พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่953 เขาสิบคนก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผม
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่953 เขาสิบคนก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผม
บทที่953 เขาสิบคนก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผม
เมธชนันเห็นรพีพงษ์ไม่ก้าวร้าวหรือถ่อมตัวจนเกินไป แล้วยังบอกว่าตัวเองไม่ได้ปลอมตัวอีก ก็เลยเกิดโมโหขึ้นมา
“เด็กน้อย แกมองว่าฉันเช็คตัวตนของแกไม่ได้หรือไง? ฉันอยู่กองทัพมานานขนาดนี้ ถ้าต้องการเช็คเรื่องเล็กๆแค่นี้ ไม่ยาก”
พูดจบ เมธชนันหันไปหาคนข้างแล้วกล่าว “ไปเอามือถือฉันมา”
คนนั้นรีบพยักหน้า แล้วไปเอามือถือ
ทุกคนมองไปที่รพีพงษ์และทัตดาด้วยความแปลกใจ ถกเถียงกันไม่หยุด
“คิดไม่ถึงว่าคุณหนูจะพาผู้ชายกลับมาจริงๆนะเนี่ย ที่ผ่านมาเขาก็แค่ล้อเล่นกับคุณท่าน คุณท่านไม่คิดว่าจะจริง ดูๆไปครั้งนี้เอาจริงแล้วล่ะ”
“ที่สำคัญคือคนที่คุณหนูพามามันแย่มากเลยนะ รูปลักษณ์ธรรมดาก็ว่าแล้ว แล้วยังไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงอีก ทหารมังกรคือทหารเก่งกาจที่สุดของประเทศจีนนะ การที่จะเป็นหัวหน้าครูฝึกได้นั้น ต้องเป็นคนที่มีฝีมือสะท้านฟ้า เขาไม่ดูตัวเองเลย พูดออกมาไม่อายเลยสักนิด”
“เห็นปู่หลานตระกูลธนาพัชร์กุลทั้งสองสีหน้าไม่ดีเลยนะ เดี๋ยวถ้าหาเจอว่าเด็กนี่มันปลอมตัวล่ะก็ คุณท่านไม่มีทางปล่อยเขาไปแน่ ปู่หลานตระกูลธนาพัชร์กุลต้องลำบากแล้วล่ะ”
……
ไม่นาน คนนั้นที่ไปเอามือถือมาถึงตรงหน้าของเมธชนัน เมธชนันกดโทรออก หลังจากที่พูดอะไรแล้ว ก็วางสาย
ไม่ถึงสองนาที เมธชนันก็ได้รับเอกสารจากฐานทัพ เป็นข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับหัวหน้าครูฝึกคนใหม่ของทหารมังกร
“เด็กน้อย ตอนนี้ฉันได้รับเอกสารเกี่ยวกับหัวหน้าครูฝึกทหารมังกรแล้ว ถ้าแกรู้จักกาลเทศะอยู่ล่ะก็ รีบขอโทษซะ แล้วเล่าเรื่องทั้งหมดให้ชัดเจน ฉันจะเห็นแก่ทัตดาที่ให้แกมาแสดงละคร ไม่เอาเรื่องแก”
“แต่ถ้าแกยังไม่ยอมรับล่ะก็ รอให้ฉันดูเอกสารนี้ก่อน ถ้าแกคิดจะออกจากคฤหาสน์ตระกูลจันวราสกุลของฉันไปอย่างปลอดภัยโดยสวัสดิภาพนั้น ยาก”
เมธชนันจ้องรพีพงษ์แล้วดูแคลน
รพีพงษ์ยักไหล่ แล้วกล่าว “ตามสบาย”
เห็นท่าทีของรพีพงษ์ยังคงเหยียดหยัน เมธชนันก็หลับตา จากนั้นก็ดูเอกสารที่อยู่ในมือถือของเขา คิดว่าหลังจากที่รู้ความจริงแล้ว จะต้องเล่นงานไอ้เด็กที่มันไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงอย่างแน่นอน
ผู้คนที่อยู่ในห้องรับแขกรู้สึกว่ารพีพงษ์คิดว่าตัวเองใหญ่ คิดว่าเขาต้องไม่รู้แน่เลยว่าในอดีตเมธชนันเป็นบุคคลสำคัญของกองทัพ ดังนั้นจึงได้ไม่หวาดหวั่นขนาดนี้
เมธชนันจ้องไปที่เอกสาร เห็นด้านในเขียนว่าชื่อหัวหน้าครูฝึกคนใหม่ รพีพงษ์
ใต้ชื่อ เป็นรูปของรพีพงษ์ หลังจากที่เมธชนันเห็นรูปนั้นแล้ว ก็ตาโต จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมาเทียบกับรพีพงษ์ พบว่าทั้งสองเหมือนกัน
เขาคิดว่าตัวเองตาลาย จึงได้ดูอีกหลายครั้ง หลังจากที่มั่นใจแล้วว่าคนที่เขียนอยู่บนเอกสารนั้น คือรพีพงษ์ที่ขณะนี้ยืนอยู่ในห้องรับแขกแล้วนั้น
เขาถึงขั้นสงสัยว่าเอกสารฉบับนี้เป็นของปลอม แต่เอกสารเป็นเพื่อนเก่าของเขาที่อยู่ในกองทัพส่งมาให้ คนนั้นให้เอกสารมา ไม่มีทางเป็นเท็จได้
ดังนั้นทำได้เพียงบอกว่า รพีพงษ์ เป็นหัวหน้าครูฝึกของทหารมังกรจริง
รพีพงษ์เห็นสีหน้าของเมธชนันเปลี่ยนไป จึงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาหัวเราะแล้วกล่าว “คุณท่าน ไม่รู้ว่าตอนนี้ยังคงสงสัยในตัวตนของผมอยู่อีกหรือไม่?”
เมธชนันเงยหน้าขึ้น หน้านิ่ง ต่อให้รพีพงษ์จะเป็นหัวหน้าครูฝึกทหารมังกร เขาก็รู้สึกไม่ดีกับรพีพงษ์อยู่ดี
“ไม่รู้จริงๆว่าไอ้พวกนั้นที่อยู่ในกองทัพคิดจะทำอะไร ให้ไอ้โง่เป็นหัวหน้าครูฝึก ทั้งประเทศจีน หาหัวหน้าครูฝึกทหารมังกรที่เหมาะสมกว่านี้ไม่ได้แล้วหรือไง? ผิดหวังที่สุด” เมธชนันพึมพำกับตัวเอง
จากนั้นเขาก็มองรพีพงษ์ แล้วกล่าว “แม้แกจะเป็นหัวหน้าครูฝึกทหารมังกร อย่าคิดที่จะได้หลานสาวฉันไป ไม่มีใครรู้ว่าแกใช้อะไรถึงได้เป็นหัวหน้าครูฝึกได้ ตัวตนนี้ของแก ฉันไม่ยอมรับ”
หลังจากที่ทุกคนได้ยินคำพูดของเมธชนันแล้ว ก็ตะลึง ไม่คิดว่ารพีพงษ์จะเป็นหัวหน้าครูฝึกทหารมังกรจริงๆ นี่มันเหนือความคาดหมายของพวกเขาจริงๆ
พวกเขาได้เกิดความคิดแบบเดียวกับเมธชนัน คือที่รพีพงษ์สามารถเป็นหัวหน้าครูฝึกทหารมังกรได้นั้น ต้องใช้วิธีสกปรกอะไรแน่ๆ
ปรวีร์หลับตาลง คนอย่างรพีพงษ์สามารถเป็นหัวหน้าครูฝึกทหารมังกรได้ ดูๆแล้วทหารมังกรอะไรนี่ ก็ไม่ได้เป็นกองทัพที่เก่งกาจอะไรนักหรอก
ในฐานะที่เป็นคนของวงการบู๊ และเป็นยอดฝีมือแดนครึ่งปรมาจารย์คนหนึ่ง ปรวีร์รู้สึกว่าตัวเองจะต้องเก่งกว่าหัวหน้าครูฝึกคนใหม่ของทหารมังกรอะไรนี่อย่างแน่นอน
ทัตดาเห็นเมธชนันได้เช็คตัวตนของรพีพงษ์แล้ว แต่ก็ยังไม่พอใจกับท่าทีของเขาอยู่ จึงได้ร้อนรนขึ้นมา “คุณปู่ หัวหน้าครูฝึกทหารมังกรคืออะไรก็รู้ดีอยู่แก่ใจ ทำไมคุณปู่ต้องเหยียดรพีพงษ์ขนาดนี้?”
“แกจะเข้าใจอะไร ฉันวางแผนเรื่องคู่ให้แกแล้ว ท่านนี้คือพรภวิษย์ เป็นปรมาจารย์แดนดั่งเทพของวงการบู๊ นี่คือหลายชายของเขา ปรวีร์ อัจฉริยะที่หาได้ยากในวงการบู๊ แต่อายุยี่สิบสี่ปี เป็นแดนครึ่งปรมาจารย์ได้ แกกับเขาสิ จึงจะเมหาะสมกัน” เมธชนันแนะนำพรภวัษย์และปรวีร์สองคนให้รู้จัก
ทัตดามองปรวีร์ พบว่าปรวีร์ก็กำลังมองเธอด้วยสายตามั่นใจตัวเอง เห็นตัวเองมองไป เขายังยืดอกขึ้นอีก
ปรวีร์ถือว่าหล่อ และบุคลิกภาพดี พรสวรรค์ล้นหลาม ถือว่าเป็นอัจฉริยะหนึ่งในหมื่นคนจริงๆ
แต่ทัตดามองปรวีร์แว็บแรก ก็รู้สึกว่าปรวีร์ไม่ใช่สไตล์ที่เธอชอบ เธอไม่สนใจ อัจฉริยะอย่างปรวีร์
“อนาคตหนูจะแต่งกับใคร หนูเลือกเอง คุณปู่ว่าเหมาะสม แต่หนูไม่โอเค ชาตินี้หนูยอมรับแค่รพีพงษ์เพียงคนเดียว ไม่ว่าใครก็ไม่มีประโยชน์” ทัตดาพูดอย่างเกรี้ยวกราด
เมธชนันโมโห คิดไม่ถึงว่าหลานสาวของตัวเองจะไม่รู้เรื่องขนาดนี้
เขากำลังจะสั่งสอนทัตดา ในขณะเดียวกันนี้พรภวัษย์ที่ไม่พูดใดๆมาโดยตลอดก็ยิ้มพลางกล่าวว่า “ทัตดาหาคนที่ตัวเองชอบได้นั้น เป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่หลานชายของฉันก็ไม่ได้แย่ไปกว่าหัวหน้าครูฝึกทหารมังกรเลยนะ หนูยังไม่ได้ทำความรู้จักกับปรวีร์เลย จะรู้ได้ไงว่าไม่เหมาะสมกัน ดังนั้นฉันแนะนำนะ ให้ปรวีร์ต่อสู้กับน้องชายคนนี้สักตั้ง คิดว่าไง ดีมั้ย?”
เมธชนันตาลุกวาว แล้วกล่าว “ไม่เลว ในเมื่อแกรับรพีพงษ์ ก็ต้องให้ฉันเห็นความสามารถของมัน ให้มันต่อสู้กับปรวีร์สักตั้ง แล้วแกจะรู้ว่าใครเหมาะสมกับแกมากกว่ากัน”
ทัตดาเซ็ง ในความคิดเธอ เหมาะไม่เหมาะสม ไม่ใช่ต่อสู้แล้วจะรู้ แต่ความคิดของเมธชนันโบราณ เธอเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้
เธอหันไปมองรพีพงษ์ วันนี้ทำได้เพียงมอบความหวังให้กับรพีพงษ์แล้ว
รพีพงษ์ก็ค่อนข้างสนใจ ในเมื่อสามารถตัดสินด้วยการต่อสู้ได้ ก็ง่ายขึ้นมาก
“เอาจริงๆ เขาสิบคน ก็ไม่ใช่คู่ต่อกรของผมอยู่ดี”