พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่897 คนที่ถูกเลือกเป็นเจ้าสำนัก
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่897 คนที่ถูกเลือกเป็นเจ้าสำนัก
บทที่897 คนที่ถูกเลือกเป็นเจ้าสำนัก
คนในห้องประชุมได้ยินธัชธรรมแล้ว ก็เงียบลง
พวกเขาไม่คาดคิด ที่ธัชธรรมเรียกพวกเขามา เพราะจะประกาศเรื่องตัวเลือกของเจ้าสำนักกลุ่มสิงโตคนต่อไป
แต่ตัวเลือกนี้ เพิ่งเข้าร่วมกลุ่มสิงโตได้ไม่กี่วัน อายุยี่สิบกว่าปี ฝีมือก็ยังไม่ถึงระดับแดนดั่งเทพจริงๆ
นี่มันเหนือความคาดหมายของทุกคน
ผู้เฒ่าที่ถามธัชธรรมได้ยินคำพูดของธัชธรรมแล้วนั้น ก็นิ่งอยู่พักใหญ่ จึงจะรู้สึกตัวขึ้นมา จากนั้นก็กล่าวต่อธัชธรรมว่า “เจ้าสำนัก คุณอย่าเล่นตลกกับพวกเราอีกเลย พรสวรรค์ของเด็กนั้นมันเยี่ยมจริง แต่ในที่จะเป็นตัวเลือกเจ้าสำนัก เกรงว่ายังไม่มีสิทธิ์มากพอขนาดนั้นนะ”
ธัชธรรมจ้องไปที่เขา แล้วกล่าว “ผมเอาจริง แม้รพีพงษ์เพิ่งจะเข้าร่วมกลุ่มสิงโตของเราได้ไม่กี่วัน แต่ผมได้สังเกตประสบการณ์ที่ผ่านมาของเขาแล้ว และเขาก็เป็นคนที่ผมพามา ไม่ว่าจะเป็นด้านความประพฤติหรือนิสัยใจคอ ล้วนไม่มีปัญหา แล้วผมก็ไม่ใช่จะตายในเร็ววันนี้ เชื่อว่าหลังจากที่ผมเสียชีวิตไปแล้วนั้น เขาจะต้องเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดคนหนึ่ง ถึงเวลานั้นรับช่วงต่อกลุ่มสิงโต ก็ไม่มีที่ติแล้ว”
ทุกคนได้ยินธัชธรรมพูดแบบนี้ ก็นิ่งสงบลง แต่ล่ะคนมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันไป
ผู้คนเหล่านี้ที่อยู่ในห้องประชุม บางคนไม่มีความคิดเห็นใดๆต่อตำแหน่งกลุ่มสิงโตนี้ ดังนั้นสำหรับเรื่องการรับช่วงต่อตะแหน่งเจ้าสำนัก พวกเขาจึงไม่มีข้อเสนอแนะใดๆ เพียงแค่สามารถทำให้กลุ่มสิงโตดำเนินต่อไปได้ก็พอแล้ว
แต่บางคนให้ความสำคัญกับตำแหน่งเจ้าสำนัก แม้จะตรงไปตรงมา แต่ความคิดที่จะไต่เต้าให้สูงขึ้นก็ยังคงมีอยู่ และผู้เฒ่าที่พูดกับธัชธรรมก็เป็นหนึ่งในนั้น
คนนี้ชื่อตปธน ในกลุ่มสิงโต ตำแหน่งผู้ยบริหารพอๆกับธัชธรรม ฝีมือของเขาคือแดนดั่งเทพขั้นสูง เป็นผู้แข็งแกร่งที่ตรงไปตรงมาคนหนึ่ง และอายุของเขาก็น้อยก็น้อยกว่าธัชธรรมอยู่มาก หลายคนคิดว่าหลังจากที่ธัชธรรมเสียชีวิตแล้ว คนที่จะรับช่วงต่อคือตปธน
และช่วงหลายปีมานี้ตปธนทำเพื่อกลุ่มสิงโตมามาก ก็มีสิทธิ์ตรงนี้เช่นกัน
ดังนั้นตอนนี้ได้ยินคำพูดของธัชธรรมว่าคนที่ถูกเลือกของเจ้าสำนักเป็นเด็กวัยรุ่นที่ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม เขาจึงรู้สึกไม่ชอบใจ
“เจ้าสำนัก ถ้าคุณตัดสินใจแบบนี้จริงๆ เกรงว่าพวกเราจะไม่ยอมรับไม่ได้ เด็กนี้พรสวรรค์ที่เยี่ยมยอดจริง ไม่ว่าจะยังไง เขาก็เป็นคนคนที่ยังไม่ถึงแดนดั่งเทพ และเรื่องในอนาคตก็ไม่มีใครคาดเดาได้ เอาอนาคตไปฝากไว้กับเด็กแบบนี้ เป็นการกระทำที่ไม่ค่อยฉลาดเท่าไหร่นะ”
ตปธนต่อต้านธัชธรรมโดยไม่ลังเล
“ใช่ รพีพงษ์มันยังเป็นเด็ก ไม่มีทางแบกรับกลุ่มสิงโตได้หรอก”
“ตปธนพูดไม่ผิด พรสวรรค์ไม่ได้หมายถึงทุกสิ่ง ไม่มีใครรู้ว่าอนาคตเด็กนั้นมันจะเปลี่ยนเป็นยังไง ถ้าให้เขาเป็นคนที่ถูกเลือกแบบนี้ มันก็ดูสะเพร่าไปหน่อยมั้ย”
“ตอนนี้พรสวรรค์ดีเยี่ยม ไม่ได้หมายความว่าอนาคตรยังคงเป็นแบบนี้หนิ มีตั้งกี่คนที่ช่วงเริ่มแรกฝึกฝนแล้วพัฒนาอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อถึงแดนดั่งเทพ ก็ต้องหยุดอยู่ตรงนี้ ไม่สามารถที่จะกำหนดคนที่จะเป็นเจ้าสำนักเป็นเด็กยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมคนนี้นะ”
……
มังกรพี่น้องทั้งสามมีความชอบพอรพีพงษ์อยู่ไม่น้อย รู้สึกว่าถ้าคนนี้สามารถเป็นเจ้าสำนักได้ ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ไม่เลวเรื่องหนึ่งเลยล่ะ
สิ่งสำคัญที่สุดคือ น้องสาวของพวกเขาเหมือนกับจะมีท่าทีพิเศษต่อรพีพงษ์ ดังนั้นทั้งสามจึงหวังที่จะให้รพีพงษ์และน้องสาวของเขามีปฏิสัมพันธ์กันบ้าง แม้รพีพงษ์จะแต่งงานแล้ว สำหรับยอดฝีมือ ก็ไม่ได้สำคัญอะไร
แต่พวกเขาทั้งสามในที่ประชุมต่อหน้าพวกคณะผู้บริหารเหล่านี้ ถือเป็นผู้น้อย ไม่เหมาะที่จะแสดงความคิดเห็น จึงไม่ได้พูดอะไร
ธัชธรรมคิดไว้ตั้งนานแล้วว่าจะต้องมีคนคัดค้าน แต่เรื่องนี้เขาได้ตัดสินใจแล้ว โดยเฉพาะที่บริพันธ์พูดว่ารพีพงษ์มีจุดเด่นที่โดนเด่น หลังจากที่เป็นแดนเทพได้แล้ว เขายิ่งยืนหยัดกับความคิดนี้
ประสบการณ์จองตปธนเพียงพอจริงๆ แล้วยังสนับสนุนกลุ่มสิงโตมาไม่น้อย แต่ตอนนี้รพีพงษ์เป็นเพียงคนเดียวที่จะเป็นความหวังว่าจะสามารถเป็นแดนเทพได้ ปัจจุบันนี้ ปัญหาที่กลุ่มสิงโตต้องเผชิญ มีเพียงแดนเทพเท่านั้นที่จะจัดการได้ ไม่เกี่ยวข้องกับประสบการณ์ใดๆ ดังนั้นธัชธรรมไม่สามารถมอบกลุ่มสิงโตให้กับตปธนได้
เขาจ้องตปธน แล้วกล่าว “ความกังวลของตปธนผมเข้าใจ แต่พวกคุณน่าจะดูถูกพรสวรรค์ของรพีพงษ์เกินไป ผมคิดว่าในขณะที่ผมมีชีวิตอยู่นั้น สามารถไปถึงจุดที่ๆทุกคนทำไม่ได้ ถึงเวลานั้น ทุกท่านก็จะเข้าใจว่าทำไมผมถึงเลือกเข้าเป็นตัวเลือก”
ตปธนขมวดคิ้ว เขามองว่า พรสวรรค์ก็แค่จอมปลอม มีเพียงความสามารถเท่านั้นที่เป็นของจริง ในข้อมูลปรากฏว่ารพีพงษ์แม้แต่แดนดั่งเทพยังเป็นไม่ได้ คำพูดของธัชธรรมมันชั่งทำให้เขายากที่จะเชื่อจริงๆ
“เจ้าสำนัก คุณน่าจะรู้ดีถึงความแตกต่างระหว่างแดนปรมาจารย์กับแดนดั่งเทพนั้นมากขนาดไหน บางคนดูๆไปมีพรสวรรค์ยอดเยี่ยม แต่ทั้งชีวิต ก็ต้องติดอยู่ที่แดนปรมาจารย์ขั้นสูงสุด ไม่มีทางขยับขึ้นไปได้แม้แต่ครั้งเดียว ไม่มีใครกล้ารับรองว่ารพีพงษ์นี้จะสามารถเป็นแดนดั่งเทพได้อย่างราบรื่น แม้ว่าเจ้าสำนักจะเอาเขาเป็นตัวเลือก อย่างน้อยเขาก็ต้องเป็นแดนดั่งเทพก่อนสิ” ตปธนกล่าว
ธัชธรรมหัวเราะ แล้วกล่าว “ความสามารถของรพีพงษ์ได้ถึงแดนครึ่งดั่งเทพแล้ว การที่จะเป็นแดนดั่งเทพได้นั้น ก็แค่เรื่องเวลา”
“เจ้าสำนัก เอาจริงๆ แดนครึ่งดั่งเทพทุกคน ผมมองว่า ไม่ได้เก่งกาจอะไร ผมคิดว่ารอให้เขาเป็นแดนดั่งเทพได้ก่อนแล้วค่อยว่ากันก็ยังไม่สาย”
“ใช่ แดนครึ่งดั่งเทพกับแดนดั่งเทพก็ยังมีความแตกต่างกัน ผมและคนที่อยู่ที่นี่ล้วนเป็นแดนดั่งเทพ ให้เขาที่เป็นแดนครึ่งดั่งเทพเป็นตัวเลือก ไม่ค่อยน่านับถือเท่าไหร่มั้ง”
มีสองคนต่อต้านอีกแล้ว
ในขณะเดียวกันนี้ มีคนหนึ่งถือรายงานเข้ามาในห้องประชุม เดินมาด้านหน้าของธัชธรรม แล้วพูดกับเขาด้วยเสียงเบาๆ จากนั้นก็เอารายงานวางไว้
ธัชธรรมยิ้มออกมา มองไปรอบๆ แล้วกล่าว “เพิ่งทราบข่าวเมื่อกี้ รพีพงษ์ได้ฆ่าอันดับรางวัลนำจับอันดับที่เจ็ดปรินทรที่เกียวโต ผมรู้ดีถึงฝีมือของทุกคนที่อยู่ที่นี่ ปรินทรนี่พวกคนตามจับมานานขนาดไหนแล้วพวกคุณก็น่าจะรู้ตัวเองดี รพีพงษ์เพิ่งจะเข้าร่วมกลุ่มสิงโตเพียงไม่กี่วัน ก็สามารถทำเรื่องที่หลายคนใช้เวลานานยังทำไม่ได้ ผมว่าฝีมือของเขา ไม่มีจุดไหนน่าสงสัยหรอกนะ?”
ทุกคนได้ยินคำพูดของธัชธรรม ก็ล้วนมองอย่างคาดไม่ถึง
“รพีพงษ์ฆ่าปรินทร? เป็นไปได้ไง! เขาเพิ่งจะเป็นแดนครึ่งดั่งเทพไม่ใช่หรอ!”
ท่านหนึ่งที่เคยรับผิดชอบเรื่องของปรินทร และได้ต่อกรกับปรินทรหลายครั้ง และทุกครั้งก็ทำให้เขาแดนดั่งเทพขั้นต้นต้องหนี