พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่835 ไม่เชื่อหรอกว่าจะเอาคุณไม่ได้
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่835 ไม่เชื่อหรอกว่าจะเอาคุณไม่ได้
บทที่835 ไม่เชื่อหรอกว่าจะเอาคุณไม่ได้
รพีพงษ์มองบนต่อฝนสุดา แล้วกล่าว “ช่วยคุณหนะเป็นเรื่องรอง เป้าหมายหลักของผมคือการเอาหยกโยงจิตจากตระกูลอุเอสึงิมา และล้างบางตระกูลอุเอสึงิ”
“เชอะ ช่วยฉันก็ช่วยฉันแล้วยังพูดให้ดูดีอีก พวกผู้ชายนี่น่าเบื่อจริงๆ”ฝนสุดาเงยหน้ามองรพีพงษ์ ด้วยความดีใจ
“ผมพูดเรื่องของเราจบแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาที่คุณต้องเล่าเรื่องตัวเองบ้าง ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้” รพีพงษ์เบื่อที่จะต่อปากต่อคำกับเธอ จึงได้เปลี่ยนหัวข้อคุย
หลังจากที่ฝนสุดารู้เรื่องแล้ว ก็ไม่หาเรื่องอีก แล้วเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับเธอในช่วงนี้ให้รพีพงษ์ฟัง หลังจากที่เธอหนีออกมาจากตระกูลฮารุฮิแล้ว ก็มาที่นี่ การที่ได้เจอรพีพงษ์กับอุเอสึงิ ฮารุเป็นเรื่องบังเอิญ
หลังจากที่ได้พูดชัดเจนแล้ว รพีพงษ์ก็ผ่อนคลายขึ้น แม้การที่ได้เจอฝนสุดเป็นเรื่องเหนือความคาดหมายของเขา แต่ความจริงเขาก็จะหาฝนสุดาให้เจอ แบบนี้ก็ทำให้สบายขึ้นเยอะ
ฝนสุดามองไปที่อุเอสึงิ ฮารุที่อยู่ข้างๆ แล้วถาม “คุณกับรพีพงษ์ แค่ร่วมมือกันเท่านั้น?”
อุเอสึงิ ฮารุพยักหน้า แล้วกล่าว “คุณชายสัญญากับฉันว่าจะช่วยแม่ฉันออกมา และฉันก็สัญญากับคุณชาย ว่าจะมอบชีวิตให้กับเขา คุณชายให้ฉันทำอะไร ฉันจะไม่ลังเลเด็ดขาด”
“งั้นบอกฉันมา ถ้าเขาให้คุณมีอะไรกับเขา คุณจะตกลงมั้ย?” ฝนสุดดาถาม
อุเอสึงิ ฮารุถูกฝนสุดาถามคำถามนี้จนหน้าแดง สักพักจึงได้กล่าวอย่างกระบุ่มกระบ่ามว่า “คุณ……คุณชายไม่ได้เป็นคนแบบนั้น”
ฝนสุดานิ่งเงียบไป จ้องไปที่อุเอสึงิ ฮารุอีกครั้ง แล้วถามต่อ “งั้นคุณจะคิดอะไรกับเขามั้ย?”
คำถามนี้ของฝนสุดาถามได้ตรงประเด็นมาก เธอหันไปมองรพีพงษ์ ด้วยความสับสนมากมาย แต่สุดท้ายเธอก็พูดว่า “คุณชายมีพระคุณกับฉัน และชีวิตของฉันเป็นของคุณชาย ฉันแค่อยากตอบแทนพระคุณของคุณชาย ไม่กล้าใครอะไรกับคุณชาย”
ได้ยินอุเอสึงิ ฮารุพูดแบบนี้ ฝนสุดาก็ผ่อนคลายขึ้น เพียงแค่อุเอสึงิ ฮารุไม่คิดอะไรกับรพีพงษ์ เธอก็สามารถเป็นเพื่อนกับอุเอสึงิ ฮารุได้ เพราะถ้าอุเอสึงิ ฮารุคิดอะไรกับรพีพงษ์ ก็ต้องเป็นศัตรูตัวฉกาจคนหนึ่งเลยทีเดียว
“แหะแหะ ตอนนั้นฉันบุ่มบ่ามไป เข้าใจคุณผิด ได้โปรดอย่าถือสา” ฝนสุดาจับมือของอุเอสึงิ ฮารุ สนิทสนมกับเธอราวกับเป็นพี่น้องกันอย่างไรอย่างนั้น
อุเอสึงิ ฮารุมองฝนสุดาอย่างประหลาดใจ แล้วพยักหน้าให้เธอ
รพีพงษ์มองไปยังทั้งสองที่เมื่อกี๊ยังทำหน้าหยิ่งผยองให้กันไม่ทันไรก็เปลี่ยนเป็นพี่น้องกันแล้ว ด้วยความประหลาดใจ เขาไม่เข้าใจมนุษย์เพศหญิงจริงๆ ว่าคิดอะไรอยู่กันแน่
“ในเมื่อคุณอยากปกป้องพวกเรา งั้นฉันก็นอนที่นี่เลยแล้วกัน ฉันไม่เข้าไปยุ่งห้องของอุเอสึงิ ฮารุ ยอมเสียเปรียบสักหน่อย ฉันจะนอนเตียงเดียวกับรพีพงษ์” ฝนสุดาประกาศออกมา
พูดจบ เธอจะไปหยิบชุดเครื่องนอนในห้องของเธอมาไว้ที่นี่
รพีพงษ์ขัดขวางเธอไว้
ฝนสุดาทำหน้าเสียใจ มองรพีพงษ์ด้วยสีหน้าที่น่าสงสาร แล้วกล่าว “หรือคุณทนให้ฉันนอนอีกห้องได้หรอ? ถ้าคนของตระกูลอุเอสึงิมาจับฉันจะทำไง? คุณไม่กลัวฉันตกอยู่ในอันตรายหรอ?”
“คุณไม่ต้องไปย้ายชุดเครื่องนอน ใช้ของที่นี่ก็ได้” รพีพงษ์กล่าว
ฝนสุดาตาลุกวาว แล้วถาม “หรือ หรือคุณยอมให้ฉันนอนเตียงเดียวกับคุณแล้วหรอ?”
รพีพงษ์มองบน แล้วกล่าว “ฝันไปเถอะ คุณกับอุเอสึงิ ฮารุนอนให้ห้องนอน ผมนอนห้องรับแขก”
ฝนสุดาผิดหวัง กล่าวอย่างไม่พอใจต่อรพีพงษ์ว่า “ไม่คว้าโอกาสไว้เลย ดึงดัน!”
รพีพงษ์ไม่สนใจฝนสุดา แล้วเดินไปที่หน้าต่าง เริ่มครุ่นคิดว่าจะเอาอย่างไรต่อไป
เหลือเวลาอีกหนึ่งสัปดาห์ก่อนวันงานแต่งระหว่างตระกูลอุเอสึงิกับตระกูลฮารุฮิ รพีพงษ์เพียงแค่รออีกสัปดาห์เดียวเท่านั้น รอให้ถึงวันงานแต่ง ฆ่าตระกูลอุเอสึงิ ถึงเวลานั้นนายใหญ่ตระกูลอุเอสึงิจะต้องเตรียมการไว้พร้อมแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีทางหนีไปไหนได้แน่นอน ต้องทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างที่เตรียมมา ยิ่งไปกว่านั้นเขาไม่รู้ฝีมือของรพีพงษ์ น่าจะไม่มีความคิดที่จะหลบหนีแต่อย่างใด
แล้วก่อนหน้างานแต่ง รพีพงษ์คิดว่าตนเองต้องคุมตระกูลอุเอสึงิให้อยู่หมัด ตอนนี้ฝนสุดาอยู่กับเขา ตระกูลฮารุฮิจะต้องหาที่อยู่ของฝนสุดา ตระกูลฮารุฮิเพื่อหน้าตาของวงศ์ตระกูลตัวเอง จึงไม่มีทางให้ตระกูลอุเอสึงิรับรู้เรื่องนี้แน่นอน แต่ก่อนหน้างานแต่ง รพีพงษ์จะต้องควบคุมตระกูลฮารุฮิไว้ จึงจะสามารถจัดการวันงานแต่งได้ราบรื่น
แน่นอน รพีพงษ์ไม่มองว่าเป็นเรื่องที่ยากอะไร ดังนั้นจึงไม่ได้เร่งรีบใดๆ
พลบค่ำ รพีพงษ์ทำหน้าที่ดำเนินการ ไปซื้อของกินให้กับอุเอสึงิ ฮารุและฝนสุดา และทั้งสองรออยู่ที่โรงแรม
ฝนสุดามองอุเอสึงิอย่าเบื่อหน่าย จากนั้นก็เดินไปที่เธอ ยิ้มพลางถาม “อุเอสึงิ ฮารุ คุณชอบดื่มเหล้ามั้ย?”
อุเอสึงิ ฮารุมองไปที่ฝนสุดา แล้วกล่าว “เคยดื่มบ้าง รู้สึกไม่เลว”
“เริ่ด ตอนกลางคืนพวกเราไปผับกันเถอะ ฉันเพิ่งจะหนีออกมาได้ อยากระบายสักหน่อย กินเหล้าเป็นวิธีระบายที่ดีที่สุด” ฝนสุดากล่าว
“เอิ่ม……ฟังคุณชายแล้วกัน” อุเอสึงิ ฮารุกล่าว
“ไอ้หยา เพียงแค่พวกเราทั้งสองอยากไป เขาไม่มีทางปฏิเสธแน่นอน คุณฟังฉันก็พอแล้ว” ฝนสุดากล่าว
อุเอสึงิ ฮารุรู้สึกว่าออกไปกินเหล้าก็ไม่มีปัญหาอะไร หลายปีมานี้เธอไม่ได้เอนเตอร์เทนอะไรเลย พูดๆไป ก็อยากรู้เหมือนกันว่าชีวิตกลางคืนของเมืองโตเกียวเป็นอย่างไรกันแน่
“อืม……อืมก็ได้” อุเอสึงิ ฮารุกล่าว
ฝนสุดาจุ๊บไปที่หน้าผากของเธอ กล่าว “เป็นน้องสาวที่ดีของฉันจริงๆ”
ครั้งนี้ที่เจอรพีพงษ์โดยบังเอิญ ฝนสุดาดีใจอย่างหาที่เปรียบมิได้ และที่นี่ก็คือประเทศญี่ปุ่น ภรรยาของรพีพงษ์อยู่ไกล นี่เป็นโอกาสที่ดีที่เธอจะคว้ารพีพงษ์มา
และพอดีที่พวกเขานอนอยู่ในห้องเดียวกัน อุเอสึงิ ฮารุต้องนอนที่ห้องของตัวเองไม่วุ่นวายอย่างแน่นอน แล้วเธอก็ไม่ต้องพูดถึง
แต่รพีพงษ์ท่อนไม้ไร้ความรู้สึก เธอจะบีบบังคับก็ทำไม่ได้ ดังนั้นทางที่ดีที่สุดคือมอมเหล้า
คนนั้นเมื่อเมาแล้ว ควบคุมตัวเองไม่ค่อยอยู่
ที่เธอชวนอุเอสึงิ ฮารุไปผับตอนกลางคืนนั้น ก็เพราะเหตุนี้
“แหะแหะ ตัวเล็ก ฉันไม่เชื่อล่ะว่าอยู่ในดินแดนของประเทศญี่ปุ่นนี้ ฉันจะเอาคุณไม่ได้ รพีพงษ์ เตรียมตัวตกเป็นของฉันได้เลย!”