พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่872 ไม้เทพแดง
บทที่872 ไม้เทพแดง
รพีพงษ์เพิ่งมองไปที่ก้านไม้นั้นสักพักหนึ่ง แน่ใจแล้วว่าก้านไม้กับไม้ที่อยู่ในมือของตัวเองนั้นเหมือนกัน สิ่งอย่างเดียวที่ต่างกันคือไม้ในมือของเขาใหญ่กว่าก้านไม้นี้อย่างมาก
ยังไงเขาก็ไม่คาดคิด ธัชธรรมมาเอาของที่นิรภัฏ จะเป็นสิ่งนี้ แล้วดูท่าทีของนิรภัฏและธัชธรรม เหมือนกับจะให้ความสำคัญของก้านไม้นี้มาก ตอนที่นิรภัฏหยิบไม้นี้ออกมาก็ระมัดระวังอย่างยิ่ง ราวกับกลัวว่าก้านไม้จะตกอย่างไรอย่างนั้น
เพราะยังไม่รู้ที่มาของก้านไม้นี้ รพีพงษ์ก็ไม่มีทางบอกพวกเขาว่าในมือตัวเองก็มีท่อนไม้ท่อนใหญ่ ก้านไม้นี้น่าจะมาจากต้นไม้ต้นเดียวกัน ดังนั้นจึงทำได้เพียงกดความตะลึงในใจของตัวเองไว้ เพื่อไม่ให้สองคนนี้เห็น
ด้วยความสามารถของพวกเขา แค่นิ้วเดียวก็จัดการรพีพงษ์ได้แล้ว ไม้ท่อนนี้มีค่าในสายตาของพวกเขา ถ้าพวกเขาลองมือแย่งไม้นั้นจากรพีพงษ์ รพีพงษ์ก็ทำอะไรเขาไม่ได้
“นี่คืออะไร?” รพีพงษ์เสแสร้งว่าไม่เคยเห็นมันมาก่อน มองไปที่ธัชธรรมแล้วถาม
ธัชธรรมไม่ปิดบัง แล้วอธิบายให้รพีพงษ์ฟัง
“ไม้นี้ชื่อไม้เทพแดง เป็นต้นไม้ที่มีอายุหมื่นกว่าปี ลือกันว่าต้นไม้เทพมีอายุยืนกว่าหมื่นปี บำเพ็ญจนสำเร็จ เป็นขั้นจิตวิญญาณขึ้นเป็นเซียน ต่อมาก็พ้นบาปขึ้นเป็นเซียน ไม้เทพแดงนี้คือต้นไม้เทพที่หลังจากเกิดภัยพิบัติแล้วยังมีอยู่”
“เพราะต้นไม้เทพมีจิตวิญญาณ แม้จะถุกฟ้าผ่า ก็ยังคงเป็นของล้ำค่าที่มีน้อยอยู่บนโลกอยู่ดี หลังจากที่คนรุ่นหลังได้ไม้นี้ไปแล้ว ก็ได้ตั้งชื่อว่าไม้เทพแดง แล้วยังเป็นของล้ำค่าที่คนเก็บสะสมอีกด้วย
ได้ยินคำพูดของธัชธรรม รพีพงษ์ก็อดไม่ได้ที่จะตาลุกวาว แล้วถาม “บนโลกนี้ มีต้นไม้ที่มีอายุยืนถึงหมื่นปีด้วยหรอ? แล้วยังโดนลงทัณฑ์จากสวรรค์ด้วย?”
ธัชธรรมหัวเราะฮ่าฮ่า กล่าว “เรื่องนี้ฉันไม่รู้ ที่ฉันพูดก็เป็นสิ่งที่เล่าต่อๆกันมา แล้วมีหลายภาคด้วย นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น จริงหรือไม่ ก็ใช้วิจารณญาณของตัวเองเอาแล้วกัน”
ได้ยินธัชธรรมพูดแบบนี้ รพีพงษ์ก็โล่งอก แม้ฝีมือของยอดฝีมือแดนดั่งเทพจะเหนือธรรมชาติแล้ว แต่รพีพงษ์ก็ไม่เชื่อเรื่องลงทัณฑ์จากสวรรค์ว่าจะมีอยู่จริงบนโลกใบนี้ เพราะเรื่องแบบนี้ แค่ได้ยิน ก็ทำให้คนคิดไม่ถึงแล้ว
ตำนานของไม้เทพแดงนี้ น่าจะเป็นเพราะมนุษย์อยากให้ไม้นี้ลึกลับน่าค้นหา จึงได้แต่งเติมเรื่องราวขึ้น
“แต่ผลลัพธ์ของไม้เทพแดงที่ได้เป็นเรื่องที่ยากจะจินตนาการได้ แค่หลักวิทยาศาสตร์ในตอนนี้ ก็อธิบายไม่ได้แล้ว” ธัชธรรมพูดอีก
รพีพงษ์เห็นด้วย ตอนนี้การก้าวหน้าของวิทยาศาสตร์ ก็ไม่มีทางอธิบายไม้เทพแดงได้ว่าทำไมถึงลี้ลับได้ขนาดนี้ อารียากินเข้าไปนิดเดียว ก็ไม่ได้รับผิดแต่อย่างใด หมอวิจัยมานาน ใช้เครื่องมือต่างๆนานๆ แต่ก็อธิบายไม่ได้ว่ามันเป็นอะไรกันนะ
“แล้วผลลัพธ์ไม้เทพแดงคืออะไร? เหมือนกับมันจำล้ำค่ามาก?” รพีพงษ์กลอกตา แล้วถาม
“ไม้เทพแดงนี้เป็นสิ่งล้ำค่าที่หาได้ยาก มีประสาท สมาธิ ผู้รักษา รักษาโรคโดยไม่ใช้ยา สำหรับคนธรรมดา ของแบบนี้ถือเป็นยาวิเศษแล้ว”ธัชธรรมกล่าว
แน่นอน ว่าไม้เทพแดงยังมีประโยชน์ที่วิเศษกว่านี้ แต่ธัชธรรมไม่บอกรพีพงษ์
รพีพงษ์ได้ยินคำพูดของธัชธรรม กับสิ่งที่เขาเข้าใจมาเกี่ยวกับไม้นั้นเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ดังนั้นจึงได้มั่นใจอย่างยิ่งว่าท่อนไม้ในมือของตนนั้น ก็คือไม้เทพแดงที่ธัชธรรมพูดไว้ทั้งหมด
แล้วเขามั่นใจว่าไม้เทพแดงมีประโยชน์อย่างมาก เพียงแค่ธัชธรรมไม่บอกตนก็เท่านั้น
“แล้วไม้นี้กินได้มั้ย?” รพีพงษ์ถาม
ธัชธรรมได้ยินคำถามนี้ของรพีพงษ์ ก็ชะงัก เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าไม้นี้กินได้หรือไม่
“ทำไมถึงถามแบบนี้? ดูจากภายนอก ก็น่าจะดูออกว่าของสิ่งน่ากินได้หรือเปล่า?” ธัชธรรมมองรพีพงษ์อย่างสงสัย
รพีพงษ์ยิ้ม แล้วอธิบาย “เมื่อกี้ที่คุณพูดมันเหมือนกับเป็นยาวิเศษ ผมเลยถามดู”
ธัชธรรมหัวเราะดังๆ แล้วกล่าว “ไม้เทพแดงนี้ไม่ใช่เอาไว้กิน ถ้าจะใช้ให้ได้ผม ต้องรมควัน แต่แกทำความเข้าใจพวกนี้ไปก็ไร้ประโยชน์ ไม้เทพแดงทั้งหมด ที่เหลือทั้งหมดก็น่าจะอยู่ที่เขาตรงนี้แหละ แม้ของสิ่งนี้จะดี แต่กลับไม่ให้แกใช้ ชีวิตนี้ น่าจะไม่มีโอกาสได้เจอกับของสิ่งนี้แล้วล่ะ”
รพีพงษ์ไม่พูดอะไร ในใจไม่เห็นด้วยกับธัชธรรมสักเท่าไหร่ เพราะที่เขายังมีไม้เทพแดงท่อนใหญ่อีกท่อน ถ้าเอาออกมาล่ะก็ น่าจะทำให้ธัชธรรมตะลึงได้
ขณะนี้นิรภัฏได้ถือใบมีดนั้นเอาไว้ แล้วขูดก้านไม้นั้นออกทีล่ะนิด ใส่เข้าไปในขวดหยก
รพีพงษ์เห็นนิรภัฏทำแบบนี้ ก็ได้คิดถึงคำพูดของธัชธรรมที่ว่าไม้เทพแดงต้องใช้การรมควันถึงจะออกฤทธิ์ ดังนั้นจึงตัดสินใจว่ารอให้ตัวเองมีโอกาสก่อนก็จะทำแบบนี้ ดูว่าจะได้ผลลัพธ์อย่างไร
คำพูดของธัชธรรมทำให้รพีพงษ์วางใจในเรื่องของอารียา ท่อนไม้นี้เป็นสิ่งล้ำค่าที่หาได้ยาก แม้จะใช้ผิดวิธี ก็ไม่น่าจะมีผลเสียอะไร อารียากินเข้าไปนิดนึง ถือว่าโชคดี
ไม่งั้นถ้าตอนนั้นเธอกินยาพิษในถุงดำนั้นเข้าไป ก็ยากที่จะช่วยชีวิตได้แล้ว
ผ่านไปไม่นาน นิรภัฏได้ขูดออกไปหนึ่งในสามของท่อนไม้แล้ว ทำเป็นขี้เลื่อยทั้งหมด ใส่ไว้ในขวดหยก
เขาเอาก้านไม้ที่เหลือใส่ไว้ในกล่องอย่างระมัดระวัง จากนั้น ก็ปิดฝาขวดหยก ยื่นให้กับธัชธรรม
“เอานี่ ครั้งนี้ฉันไม่เอาของแลกกับแกแล้ว นี่เป็นรางวัลที่ศิษย์แกชนะ แต่ครั้งหน้าแกจะไม่โชคดีขนาดนี้แล้ว ถ้าไม่มีของที่ล้ำค่าเท่ากัน แม้โลกจะแตก ฉันก็ไม่มีทางเอาไม้เทพแดงนี้ให้แก”นิรภัฏกล่าว
ธัชธรรมหัวเราะเสียงดัง รีบขวดหยกจากมือเขามา แล้วกล่าว “แน่นอน”
นิรภัฏหันไปมองรพีพงษ์ กล่าว “ไอ้หนุ่ม แกไม่จะไม่เป็นศิษย์ฉันจริงๆหรอ? แม้คอนเน็คชั่นของฉันมีไม่เท่ากลุ่มสิงโต แต่ของบางอย่างของฉัน เป็นสิ่งที่กลุ่มสิงโตอยากได้แต่ก็หาไม่ได้นะ ถ้าแกตกลงเป็นศิษย์ฉัน แกสามารถเลือกของอะไรจากตรงนี้ไปก็ได้ ว่าไง?”
รพีพงษ์โบกมือให้กับนิรภัฏ กล่าว “ผู้อาวุโสอย่าทำให้ผมลำบากใจเลย”
ถ้านิรภัฏมีหยกโยงจิต รพีพงษ์อาจคิดดูใหม่อีกครั้ง แต่เสียดายที่หยกโยงจิตอยู่ที่กลุ่มสิงโต
นิรภัฏถอนหายใจอย่างเซ็ง รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะงัดกับธัชธรรม
ตอนนี้รพีพงษ์นึกอะไรออกบางอย่าง มองไปที่นิรภัฏ แล้วถาม “ผู้อาวุโส มิทราบว่าท่านรับศิษย์ผู้หญิงหรือไม่?”