พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่994 ขโมยชีวิต
บทที่994 ขโมยชีวิต
หลังจากที่ผู้ลี้ลับเห็นธัชธรรมปรากฏตัวแล้วนั้น ก็หน้าเคร่งเครียด และสายตาหวาดระแวง
“แกคือผู้กล้าของแดนครึ่งอาถรรพ์คนจีนคนนั้น?” ผู้ลี้ลับจ้องไปที่ธัชธรรมแล้วถาม
ธัชธรรมมองเขา แล้วกล่าว “อาถรรพ์? แกหมายถึงแดนเทพหรือเปล่า?”
ผู้ลี้ลับเยาะเย้ย ดูแคลนแล้วกล่าว “ก็นะ ลืมไปว่าสภาพอากาศของพวกแกมันแย่ ไม่สามารถฝึกฝนผู้กล้าได้แล้ว แดนอาถรรพ์ของพวกแกที่นี่ กลายเป็นเทพไปแล้ว ตลกชะมัด”
ธัชธรรมได้ยินคำพูดของผู้ลี้ลับ ก็เดาออกว่าคนนี้มาจากไหน สีหน้ายิ่งเคร่งขรึมเข้าไปอีก
“แกเป็นคนของทวีปโอชวิน!”
ผู้ลี้ลับหัวเราะ กล่าว “ใช่ เดาถูกแล้ว”
“แกมาที่นี่เพื่ออะไร?” ธัชธรรมถามต่อ
“เรื่องนี้ แกไม่คู่ควรที่จะรู้!”
ผู้ลี้ลับไม่อย่าพูดพร่ำทำเพลง ในมือปรากฏดาบยาว ฟาดไปที่ธัชธรรม
ธัชธรรมก็ไม่อ่อนข้อ ในมือทั้งสองข้างปรากฏลูกไฟขึ้นมา จับดาบยาวของผู้ลี้ลับนั่นไว้
รพีพงษ์เห็นดาบยาวของผู้ลี้ลับถูกลูกไฟของธัชธรรมเผาไหม้ เริ่มมีวิธีแก้ขึ้นทีล่ะนิดแล้ว
ผู้ลี้ลับดูแคลน แล้วสลายดาบในมือของตัวเอง แล้วถอยหลังไปหลายก้าว จากนั้นก็เอาตราที่ซับซ้อนออกมา
ค่ายกลปรากฏขึ้น พลังกระบี่นับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นมาอยู่ต่อหน้าของผู้ลี้ลับ เปล่งความแข็งแกร่งและความน่ากลัวออกมา
ธัชธรรมเห็นดังนี้ ก็ไม่เชื่องช้า รอบๆกายปรากฏลูกไฟรวมกันเป็นดอกบัว พลังมหาศาลปรากฏอยู่บนดอกบัวไฟ อุณหภูมิทั้งลานจัตุรัสเริ่มสูงขึ้นอย่างมาก
รพีพงษ์เห็นท่าที่ทั้งคู่ปล่อยออกมา ก็ตะลึง เขาไม่คาดคิด ว่าฝีมือของธัชธรรม จะน่ากลัวได้ขนาดนี้
เขากัดฟันยืนขึ้นจากพื้น แล้วรีบวิ่งไปไกลๆ
การต่อสู้ระดับนี้ เขาอยู่ใกล้ขนาดนี้ เหมือนรนหาที่ตายชัดๆ
ผู้ลี้ลับเปลี่ยนท่าต่อสู้ พลังของค่ายกลดาบยาวพุ่งไปที่ธัชธรรมทันใด
ลูกไฟดอกบัวของธัชธรรม ชนเข้ากับค่ายกล พลังอันน่าสะพรึงสั่นสะท้านไปรอบๆ แม้คนที่อยู่รอบนอกของลานจัตุรัส ก็รับรู้ถึงแรงสะท้านนี้ได้ คนจำนวนไม่น้อยล้มลงกับพื้นโดยตรง
รพีพงษ์ที่กำลังหนีตายถูกแรงสะท้านนี้เข้าถึงกับล้มลงไปอยู่กับพื้น แล้วกระอักเลือดออกมาอีกครั้ง
พลังของดอกบัวไฟสะท้านออกมาอย่างมหาศาล ได้กลืนค่ายกลกระบี่เข้าไปทั้งหมด สุดท้าย ธัชธรรมก็ชนะในนัดนี้
การที่กระบี่ของผู้ลี้ลับถูกกลืนกินไปนั้น สำหรับผู้ลี้ลับแล้วถือเป็นความเสียหายอย่างมหันต์ เลือดไหลออกมาจากปากของเขา สายตาเคร่งเครียดขึ้น
เขามองธัชธรรมอย่างแค้น กัดฟันแล้วกล่าว “ถ้าช่องนั้นรับได้แค่คนที่เป็นแดนธรรมวิสุทธิ์ชั้นยอดเท่านั้น ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่แกจะมายโสโอหัง!”
แดนธรรมวิสุทธิ์ชั้นยอด คือแดนดั่งเทพชั้นยอด ผู้ลี้ลับนี้คือแดนดั่งเทพชั้นยอด
ธัชธรรมอีกครึ่งหนึ่งจะเข้าแดนเทพ ความสามารถเก่งกว่าแดนดั่งเทพชั้นยอดอยู่แล้ว
แม้ผู้ลี้ลับจะดูถูกยอดฝีมือของประเทศจีน แต่ยังไงตอนนี้ก็ยังคงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของธัชธรรมอยู่ดี
ธัชธรรมมองเข้าอย่างเลือดเย็น กล่าวอย่างเหยียดหยามว่า “หยุดพูดไร้สาระ แล้วแกจะมีชีวิตอยู่นานอีกนิด”
ผู้ลี้ลับดูแคลน หันไปมองที่บนเวทีนั้น จากนั้นก็กล่าวว่า “แม้ฝีมือของฉันจะด้อยกว่าแกอยู่หนึ่งขั้น แต่จะชนะฉัน ก็ไม่ได้ง่าย แล้วถ้าฉันหนีไป แกก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว!”
พูดจบ ผู้ลี้ลับก็พุ่งไปที่เวทีนั้นอย่างเร็ว
ธัชธรรมเห็นดังนั้น ก็รีบตามไป
ผู้ลี้ลับพูดไว้ไม่ผิด แม้ฝีมือของธัชธรรมจะเก่งกว่าเขาหนึ่งขั้น แต่ถ้าคิดจะฆ่ายอดฝีมือแดนดั่งเทพชั้นยอด พูดได้ว่ายากยิ่งกว่ายากเสียอีก ถ้าผู้ลี้ลับหนี เขาก็ทำอะไรไม่ได้แล้วจริงๆ
แว็บเดียว ผู้ลี้ลับก็พุ่งไปถึงเวที เขาแบกกล่องที่มีคนนั้น แล้วรีบไปที่เส้นขอบ ที่มีคนหมู่มากอยู่
แม้จะไม่รู้ว่าผู้ลี้ลับจะทำอะไร แต่ธัชธรรมรู้ดีว่าเขาไม่มีจุดประสงค์ดีแน่ๆ ดังนั้นจึงใช้ความเร็วที่สุดของตน ไล่ตามผู้ลี้ลับนั้นไป
“ห้ามให้มันเข้าไปในกลุ่มคนโดยเด็ดขาดนะ ถ้ามันดูดพลังชีวิตของคนพวกนั้นเข้าไป มาเพิ่มพลังให้คนนั้น เมื่อพลังของคนนั้นมากพอ เกรงว่าจะกลายเป็นสงครามที่น่ากลัวเลยล่ะ!” รพีพงษ์ตะโกนใส่ธัชธรรม
ธัชธรรมเคร่งเครียด ไม่คิดว่าผู้ลี้ลับจะทำแบบนี้
ผู้ลี้ลับได้ยินเสียงตะโกนของรพีพงษ์ ก็หันไปมองเขา ยิ้มอย่างดูแคลน กล่าว “ต่อให้พวกแกรู้ว่าฉันจะทำอะไรแล้วไง! วันนี้ถึงแม้ต้องเสี่ยงชีวิต ฉันก็จะทำให้คนนี้ตื่นภวังค์ให้ได้ ฝีมือของเขาเป็นระดับแดนเทพ ถึงตอนนั้นทุกคน จะต้องตายด้วยน้ำมือของเขา!”
เพิ่งพูดจบ ผู้ลี้ลับกัดนิ้วตัวเอง ให้เลือดไหลออกมา ผู้ลี้ลับวาดรูปที่ซับซ้อนตรงที่ที่เขาแบกคนนั้นไว้ จากนั้น เขาก็เริ่มปล่อยพลังออกมา
ประโยชน์ของท่านี้ คือดูดพลังชีวิตของคนมา
แต่ถ้าเทียบกับตอนที่ดูดยาคอฟ ท่านี้ ผู้ลี้ลับได้แลกกับความเจ็บปวดปล่อยออกมา แน่นอนว่าผลลัพธ์ดีกว่าเดิมเป็นพันเท่า
เขาคิดจะใช้วิธีนี้ ดูดพลังชีวิตของทุกคน เพราะเวลาจำกัด ตอนนี้เขาจึงทำได้เพียงใช้วิธีนี้เท่านั้น
กลิ่นอายการดูดพลังที่แข็งแกร่งได้ล้อมรอบคนจำนวนมากไว้ เวลาเดียวกันรูปที่ผู้ลี้ลับแบกคนนั้นไว้แล้วเขียนก็เริ่มมีแสงออกมา
จากนั้น ผู้ลี้ลับก็ตะโกน พลังดูดนั้นแข็งแกร่งขึ้น ดูดพลังชีวิตของคนเหล่านั้นที่อยู่บบริเวณนั้นไปโดยตรง
“ดูด!”
แว็บเดียว ผุ้คนมากมายที่อยู่เส้นขอบ ก็กลายเป็นศพแห้ง
เพราะผู้ลี้ลับแบกภาระไว้เยอะ จึงกระอักเลือดออกมา เขากัดฟัน แล้วใช้ตราอีกครั้ง
ธัชธรรมปล่อยไฟดอกบัวไปที่ผู้ลี้ลับอีกครั้ง คิดจะหยุดการดูดชีวิตของคนเหล่านั้นลง
แต่ผู้ลี้ลับกระทำอย่างเร็ว ขัดขวางตอนนี้ก็ช้าไปเสียแล้ว
ไฟดอกบัวชนเข้าไปกับผู้ลี้ลับ ผู้ลี้ลับทำต่อไปไม่ได้ ตัวเขากลายเป็นคนที่ไร้ซึ่งชีวิตชีวา
แต่สิ่งที่น่าเสียดายคือ คนหมื่นคนที่มาร่วมงานเลี้ยง เกือบครึ่ง ได้กลายเป็นศพแห้งไปแล้ว
“แม้จะไม่ได้ตามที่คิดไว้ แต่ระดับนี้ ก็เพียงพอแล้ว”
“พวกแกรอความตายได้เลย!”
ผู้ลี้ลับตะโกน จากนั้นก็กดไปที่กลางคิ้วของคนนั้น
ดวงตาของคนนั้นเปิดขึ้นทันใด มีพลังมหาศาลพุ่งขึ้นมา กดธัชธรรมไว้