พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่873 ยาจิตแดง
บทที่873 ยาจิตแดง
เช้าวันรุ่งขึ้น
รพีพงษ์และธัชธรรมทั้งสองเดินลงมาตามทางภูเขา เพราะเมื่อวานตอนขึ้นเขาก็เป็นเวลาช่วงบ่ายแล้ว พอได้ไม้เทพแดงมา ก็เป็นช่วงมืดค่ำ นิรภัฏไม่ได้เป็นคนขี้งก จึงให้ทั้งสองพักอยู่บนเขาหนึ่งคืน
รุ่งเช้า ทั้งสองได้เก็บของและร่ำลานิรภัฏ จากนั้นก็เดินลงจากเขา
เดินพลาง รพีพงษ์ก็จ้องไปที่ธัชธรรม แล้วกล่าว “ผู้อาวุโส ครั้งนี้ที่คุณได้ไม้เทพแดงมา มิทราบว่าถือว่าเป็นผลงานของผมด้วยหรือไม่?”
“งั้นผมก็ควรจะได้รางวัลสักหน่อย?” รพีพงษ์ถามต่อ
ถ้าธัชธรรมตกลงจะให้รางวัลเขา เขาก็สามารถขอหยกโยงจิตจากธัชธรรมได้เลย แบบนี้ก็ไม่ต้องวุ่นวายใดๆแล้ว
“แกยังไม่ไปรายงานตัวที่กลุ่มสิงโตอย่างเป็นทางการเลย จะเอารางวัลเสียแล้ว” ธัชธรรมจ้องรพีพงษ์แล้วกล่าว
“ที่ผมตกลงจะเข้าร่วมกลุ่มสิงโต ไม่ใช่แค่เพราะความรักหรือศีลธรรมอะไร ผมเคยเป็นนักธุรกิจ ไม่ทำการค้าที่ขาดทุน ถ้าไม่มีประโยชน์อะไร แล้วผมจะเข้ากลุ่มสิงโตทำไมกัน สู้ไปอยู่กับผู้อาวุโสนิรภัฏดีกว่า” รพีพงษ์กล่าว
ธัชธรรมยิ้ม แล้วกล่าว “แกพูดมีเหตุผล ฉันก็ไม่ใช่คนไร้เหตุผล รางวัลของแกนะมีแน่ ความจริงครั้งนี้ฉันได้เตรียมของเพื่อที่จะแลกกับนิรภัฏ แต่ในเมื่อเป็นเพราะแก เขาจึงได้ให้ไม้เทพแดงมาฟรีๆ งั้นฉันจะเอาของสิ่งนี้ให้แก”
พูดพลาง ธัชธรรมได้เอาขวดหยกในชุดออกมา แล้วยิ่นให้รพีพงษ์
รพีพงษ์รับขวดหยกนั่นไป เปิดออกแล้วสูดดม มีกลิ่นหอมพิเศษคลุ้งออกมา จากนั้นก็มองเข้าไปด้านในเป็นยาสีแดง ดูเป็นสิ่งลี้ลับ
“นี่คืออะไร?” รพีพงษ์หยิบขวดหยกแล้วถาม
“สิ่งที่อยู่ในขวดหยกนี้ คือยาชั้นเลิศ แม้ยาชั้นเลิศก็เทียบกับไม้เทพแดงไม่ได้ แต่ยาเม็ดประกอบด้วยยาทั้งหมดสิบสามชนิดอายุเป็นร้อยๆปี ชื่อยาจิตแดง”
“ในยามีตัวยาอยู่มหาศาล เป็นของสำคัญ หากคนธรรมดากินเข้าไป จะทำให้ทวารทั้งเจ็ดเลือดไหลจนตาย แม้จะเป็นยอดฝีมือเน่ยจิ้ง ก็ยากที่จะรับฤทธิ์ยานี้ได้ แดนปรมาจารย์จึงจะสามารถลองได้”
“ถ้าใช้อย่างเหมาะสม ยานี้จะทำให้ปรมาจารย์เป็นแดนดั่งเทพ ดังนั้นสำหรับผู้คนวงการบู๊ ยาตัวนี้ เป็นสิ่งสำคัญที่จะไปถึงแดนดั่งเทพ ดังนั้นค่าของมัน จึงไม่น้อยไปกว่าไม้เทพแดงเลย”
ธัชธรรมดูรพีพงษ์แล้วอธิบาย
หลังจากที่รพีพงษ์ฟังจบ ก็เกิดตะลึงขึ้นมา คิดไม่ถึงว่ายาเล็กๆในขวดหยกนี้ จะทำให้ปรมาจารย์เป็นแดนดั่งเทพได้ ถ้าเป็นแบบนี้ ยาตัวนี้ก็ยอดเยี่ยมมาก
ตอนแรกรพีพงษ์ได้กินยาของสำนักเทพยาเซียนไปเกือบเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ เพิ่งจะเป็นแดนครึ่งดั่งเทพ นั่นหมายถึงฤทธิ์ของยาตัวนี้ เยี่ยมกว่ายาของเทพยาเซียน?
แน่นอนว่ารพีพงษ์รู้ดีกับความพิเศษของตัวเอง เขาฝึกฝนพลังวิเศษเสน ซึ่งต่างจากเน่ยจิ้งอย่างมาก บอกว่าเป็นแดนดั่งเทพ แต่ความจริงเป็นแดนครึ่งพลังวิเศษเสน นี่เทียบกับแดนปรมาจารย์ไปแดนดั่งเทพไม่ได้
ไม่รู้ว่าถ้ารพีพงษ์กินยานี้เข้าไป จะเป็นพลังวิเศษเสนชั้นยอดได้หรือไม่ เป็นยอดฝีมือแดนดั่งเทพจริงๆ
รพีพงษ์มักจะรู้สึกว่า การที่จะไปถึงพลังวิเศษเสนชั้นยอดได้นั้น อยากกว่าการที่แดนปรมาจารย์ไปแดนดั่งเทพเสียอีก พลังวิเศษเสนยิ่งใหญ่จริงๆ แต่การที่จะเลื่อนขั้นได้ก็ยากเหลือเกิน
ยาจิตแดงนี้ทำให้รพีพงษ์เข้าใจ ว่าแม้จะเป็นยาชั้นเลิศ ก็มีข้อเสียเช่นเดียวกัน อย่างน้อยยาชั้นเลิศสองเม็ดที่รพีพงษ์กินเข้าไปก่อนหน้านี้ ก็เทียบกับยาจิตแดงนี้ไม่ได้
“แม้ยาจิตแดงนี้จะสามารถทำให้แดนปรมาจารย์เป็นแดนดั่งเทพได้ แต่ความอันตรายของมันก็ยากจะคาดเดาได้ แม้ยานี้จะเป็นยาชั้นเลิศ แต่สำหรับฤทธิ์ยา และสำหรับร่างกายมนุษย์ ฤทธิ์ยาของยาระดับนี้ ยาที่จะรับได้ แดนปรมาจารย์กินยาเม็ดนี้เข้าไป อยากจะประสบความสำเร็จ ก็ต้องยอมรับกับความอันตรายถึงชีวิตให้ได้”
“แม้จะมีฉันกับนิรภัฏคนแบบนี้กำกับอยู่ข้างๆ เปอร์เซ็นต์ที่จะสำเร็จมีห้าสิบเปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าการเลื่อนขั้นล้มเหลว เพราะฤทธิ์ยา ผู้ที่กินยาเข้าไปอาจเป็นคนไร้สมรรถภาพไปเลยก็เป็นได้”
ธัชธรรมพูดเสริม
ได้ยินแบบนี้ รพีพงษ์ที่อยากลองกินยานี้ดูก็ถึงกับต้องหยุดชะงักความคิดลงไป
ไม่คาดคิดว่าแม้จะมีธัชธรรมยอดฝีมือระดับนี้อยู่ข้างๆคอยแนะนำ เปอร์เซ็นต์ความสำเร็จมีเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น ยานี้อันตรายเกินไปแล้ว
รพีพงษ์ที่มั่นใจในพรสวรรค์ของตัวเองยอมที่จะเสียเวลา แต่ไม่เสี่ยงอันตรายแบบนี้
ดูออกถึงความคิดของรพีพงษ์ทั้งหมด ธัชธรรมยิ้ม แล้วกล่าว “เส้นทางวางการบู๊ ไม่ได้ราบรื่นเสมอไป ไม่ว่าจะเจอกับอะไร ล้วนมีอันตรายทั้งนั้น จิตวิญญาณของการบู๊ บางครั้งก็ไม่ใช่การที่กล้าจะเสี่ยงอันตรายแบบนี้
รพีพงษ์พยักหน้า ธัชธรรมพูดไม่ผิด เส้นทางของวงการบู๊ น้อยที่จะราบรื่น อยากพัฒนาฝีมือ ก็ต้องเสี่ยงอันตราย
“อย่าคิดว่าเปอร์เซ็นต์ความสำเร็จมีเพียงห้าเปอร์เซ็นต์ ยานี้ไม่ว่าใครครอบครอง สุดท้ายล้วนอยากลองด้วยกันทั้งหมด ถ้าเอายานี้ให้กับนิรภัฏ เกรงว่าเขาจะให้ศิษย์เขากินยานี้ตั้งแต่ฉันยังไม่ออกมาเสียอีก”
“เสียดายครั้งนี้ไม้เทพแดงแกชนะ ดังนั้นยานี้แกจึงเสียเปรียบ”
ธัชธรรมหัวเราะ
สิ่งที่รพีพงษ์คิดทั้งหมด ไม่ใช่ยาตัวนี้ สำหรับยาที่สามารถทำให้ตัวเองเลื่อนขั้นได้นั้น รพีพงษ์รู้สึกชอบจริงๆ แต่ในร่างกายยังมีพลังวิเศษเสนอยู่นั้น สำหรับยานี้แล้วรพีพงษ์ไม่ได้อยากได้มันมากนัก
แต่ตอนนี้สิ่งที่เขาอยากได้จริงๆ ก็คือหยกโยงจิตทั้งสามในมือของกลุ่มสิงโต ได้หยกโยงจิตนั้นมา เขาก็ประสบความสำเร็จในภารกิจที่อาจารย์เขามอบหมายมาแล้ว
แม้อาจารย์บอกว่ายังมีเวลาอีกสามปี แต่รพีพงษ์ไม่อยากยื้อเวลาไว้ อยากทำให้เสร็จเร็วๆ
ดังนั้นเขาจึงจ้องไปที่ธัชธรรม แล้วถาม “ความจริงผมไม่ได้อยากได้ยาจิตแดงนี้สักเท่าไหร่ ผมสามารถเอายานี้แลกกับสิ่งอื่นได้มั้ย?”
ธัชธรรมชะงัก แล้วถาม “แกอยากแลกกับอะไร?”
“ผมได้ยินมาว่าในมือของกลุ่มสิงโตมีหยกที่ชื่อว่าหยกโยงจิต ไม่รู้ว่ายาจิตแดงนี้ สามารถแลกกับหยกนั้นได้หรือไม่?” รพีพงษ์กล่าว
ได้ยินคำพูดนี้ของรพีพงษ์ ธัชธรรมหลับตาลง มองรพีพงษ์ด้วยความครุ่นคิด แล้วถาม “แกไปได้ยินมาจากไหนว่ากลุ่มสิงโตของเรามีหยกโยงจิตของแบบนี้อยู่? แกจะเอาหยกโยงจิตไปทำอะไร?”