พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่883 วัวแก่กินหญ้าอ่อน
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่883 วัวแก่กินหญ้าอ่อน
บทที่883 วัวแก่กินหญ้าอ่อน
หงส์ได้ยินคำพูดของมังกร ก็ชักตา แล้วกล่าว “พี่ พูดมั่วอะไรเนี่ย!”
มังกรไม่สนใจหงส์ มองไปที่พยัคฆ์และเต่า แล้วถาม “พวกแกจำได้มั้ยเมื่อก่อนที่มีแดนดั่งเทพคนหนึ่งเข้าร่วมกลุ่มสิงโต แล้วยั่วโมโหน้องสาว ตอนนั้นเธอทำยังไง?”
“อันนี้ฉันจำได้ ตอนนั้นน้องสาวมาหาฉัน ให้ฉันไปจัดการให้ ฉันไปพูดคุยกับเค้านิดหน่อย พบว่าคนนั้นมันไร้เหตุผลจริงๆ ดังนั้นจึงได้ชกต่อยกัน” เต่าที่รูปร่างสูงใหญ่พูดออกมาทันที
“ถ้าฉันจำไม่ผิด ตอนนั้นก็น่าจะเป็นวันรายงานตัวเหมือนกัน น้องสาวรู้สึกว่าคนนั้นยั่วโมโหตัวเองแล้วนั้น ก็รีบมาหาคนช่วย แต่ครั้งนี้เธออดกลั้นจนรายงานตัวเสร็จ ระหว่างนั้นยังคุยกับเค้า พวกแกคิดว่านี่มันหมายความว่าอะไร?” มังกรยิ้มอีกแล้วถาม
พยัคฆ์ตบขาอ่อน แล้วกล่าว “นี่หมายถึงน้องสาวชอบเค้าไง!”
“พี่รอง พี่พูดบ้าอะไร ต่อไปฉันจะไม่สนพี่แล้ว!” หงส์ได้ยินสามคนพูดถึงตัวเองแบบนี้ ก็โมโหกระทืบเท้า”
“เมื่อคิดแบบนี้ รู้สึกว่าพี่ใหญ่พูดมีเหตุผลนะ นี่เป็นครั้งแรกที่น้องสาวทนได้ขนาดนี้ แล้วถ้าเมื่อก่อนมีคนลวนลามเธอแบบนี้ ต้องมาให้พวกเราจัดการไปแล้ว ตอนนี้แค่บอกพวกเราว่าเธอโดนรังแกแค่นั้น มันน่าแปลกจริงๆ” เต่าก็พูดตาม
หงส์ถูกพวกเขาสามคนพูดจนอยากที่จะรีบไปหารพีพงษ์แล้วฆ่าเขาทิ้งซะ ความจริงเธอมาเพื่อขอให้พี่ทั้งสามของตัวเองช่วยตัดการรพีพงษ์ แต่พวกเรากลับมาคิดว่าตนมีใจให้รพีพงษ์หรือเปล่าเสียอย่างนั้น
“พวกพี่หยุดเดามั่วได้แล้ว เด็กนั่นอ่อนกว่าฉันตั้งหลายปี ฉันจะชอบเขาได้ไงกันแล้วเขายังขั้นต่ำแล้วยังหลงตัวเองด้วย ฉันจะชอบคนแบบนั้นได้ไงกัน” หงส์แสร้งทำเป็นพูดกับมังกรทั้งสาม
มังกรยิ้ม แล้วพูดกับหงส์ว่า “น้องสาว อายุก็ไม่น้อยแล้วนะ แม้แกจะยี่สิบเก้าปี ก็ถือว่าเริ่มแก่แล้วนะ หลายปีมานี้แกเอาแต่คิดว่าคนรอบข้างแก่เหมาะคู่ควรกับแก ดังนั้นจึงไม่คิดเรื่องแฟน แต่ถ้าแกยังยืดเวลาต่อไป ต่อไปจะไม่มีใครเอาแล้วนะ”
“ใช่น้องสาว พรสวรรค์ของรพีพงษ์ เก่งกว่าพวกเราในตอนแรกมากนะ แดนครึ่งดั่งเทพที่ยี่สิบกว่าปี แม้ตอนนี้แกจะสำเร็จ แต่ก็เทียบกับพรสวรรค์ของเขาไม่ได้ อายุน้อยกว่ากี่ปีแล้วไง วัวแก่กินหญ้าอ่อน แกหาคนที่อ่อนกว่าแก ไม่มีปัญหาอะไรเลย” พยัคฆ์ที่ฉลาดหลักแหลมยิ้มพลางกล่าว
“พี่ต่างหากที่เป็นวัวแก่” หงส์ตอกกลับทันควัน
แต่เมื่อฟังรุ่นพี่ทั้งสามพูดแบบนี้ เธอก็รู้สึกได้เช่นกันว่าตัวเองอายุไม่น้อยแล้ว แม้ความสามารถทำให้เธอดูอ่อนเยาว์ แต่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความจริงได้
แล้วถ้าแบบนี้ พรสวรรค์ของรพีพงษ์ ก็เหมาะสมกับเธอจริงๆเลยล่ะ……
ไอ้หยา กำลังคิดบ้าอะไรอยู่เนี่ย ฉันจะชอบมันได้ไงกัน หงส์รีบส่ายหัว เธอถูกมังกรและพวกทั้งสามคนเบี่ยงเบนความสนใจแล้ว
“พวกแกดูนะ น้องสาวเริ่มลังเลแล้ว น่าจะโดนพวกเราพูดสะกิดใจแล้วล่ะ” มังกรยิ้มพลางกล่าว
หงส์เกรี้ยวกราด แล้วกล่าว “ฉันมาขอความช่วยเหลือจากพวกพี่นะ ไม่ใช่ให้พวกพี่มาคิดเรื่องแต่งงานของฉัน พวกพี่จะช่วยฉันจัดการไอนั่นมั้ย ถ้าไม่ช่วย ฉันไปหาคนอื่นก็ได้!”
“ช่วยช่วยช่วย ในเมื่อน้องสาวจอความช่วยเหลือแล้ว พวกเราก็ต้องไปหามัน ถามมันสักคำ ว่าทำไมต้องลวนลามน้องสาว” มังกรกล่าวอย่างตั้งใจ พูดจบก็ส่งสายตาให้พยัคฆ์กับเต่าทั้งสอง
หงส์เดินไปข้างนอกด้วยความโกรธ มังกรและพวกทั้งสามคนเดินไปพร้อมกับเธอ ไป”คิดบัญชี”กับรพีพงษ์อย่างเกรี้ยวกราด
ในห้องสิ่งปลูกสร้างในหุบเขา รพีพงษ์กำลังนั่งอยู่ด้านหน้าคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่ง ก่อนหน้านี้ที่หงส์วางแผนไว้ เขาพอจะเข้าใจกลุ่มสิงโตบ้างแล้ว และยังได้บัญชีที่จะเข้าเว็บไซต์ของกลุ่มสิงโตแล้วด้วย
ขณะนี้เขากำลังท่องเว็บไซต์ของกลุ่มสิงโตอยู่ อยากจะดูจากเว็บไซต์ว่ามีข้อมูลเกี่ยวกับหยกโยงจิตบ้างหรือไม่
เว็บไซต์ของกลุ่มสิงโตนี้หลักๆเอาไว้เพื่อประกาศภารกิจสมาชิกของกลุ่มสิงโต ในเวลาเดียวกันสมาชิกก็สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน แลกเปลี่ยนสิ่งของ รวมทั้งผลงานของตัวเองก็สามารถแลกเปลี่ยนเป็นสิ่งของได้ด้วยเช่นกัน
กลุ่มสิงโตมีห้องเก็บของอย่างไร บนเว็บไซต์ก็ปรากฏไว้ ในเวลาเดียวกันสิ่งที่รพีพงษ์อยากรู้ก็สามารถดูจากบนเว็บไซต์นี้ได้เลย
แต่ตอนนี้รพีพงษ์เพิ่งเข้าร่วมกลุ่มสิงโต อำนาจน้อย ดังนั้นบนเว็บไซต์จึงเห็นแค่ของพื้นฐานเท่านั้น ถ้าเกี่ยวกับเนื้อหาและความลับที่สำคัญ รพีพงษ์ไม่มีสิทธิ์ดู
เขาใส่ตัวอักษรสามตัวหยกโยงจิตในช่องค้นหาตรงกลาง แว็บเดียวก็ปรากฏข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับหยกโยงจิตขึ้นมา รพีพงษ์ดูอย่างตั้งใจ พบว่าหยกโยงจิตที่อยากได้นั้น ต้องสะสมให้ได้สามแสนผลงานจึงจะได้มา
และในภารกิจของกลุ่มสิงโต จับแดนดั่งเทพหนึ่งคน ได้แค่ห้าหมื่นผลงานเท่านั้น นั่นเท่ากับว่ารพีพงษ์ต้องจับแดนดั่งเทพหกคน จึงจะได้หยกโยงจิต
ผู้คนเหล่านั้นบนอันดับรางวัลนำจับจะได้ผลงานมากขึ้นมาหน่อย แต่อันดับสามคนแรกรพีพงษ์ไม่ต้องนึกถึง นอกจากชัชพิสิฐ เหลืออีกสองหนึ่งคนคือแดนดั่งเทพขั้นสูงอีกคนคือแดนดั่งเทพขั้นกลาง รพีพงษ์ไปหาพวกเขา ก็เหมือนฆ่าตัวเองชัดๆ
แต่อันดับที่สี่ถึงสิบ ล้วนเป็นแดนดั่งเทพขั้นต้น ดังนั้นผลงานที่จะได้จากค่าของพวกเขานั้นไม่มาก นอกจากอันดับสิบได้ห้าหมื่นผลงาน ที่เหลือได้หกหมื่นผลงาน
เห็นเงื่อนไขนี้ รพีพงษ์ก็ขมวดคิ้วขึ้นมา คิดไม่ถึงว่าค่าของหยกโยงจิตจะสูงมากขนาดนี้ แบบนี้เขาก็ต้องไปจับแดนดั่งเทพหกคน จึงจะสะสมผลงานได้เพียงพอ?
ด้วยความสามารถของแดนครึ่งดั่งเทพอย่างเขา อยากจะชนะแดนดั่งเทพหกคน ไม่ใช่เรื่องง่าย
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือรพีพงษ์ไม่รู้เลยว่าจะไปหาแดนดั่งเทพพวกนี้ได้จากที่ไหน
“หยกโยงจิตนี้มันมีอะไรดีกันแน่? ทำไมกลุ่มสิงโตถึงให้ความสนใจมากขนาดนี้? ก็แค่หยกที่ลี้ลับไม่ใช่หรอ? หรือว่า ไอ้หยกโยงจิตนี่จะมีประโยชน์ที่ฉันไม่รู้ด้วยนะ?” รพีพงษ์พึมพำกับตัวเอง
ในขณะที่รพีพงษ์กำลังครุ่นคิดว่าจะสะสมผลงานให้ได้สามแสนผลงานอยู่นั้น ด้านนอกก็มีเสียงเคาะประตูเข้ามา
“รพีพงษ์ แกรีบออกมาเดี๋ยวนี้นะ ฉันมาคิดบัญชีกับแก! พี่ชายทั้งสามของฉันก็มาด้วย ดูสิว่าแกจะหยิ่งยโสต่อหน้าฉันยังไงอีก!”