พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่947 ทางเข้า
บทที่947 ทางเข้า
“ดูสิๆ หัวหน้าครูฝึกกับทัตดาเดินไปด้วยกันเหมาะสมกันจัง หัวหน้าครูฝึกของเขาดูๆไปก็น่าจะยี่สิบกว่าปี และเก่งขนาดนี้ ยังหนุ่มยังแน่นก็เป็นหัวหน้าครูฝึกของเราทหารมังกรแล้ว ทัตดาก็เพิ่งจะยี่สิบต้นๆ สวยด้วย ถ้าพวกเขาทั้งสองเป็นแฟนกัน เหมาะสมที่สุด”
“พูดถูก แม้ทัตดาจะเป็นสาวในฝันของฉันมาโดยตลอด แต่ตอนนี้หัวหน้าครูฝึกมาแล้ว ฉันรู้สึกว่าตัวเองเทียบกับหัวหน้าครูฝึกไม่ได้ จึงทำได้เพียงละทิ้งความรักเท่านั้น”
“น่าอิจฉาฉะมัด ทัตดาน่าจะเป็นดอกไม้ที่สวยที่สุดของกองทัพเราแล้ว ดูท่าทีของเธอ ก็เหมือนจะเลื่อมใสหัวหน้าครูฝึกมากนะ ครั้งนี้ไม่รู้จะมีพี่น้องสักกี่คนต้องอกหักกันนะ”
……
ทุกคนมองด้านหลังของรพีพงษ์และทัตดาวิจารณ์กันอย่างไม่หยุดหย่อน
“หุบปากไปซะ แล้วกลับไปฝึก ถ้าใครนินทาหัวหน้าครูฝึกลับหลัง ก็ไปวิ่งยี่สิบกิโลเมตรซะ” ชนสรณ์ชักตาใส่เหล่าทหารมังกร
ทุกคนรีบหุบปาก ไม่กล้านินทาอะไรอีก
ชนสรณ์หันไปมองรพีพงษ์และทัตดา จากนั้นก็พูดกับตัวเองว่า “ดูๆไปก็เหมาะสมกันดี เสียดาย หัวหน้าครูฝึกแต่งงานแล้ว”
“แต่ไม่ว่าจะยังไง ครั้งนี้ทหารมังกรมีเขาเป็นหัวหน้าครูฝึก จะต้องรุ่งโรจน์กว่าเมื่อก่อนแน่นอน”
ชนสรณ์อุทาน จนกระทั่งตอนนี้ เขาได้เลื่อมใสกับพลังที่รพีพงษ์ใช้ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
……
รพีพงษ์ใช้พลังจิตฟังทุกคนตลอดทาง ก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันใด ต้องออกห่างจากทัตดาสักหน่อย
ทัตดาเห็นรพีพงษ์เดินชิดข้าง ก็แปลกใจ ก็ได้เดินเข้าไปใกล้ๆรพีพงษ์อีก
รพีพงษ์เห็นดังนี้ ก็รีบเดินให้เร็วขึ้นได้อีก ถ้ามีโอกาสเขาต้องบอกกับจารุวิทย์สักหน่อย ให้เปลี่ยนผู้แนะนำเป็นผู้ชาย
ไม่งั้น เขาก็ไม่รู้ว่าจะเกิดรักหลอกลวงอะไรขึ้นมาอีก
ที่แท้ คนเก่งคนหนึ่งไม่ใช่จะมีประโยชน์ไปเสียหมด นี่ทำให้รพีพงษ์ยืดหยัดว่าอนาคตจะต้องแน่วแน่ให้มาก
ผ่านไปไม่นาน ทั้งสองมาถึงฐานฝึก ทัตดาพารพีพงษ์มายังที่พักที่ได้จัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว
เพราะเปร์คิงค่อนข้างลำบาก ดังนั้นที่พักก็ไม่ถึงว่าดีขนาดไหน แต่โดยรวมก็โอเค
รพีพงษ์ไม่ใส่ใจกับที่พักมากนัก เพียงแค่มีเตียงก็พอแล้ว
เขาเอาของของตัวเองวางไว้ หันไปมองทัตดาที่ยังยืนอยู่ในห้อง แล้วกล่าว “คุณไปได้แล้ว ที่เหลือเดี๋ยวผมจัดการเอง”
ทัตดารีบกล่าว “หัวหน้าครูฝึก ฉันปูเตียงให้คุณนะ”
พูดจบ เธอก็มาที่เตียงของรพีพงษ์ เริ่มช่วยรพีพงษ์จัดเตียง
รพีพงษ์กล่าว “ไม่ต้องแล้ว คุณออกไปเถอะ”
ทัตดาไม่ฟังรพีพงษ์ พลางปูเตียงพลางพูดว่า “ไม่เป็นไร ฉันช่วยคุณปูเอง ผู้ชายอย่างพวกคุณไม่ละเอียดเท่าผู้หญิงอย่างฉันหรอกนะ ฉันช่วยคุณ คุณจะได้นอนหลับสบาย”
รพีพงษ์เบื่อหน่าย กล่าวกับทัตดาว่า “ตอนนี้ผมสั่งให้คุณออกไป!”
ทัตดาเห็นน้ำเสียงของรพีพงษ์เริ่มไม่ใช่ ตกใจจนรีบหยุดลง หันไปหารพีพงษ์ ปากขมุบขมิบทันที
“หัวหน้าครูฝึก คุณอย่ารุนแรงกับฉันได้มั้ย เค้าก็แค่รู้สึกว่าเมื่อก่อนทำไม่ดีไว้ ดังนั้นจึงอยากแสดงออกมาบ้าง คุณเก่งกว่าที่ฉันคิดไว้มาก เมื่อก่อนฉันไม่ควรใช้กิริยาแบบนั้นกับคุณ คุณยกโทษให้ฉันได้มั้ย”ทัตดาพูดอย่างน่าสงสาร
แม้ได้มาถึงกองทัพแล้ว แต่ทัตดาถูกโอ๋มาตั้งแต่เด็กๆ มาที่นี่ก็มีแต่คนปกป้อง ดังนั้นเธอนิสัยของเธอก็ยังคงเหมือนเด็ก เทียบกับทหารของทหารผ่านศึกพวกนั้นไม่ได้
รพีพงษ์เห็นทัตดากำลังจะร้องออกมา ก็รู้สึกปวดหัว เพื่อให้เธอรีบไป จึงรีบกล่าวว่า “ผมยกโทษให้คุณแล้ว คุณรีบออกไปเถอะ”
“คุณยกโทษให้ฉันแล้วจริงๆใช่มั้ย?” ทัตดาถามรพีพงษ์อีกครั้ง
“จริง” รพีพงษ์กล่าว
เห็นรพีพงษ์ยกโทษให้ตัวเอง ทัตดาก็ยิ้ม เมื่อกี้ท่าทางที่น่าสงสารก็หายไปอย่างเร็ว
“งั้นฉันไปก่อนนะ มีอะไรคุณเรียกฉันก็แล้วกัน ฉันสามารถมาปูเตียงให้คุณได้ทุกวันนะ” พูดจบ ทัตดาก็ขยิบตาของตัวเอง
รพีพงษ์รีบผลักทัตดาออกจากห้องของตัวเอง แล้วปิดประตู
หลังจากที่ส่งทัตดาออกไปแล้ว รพีพงษ์ก็โล่งอก คิดในใจว่าจารุวิชญ์ก็ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ ต้องจัดผู้แนะนำเป็นผู้หญิงมาให้เขาให้ได้ นี่มันหาเรื่องให้ตัวเองชัดๆ
การมาของรพีพงษ์ ชักนำให้เหล่าทหารของเปร์คิงถกเถียงกันอย่างเมามัน โดยเฉพาะเรื่องที่เขาขึ้นหน้าผาร้อยเมตร เอาธงรบที่ปักอยู่ลงมา มันชั่งตะลึงทุกคนจริงๆ
เรื่องที่เขากระโดดลงมาจากหน้าผาสูงร้อยเมตรก็เป็นตำนานของเปร์คิง ผู้คนที่ได้ยินเรื่องนี้ทุกคนก็วิ่งไปดูที่โล่งของด้านล่างทางลาดชันนั่น หลังจากที่เห็นโคลนที่แตกระแหงที่รพีพงษ์ได้ทำไว้ ทุกคนก็สูดหายใจอย่างตะลึงในที่เกิดเหตุ คิดไม่ออกจริงๆว่าร่างแบบไหน จึงจะสามารถรับกับแรงเสียดทานที่มากขนาดนี้ได้โดยที่ไม่เป็นไรเลย
แพทย์สนามของฐานฝึกทหารมังกรถึงขั้นติดตามรพีพงษ์เงียบๆอยู่หลายวัน อยากสังเกตดูว่าเขาจะเดินๆอยู่แล้วล้มลงไปมั้ย
เพราะด้านนอกไม่เป็นไร ไม่ได้หมายความว่าอวัยวะภายในไม่เป็นไร เรื่องที่หล่นจากที่สูง ยืนขึ้นแล้วเดินต่อไปพวกเขาก็เห็นมาไม่น้อย ผ่านไปสักระยะคนพวกนั้นก็จะตายในที่สุด เพราะอวัยวะภายในของพวกเขาได้แตกแล้ว เพียงแค่สมองยังไม่รับรู้แค่นั้น
แต่ต่อมาหลังจากที่เห็นรพีพงษ์ปลอดภัยดีแล้ว เหล่าแพทย์สนามจึงไร้กังวล ในเวลาเดียวกันก็ตื่นตะลึงกับร่างกายของรพีพงษ์ ถึงขั้นอยากจะจับรพีพงษ์มาผ่าศึกษาดูกันเลยทีเดียว
แน่นอน พวกเขาเอาชนะรพีพงษ์ไม่ได้ ดังนั้นมีจะมีความคิดแบบนี้ ก็ต้องอดใจไว้
ในขณะเดียวกันนี้ ชายแดนของประเทศจีนและประเทศรัสเซีย ในภูเขาที่เชื่อมระหว่างประเทศ ไร้ผู้คน ในเหวที่เครื่องจักรยากที่จะสำรวจ
บนเขาที่เดิมทีเงียบสงบ ขณะนี้เต็มไปด้วยควันสีดำ ควันดำนั้นอยู่ในอากาศได้เปลี่ยนเป็นวังวนในลักษณะวงรี ค่อนข้างประหลาด
จากเวลาที่เคลื่อนไหว ควันในวังวนนั้นยิ่งอยู่ยิ่งหนักขึ้น สุดท้าย สิ่งที่ยับอยู่ข้างในได้กระจายออก ไปรอบๆทิศทาง เครื่องรับสัญญาณของกองทัพที่ใกล้ที่สุดกับสถานที่แห่งนี้มีความผิดปกติบางอย่างเพราะความผันผวน แต่ไม่นานก็กลับมาเป็นปกติ
ไม่นาน มีร่างสวมชุดสีดำฉางผาว ที่กระจายความผันผวนที่แปลกนั้นปีนออกมาจากวังวน ยืนอยู่ในเหว
ร่างนั้นมองไปที่ประเทศจีน จากนั้นก็กล่าว “สุดท้ายก็มาถึง พวกนั้นน่าจะคิดไม่ถึง พวกเราได้ทิ้งทางเข้าเดิม แล้วเปิดทางใหม่”
“แม้ทางเข้านี้มีเพียงฉันคนเดียวที่เข้ามาได้ แต่ก็พอแล้ว ที่แห่งนี้ มีแต่คนธรรมดา ด้วยความสามารถของฉัน จะทำอะไรสักอย่าง ก็ง่ายนิดเดียว
พูดพลาง ร่างคนก็ยกมือขึ้น แล้วนับนิ้ว จากนั้นก็ดูแคลน หันไปที่พรมแดนของประเทศรัสเซีย แล้วเดินไป
คนนั้นเดินไม่เร็ว แต่ทุกย่างก้าว ก็จะปรากฏห่างจากที่เดิมไปสิบเมตร แต่ไม่นาน คนนั้นก็หายไป ไม่รู้ว่าไปไหน