พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่990 งานเลี้ยง
บทที่991 ผู้ลี้ลับปรากฏกาย
เพิ่งถึงด้านหน้าเวที รพีพงษ์ก็ได้ปล่อยพลังจิตของตัวเองออกมา อยากรู้ว่าผู้ลี้ลับมาถึงที่ลานจัตุรัสแล้วหรือยัง
แต่เมื่อมองไปรอบๆ รพีพงษ์ก็เห็นผู้ที่น่าสงสัย คิดๆแล้วผู้ลี้ลับน่าจะยังมาไม่ถึง
สิ่งที่ทำให้รพีพงษ์ปวดหัวคือ เขาหาร่องรอยของผู้ลี้ลับไม่เจอ และก็หาร่องรอยของธัชธรรมไม่เจอเช่นเดียวกัน
ผู้เฒ่าคนนี้ไม่น่าเชื่อถือสักเท่าไหร่ พูดกันเอาไว้เสียดิบดีว่ารพีพงษ์รับผิดชอบในการสำรวจ ถ้ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ธัชธรรมจะลงมือจัดการเอง สุดท้ายตอนนี้ผู้เฒ่านั่นก็ยังไม่ปรากฏตัวแต่อย่างใด รพีพงษ์ถึงขั้นสงสัยว่าเขาได้ลืมเรื่องนี้ไปแล้ว
ขณะนี้ยาคอฟเดินมาด้านหน้าของรพีพงษ์และฟีน่า แล้วกล่าว “ฟีน่า งานเลี้ยงครั้งนี้ อนุญาตให้แค่คนชั้นนำของประเทศรัสเซียเข้าร่วมเท่านั้น คุณพาคนจีนคนนี้เข้ามา ไม่ค่อยเหมาะสมสักเท่าไหร่นะ?”
“ฉันจะพาใครมา คุณไม่เกี่ยว” ฟีน่าพูดกับยาคอฟอย่างเยือกเย็น
ยาคอฟยิ้ม แล้วกล่าว “ชั่งเหอะชั่งเหอะ พามันมาก็ไม่เป็นไร ยังไงคนที่ผู้ยิ่งใหญ่จะเลือก ก็ต้องเป็นคนรัสเซียแท้ๆ มันอยู่ที่นี่ก็แค่สนุกไปด้วยก็เท่านั้น”
“ฟีน่า ผมได้ยินมาว่าผู้ลี้ลับยิ่งใหญ่คนนั้นจะเลือกศิษย์ ในงานเลี้ยงครั้งนี้ด้วยนะ ผมจะต้องได้รับเลือกอย่างแน่นอน รอให้ผมเป็นศิษย์ของผู้ยิ่งใหญ่ก่อนนะ แล้วจะขอคุณแต่งงาน”
ฟีน่ากล่าวอย่างรังเกียจ ว่า “ฉันไม่มีทางยอมรับ”
ยาคอฟไม่สนใจ เขามองว่า รอให้เขาเป็นศิษย์ของผู้ยิ่งใหญ่ก่อน ตระกูลอังเดรก็จะอ้อนวอนให้เขาแต่งกับฟีน่า
ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง ผู้ที่มาเข้าร่วมงานเลี้ยงในครั้งนี้ได้เข้ามาในงานทั้งหมดแล้ว ในลานจัตุรัสเต็มไปด้วยคน วุ่นวายไปหมด
ขณะนี้บนเวทีมีคนยกกล่องยาวเดินขึ้นมา กล่องนั้นยาวสองเมตร ด้านบนมีผ้าคลุมไว้ ไม่รู้ว่าด้านในบรรจุอะไรอยู่
หลังจากที่คนพวกนั้นวางกล่องนั้นลงบนเวทีแล้ว ก็เดินออกไป
ขณะนี้คนหนึ่งสวมชุดยาวสีดำเดินขึ้นมาบนเวที
คนนี้มีอายุห้าหกสิบปี ผมขาว ใช้ปิ่นอันหนึ่งปักผมเอาไว้
เสื้อผ้าของคนนี้ค่อนข้างโบราณ เป็นสไตล์การแต่งตัวในยุคศักดินาของจีน
แต่เมื่อคนนี้ปรากฏกายขึ้น ทุกคนไม่รู้สึกว่าเขามีความผิดปกติอะไร แต่ทว่ารู้สึกว่ายากที่จะคาดเดาได้ ไม่ธรรมดา
หลังจากที่รพีพงษ์เห็นคนนี้แล้ว ตาก็เป็นประกายขึ้นมา จากนั้นก็ใช้พลังจิต ส่องไปยังคนนี้
สิ่งที่ทำให้รพีพงษ์ไม่คาดคิดก็คือ เขาดูฝีมือของคนนี้ไม่ออก เขายืนตรงนี้ เหมือนกับเป็นคนธรรมดา แต่รพีพงษ์สามารถรับรู้ถึงอันตรายจากตัวเขาได้
ก่อนหน้านี้ รพีพงษ์จะรู้สึกแบบนี้กับธัชธรรมและนิรภัฏเท่านั้น
นี่แสดงว่าคนนั้นที่อยู่บนเวที อย่างน้อยฝีมือก็เป็นแดนดั่งเทพขั้นสูง ไม่ก็เก่งกว่านั้น!
และตอนที่รพีพงษ์ใช้พลังจิตส่องไปยังคนนั้นที่อยู่บนเวที คนนั้นก็ได้มองมาที่รพีพงษ์เช่นกัน
นึกไม่ถึงว่าเขาก็รับรู้ได้ว่าตนกำลังใช้พลังจิตสังเกตการณ์เขาอยู่!
รพีพงษ์เก็บพลังจิตของตัวเองทันที เมื่อกี้ เขาก็มั่นใจแล้วว่าธัชธรรมยังไม่ถึง
ถ้าวันนี้เขาต้องต่อกรกับผู้ลี้ลับที่อยู่บนเวทีนั่นตามลำพังล่ะก็ เกรงว่าจะเป็นการต่อสู้ที่เจ็บปวดอีก
หลังจากที่ผู้ลี้ลับได้มองรพีพงษ์แล้ว ก็ยิ้มอย่างมีเลศนัยออกมา กล่าวว่า “คิดไม่ถึงว่าจะได้เจอกับเด็กที่ฝีมือไม่เลวที่นี่ เมื่อกี้เขาน่าจะใช้พลังจิตสังเกตการณ์ฉัน คิดไม่ถึงจริงๆ”
“อายุนี้จิตวิญญาณเทพตื่นภวังค์ได้ ต่อให้จะอยู่ในทวีปโอชวิน ก็เป็นอัจฉริยะขั้นสูงแล้ว”
“ดีที่ฝีมือมันยังไม่เก่งกาจสักเท่าไหร่ มิเช่นนั้นถ้าเจอเข้ากับยอดฝีมือที่มีพลังจิต จะต้องเครียดมากอย่างแน่นอน”
“แต่มันปรากฏตัวที่นี่ก็ดีเหมือนกัน เดี๋ยวดูดพลังภายในของมันให้หมด แล้วไปใส่ไว้ที่กล่องฉันฝึกฝนสำเร็จ ไม่แน่อาจทำให้กล่องที่ฉันเตรียมไว้ ไปถึงขั้นใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนก็ได้นะ”
เขาไม่รีบร้อน ในใจครุ่นคิดถึงเหตุผลที่รพีพงษ์ปรากฏกายที่นี่
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ สำหรับเขาแล้วก็ไม่สำคัญ เพราะการที่จะต่อกรกับเด็กคนนี้ ไม่ต้องใช้เวลานานขนาดนั้น
“ทุกท่าน ก่อนที่พวกคุณมาถึง ได้มีการประกาศไปแล้ว ว่าผมจะเลือกหนึ่งในพวกคุณที่คุณสมบัติดี ให้พวกคุณได้ลิ้มลองความแข็งแกร่งที่ไม่เคยมีมาก่อน”
“ทุกคนที่ผมเลือก จะได้มีชีวิตใหม่ ผมจะทำให้คุณค่าของพวกคุณ สูงที่สุด”
“ต่อจากนี้ไป ผมจะเลือก หวังว่าทุกท่านจะให้ความร่วมมือ”
ผู้ลี้ลับกล่าว ทุกคนที่อยู่ในงานกระตือรือร้นขึ้นมา
จากนั้นผู้ลี้ลับได้หยิบป้ายไม้ออกมาจากชุดตัวเอง แล้วโยนไป บนป้ายไม้มีแสงสีดำประกายออกมา ไม่นาน ก็ได้หุ้มลานจัตุรัสเอาไว้ทั้งหมด
ทุกคนเห็นเหตุการณ์นี้ ก็ตะลึง ขณะเดียวกันก็เชื่อแล้วว่าผู้ที่อยู่บนเวทีนี้เป็นยอดฝีมือที่ยากจะคาดเดาความสามารถได้จริงๆ ความรู้สึกที่อยากถูกเลือกยิ่งตื่นเต้นมากเข้าไปอีก
หลังจากแสงที่ป้ายไม้สะท้อนออกมาครอบคลุมทุกคนเอาไว้ในบาเรียแล้วนั้น ผู้ลี้ลับก็รอคอย
แสงที่ป้ายไม้สะท้อนออกมา เหมือนม่านพลัง ทุกคนล้วนอยู่ในม่านพลัง ถ้าไม่ผ่านการอนุญาตของผู้ลี้ลับ ชาตินี้ก็อย่าหวังจะได้ออกจากม่านพลังนี้
ผู้คนเหล่านี้ในลานจัตุรัส ไม่รู้ว่ากำลังเจอเข้ากับภัยอันตรายอะไรอยู่ ยังคงหลงอยู่ในภวังค์จินตนาการ
“ฝีมือของผู้ยิ่งใหญ่อัศจรรย์มากจริงๆ ถ้าได้เป็นศิษย์ของเขา อนาคตจะต้องใหญ่ค้างฟ้าแน่นอน!”
สายตาของยาคอฟเป็นประกาย อยากที่จะพุ่งขึ้นไปบนเวทีจน ขอผู้ลี้ลับเป็นลูกศิษย์แทบแย่แล้ว
“ต่อจากนี้ ผมจะแสดง ให้ทุกคนได้เห็น ว่าผมจะทำอย่างไรให้ทุกคนได้แสดงคุณค่าของตัวเองออกมา ”
ผู้ลี้ลับพูด จากนั้นก็มองไปที่รพีพงษ์
เพราะยาคอฟยืนอยู่กับรพีพงษ์ ยาคอฟเข้าใจผิดคิดว่าผู้ลี้ลับกำลังมองตน ตื่นเต้นจนเกือบร้องออกมา
“ดูๆแล้วผมนี่ก็เป็นผู้ที่มีพรสวรรค์เหมือนกันนะ ผู้ยิ่งใหญ่แว็บเดียวก็สังเกตเห็นผมแล้ว!”
ขณะนี้ผู้ลี้ลับยื่นมือไปชี้รพีพงษ์ กล่าว “เด็กน้อย แกขึ้นมา แก เป็นคนแรกที่ฉันเลือก”
ผู้คนมองไปที่รพีพงษ์ ด้วยสายตาอิจฉา
ยาคอฟมึนงง เขาไม่คาดคิด ว่าคนที่ผู้ยิ่งใหญ่เลือก จะเป็นคนจีนอย่างรพีพงษ์!
เขาร้อนใจขึ้นมาทันที แล้วตะคอกไปที่ผู้ลี้ลับว่า “ไอ้นี่มันเป็นคนจีน ไม่ใช่คนรัสเซียโดยกำเนิดสักหน่อย ผมต่างหากที่เป็นคนรัสเซียแท้ๆที่สูงศักดิ์ ผู้ยิ่งใหญ่ คุณต้องเลือกผมสิถึงจะถูก!”
รพีพงษ์บอกยาคอฟอย่างบอกไม่ถูก ไอ้นี่มันไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าคนที่ถูกเลือกน่ะ มันคือเหมือนไปตาย
แต่เขาก็ไม่อธิบายให้ยาคอฟฟัง ในเมื่อเขาอยากรีบไปตาย ก็ให้เขาได้สมใจก็แล้วกัน
“เขาพูดถูก เขาสูงศักดิ์ คุณเลือกเขาเถอะ”
รพีพงษ์มองผู้ลี้ลับ แล้วกล่าวอย่างสงบ