พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่987 อกของคุณแน่นจัง
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่987 อกของคุณแน่นจัง
#บทที่987 อกของคุณแน่นจัง
รพีพงษ์พยุงฟีน่าที่เกือบจะล้มลงกับพื้น รับรู้ได้ถึงอุณหภูมิที่อยู่ในตัวของเธอ
เทียบกับคนทั่วไปแล้ว อุณหภูมิในร่างกายของฟีน่าต่ำกว่าอย่างมาก
ฟีน่านอนอยู่ในอ้อมกอดของรพีพงษ์ ราวกับกำลังเพลิดเพลินไปกับมัน
รพีพงษ์รีบพยุงเธอ ยืนขึ้น เมื่อกี้ คนที่ซ่อนตัวอยู่รอบๆคฤหาสน์เหล่านั้นเตรียมจะปฏิบัติการแล้ว
ถ้ารพีพงษ์ยังให้ฟีน่าอยู่ในอ้อมแขนของตนอีกสักพักล่ะก็ เกรงว่าคนพวกนั้นจะลงมือแล้ว
ตอนนี้เขาต้องพึ่งคนของตระกูลอังเดรเข้าร่วมงานเลี้ยง ไม่มีทางลงมือกับพวกเขาอย่างแน่นอน
ฟีน่ามองรพีพงษ์อย่างดีใจ แล้วกล่าว “รพีพงษ์ อกของคุณแน่นจัง ฉันชอบแบบนี้มากๆเลย”
รพีพงษ์มองไปที่ฟีน่าอย่างหมดคำพูด แล้วกล่าว “กำแพงนั่นแข็งกว่า คุณอาจจะชอบแบบนั้น”
ฟีน่าหัวเราะออกมา แล้วกล่าว “คุณนี่ตลกจริงๆ”
รพีพงษ์ถอนหายใจอย่างหมดคำพูด ถ้าไม่ใช่เพราะครั้งนี้ผู้จัดงานเลี้ยงคือตระกูลอังเดรล่ะก็ เขาให้ปิยวัฒน์จัดที่อยู่ใหม่ให้เขาไปนานแล้ว
“เราจะเรียนวิชาที่คุณว่านั่นที่ไหนหรอ? ต้องไปในห้องมั้ย?” ฟีน่ามองรพีพงษ์ด้วยความรอคอย
“ไม่ต้อง ที่นี่แหละ” รพีพงษ์กล่าว
ฟีน่าพยักหน้า ด้วยความเชื่อฟัง
“แต่ก่อนที่คุณจะฝึกฝน ผมอยากให้คุณตกลงกับผมสักเรื่อง” รพีพงษ์จ้องฟีน่าพลางพูด
“เรื่องอะไร?” ฟีน่าถาม
“ช่วงนี้ตระกูลของคุณกำลังเตรียมงานเลี้ยงอลังการงานสร้างอยู่ใช่มั้ย”
ฟีน่าพยักหน้า
“งานเลี้ยงนี้จะถูกจัดขึ้นเมื่อไหร่?” รพีพงษ์ถาม
“อีกสามวัน” ฟีน่าตอบ
“ผมหวังว่าถึงตอนนั้นคุณจะพาผมไปร่วมงานเลี้ยงนี้ด้วย” รพีพงษ์พูดความต้องการของตัวเองออกมา
“ได้สิ ง่ายมากเลย” ตอนแรกฟีน่าคิดว่ารพีพงษ์จะเรียกร้องสิ่งที่เกินไป ไม่คิดว่าก็แค่พาเขาไปงานเลี้ยงด้วยก็เท่านั้น
เห็นฟีน่าตอบรับ รพีพงษ์ก็พยักหน้า แล้วกล่าวทันใดว่า “งั้นผมก็จะสอนวิชาให้คุณในตอนนี้เลย”
จากนั้นรพีพงษ์ก็ได้เริ่มสอนวิชาหายใจออกอย่างเร่งรัดให้ฟีน่า
ฟีน่าค่อนข้างตั้งใจฟัง ดูออกว่าเธอหวังที่จะมีร่างกายที่แข็งแรงอย่างมากด้วยเช่นกัน
ไม่ไกลจากตรงนี้ ผู้ดูแลที่กำลังสังเกตการณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสวนของคฤหาสน์รพีพงษ์อยู่นั้นเห็นเหตุการณ์นี้ ก็อุทานขึ้นมา
“นานแล้วที่ไม่เห็นรอยยิ้มอันมีความสุขของคุณหนูแบบนี้ ดูๆแล้วผู้ชายที่มาจากประเทศจีนนี้ ดึงดูดความสนใจของคุณหนูได้จริงๆ” ผู้ดูแลกล่าว
“เสียดายที่คุณหนูอ่อนแอ ถ้าไม่มีการปกป้องของตระกูลอังเดร เธอจะเจริญเติบโตได้นั้นชั่งยากเหลือเกิน แม้ตอนนี้คุณหนูดูไม่ต่างอะไรจากคนธรรมดาทั่วไป แต่คุณหมอได้พูดชัดเจนแล้วว่าคุณหนูจะอยู่ได้อีกไม่กี่ปี”
“ช่างมัน แค่คุณหนูมีความสุข ไม่ว่าจะคบค้าสมาคมกับคนรัสเซียหรือคนจีน ก็ช่างมัน”
“หวังว่าเด็กคนนี้จะทำให้คุณหนูเปลี่ยนไปได้บ้าง แม้จะทำให้เธอมีความสุขช่วงเวลาหนึ่ง ก็คุ้มค่าแล้ว”
……
จากนั้นในสองวัน ฟีน่าได้เรียนวิชาหายใจออกอย่างเร่งรัดกับรพีพงษ์โดยตลอด
ฟีน่าอยากที่จะอยู่กับรพีพงษ์ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ตอนกลางคืนก็ขอนอนที่คฤหาสน์ของรพีพงษ์ด้วย แน่นอน ว่ารพีพงษ์ไม่ยินยอม
หญิงสาวที่ไร้เดียงสาคนนี้คิดว่าแม้จะนอนกับคนอื่น ก็แค่เป็นเพื่อนนอน ไม่เกิดอะไรขึ้น
บวกกับการปกป้องเธอของตระกูลอังเดร ในจิตใต้สำนึกของเธอ ผู้คนล้วนเป็นคนดี ไม่มีคนที่คิดไม่ดี
สำหรับท่าทีของฟีน่า รพีพงษ์ไม่รู้ว่าดีหรือไม่ดี ถ้าตระกูลอังเดรปกป้องเธอดีขนาดนี้ไปตลอดชีวิต งั้นชีวิตนี้ของฟีน่า จะต้องดีเลิศเลอกว่าคนคนอื่นอย่างแน่นอน
แต่เมื่อไหร่ที่ฟีน่าได้เผชิญกับความโหดร้ายของโลกใบนี้ เพียงแค่เศษเสี้ยวเดียว จะเป็นการถูกเล่นงานครั้งใหญ่ของฟีน่า
แน่นอน รพีพงษ์ไม่มีกะจิตกะใจจะไปห่วงเรื่องคนอื่น เขาเพียงแค่ต้องการแลกเปลี่ยนกับฟีน่า สามารถเข้าไปในงานเลี้ยงในวันนั้นได้อย่างราบรื่นก็พอแล้ว
พรสวรรค์ของฟีน่ามีมากกว่าที่รพีพงษ์คิดไว้ วิธีการหายใจออกแบบเร่งรัด เธอเพิ่งจะลองทำ ก็รู้ถึงแก่นมันแล้ว ดังนั้นความเร็วในการฝึกฝนจึงเร็วมาก
เพียงแค่สองวัน สีหน้าของฟีน่ามีการเปลี่ยนแปลงไปทางที่ดีอย่างมาก ชัดเจนว่าสดชื่นแจ่มใสกว่าเมื่อก่อนเยอะ
นี่ทำให้รพีพงษ์ยิ่งมั่นใจ ว่าวิธีการหายใจออก สามารถเปลี่ยนแปลงสุขภาพของฟีน่าได้
คนของตตระกูลอังเดรตกใจกับการเปลี่ยนแปลงของฟีน่าอย่างมาก ไม่รู้ว่ารพีพงษ์ใช้วิธีอะไร ทำให้ฟีน่าที่เดินไม่กี่ก้าวก็เหนื่อย กลายเป็นมีพลังขึ้นมาขนาดนี้
แม้จะไม่เข้าใจว่ารพีพงษ์ทำได้อย่างไร แต่จากการสังเกต รพีพงษ์ไม่คิดร้ายกับฟีน่า และสภาพของฟีน่าก็เป็นตัวบ่งบอกทุกอย่าง
บางที สภาพจิตใจอาจจะมีส่วนต่อความแข็งแรงก็เป็นได้
ตอนบ่าย รพีพงษ์มาถึงในสวนล่วงหน้า หลังจากที่เสร็จสิ้นวิชากระบี่แล้ว ก็รอให้ฟีน่ามา
พรุ่งนี้ตอนงานเลี้ยง ถึงตอนนั้นรพีพงษ์จะต้องไปตรวจสอบให้แน่ชัดเรื่องที่มาของคนลึกลับ อีกทั้งทำไมเขาต้องจัดงานเลี้ยงในครั้งนี้ด้วย
สำหรับภารกิจในครั้งนี้ รพีพงษ์ค่อนข้างกระวนกระวายใจ เพราะผู้ลึกลับนี้สามารถฝึกฝนแดนดั่งเทพทั้งห้าได้ในระยะเวลาอันสั้น ฝีมือด้วยส่วนตัวจะต้องไม่ธรรมดาแน่นอน
ไม่รู้ว่าธัชธรรมมาถึงมอสโกหรือยัง ถ้าพรุ่งนี้ตนกับผู้ลึกลับนั่นเผชิญหน้ากัน และต้องลงมือ ไม่มีความช่วยเหลือของธัชธรรม รพีพงษ์ไม่คิดว่าฝีมือของตัวเองจะรับมือกับผู้ลึกลับคนนั้นได้
จนกระทั่งวันนี้ ทำได้เพียงเดินทีละก้าวว่ากันทีละก้าวแล้วกัน
ผ่านไปไม่นาน ฟีน่ามาที่สวนของรพีพงษ์ด้วยความดีใจ ยิ้มพลางพูดกับรพีพงษ์ว่า “รพีพงษ์ วันนี้พวกเราไม่ฝึกล่ะ ฉันบอกผู้ดูแลแล้ว เขาตกลงให้ฉันไปเที่ยวที่สวนสนุกหนึ่งวัน”
รพีพงษ์ชะงัก แล้วถาม “ไปสวนสนุก?”
ฟีน่าพยักหน้า กล่าว “ถูก เมื่อก่อนพวกเขาไม่อนุญาตให้ฉันไปเลยนะ กลัวว่าสุขภาพของฉันจะเล่นเครื่องเล่นพวกนั้นไม่ได้ แต่ช่วงสองสามวันนี้สุขภาพของฉันดีขึ้นอย่างมาก ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแล้ว พวกเขาจึงอนุญาตให้ฉันไปได้”
“พวกเรารีบไปเถอะนะ เดี๋ยวพวกเขาจะเปลี่ยนใจอีก”
พูดจบ ฟีน่าก็เข้าไปลากแขนรพีพงษ์ พาเขาเดินไปข้างนอก
รพีพงษ์ยิ้มอย่างเซ็ง คิดว่าฟีน่าเรียนรู้วิธีหายใจออกแล้ว เพียงแค่ยืนหยัดที่จะฝึกฝน การที่ร่างกายจะเป็นปกตินั้นง่ายดายมาก ไม่แน่อาจจะแข็งแรงกว่าคนธรรมดาทั่วไปอีกก็เป็นได้
ดังนั้นจึงไม่ปฏิเสธ เดินไปข้างนอกพร้อมกับเธอ
ฟีน่าลากแขนรพีพงษ์ไป เหมือนกับสาวน้อยที่กำลังมีความสุข
ตอนที่ทั้งสองเดินไปถึงประตูนั้น รถเฟอร์รารี่สีแดงคนหนึ่งได้จอดที่ข้างหน้าของพวกเขา
วัยรุ่นรัสเซียที่หล่อเหลาลงมาจากรถ จ้องรพีพงษ์ด้วยความโกรธแค้น
ดูออกชัดเจน ว่าการที่ฟีน่าลากแขนรพีพงษ์ไปนั้น ทำให้เขาไม่สบายใจ