พลิกนาฬิกา ย้อนชะตานางร้าย - ตอนที่ 68
บทที่ 68
Ink Stone_Romance
* * *
“แอนนี่ ฉันต้องออกไปข้างนอก เตรียมตัวเลย”
“ออกไปข้างนอกหรือคะ”
หน้าตาของแอนนี่สดใสขึ้นเมื่อได้ยินเรื่องที่เธอจะออกไปข้างนอกหลังจากที่ไม่ได้ออกมาเป็นระยะเวลานาน เธอมีแผนจะไปคาสิโน จึงแต่งตัวและทำผมประดับประดาอย่างหรูหราสง่างาม เธอขึ้นรถม้าและมุ่งหน้าไปทางเมือง พร้อมกับนำบัตรประจำตัวที่ปลอมแปลงอายุและสัญชาติ และหน้ากากแฟนซีที่จะใช้ในงานเต้นรำไปด้วย
จุดหมายปลายทางคือคาเฟ่ฟลาวเวอร์เมาน์เทน ที่นี่ยังเป็นสถานที่ที่เธอเจอแอช ขณะที่เธอกำลังผ่อนคลายอยู่บริเวณระเบียง แอนนี่ถามยืนยันหลายครั้ง เพราะไม่อยากจะเชื่อว่าเธอจะใส่ชุดหรูหราสุดๆ เพื่อไปอย่างมากที่สุดก็แค่คาเฟ่
“จะไปร้านกาแฟด้วยเสื้อผ้าหน้าผมแบบนี้จริงๆ หรือคะ”
“เธอถามมาเป็นครั้งที่ห้าแล้วนะ แอนนี่”
“แต่ว่ามันน่าเสียดายนี่คะ! อุตส่าห์แต่งตัวแบบนี้ทั้งที… จริงอยู่ว่าฟลาวเวอร์เมาน์เทนก็เป็นที่ที่ดีมาก แต่มันน่าเสียดายที่ดิฉันไม่ค่อยมีโอกาสได้โชว์เลดี้ที่แสนสวยขนาดนี้ให้เหล่าชายหนุ่มทั้งหลายได้ชมโฉมน่ะค่ะ”
อาเรียยิ้ม และปลอบเธอ
“ถ้ารออยู่เงียบๆ เดี๋ยวก็จะมีเรื่องสนุกๆ เกิดขึ้นเอง ดังนั้นก็ต้องใจเย็นๆ”
สุดท้ายแอนนี่ก็ยอมหุบปากเมื่อเธอบอกใบ้ให้ว่าฟลาวเวอร์เมาน์เทนไม่ใช่ปลายทาง แต่มีบางอย่างอยู่ด้านหลัง เธอคงจะใช้หัวน้อยๆ ของเธอจินตนาการอยู่ว่าเรื่องสนุกๆ ที่จะเกิดขึ้นนั้นมันคือเรื่องอะไรกัน
อาเรียเปลี่ยนไปขึ้นรถม้าคันใหม่ที่คาเฟ่ และมุ่งหน้าไปยังคาสิโน ซึ่งเป็นจุดหมายสุดท้าย แอนนี่ที่ได้ยินอาเรียบอกว่าคนขับรถม้าว่าจะไปคาสิโน ก็เบิกตาโพลง แล้วถาม
“…จะไปคาสิโนหรือคะ”
“ใช่”
“ทะ ทำไมล่ะคะ เลดี้อายุยังไม่ถึง ก็ไม่น่าจะเข้าไปได้นะคะ…”
“เดี๋ยวพอถึงแล้วก็รู้เอง เพราะอย่างนั้นก็ระวังอย่าให้พลาด เผลอเรียกชื่อฉันตอนอยู่ที่คาสิโนแล้วกัน”
“ถ้าเรียกว่าเลดี้ได้ไหมคะ”
“ได้ เรียกแบบนั้นแหละ”
แม้แอนนี่จะไม่รู้รายละเอียด แต่แววตาของเธอก็ส่องประกายเพราะมั่นใจว่าการไปคาสิโนโดยการปกปิดตัวตนครั้งนี้จะต้องสนุกแน่นอน
ตอนที่อยู่ข้างมิเอลนั้นมีแต่ความอิจฉาและริษยารางๆ แต่พออยู่ข้างอาเรียที่มีท่าทางการแสดงออกอย่างคนที่มาจากชนชั้นต่ำต้อย ซึ่งต่างจากชนชั้นสูง ก็มีแต่เรื่องน่าสนใจเกิดขึ้น ทำให้เธอรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก
รถม้าหยุดอยู่ที่ด้านหน้าคาสิโน ข้างนอกเสียงดังเจี๊ยวจ๊าวเหมือนกับว่ามาถึงแล้ว อาเรียยื่นหน้ากากที่นำมาด้วยให้แอนนี่อันหนึ่ง แล้วแอนนี่ผู้เข้าใจอะไรได้อย่างรวดเร็วก็หยิบหน้ากากมาใส่ โดยที่ไม่ได้ถามอะไรแม้แต่คำเดียว
หลังจากใส่หน้ากากและลงจากรถม้า พนักงานคาสิโนที่ยืนต้อนรับอยู่บริเวณทางเข้าก็จับมืออาเรีย และคุ้มกันเธอ แม้จะไม่เท่ารถม้าของตระกูลท่านเคานต์โรสเซนต์ แต่ก็ต้องขอบคุณที่ยืมรถม้าคุณภาพดีที่พอจะเทียบเท่ากันได้
เธอเห็นแอนนี่ได้รับการคุ้มกันจากพนักงานคนอื่นอยู่ทางด้านหลัง ดูจากเแววตาของเธอที่อยู่ภายใต้หน้ากากส่องระยิบระยับ เธอคงจะชอบใจสถานการณ์ในตอนนี้มากทีเดียว
พนักงานคาสิโนเอ่ยถาม
“ให้กระผมนำไปที่ไหนดีครับ”
“พาไปฮอลล์หลักที แล้วก็ชิปจำนวนร้อยโกลด์”
“ให้เตรียมเครื่องดื่มด้วยไหมครับ”
“ไวน์แดงปิโนต์ นัวร์สองแก้ว”
“รับทราบครับ”
ท่าทีการตอบคำถามพนักงานของอาเรียนั้นเป็นธรรมชาติมาก แน่นอนว่าเป็นเพราะเธอไปเยือนคาสิโนมาตั้งหลายครั้งแล้วในอดีต ด้วยส่วนสูงที่ไม่สามารถมองได้ว่าเป็นเด็ก ด้วยวิธีการพูดและท่าทางของเธอนั้น ทำให้พนักงานไม่ได้ตรวจบัตรประจำตัวเธอ และนำทางเธอไปยังฮอลล์หลัก
เนื่องจากไม่ใช่ห้องส่วนตัว แต่เป็นห้องโถงหลักที่มีคนเป็นร้อยเป็นพันรวมตัวกันอยู่ ทำให้ได้ยินเสียงเจี๊ยวจ๊าวมาตั้งแต่หน้าประตูทางเข้า
‘พระอาทิตย์ยังไม่ตกดินเลยแท้ๆ‘
จะกลางวันหรือกลางคืนก็ไม่สำคัญสำหรับผู้ที่ติดการพนัน เสียงโห่ร้องปนกับเสียงหัวเราะเป็นระยะๆ และเสียงหัวเราะราวกับเยาะเย้ยก็ดังขึ้นอีกครั้ง อีกทั้งยังได้ยินเสียงเหมือนอะไรแตกดังเพล้ง
อาเรียนั่งจิบไวน์อยู่ที่ระเบียงชั้น 2 พลางมองลงไปยังชั้น 1 อาเรียกำลังคิดสงสัยว่าเกมไหนจะดีที่สุด แอนนี่ถามอาเรียด้วยแก้มแดงๆ
“เลดี้คะ! คือว่า… ดิฉันขอไวน์นี้เพิ่มแก้วหนึ่งได้ไหมคะ”
อาเรียยกมือของเธอขึ้นเบาๆ ไว้ข้างหู พนักงานที่ยืนรออยู่ก็ตรงเข้ามาทันที แล้วคุกเข่าลงข้างหนึ่ง
“รับอะไรดีครับ”
“ไวน์ขวดนึง”
หลังจากนั้นไม่นาน พนักงานชายที่ยังดูหนุ่มก็นำไวน์มาให้ และเขาก็ตัวติดอยู่ข้างแอนนี่ตลอดเวลาเพื่อรินไวน์และเปลี่ยนแก้ว
ซึ่งเป็นบริการที่จะคอยตามบริการลูกค้าที่สั่งไวน์เป็นขวด แต่แอนนี่อยู่ไม่สุขเพราะเกิดมาเพิ่งเคยได้รับการดูแลเป็นครั้งแรก อาเรียเดาะลิ้นเตือนแอนนี่ที่ดื่มไวน์อย่างควบคุมตัวเองไม่ได้
“ถ้าเมาจะปล่อยทิ้งไว้นะ รู้ไว้ด้วย”
แอนนี่พยักหน้าด้วยใบหน้าร้อนผ่าวราวกับว่าเธอเริ่มเมาแล้วนิดหนึ่ง อาเรียหันสายตากลับไปยังฮอลล์หลัก
‘เกมไพ่ปกตินั้นมีค่าตัวแปรเยอะ ถึงจะใช้นาฬิกาทรายไป ก็ยังมีโอกาสที่จะแพ้อยู่ดี แข่งม้าก็เข้าท่าเลย แต่ว่า… ยังไม่ใช่เวลาสินะ‘
เพราะม้าที่เจ้าชายนำเข้ามาชนะติดต่อกันหลายตา ทุกคนจึงลงเงินแทงม้าแข่งตัวนั้น ทำให้ได้เงินส่วนแบ่งไม่มากนัก เกมเลือกตัวเลขที่อยู่บนรูเล็ตวงล้อ แล้วหมุนลูกแก้วเอง ถ้าดูผ่านๆ ก็อาจจะคิดได้ว่าเป็นเกมที่ต้องอาศัยดวง แต่จากประสบการณ์ของเธอแล้ว มันไม่ใช่แบบนั้น มันมีความเป็นไปได้อย่างมากที่เกมจะเดินไปตามพนักงานดีลเลอร์ที่หมุนรูเล็ตต์
‘ถ้าเป็นเกมที่ต้องอาศัยดวง 100% ล่ะก็…‘
พอเธอมองไปรอบๆ ฮอลล์ สายตาก็ไปสะดุดกับเกมไพ่รูเล็ตต์ ซึ่งเป็นเกมที่จะมีไพ่เรียงกันอยู่เป็นแถว ดีลเลอร์หยิบไพ่ขึ้นมาเพียงใบเดียว และผู้เล่นจะต้องจ่ายให้กับผู้ที่ได้ไพ่เหมือนกับใบนั้น ถ้าเป็นเกมนี้ล่ะก็ เธอสามารถชนะจำนวนเงินได้มากเท่าที่เธอต้องการด้วยการพลิกนาฬิกาทราย
อาเรียถือนาฬิกาทราย เดินออกมาจากแอนนี่ที่มัวเมาไปกับไวน์ แล้วย้ายที่นั่งไปที่ที่เขากำลังเล่นเกมไพ่รูเล็ตต์กันอยู่
เกมไพ่รูเล็ตไม่มีทางที่จะถูกจัดฉากได้ เพราะด้วยวิธีที่ดีลเลอร์จะสับไพ่ แล้ววางลงเรียงให้ผู้เล่นเลือกไพ่คนละใบ จากนั้นดีลเลอร์ถึงจะสามารถเลือกไพ่ที่คู่กันได้ เกมนี้จึงเป็นที่นิยมค่อนข้างมากในหมู่ผู้เล่นที่ไม่ไว้วางใจพนักงาน
“จะเลือกที่นั่งตรงไหนดีครับ”
“ฉันจะจบเกมภายในรอบเดียว”
เธอให้พนักงานดูชิปร้อยโกลด์ เขาจึงนำเธอไปยังที่นั่งที่ห่างจากตรงกลางเล็กน้อย ร้อยโกลด์ถือว่าเป็นเงินจำนวนมากขนาดที่เหล่าคนธรรมดาทั่วไปไม่อาจใฝ่ฝันถึงได้ก็จริง แต่ในคาสิโนแล้ว มันไม่ใช่เงินจำนวนมากขนาดนั้น
โต๊ะหลายตัววางเรียงอยู่ด้านหน้าพนักงานสับไพ่ เมื่อเธอนั่งลงตรงที่หนึ่งในนั้น ก็เห็นผู้คนที่แต่งตัวดีอยู่รอบๆ ตัว คงจะเป็นพวกที่เข้าร่วมเกมด้วยกัน ซึ่งมีอยู่ประมาณสิบกว่าคน
‘คนร่วมเกมรอบหนึ่งมีประมาณสิบคน…‘
ก็ไม่เลวเลย จำนวนขั้นต่ำคือร้อยโกลด์ ดังนั้นหมายความว่าเธอสามารถได้เงินพันโกลด์ภายในแค่เกมเดียว
ดีลเลอร์สับไพ่และวางลง พนักงานอีกคนที่ยืนเตรียมพร้อมอยู่ข้างๆ อาเรียก็เอ่ยปากถามเธอ
“จะเลือกไพ่ไหมครับ”
“ไม่ล่ะ เดี๋ยวฉันค่อยร่วมรอบต่อไป”
เนื่องจากต้องตรวจดูก่อนว่าไพ่ไหนจะถูกหยิบขึ้นมา และยังต้องตรวจสอบด้วยว่าไม่มีผู้ชนะ อาเรียวางนาฬิกาทรายไว้บนโต๊ะ แล้วรับชมเกมที่ดำเนินไปสักพัก
ตั้งแต่ตอนที่เช็กเวลาด้วยนาฬิกาพก พนักงานวางเรียงไพ่ จนถึงตอนที่ผู้เล่นจะเลือกหยิบไพ่ใบที่ต้องการขึ้นมาดูนั้น ใช้เวลาทั้งหมดไม่เกิน 5 นาที ช่างเป็นเวลาที่เหมาะสมมากทีเดียว
เช่นเดียวกับรอบของเกมส่วนใหญ่ ถึงแม้จะเป็นเกมเสี่ยงโชค แต่ก็ไม่มีผู้ชนะ เธอมองพนักงานเปิดไพ่แหม่มโพธิ์แดงขึ้นมา แล้วสับใหม่ ก่อนที่เธอจะพลิกนาฬิกาทราย
“จะเลือกไพ่ไหมครับ”
“อืม”
จากนั้นเธอดันชิปจำนวนร้อยโกลด์ไปด้านหน้าโต๊ะ แล้วบอกว่าเธอจะลงเงินพนัน
“ขอเดิมพันไพ่แหม่มโพธิ์แดงหมดหน้าตัก”
อาเรียถือไพ่แหม่มโพธิ์แดงที่พนักงานยื่นให้ พลางยิ้มอย่างสบายๆ เหล่าผู้เล่นแต่ละคนต่างตั้งความหวัง มองจ้องเขม็งไปยังมือของพนักงานที่หยิบไพ่วางลงแล้วพลิกกลับมา ผลมันถูกกำหนดไว้แล้ว ท่ามกลางโต๊ะที่เต็มไปด้วยเสียงถอนหายใจ อาเรียเป็นเพียงคนเดียวที่แอบหัวเราะอยู่ในใจ
“ตายจริง…! เธอร่วมเล่นเป็นครั้งแรกไม่ใช่หรือ”
“ดวงดีจริงๆ แต่ไม่มีทางที่เธอจะชนะรอบต่อไปหรอก”
เสียงปรบมือและเสียงผิวปากหลั่งไหล่มาที่เธอผู้ได้เงินจำนวนถึงสิบเท่าด้วยเพียงแค่รอบเดียว พนักงานถามเธอว่าจะลงเงินอีกไหม แต่เธอส่ายหัว และลุกออกจากที่นั่งโดยคิดไม่เสียดาย เพราะเวทมนตร์ของนาฬิกาทรายนั้นมีแค่ครั้งเดียวต่อวัน ตอนนี้ได้เวลากลับแล้ว
“ช่วยดูแลเพื่อนฉันทีได้ไหม”
ไม่รู้ว่าดื่มไวน์ไปขนาดไหน แอนนี่ถึงได้นอนหมดสภาพอยู่บนโซฟาราวกับรวงข้าวเปียก ซึ่งเป็นสภาพที่ดูซอมซ่อมากเสียจนอาเรียกลุ้มใจอยู่ครู่หนึ่งว่าอยากจะปล่อยเธอทิ้งไว้ ทว่าเธอก็ทำเช่นนั้นไม่ได้ จึงขอความช่วยเหลือจากพนักงานสักคนให้แบกแอนนี่ขึ้นไหล่ไป
“จะทำอย่างไรกับชิปดีครับ”
“เอาไว้อย่างนั้นแหละ แล้วก็เรื่องชำระเงินก็เก็บเอาจากชิปนะ”
เพราะไม่ว่าอย่างไรพรุ่งนี้ก็จะมาอีกอยู่ดี เธอกลับไปยังคาเฟ่อีกครั้ง เปลี่ยนขึ้นรถม้าของตระกูลท่านเคานต์ที่มารอเตรียมรับกลับไปยังคฤหาสน์
สำหรับแอนนี่ที่มีสภาพหมดแรงนั้น เธออธิบายไปว่าเป็นเพราะแอนนี่กินช็อกโกแลตที่ผสมแอลกอฮอล์อยู่เล็กน้อย เลยเป็นแบบนั้น เนื่องจากวิธีที่เด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะจะสามารถดื่มแอลกอฮอล์ได้นั้น มีอยู่ไม่มากนัก จึงไม่ยากที่จะโกหก
วันรุ่งขึ้น แอนนี่ปรากฏตัวขึ้นในสภาพเมาค้างพลางกุมหัวตัวเอง และเมื่อเธอบอกแอนนี่ว่าจะออกไปข้างนอกอีก แอนนี่ก็เปลี่ยนเป็นทำทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วแต่งตัวให้หรูหราโดดเด่นยิ่งกว่าเมื่อวาน
“ถ้าวันนี้ยังเป็นเหมือนเมื่อวานอีก จะปล่อยทิ้งไว้จริงๆ แล้วนะ”
“…เมื่อวานต้องขออภัยด้วยจริงๆ ค่ะ เลดี้ ดิฉันไม่รู้ว่าตัวเองคออ่อนขนาดนั้น วันนี้ดิฉันจะตามติดอยู่ข้างๆ เลดี้ตลอดเวลาแน่นอนค่ะ”
แอนนี่ตามติดเธอแจจริงๆ ราวกับสำนึกผิดในสิ่งที่ตัวเองทำไปเมื่อวาน แน่นอนว่าในมือของเธอถือไวน์ขาวปิโนต์ นัวร์อยู่ เธอไม่ได้ดื่มจนหมดแก้ว ราวกับตั้งใจจะแก้ตัว
“จะเลือกที่นั่งตรงไหนดีครับ”
พนักงานคนเดิมกับเมื่อวานเอ่ยปากถามอาเรีย อาเรียโชว์ชิปประมาณพันโกลด์ให้ดู แล้วตอบ
“ฉันจะจบเกมภายในรอบเดียว”
ทันใดนั้นเขาก็นำเธอไปยังที่นั่งตรงกลาง ซึ่งต่างจากเมื่อวาน ผู้เข้าร่วมเกมมีประมาณสิบคนเหมือนกับเมื่อวาน แต่ผู้ที่มายืนชมมีมากกว่านั้นจนนับไม่สามารถนับได้ เหมือนกับว่าแอนนี่ตกใจฝูงชนที่มาดู จึงย่อตัวลงถามเธอ
“เลดี้คะ เลดี้โชว์ชิปให้ดูไปเท่าไหร่กันคะนี่ คนถึงได้มาดูเยอะขนาดนี้”
“พันโกลด์”
“พะ พันโกลด์หรือคะ!”
แอนนี่ตกใจเสียงดัง ผู้คนต่างหันมามอง เธอจึงหน้าแดงขึ้นมา ก่อนจะถามอาเรียอีกที
“เมื่อกี้เลดี้บอกว่าพันโกลด์หรือคะ พันโกลด์! หมายความว่าพันโกลด์ในตาเดียวหรือคะ!”
“แอนนี่ เธอไม่ต้องย้ำขนาดนั้นก็ได้ ถูกต้องแล้ว พันโกลด์”
“ถะ ถ้าอย่างนั้น ถ้าเลดี้ชนะ เลดี้จะได้เงินเท่าไหร่หรือคะ…”
“ก็คูณจำนวนผู้เล่นเข้าไปสิ”
“ดูแล้วมีประมาณสิบคน ดังนั้น… ถ้าชนะ ก็จะได้หมื่นโกลด์หรือคะ!”
นั่นเป็นจำนวนเงินที่ตระกูลท่านเคานต์ใช้จับจ่ายในเวลาครึ่งปี เงินจำนวนนั้นเป็นรายจ่ายของท่านเคานต์และเคาน์ติส อาเรียและมิเอล เงินติดกระเป๋าของเคน และสุดท้ายพวกค่าอาหารและค่าบำรุงดูแลต่างๆ ที่รวมถึงเงินเดือนของเหล่าคนรับใช้
พิจารณาจากทรัพย์สมบัติมากมายของตระกูลท่านเคานต์แล้ว จะต้องเป็นจำนวนเงินก้อนใหญ่เลยทีเดียว แอนนี่พูดพลางเช็ดเหงื่อที่จู่ๆ ก็ผุดขึ้นมาบนฝ่ามือ
“เลดี้คะ ต้องชนะ จะต้องชนะให้ได้นะคะ ต้องชนะนะคะ”
เงินของตัวเองก็ไม่ใช่ แต่เธอดันมีท่าทีตื่นเต้นเกินเหตุ
“พยายามเข้านะคะ!”
จะให้เธอพยายามอะไรในเมื่อมันเป็นเกมที่ความแพ้และชนะขึ้นอยู่กับดวง แม้เธอจะรู้อยู่แล้ว แต่แอนนี่ก็แลดูน่ารักเมื่อพูดจาไร้สาระ อาเรียจึงตอบกลับไปว่าเข้าใจแล้วพร้อมกับเผยยิ้มด้วยความเอ็นดู เป็นผลมาจากความผ่อนคลายของอาเรียที่รู้ว่าตัวเองจะชนะทั้งหมด
อาเรียเริ่มพลิกนาฬิกาเมื่อเห็นพนักงานผสมไพ่ 4 ดอกจิกเข้ากับไพ่อื่นๆ จากนั้นเธอก็ลงชิปพนันทั้งหมด แล้วพูดเหมือนกับเมื่อวาน
“ขอเดิมพันไพ่ 4 ดอกจิกหมดหน้าตัก”
และเช่นเดียวกับเมื่อวาน เธอได้รับเงินจำนวนหมื่นโกลด์ภายในเวลาไม่ถึง 5 นาทีเท่านั้น อาเรียออกจากคาสิโนหลังจากเล่นเพียงแค่หนึ่งเกมโดยไม่คิดเสียดาย เช่นเดียวกับเมื่อวาน
ข่าวลือเรื่องแพร่กระจายไปทั่วคาสิโนอย่างรวดเร็วว่ามีหญิงสาววัยแรกแย้มได้เงินจำนวนหมื่นโกลด์จากร้อยโกลด์ภายในสองเทิร์นในเวลาเพียงแค่สองวัน
……………………………………………..