พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่864 ให้ฉันดูโทรศัพท์ของพี่
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่864 ให้ฉันดูโทรศัพท์ของพี่
บทที่864 ให้ฉันดูโทรศัพท์ของพี่
“อยู่ที่นี่”ธัชธรรมยิ้มให้หญิงสาวเล็กน้อย
“อาจารย์ของฉันให้ฉันมารับท่าน ตามฉันมาเถอะ”หญิงสาวพูดกับธัชธรรม
ธัชธรรมพยักหน้า และเดินไปหาหญิงสาว
เมื่อรพีพงษ์เห็น ก็เดินตามไป
หญิงสาวจ้องมองไปที่รพีพงศ์อย่างสงสัย เอ่ยปากถามว่า: “ผู้ชายคนนี้ เป็นลูกศิษย์ของท่านเหรอ?”
ธัชธรรมมองไปรพีพงษ์ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา จึงเอ่ยปากว่า: “ถือว่าใช่”
รพีพงษ์ก็ไม่อยากเสียเวลาไปอธิบาย จึงไม่ได้พูดอะไร
หญิงสาวเดินไปทางรพีพงษ์ แล้วเอ่ยปากกับธัชธรรมว่า: “ท่านเดินไปด้านหน้าก่อนเถอะ ก็คือภูเขาด้านหน้านั่น เดี๋ยวจะเห็นถนนเล็กๆ เดินไปตามถนนสายเล็กๆ ฉันจะถามเรื่องบางอย่างเขาอยู่ที่ด้านหลัง”
ธัชธรรมไม่ได้สนใจ และยังคงเดินไปด้านหน้า
รพีพงษ์มองไปที่หญิงสาวอย่างสงสัย ไม่รู้ว่าหล่อนต้องการจะถามเรื่องอะไรกับตัวเอง
ในขณะที่เดินไป หญิงสาวใช้น้ำเสียงกระซิบกระซาบ โน้นตัวไปที่ข้างหูรพีพงษ์ แล้วถาม: “ศิษย์พี่ พี่มีโทรศัพท์มือถือมั้ย?”
รพีพงษ์พยักหน้า
“ถ้าอย่างนั้นพี่เอาโทรศัพท์ออกมาให้ฉันยืมดูได้มั้ย”หญิงสาวเอ่ยปาก
รพีพงษ์ก็ไม่รู้ว่าหล่อนต้องการจะทำอะไร เมื่อคิดว่าปกติแล้วตัวเองก็ใช้โทรศัพท์มือถือในการโทรศัพท์ ด้านในก็ไม่มีของอะไรที่ไม่สามารถให้คนอื่นดูได้ จึงหยิบโทรศัพท์ออกมา ยื่นให้หญิงสาว
หลังจากที่หญิงสาวรับมา ก็เริ่มเปิดดูโทรศัพท์ของรพีพงษ์ขึ้นมาทันที ผ่านไปครึ่งวัน คืนโทรศัพท์ให้รพีพงษ์ด้วยความหดหู่
“น่าแปลกจริงๆ โทรศัพท์ของพี่สะอาดขนาดนี้ ศิษย์พี่ไหนว่าโทรศัพท์มือถือของผู้ชายอย่างพวกพี่จะมีของแบบนั้นอยู่ไม่ใช่เหรอ ทำไมในโทรศัพท์ของพี่ถึงไม่มีล่ะ?”หญิงสาวเหมือนกำลังถามรพีพงษ์ เอ่ยปากพูด
รพีพงษ์เต็มไปด้วยความสงสัย เอ่ยปากถาม: “ของอะไร?”
หญิงสาวจ้องมองไปที่ธัชธรรมที่เดินอยู่ด้านหน้าแวบหนึ่ง จากนั้นก็กระซิบบอกรพีพงษ์ว่า: “ก็คือวิดีโอแบบนั้น”
“วิดีโอแบบไหน?”ผู้ชายที่ตรงไปตรงมาอย่างรพีพงษ์ฟังความหมายในน้ำเสียงของหญิงสาวไม่เข้าใจ
เมื่อหญิงสาวเห็นรพีพงษ์ไม่เข้าใจความหมายแอบแฝง ก็พูดอย่างหมดคำพูดว่า: “ก็คือวิดีโอแบบที่ทั้งสองคนถอดเสื้อออกหมดแล้วต่อสู้กัน”
ความสงสัยบนใบหน้าของรพีพงษ์ยิ่งมากเข้าไปใหญ่ เอ่ยปากถามว่า: “ทำไมต่อสู้กันต้องถอดเสื้อผ้าออกหมดด้วย? แบบนี้ยังต่อสู้กันได้ลงคออีกเหรอ?”
เมื่อหญิงสาวได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ แทบจะระเบิดอารมณ์ในทันที ดวงตาทั้งสองข้างเบิกกว้างแล้วกลอกตาไปมา มองไปที่รพีพงษ์ก็เหมือนกับมองสัตว์ประหลาด
ผู้ชายคนนี้ กลับฟังไม่เข้าใจในสิ่งที่หล่อนพูดคืออะไร
เดิมทีหล่อนคิดว่าหล่อนใช้ชีวิตอยู่บนภูเขา ไม่มีอินเทอร์เน็ต ใช้ชีวิตตัดขาดจากโลกภายนอก ก็ล้าสมัยมากพอแล้ว คาดไม่ถึงว่าผู้ชายคนนี้จะล้าสมัยมากกว่าเขา แม้แต่คำพูดที่ชัดเจนตรงไปตรงมายังฟังไม่เข้าใจ
ใบหน้าของธัชธรรมที่เดินอยู่ด้านหน้าก็แสดงรอยยิ้มที่อธิบายไม่ได้ เห็นได้ชัดว่า คำพูดของทั้งสองคนเขาได้ยินทั้งหมด
ในฐานะชายชราอายุหนึ่งร้อยห้าสิบปีกว่า ธัชธรรมก็ยังก้าวทันตามยุคสมัย เขาเข้าใจคำพูดของหญิงสาว คิดไม่ถึงว่ารพีพงษ์กลับฟังไม่เข้าใจ
“พี่ไม่รู้จริงๆหรือแกล้งไม่รู้กันแน่ พี่แกล้งโง่ใส่ฉันหรือเปล่า?”หญิงสาวจ้องมองไปที่รพีพงษ์แล้ว
รพีพงษ์เพียงแค่รู้สึกแปลกๆ ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงได้กลายเป็นแกล้งโง่ไปได้
“ช่างเถอะช่างเถอะ พี่เป็นคนที่น่าเบื่อจริงๆ คิดว่าผู้ชายที่มาจะเข้าใจรู้งาน คาดไม่ถึงกลับเป็นคนโง่ ดูเหมือนยังต้องไปหาศิษย์พี่ ยืมแท็บเล็ตของเขามาดู”หญิงสาวพึมพำ
หลังจากนั้นหล่อนก็รีบเดินไปด้านหน้า โดยที่ไม่สนใจรพีพงษ์อีก
หญิงสาวมีชื่อว่าณีรนุช เป็นลูกศิษย์ของเพื่อนเก่าที่ธัชธรรมต้องการจะพบ เพราะอุปนิสัยเป็นเหตุ ณีรนุชอยู่ในบรรดาผู้หญิง ถือได้ว่า“เสรีอิสระ”มากกว่า
แต่ถูกจำกัดเพียงความคิด หล่อนหมกมุ่นอยู่กับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับเรื่องระหว่างชายหญิง และมีความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับร่างกายของเพศตรงข้ามเป็นอย่างมาก แต่ยังคงรักษาร่างกายที่บริสุทธิ์มานานกว่ายี่สิบปี เรียกได้ว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์
เนื่องจากได้ยินมาจากศิษย์พี่ว่าในโทรศัพท์ของผู้ชายจะมีวิดีโอที่ดูแล้วจะทำให้คนหน้าแดง ดังนั้นตอนที่หล่อนเห็นรพีพงษ์ จึงอยากดูโทรศัพท์ของเขา ดูว่ามีวิดีโอแบบนั้นมั้ย
เพราะตอนนั้นบังเอิญเห็นภาพที่ไม่สามารถพรรณนาได้บนแท็บเล็ตของศิษย์พี่ ณีรนุชยังคงมีร่องรอยของการโหยหาภาพแบบนั้น แต่ในเวลานั้นเพราะดูไปแวบเดียวหน้าก็แดง การเต้นของหัวใจเร็วขึ้น ต่อมาไม่กล้าดูอีก ดังนั้นหล่อนก็มีความรู้สึกเสียใจอยู่บ้าง
ต่อมาหล่อนอยากจะหาศิษย์พี่เพื่อขอแท็บเล็ตไปดู แต่ศิษย์กังวลว่าหล่อนจะทำเรื่องอะไรไม่ดีกับแท็บเล็ต จึงไม่ยอมให้หล่อนดูมาโดยตลอด
ดังนั้นณีรนุชมีความอยากรู้อยากเห็นกับวิดีโอแบบนี้มาก และเมื่อเจอกับรพีพงษ์ จึงได้ขอโทรศัพท์มือถือกับเขา
รพีพงษ์ก็ใช้เวลาสักพัก ถึงได้เข้าใจว่าวิดีโอที่ณีรนุชบอกมาถอดเสื้อผ้าออกหมดแล้วต่อสู้กันคืออะไร บนใบหน้าก็ปรากฏความกระอักกระอ่วนขึ้นมาในทันที
ในเวลานั้นความสนใจของเขามุ่งเน้นไปที่การต่อสู้ ดังนั้นจึงไม่เข้าใจว่าทำไม่ทุกคนยังต้องถอดเสื้อผ้าออกทั้งหมด ตอนนี้ถึงได้รู้วิดีโอแบบนั้นที่ณีรนุชบอก
สิ่งเดียวที่ทำให้เขาไม่เข้าใจคือ หญิงสาวคนหนึ่งเพิ่งเจอกับคนอื่นเป็นครั้งแรก ก็อยากจะดูว่าโทรศัพท์มือถือของอีกฝ่ายมีวิดีโอแบบนั้นมั้ย สิ่งนี้ทำให้รู้สึกน่าเหลือเชื่อจริงๆ
ทางที่ณีรนุชนำพาทั้งสองคนเดินไป ไม่ใช่ภูเขาลูกนั้นในจุดชมวิว แต่เป็นภูเขาอีกลูกที่อยู่ริมจุดชมวิวที่มีความสูงเท่ากัน แต่ยังเป็นภูเขาที่ไม่ได้รับการพัฒนา
ภูเขาลูกนี้มีเพียงถนนสายเล็กๆ ทั้งสามคนก็เดินตามถนนสายเล็กๆ ณีรนุชหันหน้ามองไปที่รพีพงษ์เป็นครั้งเป็นคราว ในแววตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจและความโกรธ
รพีพงษ์ถึงกับงง คาดไม่ถึงในโทรศัพท์ของตัวเองไม่มีวิดีโอแบบนั้น ก็สามารถสร้างความโกรธให้กับคนอื่นได้
ในขณะเดียวกันในใจของเขาก็ทอดถอนหายใจ โลกใหญ่ไพศาลเรื่องที่คาดไม่ถึงก็มีมากมายจริงๆ จิตใจของหญิงสาวก็แตกต่างกันเป็นพิเศษ ถ้าตอนนั้นรพีพงศ์เจออุเอสึงิ ฮารุก็ให้หล่อนดูวิดีโอในโทรศัพท์ของตัวเอง อุเอสึงิ ฮารุคงจะถือว่าเขาเป็นคนจิตรวิปริต
แต่ณีรนุชรู้สึกว่าในโทรศัพท์ของเขาไม่มีวิดีโอแบบนี้ ถึงจะเป็นคนจิตวิปริต
หลังจากนั้นไม่นาน ถนนใต้เท้าของทั้งสามคนก็กลายเป็นกว้างขึ้นมาก รพีพงษ์มองเห็นตำแหน่งไหล่เขาอยู่ไม่ไกล ปรากฏวิลล่าหนึ่งเขา หลังคาทรงจีนเรียงรายมากมาย อยู่บนภูเขาที่รกร้าง กลับกลายเป็นทิวทัศน์ที่ไม่เหมือนใคร
คาดไม่ถึงว่าเพื่อนเก่าคนนั้นของธัชธรรมกลับสร้างวิลล่าอยู่บนภูเขาแห่งนี้จริงๆ ความสบายใจแบบนี้ ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะสามารถเพลิดเพลินได้
ในไม่ช้า ทั้งสามคนก็มาถึงประตูวิลล่า ณีรนุชเดินเข้าไป เคาะประตู ไม่นานก็มีคนมาเปิดประตู แม้ว่าจะเป็นภูเขาที่รกร้าง แต่คนรับใช้ในวิลล่าก็พร้อมใช้งานทั้งหมด
หลังจากที่เข้าไปในวิลล่า รพีพงษ์อยากจะเข้าห้องน้ำ จึงเอ่ยปากถามว่า: “ห้องน้ำอยู่ที่ไหน?”
ดวงตาของณีรนุชเปล่งประกาย หลังจากที่จ้องมองรพีพงษ์ไปแวบหนึ่ง บนใบหน้าก็ปรากฏรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ แล้วถาม: “พี่อยากเข้าห้องน้ำเหรอ? ฉันพาพี่ไปเอง”