พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่903 ชั่งโออ่ามากจริงๆ
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่903 ชั่งโออ่ามากจริงๆ
บทที่903 ชั่งโออ่ามากจริงๆ
คฤหาสน์ตระกูลปิยศักดิ์
เพราะทัดธนชอบสไตล์โบราณ ดังนั้นในห้องรับแขกจึงเป็นเก้าอี้ไม้ โต๊ะไม้ ตรงกลางได้วางกระถางธูปไว้ มีควันออกมาจากด้านในไม่หยุด
ขณะนี้ในห้องรับแขกมีคนนั่งอยู่หลายคน ทัดธนนั่งอยู่ตรงกลาง กำลังยิ้มและพูดคุยกับคนที่อยู่ในห้องรับแขก
ถ้ามีคนที่เข้าใจในฮวงจุ้ยของเกียวโต จะพบว่าผู้ที่กำลังนั่งอยู่หลายๆท่านนี้คืออาจารย์ฮวงจุ้ยทั้งหลายของเกียวโต
พวกเขามองทัดธนด้วยความเคารพ ดูๆแล้วในใจของพวกเขาทัดธนค่อนข้างสำคัญ
ที่พวกเขามารวมตัวกันที่นี่ได้นั้น เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับ“การประชุมแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับวิชาเวทย์” ในวงการฮวงจุ้ยของเกียวโต มีเพียงทัดธนที่ได้รับการ์ดเชิญ ที่พวกเขามาที่นี่ เพื่อเอาใจทัดธน แล้วให้ทัดธนพาพวกเขาไปด้วย
แม้คนพวกนี้จะเป็นอาจารย์ที่มีชื่อเสียงด้านฮวงจุ้ย แต่ก็ทำเป็นแค่ยันต์แปดทิศ พื้นฐานฉีเหมินตุ้นเจี่ย เก่งไม่เก่งก็แค่ใช้ปากเท่านั้น ไม่ได้มีความสามารถใดๆ
ทัดธนดูถูกคนพวกนี้ แต่เขามีความสุขที่ได้ฟังคนเหล่านี้เยินยอเขา สามารถพูดโอ้อวดต่อหน้าคนพวกนี้ได้ ก็ถือเป็นเรื่องที่ไม่เลวเรื่องหนึ่ง
“ไม่เจอกันหลายวัน สีหน้าของท่านทัดธนยิ่งอยู่ยิ่งดีขึ้นนะ เทียบกับฝีมือที่เก่งกาจของท่านทัดธนแล้ว ก็ยิ่งดูมืออาชีพมากขึ้นไปอีก”
“พูดถูก ฝีมือที่เก่งกาจของท่านทัดธนนั้น ชั่งทำให้คนตะลึงเสียจริงๆ ตอนนั้นที่ผมเห็น มันช่างน่าตะลึงจริงๆ”
ทัดธนยิ้ม แล้วกล่าว “ฝีมือของผมดีขึ้นมากจริงๆ เมื่อวานซรืนมีผู้หญิงที่เรียกตัวเองว่ามาจากกลุ่มสิงโตมาหาเรื่องผม บอกว่าผมทำผิดกฎหมาย จะจับผมไป”
“ฝีมือของสาวคนนี้ไม่ด้อยเลย ฝีมือระดับแดนปรมาจารย์ เสียดายที่เธอไม่รู็ว่าผมมีวิชาสะกดจิตนี้อยู่ ต่อสู้ไม่นานก็ถูกผมสะกดจิตแล้ว”
“ชื่อกลุ่มสิงโตนี้ผมเคยได้ยินมาก่อน ได้ยินมาว่าเป็นกลุ่มที่ลึกลับอยู่นะ ผมเห็นแก่กลุ่มนี้ จึงไม่ทำอะไรเธอ เพียงแค่เอาสิ่งของที่อยู่ในตัวของเธอทั้งหมด ไม่งั้นนะ ด้วยรูปลักษณ์ของเธอแล้ว ผมจะต้องเล่นสนุกกับเธอสักหน่อย”
สะกดจิต คือชื่อเรียกที่ทัดธนเรียกพลังจิตของตัวเอง
ความสามารถนี้เขาได้มาโดยบังเอิญ ตอนนั้นเขาตกอยู่ในอันตราย ในขณะที่สิ้นหวังก็ได้มีความสามารถนี้ปรากฏขึ้นมาเขาคิดเสมอมาว่านี่เป็นของขวัญที่พระเจ้าประทานมาให้เขา
ทุกคนได้ยินคำพูดของทัดธน ก็หัวเราะตามๆกัน
“ด้วยฝีมือของทัดธน โดยปกติแล้วจะไม่สนใจเรื่องกลุ่มลึกลับอะไรนี่ แม้พวกเขาจะลึกลับขนาดไหน ก็ไม่มีทางลึกลับได้เท่าความสามารถของท่านทัตธนได้”
“พูดถูก ฝีมือและความสามารถของท่านทัดธนเป็นหนึ่ง แม้แต่รพีพงษ์ที่มีชื่อเสียงช่วงก่อนหน้านี้ ก็ไม่ใช่คู่ต่อกรของทัดธน”
ได้ยินประโยคนี้ ทัดธนก็ไม่พอใจขึ้นมา แล้วกล่าว “หลายปีมานี้ผมไม่ค่อยใส่ใจกับชื่อเสียงอะไรมากนัก ดังนั้นตระกูลปิยศักดิ์จึงอยู่ในนามตระกูลขั้นสองมาโดยตลอด จึงทำให้ตระกูลลัดดาวัลย์มีโอกาสขึ้นนำได้”
“ถ้าผมจะลงมือล่ะก็ ไอ้รพีพงษ์อยู่ในมือผมได้ไม่เกินสิบนาทีหรอก เสียดายที่ผมไม่ค่อยสนใจกับเรื่องการต่อสู้เท่าไหร่แล้ว ฆ่าแกงกันทุกวันจะสุขสบายเหมือนผมตอนนี้ได้ไงกัน ไม่งั้น จะมีโอกาสให้รพีพงษ์มันมีชื่อเสียงได้ไงกัน”
ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย
“ท่านทัดธนพูดถูก รพีพงษ์นั่นไม่ได้หนึ่งในสิบของคุณหรอก คุณสิถึงจะเป็นยอดฝีมือที่ไม่มีใครเทียบได้”
“อย่างท่านทัดธนที่ซ่อนอยู่บนโลกนี่สิถึงจะเป็นยอดฝีมือ ดูคนพวกนั้นครึกครื้น ก็เหมือนดูละครอย่างไรอย่างนั้น โลกแบบนี้ เทียบกับพวกเราไมไ่ด้หรอก”
“หากท่านทัดธนอยู่ทางโลก รพีพงษ์ก็ต้องชิดซ้าย เขาก็เป็นแค่ไอ้บ้าบิ่นเท่านั้น ท่านทัดธนสิถึงจะเป็นคนที่วิชาวิเศษตัวจริง
……
ในขณะที่ทุกคนกำลังสรรเสริญเยินยอทัดธนอยู่นั้น ประตูของคฤหาสน์ตระกูลปิยศักดิ์ถูกลมพัดเปิดออก จากนั้นก็มีเสียงดังกระทบหูของทุกคน
“แกท่านทัดธนชั่งโอ่อ่าเหลือเกิน ในเมื่อรู้ว่าฉันไม่ทันสมัย สู้พวกเราต่อสู้กันหน่อยมั้ย?”
สายตาของทัดธนมองไปยังประตู และได้หลับตาลง
เห็นเพียงแค่สองคนเดินมาถึงคฤหาสน์ คือรพีพงษ์และหงส์
เมื่อคนอื่นและรพีพงษ์ก็ตะลึง ไม่คิดว่าพูดถึงปุ๊บก็มาปั๊บ รพีพงษ์ได้ปรากฏกายอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลปิยศักดิ์จริงๆ
พวกเขาค่อนข้างหวากลัวต่อรพีพงษ์ เพราะยังไงพวกก็เป็นแค่คนธรรมดา แน่นอนว่าไม่กล้าหาเรื่องรพีพงษ์ แต่ตอนนี้ทัดธนอยู่ที่นี่ พวกเขาก็ไม่กังวลใดๆ
ทัดธนเห็นหงส์ที่อยู่หลังรพีพงษ์แล้วนั้น ก็เข้าใจ จึงได้ดูแคลน แล้วกล่าว “ฉันคิดว่าเกิดอะไรขึ้น ที่แท้สาวน้อยคนนี้ยังโมโหอยู่นี่เอง จึงได้หาตัวช่วยมา”
หงส์มองทัดธนอย่างเยือกเย็น ถ้าธัชธรรมเรียกเขาสาวน้อย เธอยังรับได้ แต่ทัดธนเรีกแบบนี้ เธอรู้สึกขยะแขยง
“ทัดธน แกใช้พลังจิตทำผิดกฎหมาย การจับแกเป็นภารกิจของเรา แกคิดว่าสิ่งที่แกทำผิดมานั้น จะลอยนวลไปได้หรอ?” รพีพงษ์มองทัดธนอย่างเยือกเย็น
ทัดธนมองไปที่รพีพงษ์ แล้วกล่าว “คิดไม่ถึงว่าแกก็เป็นกลุ่มสิงโตนั่นเหมือนกัน ไง คิดว่าฉันกลัวพวกแกงั้นหรอ? จะบอกให้นะ กูไม่แคร์ไอ้กลุ่มสิงโตของพวกมึงหรอก กูว่าพวกมึงอย่ายุ่งให้มากนักเลย มิเช่นนั้น กูจะไม่สนใจถ้าคนของกลุ่มสิงโตจะลดลงสองคน”
“หรอ กูก็อยากเห็นฝีมือของท่านทัดธนเหมือนกันแหละ” พลังของรพีพงษ์ระเบิดออกทันใด ไม่คิดจะพูดพร่ำทำเพลงใดๆกับทัดธนอีก
ทัดธนรับรู้ได้ถึงพลังในตัวของรพีพงษ์ ก็ตะลึง ดูจากแดนแล้ว รพีพงษ์อยู่สูงกว่าเขามาก แต่เขามีความสามารถสะกดจิตอยู่ ดังนั้นจึงไม่กลัวรพีพงษ์จะลงมือกับเขา
“ชั่งไม่ละอายใจจริงๆเลย คิดว่าจัดการกับไอ้พวกสวะวงการบู๊นั้นได้ แล้วจะมายโสโอหังต่อหน้ากูงั้นหรอ? ในเมื่อกูลั่นวาจาแล้ว ก็จะให้ทุกคนได้เห็น ว่ามึงไอ้รพีพงษ์เหลือทนขนาดไหน!”
ทัดธนพูดจบ ก็ยืนขึ้นจากเก้าอี้ แล้วเดินไปกลางห้องรับแขก
หงส์มองรพีพงษ์อย่างกระสับกระส่าย ไม่มั่นใจว่ารพีพงษ์จะสามารถต่อกรกับทัดธนได้หรือไม่ จึงกล่าว “ระวังพลังจิตของเขาหน่อยนะ ความรู้สึกนั้นมันอันตรายมาก มันจู่โจมโดยฉับพลัน ถ้าโดนเข้า ก็จบเห่”
รพีพงษ์ยิ้ม แล้วกล่าว “สบายใจได้ เรื่องเล็กน้อย ไม่ต้องซีเรียส