พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่909 ของถูกคุณภาพดี
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่909 ของถูกคุณภาพดี
บทที่909 ของถูกคุณภาพดี
ตอนที่ออกมาจากห้าง หงส์มองรพีพงษ์อย่างรู้สึกไม่ดี แล้วกล่าว “เมื่อกี้ขอบคุณนะ แปดหมื่นกว่านั้นฉันจะคืนให้”
รพีพงษ์ยิ้ม แล้วกล่าว “ไม่ต้องหรอก แค่แปดหมื่นเอง คิดเสียว่าผมให้ของขวัญคุณก็แล้วกัน ต่อไปคุณอยากแป๊ปๆก็ใส่อารมณ์กับผมก็แล้วกัน”
หงส์เกรี้ยวกราด กล่าว “อารมณ์ฉันมันแย่ขนาดนั้นเลยหรือไง?”
รพีพงษ์ส่งสายตาให้เธอ ให้เธอรู้ด้วยตัวเอง
ตอนนี้รพีพงษ์นึกอะไรออก จึงถาม “ตอนนี้ผลงานของคุณมีเท่าไหร่?”
หงส์คิด แล้วกล่าว “ฉันอยู่ที่กลุ่มสิงโตตั้งแต่เล็ก ถึงตอนนี้ รวมๆกันก็น่าจะสามแสนกว่าผลงาน”
รพีพงษ์ตาลุกวาว แล้วถาม “งั้นคุณขายผลงานพวกนี้มั้ย ผมสามารถซื้อในราคาสูงก็ได้ ว่าไง?”
หงส์มองรพีพงษ์อย่างสงสัย กล่าว “กลุ่มสิงโตสั่งห้ามซื้อขายผลงาน คุณไม่รู้หรอ? ผลงานตัวเองใช้เองเท่านั้น”
“อันนี้ผมรู้ แต่ผมอยากให้ผลงานแลกของบางอย่าง คุณใช้ผลงานแลก แล้วเรามาตกลงกันนอกรอบ แบบนี้ก็ไม่มีใครรู้แล้ว” รพีพงษ์ยิ้มพลางกล่าว
หงส์คิดๆทำได้จริงๆ จึงถามว่า “คุณอยากแลกอะไร?”
“อันนี้รออนาคตค่อยว่ากัน ไม่รีบ” รพีพงษ์กล่าว
หงส์ไม่ถามมาก ได้แต่พยักหน้า
เมื่อนึกวิธีที่จะเอาหยกโยงจิตมาได้ รพีพงษ์ก็โล่งใจ ถ้าเป็นแบบนี้ เขาสามารถประหยัดเวลาและพลังได้อีกเยอะ
แต่แม้ว่าหงส์จะช่วยแลกหยกโยงจิตมาให้ได้ ก็ต้องรอให้กลับไปสำนักงานใหญ่กลุ่มสิงโตก่อนจึงจะเอาได้ ดังนั้นภารกิจหลักของรพีพงษ์ในตอนนี้ ก็ยังเป็นประชุมการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการฝึกวิชาเวทย์
ทั้งสองเดินไปข้างหน้า คนรอบข้างจำนวนไม่น้อยถูกหงส์ดึงดูดสายตา เทียบกับเน็ตไอดอลพวกนั้น ดูออกชัดเจนว่าหงส์มีออร่ามากกว่า แดนปรมาจารย์จะมีออร่าที่เห็นได้ชัด
หงส์ถูกคนรอบข้างจ้องจนรู้สึกเขินอาย แต่ก็ชอบความรู้สึกที่ตกเป็นสายตาของคนหมู่มาก
เธอมองรพีพงษ์ แล้วถาม “ตอนนี้พวกเราจะไปทำอะไร?”
“ตอนนั้นผมได้ยินคนคุยกันว่าใกล้ๆนี้มีงานนิทรรศการวัตถุโบราณ ผมว่าจะไปที่นั่น” รพีพงษ์กล่าว
หงส์อ๋อออกมา แล้วตามรพีพงษ์ไปอย่างสงบ
ในเรื่องวัตถุโบราณรพีพงษ์รู้ดีเป็นอย่างมาก ตอนนั้นที่ได้ยินว่าใกล้ๆนี้มีนิทรรศการวัตถุโบราณ เขาก็สนใจขึ้นมา
และตอนนี้รพีพงษ์มีพลังจิต เมื่อก่อนเขาใช้สายตาและความรู้มาวิเคราะห์วัตถุโบราณ ตอนนี้เขาอยากรู้ว่าพลังจิตของตัวเองจะสามารถแยกแยะอันที่ราคาสูงออกมาได้หรือไม่
ไม่นาน รพีพงษ์และหงส์มายังลานสนามจัตุรัสที่ไม่ใหญ่มาก เทียบการไหลเวียนอากาศผู้คนที่เดินผ่านไปมากับห้าง ที่นี่อากาศบริสุทธิ์กว่าเยอะ
รพีพงษ์เห็นนิทรรศการวัตถุโบราณที่กำลังจัดอยู่ไม่ไกล ในงานนิทรรศการทุกคนวางวัตถุโบราณโชว์ไว้ข้างทาง ถ้าใครสนใจ ก็สามารถซื้อขายกันหน้างานได้เลย
แม้จะบอกว่าเป็นงานนิทรรศการวัตถุโบราณขนาดเล็ก แต่ของที่วางขายก็มีจำนวนไม่น้อยเลย มีคนจำนวนไม่น้อยกำลังเดินดูไปรอบๆ กำลังทดสอบหาของดีจากของวัตถุโบราณเหล่านี้
หงส์กำลังมองไปที่ตำแหน่งขายของ หันมองรพีพงษ์แล้วกล่าว “ความจริงถ้าคุณอยากได้วัตถุโบราณล่ะก็ ไปเอาที่เจ้าสำนักเลยก็ได้นะ เครื่องปั้นดินเผาที่บ้านเขา แต่ล่ะอันก็อายุกว่าร้อยปี ง่ายกว่าที่คุณจะมาเสียเวลาหาที่นี่อีก”
รพีพงษ์ยิ้ม กล่าว “ความจริงที่มาที่แบบนี้ ประเด็นหลักเลย ไม่ใช่จะมาซื้อวัตถุโบราณที่ปพงที่สุดนั้นกลับไป แบบนั้นมันไม่มีความหมาย”
“งั้นคุณมาที่นี่ทำไม?” หงส์ถาม
รพีพงษ์ยิ้มมุมปาก กล่าว “มาเอาของถูกคุณภาพดี”
พูดจบ เขาก็เดินไปข้างหน้า
ในที่แบบนี้ ซื้อวัตถุโบราณที่ทุกคนยอมรับ สำหรับรพีพงษ์แล้วไม่มีความน่าสนใดๆ แต่มาเอาของถูกคุณภาพดีนี่สิ ไม่ใช่จะพูดกันได้ง่ายๆ
ทั้งสองเดินไปถึงงานวัตถุโบราณ แล้วดูแต่ล่ะร้าน
หงส์แปลกใจ แม้เธอจะไม่ค่อยเข้าใจในวัตถุโบราณ แต่ก็อยากใช้สายตาตัวเองดูว่าจะหาของดีได้หรือไม่
รพีพงษ์ปล่อยพลังจิตออกมา ห่อหุ้มวัตถุโบราณเหล่านั้นไว้ สังเกตการณ์อย่างละเอียด
หลังจากที่ใช้พลังจิตสังเกตการณ์แล้ว รพีพงษ์เหมือนกับพบเข้ากับโลกใบใหม่ พวกวัตถุโบราณเหล่านี้พออยู่ในการห่อหุ้มของพลังจิต ก็ได้ส่งรายละเอียดทุกอย่างเข้าไปในสมองของรพีพงษ์
ถ้าเป็นเมื่อก่อนใช้เพียงสายตาสังเกตการณ์ของโบราณพวกนี้ แม้รพีพงษ์ที่คิดว่าตัวเองมีความสามารถสูงแล้ว ก็ยังคงมองพลาดอยู่บ้างในบางครั้ง
แต่เมื่อมีพลังจิต รพีพงษ์สามารถมองรอบๆ ไม่มีมุมอับ เหมือนใช้กล้องจุลทรรศน์มองอย่างไรอย่างนั้น การสังเกตวัตถุโบราณเหล่านี้ ห้ามพลาดแม้แต่รายละเอียดสักนิดเดียว
บวกกับความรู้ที่รพีพงษ์มีอยู่ ไม่มีทางมองพลาดเกิดขึ้นแน่นอน
รพีพงษ์ได้เจอเข้ากับวัตถุโบราณที่คุณภาพไม่เลวที่วางขายแล้วจริงๆ และเจ้าของร้านก็ดูออกชัดเจนว่าไม่ค่อยเข้าใจมูลค่าของพวกมันสักเท่าไหร่ ราคาที่ปล่อยมาถูกมาก
ถ้านี่คือการหาของถูกคุณภาพดีล่ะก็ บางทีรพีพงษ์อาจจะรวยขึ้นมาสักนิดก็ได้
แต่รพีพงษ์ในตอนนี้ไม่มีความคิดแบบนี้ สำหรับเขาแล้ว เงินเป็นเพียงตัวเลยเท่านั้น และตอนนี้รพีพงษ์ก็ไม่มีงานอดิเรกในการสะสมวัตถุโบราณ ดังนั้นจึงไม่ได้ซื้อ
หงส์เห็นร้านที่อยู่ไม่ไดลวางกำไลหยกไว้ ก็สายตาลุกวาว รีบวิ่งไปด้านหน้า แล้วหยิบขึ้นมาดู
เจ้าของร้านรีบยิ้มแล้วกล่าว “สาวน้อย สายตาหนูดีจริงๆ กำไลหยกนี้ทำมาจากหยกคุณภาพดี และเป็นของเก่าแก่ในสมัยจักรพรรดิเฉียนหลง ถ้าหนูชอบ หนึ่งแสนหยวน เรามาทำความรู้จักกัน”
หงส์เอากำไลหยกให้รพีพงษ์ดู แล้วถาม “กำไลหยกนี่เป็นไง?”
รพีพงษ์ใช้พลังจิตสแกนดู ยิ้มพลางกล่าว “มีรอยต่อชัดเจน และรายละเอียดเก็บไม่ค่อยดี มองแว็บแรกก็รู้แล้วว่าเป็นของราคาส่งจากโรงงาน ใช้วัสดุที่แย่ที่สุด ในยุคของเฉียนหลงผลิตของสิ่งนี้ออกมายังไม่ได้”
หงส์ตาโต คิดไม่ถึงว่ารพีพงษ์ปค่ดูก็ดูออกถึงเนื้อแท้ เธอต้องมองอยู่สักพัก ก็ดูไม่ออกมากำไลมีรอยต่อ และก็ไม่รู้ว่ารพีพงษ์มองออกได้ไง
รพีพงษ์ยิ้ม เขาใช้พลังจิตดู ถ้าไม่มีพลังจิต เขาทำได้เพียงกูรายละเอียดบางอย่างแล้วตัดสินว่ากำไลหยกนี้ไม่ค่อยดี แต่ดูไม่ออกว่าผลิตจากโรงงาน
ปัจจุบันนี้ฝีมือด้านหัตถกรรมของโรงงาน ไม่ต่างไปจากฝีมือของอาจารย์ขั้นสูงสักเท่าไหร่เลย
เจ้าของร้านมองรพีพงษ์อย่างตะลึง กำไลหยกนี้เขาหาอาจารย์หลายท่านมาดู แม้อาจารย์พวกนั้นจะดูออกว่ากำไลหยกนี้ไม่ค่อยดี แต่ดูไม่ออกเสียด้วยซ้ำว่าหยกนี้มาจากโรงงาน
รพีพงษ์แว็บเดียวก็ดูออก ดูๆแล้วต้องเป็นคนที่มีความสามารถคนหนึ่งเลยทีเดียว แล้วยังวัยรุ่นขนาดนี้ ต้องเป็นอัจฉริยะแน่นอน
ในตอนที่เจ้าของร้านและหงส์กำลังตะลึงอยู่นั้น ความสนใจของรพีพงษ์ กลับไปอยู่ที่กระบี่สั้นที่ทำจากหยกเล่มหนึ่ง
กระบี่หยกเล่มนี้ทำออกมาสวยงาม แต่บนกระบี่มีรอย ดังนั้นจึงมีคนถามน้อย
พลังจิตของรพีพงษ์สแกนดูแล้ว กระบี่นั้นสาดแสงออร่าที่คนไม่ค่อยได้เห็นมากนักออกมา