พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่961 คิดเลยเถิด
บทที่961 คิดเลยเถิด
สองวันต่อมา
ในห้องนอน รพีพงษ์อยู่บนเตียง ตาทั้งสองหลับอยู่ ร่างกายไม่มีการเคลื่อนไหว และยังอยู่ในอาการสลบ
ทัตดากำลังยืนอยู่ข้างเตียง จ้องมองรพีพงษ์เป็นเวลานาน จากนั้นก้มตัวลง เริ่มปลดกระดุมเสื้อผ้าของรพีพงษ์
ขณะที่กระดุมบนเสื้อผ้าของรพีพงษ์ถูกปลดออก ทัตดาก็เห็นหน้าอกที่แข็งแกร่งของรพีพงษ์ และกล้ามเนื้อแปดแพ็กหน้าท้องที่เรียงรายพร้อมกัน
ทัตดาที่ยังอยู่ในวัยที่บ้าผู้ชายเห็นฉากนี้ ดวงตาก็เปล่งประกายขึ้นมา น้ำลายแทบไหลออกมาลงไปที่บนร่างกายของรพีพงษ์
“พระเจ้าช่วย รูปร่างของผู้ชายคนนี้ก็ดีมากเกินไปแล้ว มองแค่พริบตาเดียวก็ทำให้คนเกิดความคิดเลยเถิดไปได้”ทัตดาพึมพำกับตัวเอง ก็ยิ่งอดไม่ได้ที่จะถอดเสื้อผ้าให้รพีพงษ์
รพีพงษ์นอกจากรูปร่างเกือบจะสมบูรณ์แบบ บนผิวสีแทน ยังมีรอยแผลเป็นอีกมากมาย ยิ่งได้เพิ่มความกล้าหาญเข้มแข็งให้กับเขาถึงสามเท่า
ผู้หญิงทั่วไปไม่มีแรงต้านทานใดๆกับร่างกายแบบนี้ เมื่อผู้หญิงเห็นรูปร่างแบบนี้ ก็ไม่ต่างจากผู้ชายที่เห็นผู้หญิงหน้าอกโตสะโพกใหญ่
ถ้าไม่ใช่ว่าตอนนี้รพีพงษ์ยังอยู่ในอากาศสลบ ทัตดาไม่แน่ใจว่าตัวเองจะกระโจนตรงไปบนร่างกายของรพีพงษ์หรือเปล่า และทำเรื่องที่ไม่สามารถอธิบายได้
หลังจากถอดเสื้อ ทัตดาก็ไม่หยุดลงมา หลังจากที่จ้องมองไปตรงกางเกงของรพีพงษ์ ใบหน้าก็แดงเล็กน้อย แต่ยังยื่นมือออกไปเพื่อจับเข็มขัดของรพีพงษ์
หล่อนพยายามดึงเข็มขัดของรพีพงษ์ออกมา แต่เป็นเพราะรพีพงษ์นอนอยู่ไม่มีการเคลื่อนไหวอยู่ ดังนั้นไม่ว่าจะดึงยังไงก็ดึงไม่ได้
“โธ่เอ๊ย จริงๆเลย ดึงไม่ได้ ช่างเถอะ งั้นก็ถอดลงมาแบบนี้ให้เขาก็พอแล้ว”
ทัตดาพึมพำกับตัวเอง จากนั้นเดินไปที่ปลายเตียง จับขากางเกงของรพีพงษ์ด้วยมือทั้งสองข้าง ใช้แรงดึงกางเกงของรพีพงษ์ลงมา
ในขณะนี้ รพีพงษ์ที่สลบอยู่ก็ลืมตาขึ้นมา เห็นว่าเสื้อของตัวเองถูกถอดออกมา กางเกงถูกดึงลงไปครึ่งหนึ่ง เขารีบดึงกางเกงของตัวเองกลับมาอย่างรวดเร็ว ใช้สายตาที่สงสัยและระแวงมองไปที่ทัตดา เอ่ยปากถามว่า: “เธอกำลังทำอะไรหา?!”
ทัตดาคาดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะฟื้นขึ้นมาในเวลานี้ หลังจากที่เห็นรพีพงษ์ดึงกางเกงกลับไป ก็ยังดึงสติกลับมาไม่ได้
หลังจากที่ดึงสติกลับมาได้ บนใบหน้าของหล่อนแดงขึ้นอย่างกะทันหัน ก้มศีรษะลงไม่กล้าที่จะสบตากับรพีพงษ์
“ฉัน…..เห็นนายนอนอยู่บนเตียงนานมากขนาดนี้ ดังนั้นอยากจะเช็ดตัวให้นาย”ทัตดาเอ่ยปากพูดด้วยน้ำเสียงที่เล็กราวกับยุง
รพีพงษ์ไม่เชื่อคำพูดของทัตดา เอ่ยปากพูดว่า: “เธออย่าได้คิดหลอกฉัน เธอคิดจะทำอะไรเลยเถิดกับฉันใช่มั้ย อยากจะฉวยโอกาสตอนที่ฉันสลบ ลงมือกับฉันเหรอ?”
ทัตดาก็นิ่งอึ้งไปชั่วขณะ จากนั้นก็พูดกับรพีพงษ์อย่างโกรธๆ: “เฮ้ย นายพูดจาอะไรช่วยระวังด้วย ใครอยากจะฉวยโอกาสตอนที่นายนอนแล้วลงมือกับนาย? นายคิดว่าฉันเป็นคนแบบไหน?”
“ถ้าไม่เป็นเช่นนั้น เธอจะถอดเสื้อผ้าของฉันทำไม ที่สำคัญเมื่อกี้ฉันมองสายตาของเธอ เห็นได้ชัดว่ามองตรงไปที่ที่ไม่ควรจะมอง”รพีพงษ์ไม่เชื่อคำพูดของทัตดา
ทัตดาเต็มไปด้วยความน้อยใจ แล้วพูดว่า: “คนอื่นเขาเพียงแค่เห็นว่านายนอนอยู่บนเตียงเป็นเวลาสองวัน ร่างกายแทบจะเหม็นแล้ว ดังนั้นต้องการจะถอดเสื้อผ้าให้นายแล้วใช้ผ้าขนหนูเช็ดตัว แบบนี้ยังไงก็ทำให้นายนอนหลับสบายขึ้นบ้าง คาดไม่ถึงนายกลับสงสัยในตัวฉันมากขนาดนี้ ฉันสมองมีปัญหาจริงๆ ถึงได้คิดที่จะดูแลนายแบบนี้”
จากนั้น ทัตดายังชี้นิ้วไปที่น้ำในกะละมังบนพื้นและผ้าขนหนูที่เปียกโชกอยู่แล้ว
รพีพงษ์จ้องมองน้ำในกะละมังและผ้าขนหนูที่พื้นแวบหนึ่ง พบว่าทัตดาดูเหมือนต้องการจะเช็ดตัวให้เขาจริงๆ รู้ว่าตัวเองอาจเข้าใจหล่อนผิดไปจริงๆ
“เอ่อ ขอโทษด้วย ฉันเพิ่งฟื้นขึ้นมาก็เห็นเธอถอดเสื้อผ้าของฉัน ท่าทางเหมือนกับน้ำลายแทบจะไหลออกมา ดังนั้นคิดว่าเธอวางแผนจะทำอะไรกับฉัน คือฉันคิดมากไปเอง”รพีพงษ์อธิบายอย่างรวดเร็ว
ด้วยการเพิ่มความแข็งแกร่งของรพีพงษ์ ผลข้างเคียงของวิธีลับไม่ส่งผลต่อเขารุนแรงเหมือนเริ่มตอนแรกอีกต่อไป ดังนั้นครั้งนี้เพียงแค่สลบไปสองวัน รพีพงษ์ก็ฟื้นตัวกลับคืนมา
เมื่อได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ ในใจทัตดาก็ยิ่งไม่สบอารมณ์มากขึ้น ยังไงหล่อนก็คิดไม่ถึงว่า รพีพงษ์กลับพูดท่าทางที่น้ำไหลแทบจะไหลของหล่อนเมื่อกี้นี้
หล่อนแตะที่มุมปากของตัวเองโดยไม่รู้ตัว หลังจากแน่ใจว่าไม่มีน้ำลาย ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“ท่าทางเมื่อกี้นี้ของฉันดูเว่อร์วังเกินไปขนาดนั้นเลยเหรอ ผู้ชายคนนี้น่ารังเกียจจริงๆ กลับว่าให้ฉันแบบนี้ เขาก็หลงตัวเองมากจริงๆ ใครจะไปมองรูปร่างของเขาแล้วน้ำลายไหล ทั้งๆที่ทั้งร่างกายมีแต่กลิ่นเหงื่อ ฉันเองจะหลบแทบไม่ทัน”ทัตดาพึมพำในใจ แววตาเหลือบมองไปที่ร่างของรพีพงษ์ แล้วกลืนน้ำลาย
รพีพงษ์มองท่าทางที่โกรธของทัตดา ก็รู้สึกละอาย รู้สึกว่าตัวเองคิดแบบนี้กับผู้หญิงคนหนึ่ง ไม่เหมาะสมจริงๆ จึงขอโทษ: “ขอโทษ ช่วงที่ฉันหลับไป ขอบคุณเธอมากๆ ตอนนี้ฉันฟื้นตัวกลับมาแล้ว ดังนั้นเธอก็ไม่ต้องช่วยฉันเช็ดตัวแล้ว”
ทัตดาเชิดหน้าใส่รพีพงษ์ แล้วหันหน้าไปด้านข้าง และไม่พูดอะไร
หลังจากนั้นรพีพงษ์ตรวจสอบสภาพร่างกายของตัวเอง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีอะไรร้ายแรง ก็ไปที่ห้องน้ำและอาบน้ำ
ทัตดาได้เตรียมเสื้อผ้าไว้สำหรับเปลี่ยนอาบน้ำให้รพีพงษ์ก่อนแล้ว ดังนั้นรพีพงษ์จึงไม่ต้องสวมเสื้อผ้าก่อนหน้านี้ต่อไป
หลังจากที่รพีพงษ์อาบน้ำเสร็จ รพีพงษ์ก็แสดงความขอบคุณต่อทัตดาอีกครั้ง ในเวลานี้ทัตดาก็ไม่ได้รู้สึกไม่พอใจ อย่างไรก็ตาม หล่อนก็มีความปรารถนาร่างกายของรพีพงษ์เล็กน้อย และรพีพงษ์เป็นผู้มีพระคุณช่วยชีวิตของหล่อน แล้วเป็นผู้บังคับบัญชาของหล่อน หล่อนจะโกรธรพีพงษ์จริงๆได้อย่างไร
“ตอนนี้นายฟื้นมาแล้ว พวกเราจะกลับไปที่ฐานฝึกอบรมเลยหรือเปล่า?”ทัตดาจ้องไปที่รพีพงษ์และถาม
รพีพงษ์พยักหน้า จากนั้นเอ่ยปากพูดว่า: “แต่ก่อนที่เราจะกลับไป ยังมีอีกหนึ่งเรื่องที่ต้องจัดการ”
“เรื่องอะไร?”ทัตดาเบิกตากว้างขึ้นอย่างอยากรู้อยากเห็นทันที
รพีพงษ์หันหน้ามองไปที่ทัตดา เอ่ยปากว่า: “ไปอธิบายให้ครอบครัวของเธอให้ชัดเจน พวกเราสองคนแค่แกล้งทำเป็นแฟนกัน”
หลังจากที่ทัตดาได้ยิน ก็รู้สึกผิดหวังทันที เอ่ยปากพูดว่า: “โธ่เอ๊ย เรื่องแค่นี้เอง อธิบายหรือไม่อธิบายก็ไม่เป็นไร พวกเรากลับไปกันก่อนดีกว่า รอให้ฉันอธิบายให้พวกเขาฟังดีๆเองภายหลัง”
“ไม่ได้ ไปเดี๋ยวนี้”รพีพงษ์ปฏิเสธคำพูดของทัตดาในทันที
ทัตดาก็เม้มปากในทันที ดูท่าทางจะไม่พอใจ แต่หล่อนก็ไม่สามารถห้ามรพีพงษ์ได้ ดังนั้นหลังจากที่เก็บทุกอย่างเสร็จ ไปยังสถานที่ที่ตระกูลจันวราสกุลพักอาศัยอยู่ในเวลานี้
ทั้งสองเดินเข้าไปในห้องรับแขกด้วยกัน ก่อนที่จะมา ทัตดาได้โทรหาเมธชนัน ในเวลานี้ทุกคนในตระกูลจันวราสกุล รออยู่ที่ห้องรับแขกแล้ว รอขอบคุณรพีพงษ์ผู้มีบุญช่วยชีวิตคนนี้
หลังจากเห็นทั้งสองคนเข้ามา เมธชนันก็รีบต้อนรับ และพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “ตอนนี้พวกเรายิ่งมองดูพวกคุณสองคนมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเหมาะมากเท่านั้น รพีพงษ์ ทัตดาสามารถมีแฟนหาแบบคุณได้ เป็นวาสนาที่เธอสะสมมาหลายชาติจริงๆ”
รพีพงษ์เอ่ยปากพูดในทันที: “เมธชนัน อันที่จริงความสัมพันธ์แฟนระหว่างฉันและทัตดา คือแกล้งออกมาเอง คือทัตดาเพื่อที่จะหนีการดูตัว ดังนั้นถึงได้คิดวิธีนี้ออกมา”
หลังจากที่เมธชนันได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ ก็นิ่งอึ้งอยู่ที่เดิมไปชั่วขณะ