พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่995 การต่อสู้ที่ดุเดือด
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่995 การต่อสู้ที่ดุเดือด
บทที่995 การต่อสู้ที่ดุเดือด
ธัชธรรมเห็นคนที่ผู้ลี้ลับแบกนั้นเปิดตาออก ก็หน้าถอดสี
เขารับรู้ว่าคนนี้ เป็นแดนเทพ!
“เป็นไปได้ไง! มันมีกลิ่นอายของการเป็นแดนเทพ หรือฝีมือมันเป็นแดนเทพแล้วจริงๆ? ” ธัชธรรมส่งเสียงตกใจ
เพราะผู้ลี้ลับช่วยคนนั้นดูดพลังชีวิต ตอนนี้บาดเจ็บหนัก แต่เขาไม่กังวลใดๆ เพราะที่เขาฝึกฝนคนนี้มา ได้ตื่นภวังค์แล้ว วันนี้มีเขาอยู่ไม่มีใครทำอะไรเขาได้
คนที่ว่านี้ พูดให้หยาบๆ ความจริงเป็นหุ่นเชิดที่ผู้ลี้ลับ ใช้วิธีนี้ทำออกมา
นี่เป็นวิชาที่พวกเขามีโดยเฉพาะ แม้จะถูกเรียกว่าเป็นไสยศาสตร์ แต่ทางนี้ก็มีแค่แดนธรรมวิสุทธิ์ชั้นยอดผ่านไปเท่านั้น เพื่อจะได้มีพลังบีบที่นี่ ผู้ลี้ลับทำได้เพียงใช้วิธีนี้เท่านั้น
เพราะตราที่ดูดพลังเร่งรีบ และการดูดพลังไม่ได้ผ่านการเลือก มันต่างกัน บวกกับระหว่างกลางถูกการโจมตีของธัชธรรมขัดขวางไว้ ดังนั้นพลังของหุ่นเชิดนี้ แม้จะดูเหมือนว่าเป็นแดนเทพแล้ว แต่ความจริงห่างจากแดนเทพอยู่อีกนิด
แต่ในแม้เป็นแบบนี้ ฝีมือของหุ่นเชิดก็ไม่ใช่ธัชธรรมที่เกือบเป็นแดนเทพจะเทียบได้
ผู้ลี้ลับมองธัชธรรมอย่างแค้นใจ จากนั้นก็สั่งหุ่นเชิด “ฆ่ามันซะ”
หุ่นเชิดพยักหน้าทันที จากนั้นก็เดินไป ด้านหน้าของธัชธรรม
ธัชธรรมเห็นดังนี้ ก็ปล่อยพลังขัดขวางหุ่นเชิดไว้
แต่ความเร็วของหุ่นเชิดนั้นเร็วมาก ถีบไปที่ท้องของธัชธรรมโดยตรง ธัชธรรมพุ่งล้มลงไปทันที
ผู้ลี้ลับดูแคลน แล้วกล่าว “ต่อให้ฝีมือของมันจะแตกต่างจากแดนเทพ ก็สามารถบีบคนที่อีกครึ่งแดนเทพอย่างแกได้แน่นอน”
ธัชธรรมล้มลงกับพื้น ควบคุมร่างของตัวเอง ด้วยหน้าตาที่เคร่งเครียด เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหุ่นเชิดจริงๆ อีกฝั่งสามารถฆ่าเขาได้อย่างง่ายดาย
หรือวันนี้ ต้องตายที่นี่แล้วจริงๆ?
ถ้าเป็นแบบนี้จริงๆล่ะก็ หุ่นเชิด จะกลายเป็นตัวอันตรายของประเทศจีน จนถึงระดับโลกอย่างมาก
ธัชธรรมมองไปที่รพีพงษ์ ส่งสายตาตั้งคำถาม
รพีพงษ์พยักหน้า ส่งสัญญาณว่าแน่นอน
บนมือธัชธรรม ปรากฏลูกไฟสองดวง พุ่งไปที่หุ่นเชิดนั้น
วงไฟวงใหญ่ปรากฏอยู่บนอากาศ พุ่งไปที่หุ่นเชิดนั้น
หุ่นเชิดไม่เกรงกลัว ยื่นมือออกมามือหนึ่ง กลิ่นอายของพลังที่แข็งแกร่งระเบิดออกมา ไปชนกับวงไฟนั้น
เวลาเดียวกันนี้ แสงสีทองจากพื้นระเบิดออกมา แว็บเดียว ก็ทำให้รอบๆของธัชธรรมและหุ่นเชิดกลายเป็นประกายสีทอง มังกรเก้าตัว มีเสียงมังกรขับขาน ผู้ที่ได้ยินเสียงก็ต่างใจสั่น
ตั้งแต่ที่รู้ว่าผู้ลี้ลับนั่นแข็งแกร่ง รพีพงษ์ได้เอาพลังจิตวิญญาณเทพของตัวเองใส่ไปในแผนผังค่ายกลวิเศษ รอให้ถึงช่วงเวลาสำคัญแล้วจะเปิดใช้มัน
ตอนนั้นที่ธัชธรรมส่งสายตาตั้งคำถามให้เขา ก็คือถามเขาว่าได้เตรียมค่ายกลไว้หรือยัง
ตอนนั้นที่การต่อสู้เริ่มเดือดขึ้น รพีพงษ์ได้วางแผนผังค่ายกลวิเศษไว้บนพื้น
ผู้ลี้ลับเห็นจู่ๆปรากฏค่ายกลขึ้นมา ก็หน้าถอดสี แล้วส่งเสียงตกใจ “เชี้ยเอ๊ย! ที่นี่มันไม่ใช่ว่าฝีมือมันขาดตอนหรอวะ? ทำไมที่นี่จึงได้มีค่ายกลปรากฏขึ้นมาได้?”
ตอนที่ธัชธรรมเห็นค่ายกลปรากฏออกมา ก็ค่อนข้างตกใจ แต่เขาก็ไม่สงสัย ฉวยโอกาสตอนที่ค่ายกลปรากฏออกมา แล้วโจมตีไปที่หุ่นเชิด
ค่ายกลถูกบังคับโดนรพีพงษ์ ธัชธรรมก็รวมอยู่ในนั้นด้วย ดังนั้นจึงไม่ถูกการโจมตีใดๆ
การที่ค่ายกลปรากฏออกมาทำให้แรงกดดันของธัชธรรมลดลงไปไม่น้อย อย่างน้อยตอนนี้เขาก็สามารถต่อกรกับหุ่นเชิดได้แล้ว
ผู้ลี้ลับสังเกตค่ายกลนี้อย่างละเอียด จากนั้นกล่าว “ต่อให้แกมีค่ายกลเป็นตัวช่วย คิดจะชนะผู้ที่เป็นแดนเทพอย่างฉัน ก็เพ้อเจ้อเกินไปล่ะ! รอให้พลังของค่ายกลใกล้หมด ก็ถึงเวลาตายของแกแล้วล่ะ!”
แม้ปากจะพูดแบบนี้ แต่ดูออกว่าผู้ลี้ลับหวาดหวั่นขึ้นมาแล้ว ดูๆแล้วเขาก็ไม่รู้ว่าหุ่นเชิดจะต่อต้านการร่วมมือกันของธัชธรรมและค่ายกลได้หรือไม่
รพีพงษ์นั่งอยู่ไกลๆ จ้องไปที่ค่ายกล ใช้ทุกวิธีที่ใช้ได้ มาใช้กับธัชธรรมทั้งหมด ให้เขามีพลังแดนเทพ ในช่วงระยะเวลาอันสั้น
บวกกับการช่วยเหลือของมังกรทั้งเก้า การต่อสู้ในครั้งนี้ ไม่มีทางแพ้แน่
ทั้งสองระเบิดทุกอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เสียงดังสนั่นกึกก้องไปทั่วปฐพีดังไปรอบๆ ทำเอาคนมอสโกตกใจคิดว่าวันสิ้นโลกได้มาถึงแล้ว
แม้หุ่นเชิดจะเก่งกาจ แต่ขณะนี้ธัชธรรม ได้เริ่มชักหน้าไม่ถึงหลัง
ธัชธรรมขณะนี้ ต้องการเพียงโอกาส โจมตีหุ่นเชิด
ในขณะที่รพีพงษ์กำลังจ้องไปที่การต่อสู้นั้น จู่ๆใจเขาสั่นขึ้นมา กลิ่นอายความแปลกทิ่มเข้าไปในใจ เขาตาโตขึ้นทันใด
เพราะก่อนหน้านี้ที่ต่อสู้กับผู้ลี้ลับ แม้จะโดนถล่มอนาถ แต่รพีพงษ์ก็ยังคงเกิดเรื่องบันดาลใจที่ไม่เคยมีมาก่อน
แรงบันดาลใจนี้ทำให้เขาเกิดการเปลี่ยนแปลง
การต่อสู้ เป็นวิธีเลื่อนขั้นที่ดีที่สุดตลอดกาล
รพีพงษ์มีความรู้สึกแข็งแกร่ง เขาจะเลื่อนขั้นแล้ว!
ในการต่อสู้โอกาสของแรงบันดาลใจจะเกิดขึ้นได้น้อยมากถึงมาก รพีพงษ์ไม่กล้าลังเล รีบปิดตา แล้วรับรู้ความรู้สึกนั้น เตรียมเลื่อนขั้น
เห็นเพียงพลังที่อยู่รอบๆรพีพงษ์ขยับ รูขุมขนตามร่างกายของเขาเริ่มขยายออก สูดอากาศที่อยู่รอบๆอย่างบ้าคลั่ง
ขณะนี้ รพีพงษ์เหมือนกำลังเข้าฌาน ทุกสิ่งทุกอย่างรอบๆตัวไม่มีผลใดๆกับเขาอีก ขณะนี้ในจิตใจของเขา เหลือเพียงการเลื่อนขั้นเท่านั้น
เพราะรพีพงษ์เลื่อนขั้นกะทันหัน ค่ายกลจึงไม่มีใครบังคับ ธัชธรรมรับรู้ได้ชัดเจนว่าการต่อสู้ของตัวเองเริ่มหืดขึ้นคออีกแล้ว
แต่ดีหน่อยที่หลังจากค่ายกลเป็นรูปเป็นร่างแล้ว แม้ว่าไม่มีคนคอยบังคับ พลังที่อยู่ในนั้นก็ไม่มีทางสลายไป ดังนั้นธัชธรรมจะไม่มีทางแพ้เพราะเหตุผลนี้
ในขณะที่ธัชธรรมกำลังต่อสู้อย่างเหน็ดเหนื่อยอยู่นั้น ผู้ลี้ลับมองไปที่หน้าของเขาที่ปรากฏรอยยิ้มอย่างเซ็ง จากนั้นก็พึมพำ “คิดไม่ถึงว่าฉันจะถูกบีบมาถึงจุดนี้อย่างวันนี้ได้”
“แต่ถึงแม้ว่าครั้งนี้จะไม่สามารถไปหาปูชนียบุคคลคนนั้นได้ ก็ชั่ง เพียงแค่สามารถฆ่าคนเก่งที่สุดของจีนได้ก็พอแล้ว ครั้งหน้าค่อยจัดคนไป ง่ายกว่านี้เยอะ”
“อย่าคิดว่าแกมีค่ายกลเป็นตัวช่วย แล้ววันนี้จะพลิกเกมได้นะ วันนี้ แม้ต้องแลกด้วยชีวิต ฉันก็จะต้องให้แกตายให้ได้!”
พูดจบ ผู้ลี้ลับใช้วิชาอีกครั้ง จากนั้นกลิ่นอายพลังดูดที่แข็งแกร่งปรากฏขึ้น ดูดพลังชีวิตในร่างกายของเขาไปเกือบครึ่ง เข้าไปไว้ในร่างของหุ่นเชิด