉันก็อับอายจนไม่มีที่ไหวแล้ว”จิรภัทรพึมพำพบกับตัวเอง
“เจ้าสำนัก ถ้าอย่างนั้นตอนนี้พวกเราไปปลุกให้เขาตื่นเถอะ เขาอยู่ในนั้นมาครึ่งเดือนแล้ว ถึงยังไง ก็ควรค่ากับใบทำยาชั้นเลิศทั้งสามใบนั้นแล้ว ตอนนี้ให้เขาออกมา พวกเราอาศัยวัตถุดิบยาสามารถทำให้ฟื้นฟู่ฤทธิ์ยาในบ่อน้ำได้บ้าง ไม่อย่างนั้นรอเมื่อฤทธิ์ยาถูกเขาดูดซึมไปทั้งหมด บ่อน้ำนี้ก็ไร้ประโยชน์แล้ว”ผู้อาวุโสคนหนึ่งเดินไปตรงหน้าจิรภัทร และพูดอย่างจริงจัง
ผู้อาวุโสอีกคนก็รีบพูดต่ออย่างรวดเร็ว: “ใช่แล้ว สำนักเทพยาเซียนของเราสามารถมียอดฝีมือแดนปรมาจารย์ออกมาได้มากมายขนาดนี้ ก็อาศัยบ่อน้ำนี้ ถ้าฤทธิ์ยานี้ถูกดูดซึมไปทั้งหมด ในอนาคตสำนักเทพยาเซียนคงจะเสื่อมลง”
จิรภัทรหันหน้ามองไปที่พวกเขาแวบหนึ่ง เอ่ยปากว่า: “การพัฒนาในอนาคตของสำนักเทพยาเซียน ทุกท่านต่างก็ไม่ต้องกังวล ในใบทำยาชั้นเลิศทั้งสามใบที่รพีพงษ์มอบให้ฉัน มีหนึ่งอย่างในนั้นเป็นรากเหง้าที่มั่นคงของยา รากเหง้าชั้นเลิศที่มั่นคงของยา เพียงแค่กินหนึ่งเม็ด ฤทธิ์ยาดีกว่าแช่อยู่ในบ่อน้ำหนึ่งครั้งเป็นมาก ดังนั้นสำนักเทพยาเซียนของฉันไม่มีทางเดินเส้นทางแห่งความเสื่อมหรอก”
เมื่อได้ยินคำพูดของจิรภัทร ผู้อาวุโสก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ซึ่งถ้าคิดเช่นนี้แล้ว พวกเขาก็รู้สึกว่ารพีพงษ์ดูดซึมฤทธิ์ยาในบ่อน้ำไปทั้งหมดก็ไม่เป็นไร
“แต่เวลาที่เขาอยู่ด้านในมันนานเกินไปจริงๆ ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป ไม่แน่อาจเกิดเรื่องได้ วันนี้เขาไม่ตื่นมา ฉันจะปลุกเขาเอง”จิรภัทรพูดต่อ
สิ่งที่เขาพูดนั้นเป็นห่วงเกี่ยวกับอาการของรพีพงษ์จริงๆ เนื่องจากในประวัติศาสตร์ของสำนักเทพยาเซียนก็ไม่มีใครอยู่ในนั้นได้เป็นเวลานานขนาดนี้ แม้ว่าจะบอกว่าการขัดจังหวะรพีพงษ์ไม่ค่อยดี แต่ก็ยังดีกว่าปล่อยให้เขาเสียชีวิต
จากคำอธิบายของจิรภัทรแล้ว หลังจากที่ผู้อาวุโสทุกคนต่างก็รู้ว่าสรรพคุณของใบทำยาชั้นเลิศสามารถแทนที่บ่อน้ำนี้ได้ ก็ไม่มีอะไรที่เคืองใจต่อรพีพงษ์ จากนั้นทั้งหมดก็ค่อยๆทยอยออกจากที่นี่
จิรภัทรไม่ได้อยู่รอ คิดว่าจะรอพรุ่งนี้ค่อยมาดูอีกครั้ง ถ้ารพีพงษ์ยังไม่ตื่นขึ้นมา ก็จะปลุกเขา
หลังจากที่ทุกคนจากไปแล้ว อุเอสึงิ ฮารุก็เดินไปที่ขอบบ่อน้ำอย่างระมัดระวัง และมองไปที่รพีพงษ์ที่อยู่ในบ่อน้ำ
เนื่องจากในเวลานี้น้ำในบ่อเริ่มเปลี่ยนไปในทิศทางที่ใสขึ้นแล้ว ดังนั้นเมื่ออุเอสึงิ ฮารุมองลงไป แทบจะสามารถมองเห็นร่างที่จมอยู่ในบ่อน้ำของรพีพงษ์
หลังจากที่เห็นสถานการณ์ ใบหน้าของอุเอสึงิ ฮารุก็แดงเขินอายทันที จากนั้นก็ละสายตาที่มองไปที่บนตัวรพีพงษ์ออกไป
แต่เมื่อคิดดูแล้วไม่มีใครอยู่รอบๆ รพีพงษ์ก็หลับตาแน่นอีก ไม่มีใครรู้ว่าหล่อนแอบมองรพีพงษ์ สายตาของอุเอสึงิ ฮารุก็มองไปที่บนตัวรพีพงษ์อีกครั้ง
ในช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมา อุเอสึงิ ฮารุอยู่แต่ในสำนักเทพยาเซียน หล่อนไม่ได้ฉวยโอกาสตอนที่รพีพงษ์แช่อยู่ในน้ำหนีไป ในทางกลับกัน หล่อนได้ฝากความหวังทั้งหมดไว้กับรพีพงษ์
ผ่านความเข้าใจในช่วงที่มีต่อรพีพงษ์ อุเอสึงิ ฮารุรู้ว่ารพีพงษ์เป็นคนที่พูดสิ่งไหนก็ทำสิ่งนั้น ในเมื่อรพีพงษ์รับปากกับหล่อนว่าจะช่วยแม่ของหล่อนออกมา ถ้าอย่างนั้นก็สามารถทำได้แน่นอน
ที่ผ่านมาอุเอสึงิ ฮารุเป็นคนที่ไม่มีอิสระ ไม่มีเพื่อน ไม่มีใครเป็นห่วง“คนที่ถูกหลอกใช้” ตราบใดที่คนของตระกูลอุเอสึงิต้องการ หล่อนก็ต้องอุทิศชีวิตของตัวเองได้ทุกเมื่อ
แต่ในช่วงที่หล่อนอยู่ในสำนักเทพยาเซียน หล่อนได้เห็นทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุดในโลก อยู่ในสำนักเทพยาเซียนก็รู้จักกับเพื่อนๆ รู้สึกได้ถึงความห่วงใยจากลูกศิษย์ในสำนักเทพยาเซียน เมื่อหล่อนมีเวลาก็จะวิ่งมาที่บ่อน้ำ พูดเรื่องในใจของตัวเองกับรพีพงษ์ที่ไม่เคลื่อนไหว
ครึ่งเดือนนี้ เรียกได้ว่าในชีวิตของหล่อน เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุด
สิ่งเดียวที่ทำให้หล่อนรู้สึกเสียใจ ช่วงนี้รพีพงษ์อยู่แต่ในบ่อน้ำ เหมือนราวกับท่อนไม้ ความจริงถ้าหากสามารถพูดได้ หล่อนต้องการใช้เวลาครึ่งเดือนนี้ไปพร้อมกับรพีพงษ์ แน่นอนว่า หล่อนรู้ดี นี่ก็เป็นเพียงแค่ความหวังที่เกินตัวของหล่อน
“คุณชาย….รูปร่างของคุณ ดีมากจริงๆ”จ้องมองไปที่รพีพงษ์เป็นเวลานาน อุเอสึงิ ฮารุพูดเหมือนกับสาวน้อย จากนั้นปิดปากแล้วหัวเราะขึ้นมา
……
ประเทศญี่ปุ่น ตระกูลอุเอสึงิ
ในห้องที่ค่อนข้างมืดมน
อุเอสุงิ ทาคิโนะนายใหญ่ของตระกูลอุเอสึงิยืนอยู่หน้าโต๊ะด้วยสีหน้าโกรธขึ้งไม่พอใจ และผู้ชายทั้งสามคนกำลังคุกเข่าอยู่ข้างหลังเขา ตัวสั่นเทา
หลังจากนั้นไม่นาน อุเอสุงิ ทาคิโนะหันกลับมาและเตะหนึ่งในพวกเขาทันที และด่าว่า: “ครึ่งเดือนแล้ว พวกเขาถึงที่ประเทศจีนได้ครึ่งเดือนแล้ว แต่ก็ยังไม่มีการส่งข่าวกลับ และวิธีการติดต่อสื่อสารทั้งหมดก็ไม่สามารถติดต่อได้ นั้นก็หมายความว่าพวกเขาได้ถูกฆ่าในประเทศจีนเท่านั้น!”
“สุนัขประเทศจีนเหี้ยๆพวกนี้ ไม่มีความซื่อสัตย์แม้แต่น้อย พวกเราแลกเปลี่ยนกับพวกเขาด้วยความจริงใจ แต่สิ่งที่แลกมากลับเป็นผลลัพธ์แบบนี้!”
พวกเขาทั้งสามไม่กล้าส่งเสียงใดๆ อดกลั้นแล้วปล่อยให้อุเอสุงิ ทาคิโนะระบายความโกรธกับพวกเขา
หลังจากนั้นไม่นาน อุเอสุงิ ทาคิโนะก็หายใจเข้าลึกๆ จัดแต่งทรงผมของตัวเองให้เรียบร้อย และพูดกับคนสามคนว่า: “ที่ประเทศจีนเชื่อถือไม่ได้ ตอนนี้ทำได้แค่ใช้แผนสำรอง ค้นหาสิ่งที่ฉันต้องการจากในประเทศญี่ปุ่น”
“พวกแกรีบจัดการให้เร็วที่สุด ฉันรอไม่ไหวแล้ว ฉันต้องการภายในหนึ่งอาทิตย์ ให้ได้สิ่งของเหล่านี้มา เข้าใจไม่มั้ย?”
“ครับ!”|ทั้งสามคนตอบพร้อมเพรียงกัน
“อีกอย่างหนึ่ง เรื่องที่คุณหนูของตระกูลฮารุฮิแต่งงานกับฉันมาเป็นภรรยาน้อยก็กำหนดให้เป็นวาระโดยเร็วที่สุด หลังจากที่ฉันเลื่อนขั้นจำเป็นต้องมีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาวพรหมจารีคนใหม่ คุณหนูของตระกูลฮารุฮิเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เรื่องนี้จะต้องไม่มีข้อผิดพลาด ไม่อย่างนั้นฉันก็จะถือเป็นความรับผิดชอบของพวกแก!