พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่880 ผมไม่เคยคิดจะลวนลามคุณ
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่880 ผมไม่เคยคิดจะลวนลามคุณ
บทที่880 ผมไม่เคยคิดจะลวนลามคุณ
รพีพงษ์มองหงส์อย่างประหลาดใจ จากนั้นก็ก้มหน้ามองไปที่ขาของหงส์ รู้สึกเขินอายขึ้นมา
เมื่อกี๊เขาทำเพื่อหยุดพลังของหงส์ไว้ ต้องกดจุดฝังเข็มบนขาอ่อนไว้ ไม่ได้คิดเรื่องขาอ่อนของผู้หญิงแต่อย่างใด
ก็ไม่แปลกที่หงส์จะทั้งอายทั้งโกรธในเวลาเดียวกัน ที่แท้ตัวเองก็ถูกลวนลามนี่เอง
แต่เรื่องในระหว่างการต่อสู้ ใครจะไปคิดเรื่องแบบนี้ ถ้าอีกฝั่งเป็นศัตรูของตัวเอง ยังสามารถขอให้อีกฝั่งอย่าลวนลามตัวเองตอนต่อสู้ได้ด้วยหรอ?
พรดรัลและคนอื่นๆก็ไม่คาดคิดว่าเรื่องที่หงส์ใส่ใจจะเป็นเรื่องนี้ แต่ตอนนี้พวกเขาไม่กล้าพูดอะไรตามใจปากแล้ว เมื่อกี๊ที่รพีพงษ์แสดงฝีมือออกมา ก็ทำให้พวกเขาหวาดกลัวได้แล้ว
“ขอ……ขอโทษนะ การต่อสู้เมื่อกี๊ ผมไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้เลย” รพีพงษ์ขอโทษหงส์
หงส์ยังคงมองรพีพงษ์ด้วยความโกรธ แล้วกล่าวอย่างโมโหว่า “เหอะ ฉันว่าแกตั้งใจ จะบอกให้นะ ฉันอายุมากกว่าแกหลายปี แกยังกล้าลวนลามฉัน แกไม่เคารพรุ่นพี่ ฉันจะไม่มีทางปล่อยแกไว้แน่!”
“อย่าคิดว่าแกฝีมือดีแล้วฉันจะปล่อยไปนะ จิตใจแกไม่ปกติ ฝีมือดีก็ไม่ช่วยอะไร”
รพีพงษ์เห็นท่าทีของหงส์ ก็รู้สึกว่าเธอแก่กว่าเขาแค่ห้าหกปีเอง แล้วยังบอกว่าตัวเองไม่เคารพรุ่นพี่อีก นี่มันหาเรื่องกันชัดๆ
และเขาก็คิดว่าตัวเองทำถูกต้อง จะเป็นคนที่จิตใจไม่ปกติได้ไงกัน เธอคิดมากเป็นเองแท้ๆ
“คุณเข้าใจผิดแล้ว ผมไม่ได้อยากลวนลามคุณเลยนะ ตั้งแต่ต้นจนกระทั่งตอนนี้ ผมไม่ได้สังเกตความสวยงามของคุณด้วยซ้ำ ในสายตาผม คุณก็เป็นแค่คนที่รับผิดชอบการทดสอบเท่านั้น ผมจะลวนลามคุณได้ไงกัน” รพีพงษ์กล่าว
หงส์ชักตา รู้สึกว่าคำพูดนี้ของรพีพงษ์ กำลังบอกกับตนว่า เขาไม่ได้กระทำต่อเธอเหมือนเธอเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง
คำพูดแบบนี้สำหรับผู้หญิงคนหนึ่ง มันหมายถึงการเหยียดหยามอย่างมาก
รพีพงษ์ลวนลามหงส์ หงส์โมโหอย่างบรรยายไม่ถูก แต่รพีพงษ์พูดว่าตัวเองไม่ได้สังเกตลักษณะของหงส์ นี่มันเหมือนกำลังประชดประชันหงส์ว่าเธอหลงตัวเองหรอกหรอ?
เธอกัดฟันมองรพีพงษ์ รู้สึกว่าตัวเองได้เจอเข้ากับตัวซวยของจริงที่ไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิตนี้
แต่ทว่าฝีมือของอีกฝั่งแข็งแกร่งอย่างมาก ตัวเองไม่ได้เป็นคู่ต่อกรของเขา และคนเก่งที่ไม่มีใครเทียบได้แบบนี้ ตัวเองก็ไล่เขาไปไม่ได้อีก ดังนั้นบทสรุปก็คือ ทำได้เพียงอดกลั้นเท่านั้น
“แกชนะ แต่แกอย่าคิดว่าเรื่องนี้จะจบง่ายๆแบบนี้นะ แม้แกจะเป็นคนเก่งที่ไม่มีใครเทียบได้ หลังจากที่เข้ากลุ่มสิงโตแล้ว ยังไงฉันก็เป็นรุ่นพี่ของแก อย่าให้ฉันมีโอกาสนะ ฉันจะให้แกได้ลองดี” หงส์พูดกับรพีพงษ์อย่างเกรี้ยวกราด
รพีพงษ์ยักไหล่ ไม่แคร์
หงส์มองไปที่พรดรัลและคนอื่นๆ แล้วกล่าว “พวกแกยืนบ้าอะไรอยู่ รีบขึ้นเวทีสิ!”
พรดรัลทั้งสามตกใจกับท่าทีของหงส์ ไม่กล้าเชื่องช้า คนหนึ่งรีบพุ่งขึ้นไปบนเวที
จากนั้นเหลือสองคนเข้าทดสอบในขณะที่หงส์กำลังเกรี้ยวกราดอยู่ ทั้งสองตัวสั่น กลัวว่าหงส์จะโมโหแล้วไล่พวกเขาออกไป
ดีที่ทั้งสองมีฝีมือจริงๆ เป็นแดนปรมาจารย์ที่แท้จริง ดังนั้นสุดท้ายจึงไม่เกิดข้อผิดพลาดอะไร
หลังจากที่ทั้งห้าคนทดสอบเสร็จแล้วนั้น หงส์ก็พาพวกเขาเข้าไปในภูเขา
พรดรัลแปลกใจกับตัวตนของรพีพงษ์ ได้เดินไปข้างรพีพงษ์ แล้วถาม “น้องชาย ฝีมือของคุณไร้ที่ติขนาดนี้ หาได้ยากจริงๆ มิทราบว่าน้องชายบอกชื่อหน่อยได้หรือไม่?”
รพีพงษ์มองเขา แล้วตอบอย่างเรียบง่ายว่า “รพีพงษ์”
หลังจากที่พรดรัลได้ยินเสียงนี้ก็ชะงักไป แม้ตอนนั้นเขาคาดเดา แต่ไม่มั่นใจ เพราะแม้ว่ารพีพงษ์จะแสดงฝีมือที่สำนักเทพยาเซียน แต่ก็ยังไม่ถึงแดนดั่งเทพ แต่วัยรุ่นที่อยู่ตรงหน้านี้ ฝีมือเป็นแดนครึ่งดั่งเทพแล้วจริงๆ
ตอนนี้ได้ยินรพีพงษ์พูดชื่อตัวเองออกมา พรดรัลก็ตะลึงเป็นอย่างมาก
“หรือคุณคืออัจฉริยะที่สำนักเทพยาเซียน ที่ต่อกรกับแดนปรมาจารย์สิบกว่าคนนั้น?” พรดรัลกล่าว
รพีพงษ์ไม่ปฏิเสธ แล้วพยักหน้า
พรดรัลตื่นเต้นขึ้นมา แล้วรีบเข้าใกล้รพีพงษ์กล่าว “พรหมลิขิตจริงๆ ตอนนั้นลูกชายและลูกสาวของฉันอยู่ที่สำนักเทพยาเซียน ลูกชายฉันชื่อดรัณ ลูกสาวฉันชื่อเพ็ญรตี พวกเขาพูดว่า พวกเขากับคุณไปสำนักเทพยาเซียนด้วยกัน ไม่รู้ว่าน้องชายยังพอจำได้มั้ย?”
“พอจำได้บ้าง” รพีพงษ์ตอบ
พรดรัลรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของตัวเองกับรพีพงษ์เริ่มใกล้เข้าไปอีก สามารถสร้างสัมพันธไมตรีกับคนเก่งแบบนี้ มีประโยชน์อย่างมาก
คนรอบข้างทั้งสามคนมองไปที่พรดรัลอย่างอิจฉา ดูออกชัดเจนว่าอยากเข้าใกล้รพีพงษ์ด้วย
“ตอนแรกที่เกิดเรื่องสำนักเทพยาเซียน ฝีมือของน้องชายน่าจะเป็นแดนปรมาจารย์ขั้นสูงสุดใช่มั้ย? คิดไม่ถึงว่านี่ผ่านไปแค่ไม่กี่เดือน ฝีมือของน้องชายก็เป็นครึ่งแดนดั่งเทพแล้ว ชั่งน่าตะลึงจริงๆ” พรดรัลกล่าวต่อ
ครั้งนี้ไม่ใช่แค่พวกพรดรัลเลื่อมใสรพีพงษ์ แม้แต่หงส์ก็เหลือบมองรพีพงษ์ ด้วยความตะลึง ไม่คิดว่ารพีพงษ์จะสามารถใช้ระยะเวลาอันนี้จากแดนปรมาจารย์ขั้นสูงสุดเป็นแดนครึ่งแดนดั่งเทพได้
“เหอะ มีพรสวรรค์แล้วไง ก็เป็นแค่คนชั้นต่ำอยู่ดี” หงส์พึมพำ
รพีพงษ์เซ็ง ดูๆไปน่าจะเปลี่ยนแปลงลักษณะของเขาในสายตาของหงส์ได้ยากแล้ว
ผ่านไปไม่นาน หงส์พาทุกคนมายังห้องที่เต็มไปด้วยหน้าจอแสดงผล ในห้องมีพนักงานไอทีจำนวนไม่น้อยปฏิบัติงานอยู่
พรดรัลและคนอื่นๆอายุไม่น้อยแล้ว ไม่ค่อยคุ้นเคยกับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้ แต่รพีพงษ์กลับไม่รู้สึกพิเศษอะไร
“นี่เป็นห้องป่าวประกาศภารกิจของกลุ่มสิงโต เดี๋ยวฉันจะให้พนักงานสมัครไอดีให้ทุกคน วันข้างหน้าพวกคุณสามารถใช้ไอดีนี้เข้าไปยังเว็บของกลุ่มสิงโต รับภารกิจ” หงส์กล่าว
พรดรัลและคนอื่นๆรู้สึกอับอาย ชัดเจนว่าพวกเขาใช้อินเตอร์เน็ตไม่เป็น
“คุณหงส์ผู้ยิ่งใหญ่ พวกเราไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับของพวกนี้ มันดียังไงหรือ” พรดรัลกล่าว
หงส์ชักตาไปที่เขา แล้วกล่าว “ใช้ไม่เป็นก็เรียนรู้ พวกคุณเป็นแดนปรมาจารย์กันแล้ว เรื่องง่ายๆแค่นี้เรียนรู้ไม่ได้หรือไง?”
เห็นหงส์มีท่าทีไม่เกรงใจใคร พรดรัลก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก
รพีพงษ์ไม่สนใจพวกพรดรัล แล้วเดินไปที่หน้าด้านของหน้าจอ มองไปยังหน้าจอ ที่เขียนว่า “อันดับรางวัลนำจับ” คำนี้ ข้างล่างตามด้วยรายชื่อ