พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่949 การฝึกฝนปีศาจ
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่949 การฝึกฝนปีศาจ
บทที่949 การฝึกฝนปีศาจ
การประชุมเสร็จสิ้น ทุกคนออกมาจากห้องประชุม ธีรนัยและหัวหน้าแต่ล่ะกองของทหารมังกรไม่มั่นใจ ขณะนี้ในมือของพวกเรามีสมุดวิชาการหายใจออกที่รพีพงษ์ได้เขียนขึ้นมา ไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือควรจะเป็นกังวลดี
“พวกแกว่า ของที่หัวหน้าครูฝึกให้พวกเรานี้ จะทำให้พวกเราแข็งแกร่งขึ้นมั้ย? ฉันมักจะรู้สึกว่าใช้ไม่ได้ว่ะ เนื้อหาด้านในส่วนใหญจะเป็นวิธีของการหายใจออกมา และยังมีวิธีการไหลเวียนพลัง ฟังๆไปแลดูน่าเหลือเชื่อนะ” เฮียดำกล่าว
“ไม่รู้นะ แต่หัวหน้าครูฝึกเก่งกาจขนาดนั้นเหมือนกับใช้สิ่งพวกนี้ในทำได้เหมือนกันนะ เขาไม่น่าจะเอาอะไรที่ไม่มีประโยชน์ให้พวกเราหรอก” เฮียเบิดตอบกลับ
หัวหน้าของแต่ล่ะกองที่เหลือก็เริ่มสงสัยขึ้นมา มักจะรู้สึกว่าง่ายขนาดนี้แล้วจะแข็งแกร่งได้ มันไม่ค่อยเป็นความจริงสักเท่าไหร่
“พอล่ะ ในเมื่อหัวหน้าครูฝึกพูดว่าใช้วิธีนี้เพื่อให้พวกเราแข็งแกร่งขึ้น งั้นพวกเราก็ฟังหัวหน้าครูฝึก อย่าคิดมาก กลับไปแล้วลองทำตามที่ในสมุดบอกก็จะรู้แล้วว่าใช้ได้มั้ย” ธีรนัยมองไปที่ผู้คน
ผู้คนพยักหน้า แล้วออกจากที่นี่ไป
พวกเขาไม่รู้เลย วิธีการหายใจออกฉบับเร่งรัด รพีพงษ์ทำให้พื้นฐานของพวกเขาแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น รอให้พวกเขาฝึกได้ก่อน และยังมีการฝึกปีศาจที่แข็งแกร่งมากของรพีพงษ์ที่จัดทำขี้นเพื่อพวกเขาโดยเฉพาะ
การใช้วิธีการหายใจออก เป็นการกระตุ้นศักยภาพของภายในร่างกาย ให้ร่างกายปล่อยพลังที่มากกว่าปกติออกมา และให้พวกเขารับกับสภาพแบบนี้ได้ในระยะเวลาอันสั่น แน่นอนว่าต้องใช้การบีบคั้นเพื่อทำให้สำเร็จ
ตีสี่หัวรุ่ง ค่ายฝึกทหารมังกร เสียงของนกหวีดเรียกรวมด่วนดังขึ้นกะทันหัน เหล่าทหารทุกคนรีบลุกขึ้นจากที่นอน หลังจากที่แต่งตัวอย่างรวดเร็วเสร็จแล้ว ก็รีบพุ่งออกไปด้านนอก
ขณะนี้รพีพงษ์ได้ยืนรออยู่ที่สนามกีฬาของฐานฝึก ชนสรณ์ยืนอยู่ข้างๆเขา เมื่อกี้เขาเป็นคนเป่านกหวีดเรียกรวมด่วนนั่นเอง
ทัตดาหน้าตาเหน็ดเหนื่อยเดินไปข้างๆรพีพงษ์ ด้วยความมึนๆ ไม่รู้ว่ารพีพงษ์ให้พวกเขารวมตัวกันแต่เช้านี่เพื่อทำอะไร
เธอมองไปที่รพีพงษ์ พบว่ารพีพงษ์มีท่าทางกระปรี้ประเปร่า แววตาสดใส เหมือนไม่มีง่วงเลยแม้แต่น้อย ในใจคิดว่าตัวเองไม่ง่วงเลยต้องเรียกคนอื่นมา น่าเกลียดจริงๆ
ผ่านไปไม่นาน ทหารมังกรทุกคนได้มารวมตัวกันสนามกีฬาแล้ว
รพีพงษ์จ้องไปที่พวกเขา แล้วกล่าว “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เวลานี้ เปิดเวลาเริ่มต้นของการฝึกของพวกคุณ ผมได้วางแผนการฝึกอย่างละเอียดให้พวกคุณแล้ว ทุกๆวินาที หวังว่าพวกคุณจะสามารถยืนหยัดได้ตลอดรอดฝั่ง”
เมื่อคำพูดของเขาได้พูดออกไป ทุกคนก็ส่งเสียงตะลึง รพีพงษ์หวังว่าพวกเขาจะสามารถยืนหยัดได้ตลอดรอดฝั่ง ถ้างั้นการฝึกนี้มันจะวิปริตสักเท่าไหร่เชียวนะ?
“หัวหน้าครูฝึกคงไม่ทำจริงๆใช่มั้ย? เขาเพียงแค่หวังว่าพวกเราจะยืนหยัดได้ตลอดรอดฝั่ง งั้นถ้ายืนหยัดไม่ได้ล่ะ ต้องเสียชีวิตเลยหรอ?”
“น่าจะแค่ล้อเล่นหน่า เป็นการพูดที่เกินจริงไปหน่อย แม้ว่าหัวหน้าครูฝึกจะรุนแรง ก็ไม่มีทางล้อเล่นกับชีวิตพวกเราหรอก”
คนหมู่มากคิดว่าที่รพีพงษ์พูดนั้นเป็นการพูดที่ค่อนข้างเกินจริงไปหน่อย ไม่เชื่อว่าการฝึกของรพีพงษ์จะฝึกจนคนเสียชีวิตได้
ขณะนี้ในมือของรพีพงษ์มีกระดาษแผ่นหนึ่งอยู่ ด้านบนเขียนว่า รายการสำหรับการฝึกในครั้งนี้
เขายื่นกระดาษนี้ให้ชนสรณ์ ให้ชนสรณ์อ่านให้ทุกคนฟัง
ชนสรณ์รับกระดาษนั้นมา ก็แปลกใจอย่างมากว่าการฝึกของรพีพงษ์เป็นยังไงกันแน่ ตอนที่เขาเห็นเนื้อหาบนกระดาษ เขาก็แข็งทื่อ เหลือบมองรพีพงษ์ด้วยความยากที่จะเชื่อได้ เหมือนกับไม่เชื่อแผนการฝึกฝนที่รพีพงษ์ทำขึ้นมาทั้งหมด
“หัวหน้าครูฝึก จะ……จะฝึกแบบนี้จริงๆหรอครับ?” ชนสรณ์ถาม
รพีพงษ์พยักหน้า แล้วกล่าว “อ่านเถอะ”
ชนสรณ์สูดหายใจเข้าลึก จากนั้นก็อ่านตามที่เขียนในกระดาษทั้งหมด อ่านออกมาเสียงดัง “วิดพื้น สามร้อย ลุกนั่งสามร้อย ซิทอัพ สามร้อย ยกเข่าสูง สามร้อย…….”
เหล่าทหารได้ยินเนื้อหาที่ชนสรณ์อ่านออกมา เดิมที่มีค่อนข้างรู้สึกเคร่งเครียดทันใดนั้นก็โล่งอกออกมา
“ฉันคิดว่าจะเป็นการฝึกที่น่ากลัวขนาดไหนกัน ที่แท้ก็แค่ฝึกความแข็งแกร่งของร่างกาย การฝึกครั้งนี้เหนื่อยกว่าการฝึกเมื่อก่อนไม่มาก ดูๆแล้วหันหน้าครูฝึกไม่เคยผ่านชีวิตในค่ายมาเลยจริงๆ ไม่รู้ว่าเนื้อหาในการฝึกของพวกเราในทุกวัน ก็เป็นแบบนี้นี่แหละ” มีคนยิ้มพลางพูดออกมา
“พูดถูก ตอนแรกฉันก็คิดว่าเป็นการฝึกอะไรที่ทำให้คนกลัวเสียอีก ที่แท้ก็พวกนี้ งั้นก็สบายใจได้แล้ว”
“พวกแกพูดเบาๆหน่อย อย่าให้หัวหน้าครูฝึกได้ยินนะ ไม่งั้นเดี๋ยวเค้าจะเปลี่ยนจำนวนเข้าไป”
……
ในขณะที่ทุกคนกำลังโล่งอกอยู่นั้น ชนสรณ์หยุดลง จากนั้นก็กล่าว “รายการด้านบนพวกนั้น เป็นการวอร์มอัพของทุกๆวัน ต้องเสร็จ ถ้าไม่เสร็จ วันที่สองเพิ่มขึ้นไปหนึ่งเท่า!”
ทหารมังกรที่เดิมกำลังมีความสุขกันอยู่นั้นก็อ้าปากค้าง ทั้งสนามกีฬา แว็บเดียวก็เงียบลงสงัด
“อะไรนะ! พวกนี้……เป็นเพียงการวอร์มอัพเท่านั้น? ฉันไม่ได้หูฝาดไปใช่มั้ย?”
“โอ้วแม่เจ้า พวกนี้ ก่อนหน้านี้พวกเราใช้เวลาอย่างน้อยก็ครึ่งวันทำมัน ตอนนี้ต้องใช้เวลาสองชั่วโมงครึ่งทำให้เสร็จ นี่มันเอาชีวิตกันเลยนะเนี่ย”
“ร้องไห้ล่ะ ที่แท้หัวหน้าครูฝึกไม่ได้ล้อเล่น แค่วอร์มอัพก็วิปริตขนาดนี้แล้ว งั้นของจริงต้องน่ากลัวกว่านี้แน่นอน หัวหน้าครูฝึกจะฝึกเราให้ตายจริงๆใช่มั้ยเนี่ย”
ทหารมังกรทั้งหมดเริ่มโวยวายออกมา
ชนสรณ์ไม่สนใจปฏิกิริยาของทุกคน อ่านเนื้อหาที่อยู่ในกระดาษต่อไป
ที่รพีพงษ์จัดการฝึกให้กับทหารมังกร เป็นแผนการฝึกที่ตอนนั้นอาจารย์จัดให้รพีพงษ์ฝึกโดยเฉพาะ เพียงแค่ในตอนนั้นรพีพงษ์มียาทาสีดำของอาจารย์ ดังนั้นร่างกายจึงสามารถรองรับกับจำนวนการฝึกที่น่ากลัวแบบนั้นได้ หลังจากที่ได้ไตร่ตรองเกี่ยวกับสภาพของเหล่าทหารแล้ว รพีพงษ์ได้ลดจำนวนในการฝึกแต่ล่ะโปรแกรมลงไปมากแล้ว
และตอนนี้ทหารพวกนี้ก็มีวิธีการหายใจออกฉบับเร่งรัดที่รพีพงษ์ให้ไว้ ดังนั้นการฟื้นฟูค่อนข้างเร็ว และยังสามารถกระตุ้นความสามารถของพวกเขาได้อีกด้วย
ตามที่รพีพงษ์คำนวณไว้ เพียงแค่พวกเขามีวิธีการหายใจออกฉบับเร่งรัด การฝึกแบบนี้ เป็นขีดจำกัดของพวกเขาในแต่ล่ะวันพอดี
แน่นอน เจ็บปวดมันก็ค่อนข้างเจ็บปวด อยากจะแข็งแกร่ง ต้องรับกับความยากเข็ญนี้ให้ได้
ฟังเสียงของชนสรณ์ไปเรื่อยๆ สีหน้าทุกคนของทหารมังกรดูแย่ลง แผนการฝึกฝนของรพีพงษ์นี้ เป็นแผนที่วิปริตที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยเจอมาแน่นอน
พอชนสรณ์อ่านจบ ทั้งสนามก็เงียบสงัดลง ทุกคนก็เหมือนกินยาพิษเข้าไปอย่างไรอย่างนั้น อยากจะโดนพิษแล้วตายไปซะ
รพีพงษ์เห็นทุกคนไม่พูดอะไร ก็ยิ้มพลางกล่าว “แผนการฝึกฝนนี้เป็นเพียงขั้นพื้นฐานเท่านั้น ถ้าพวกคุณทำได้ดี ผมอาจจะไตร่ตรงในการเพิ่มจำนวนเข้าไปอีก”
“วันนี้เป็นการฝึกวันแรก หวังว่าพวกคุณจะใช้วิธีการหายใจออกที่ผมให้พวกคุณไปได้อย่างเต็มที่ สิ่งนั้นทำให้คุณรู้สึกดีในขณะที่ฝึกฝนอย่างมาก”
“ผมพูดแค่นี้แล้วกัน ขอให้ทุกคนโชคดี”
พูดจบ รพีพงษ์คิดแล้วคิดอีก จากนั้นก็เสริมเข้าไปอีกว่า “อ้อ เพื่อให้การฝึกของพวกคุณฮึกเหิมขึ้น ผมให้ชนสรณ์ร่วมฝึกไปกับพวกคุณด้วย หวังว่าชนสรณ์จะเป็นผู้นำที่ดี!”
ชนสรณ์ที่อยู่ข้างๆก็เกิดคำถามขึ้น อีกนิดเดียวตาก็ถลุงออกมาแล้ว