พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่992 ฉันไม่อนุญาตให้คุณทำอะไรรพีพงษ์
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่992 ฉันไม่อนุญาตให้คุณทำอะไรรพีพงษ์
บทที่992 ฉันไม่อนุญาตให้คุณทำอะไรรพีพงษ์
ผู้ลี้ลับคนนั้นได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ ก็ชะงัก น่าจะรู้ถึงสถานการณ์ของตัวเองว่าจะเป็นอย่างไรแล้ว
ดังนั้นเขาจึงไม่บังคับให้รพีพงษ์ขึ้นบนเวที เพราะไม่ว่าจะเอาใครมาเป็นตัวอย่าง สุดท้ายผลลัพธ์ก็เหมือนกัน
เขาไม่คิดว่าฝีมือของรพีพงษ์ จะรอดจากน้ำมือของเขาไปได้
ดังนั้นเขาจึงมองไปที่ยาคอฟ แล้วกล่าว “งั้นแกขึ้นมาแล้วกัน เป็นตัวอย่างให้ทุกคนดูหน่อย”
ยาคอฟเห็นผู้ลี้ลับไม่เอารพีพงษ์ แล้วมาเลือกเขา นัยน์ตาก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันที ยังหันหน้าไปมองรพีพงษ์อีกด้วย
จากนั้นเขาก็รีบขึ้นบนเวที ยืนอยู่ข้างๆผู้ลี้ลับอย่างอ่อนน้อม
ฟีน่ามองรพีพงษ์อย่างไม่เข้าใจ แล้วถาม “ทำไมคุณต้องมอบโอกาสนี้ให้เขา?”
รพีพงษ์ยิ้มให้ฟีน่า แล้วกล่าว “นี่ไม่ใช่โอกาสดีอะไร ถ้าผมเดาไม่ผิดล่ะก็ เขาน่าจะต้องโชคร้าย”
“โชคร้าย?” ฟีน่าแปลกใจขึ้นมา
รพีพงษ์พยักหน้า ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด แล้วกล่าว “แม้ไม่รู้ว่าทำไมคนนี้ต้องจัดงานเลี้ยงหมื่นคน แต่จุดประสงค์ของเขาไม่ดีแน่นอน”
“ถ้าผมเดาไม่ผิด แสงสีดำได้ล้อมรอบๆลานจัตุรัสไว้แล้ว เดี๋ยวถ้าเกิดอะไรขึ้น คุณจำไว้ว่าต้องไปที่แสงนั่น ไม่ว่าจะออกไปได้หรือไม่ ให้ไปรอที่นั่น ได้ยินมั้ย?”
ฟีน่าได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ ก็ประหลาดใจ เธอมองว่า น่าจะเป็นงานที่ยิ่งใหญ่สิจึงจะใช้ ทำไมรพีพงษ์ถึงได้พูดว่าเดี๋ยวจะเกิดเหตุนะ?
แต่แม้ว่าในใจจะสงสัย แต่ฟีน่าก็พยักหน้าให้รพีพงษ์ ไม่รู้ว่าทำไม เธอรู้สึกว่าตัวเองต้องเชื่อรพีพงษ์อย่างไม่มีข้อสงสัย
รพีพงษ์สูดหายใจเข้าลึกๆฝีมือของผู้ลี้ลับนี้เก่งมาก อีกเดี๋ยวยากนักที่จะหลีกเลี่ยงการต่อสู้ที่หืดขึ้นคอได้ ถึงเวลานั้นสถานการณ์เป็นยังไง รพีพงษ์ก็ไม่มั่นใจ สถานการณ์ของฟีน่าจะเป็นไงเขาก็ไม่มีเวลาเอาทัน
ตอนนี้หวังเพียงสาวคนนี้จะโชคดีสักหน่อย
ผู้ลี้ลับเปิดกล่องยาวนั้นออก เห็นคนกำลังนอนอยู่
คนนี้กำลังปิดตาสนิท บนหน้าผาก เต็มไปด้วยลายสีดำสลับซับซ้อน ดูๆแล้วค่อนข้างแปลกประหลาด
ยาคอฟมองไปยังคนที่อยู่ในกล่องนั้น ด้วยความตกใจ ไม่รู้ว่าทำไมผู้ยิ่งใหญ่คนนี้ถึงได้เอาคนไปวางไว้ในกล่อง แล้วดูๆไปยังน่ากลัวอีกด้วย
ผู้ลี้ลับยิ้มให้ยาคอฟ แล้วกล่าว “ไม่ต้องกลัว มาใกล้ๆฉันหน่อย อีกไม่นานแกจะได้คุณค่าที่ยิ่งใหญ่ในตัวของแกตลอดชีวิตแล้ว”
แม้ยาคอฟจะกระวนกระวายใจ แต่ก็ไม่กล้าขัดคำสั่งของผู้ยิ่งใหญ่ แล้วรีบเดินไปที่กล่องนั้น
ผู้ลี้ลับเห็นยาคอฟเดินมาใกล้ ในมือมีตราที่ซับซ้อนอยู่ จากนั้นพลังที่มหาศาลก็ปรากฏออกมา ล้อมตัวของยาคอฟไว้
วินาทีต่อมา ยาคอฟรู้สึกมีพลังดูดที่แข็งแกร่งเกิดขึ้น เขาเกิดความกลัวขึ้นมากะทันหัน จากนั้นก็ถอยหลังไป
แต่ทุกอย่างสายไปแล้ว ยาคอฟรู้สึกว่าตัวเองขยับไม่ได้อีกแล้ว พลังดูดนั้นยิ่งอยู่ยิ่งแข็งแกร่งขึ้น เขารู้สึกชีวิตชีวาของเขาเริ่มหายไป รวมอยู่กับคนนั้นที่นอนอยู่ในกล่อง
“ไม่!” ยาคอฟโอดครวญ จากนั้น ทุกคนก็มองไปที่ยาคอฟจากคนที่มีชีวิต เปลี่ยนเป็นศพแห้ง
เดิมที่ผู้คนมองวิชาของผู้ลี้ลับ คิดว่าจะปล่อยอะไรที่มหัศจรรย์ออกมา สุดท้ายกลับกลายเป็นเหตุการณ์ที่น่าผวา
ทุกคนตกใจจนร้องกรี๊ดออกมา ลานจัตุรัสเริ่มวุ่นวายขึ้น
“น่ากลัวจัง นี่กำลังทำอะไรกันแน่! ทำไมคนนั้นเปลี่ยนเป็นศพไปได้!”
“พระเจ้า คนนั้นมันต้องเป็นพ่อมดแน่ๆ ทุกคนรีบหนี!”
“ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้? คนนั้นที่มีชีวิตอยู่ดีๆ แว็บเดียวก็กลายเป็นแบบนั้น! ฉันไม่ได้กำลังฝันร้ายใช่มั้ย?”
……
ฟีน่าเห็นเหตุการณ์นี้ ก็ตกใจ จากนั้นหันไปหารพีพงษ์ ด้วยสายตาที่ซับซ้อน
เธอไม่คิดว่างานเลี้ยงที่ผู้ลี้ลับจัดในครั้งนี้ จะมีจุดประสงค์ร้ายจริงๆ
รพีพงษ์จ้องฟีน่า แล้วกล่าว “จำที่ผมพูดไว้ว่าวิ่งไปที่รอบๆ แล้วก็ อยู่ให้ไกลจากที่ที่คนพลุกพล่าน”
ฟีน่าพยักหน้าให้รพีพงษ์อย่างตั้งใจ
ขณะนี้ผู้ลี้ลับได้มองลงมาจากเวที ยิ้มพลางกล่าวว่า “ทุกท่านไม่ต้องผวาไป วันนี้คนที่อยู่ในงาน ไม่ใช่จะต้องเจอจุดจบแบบนี้ทุกคน ผมจะเลือกผู้ที่มีคุณภาพ แบบนี้จึงจะได้พลังที่บริสุทธิ์พอ”
หลังจากที่ทุกคนได้ยินคำพูดของผู้ลี้ลับแล้ว ก็ตกใจจนวิ่งไปไกลๆ
“ทุกคนรีบหนี! ไอ้นี่มันเป็นพ่อมด!”
คนของตระกูลอังเดรที่รับผิดชอบจัดงานครั้งนี้ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เหล่าการ์ดเริ่มทำงาน พุ่งไปที่ผู้ลี้ลับ
ในมือของพวกเขาทุกคนถือปืนไว้ ยิงไปที่ผู้ลี้ลับที่อยู่บนเวทีอย่างไม่ลังเล
แต่สิ่งที่แปลกคือ ตอนที่กระสุนเหล่านั้นใกล้จะถึงตัวของผู้ลี้ลับแล้ว ก็หยุดลงทันใด เหมือนกับมีมือที่มองไม่เห็นจับเอาไว้
ผู้ลี้ลับเห็นกระสุนที่อยู่รอบๆตัวเองพวกนั้น ก็ยิ้ม แล้วพึมพำ “คนในโลกของพวกแกน่าสนใจจริงๆ คนธรรมดาพึ่งของสิ่งนี้ แล้วยังมีพลังมากขนาดนี้ ในโลกของพวกเราไม่มีหรอกนะ”
“แต่พลังระดับนี้สำหรับฉัน ไม่ต่างจากมด ดังนั้นพวกแกไม่ต้องเสียเวลาแล้ว”
เพิ่งจะพูดจบ กระสุนเหล่านั้นก็หันกลับ พุ่งไปที่คนพวกนั้นของตระกูลอังเดรที่ยิงออกมาอย่างเร็ว ยิงเข้าไปจนตัวพลุน ฆ่าพวกเขาทิ้ง
ทุกคนเห็นเหตุการณ์นี้ ก็ยิ่งผวาหนักเข้าไปอีก คนที่แม้แต่กระสุนก็ฆ่าไม่ได้ จะต้องเป็นปีศาจที่น่ากลัวที่สุดอย่างแน่นอน
ผู้ลี้ลับได้จัดการเหล่าการ์ดของตระกูลอังเดร จากนั้นก็หันไปมองรพีพงษ์
ตั้งแต่เริ่มจนจบ รพีพงษ์ไม่ไปไหน ยังคงสังเกตการณ์ผู้ลี้ลับอยู่อย่างสงบ
“เด็กน้อย ถ้าฉันเดาไม่ผิดล่ะก็ แกน่าจะมาเพราะฉันนะ?” ผู้ลี้ลับกล่าว
รพีพงษ์หยิบมุรามาสะออกมา แล้วมองไปที่ผู้ลี้ลับอย่างสงบ แล้วกล่าว “รู้แล้วก็ดี”
“แล้วผู้ใหญ่ของแกได้บอกแกหรือเปล่า ว่าฝีมือระดับแก จะต่อกรกับฉัน มันห่างกันเยอะ?” ผู้ลี้ลับหัวเราะออกมา
รพีพงษ์ไม่พูดไม่จา ได้เตรียมตัวต่อสู้แล้ว
“แกมาแต่โดยดีเถอะนะ ฉันจะให้แกตายอย่างไม่ทรมาน ไม่งั้น แกจะเสียใจที่อยู่บนโลกนี้” ผู้ลี้ลับยกมือขึ้นมา ชี้ไปที่รพีพงษ์
ในขณะเดียวกันนี้เอง มีร่างเข้ามาขวางหน้ารพีพงษ์ไว้ คือฟีน่าผู้น่ารัก
“ฉันไม่ให้แกทำอะไรรพีพงษ์ ถ้าแกจะฆ่า ก็ฆ่าฉันแทนรพีพงษ์!