พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า - บทที่ 2167 เหนียงเหนียงโปรดสารวมกริยา
ในตึกศาลำสองแม่ลูกดื่มด้วยกัน ทั้งคู่ล้วนมีสีหน้ากลัดกลุ่มใจ กำลังคิดว่าต้องทิ้งอาณาเขตใหญ่โตขนาดนี้ไปแล้ว ราชินีสวรรค์กับโอรสสวรรค์ผู้สง่าภูมิฐานต้องหดหัวอยู่ในสถานที่ธุรกันดำรอย่างนั้น ในใจรู้สึกไม่สบอารมณ์มาก
เมื่อแน่ใจแล้วว่าเบื้องล่างเริ่มเก็บรวบรวมกำลังพล ชิงหยวนจุนก็วางระฆังดาราแล้วถอนหายใจ “เฮ้อ”
“จุนเอ๋อร์ถอนหายใจทำไม ?” เซี่ยโห้วเฉิงอวี่
ชิงหยวนจุนส่ำย่อหน้ายิ้มเจื่อน “ลูกไม่เต็มใจ!”
รู้ถึงความรู้สึกของนาง เซี่ยโห้วเฉิงอวี่บอกว่า “ลูกชายข้าอย่าท้อแท้ นี่ไม่นับว่าพ่ายแพ้อะไร ในปีนั้นหนิวโหย่วเต๋อได้รับความยากลำบากครั้งแล้วครั้งเล่าหลายครั้งแทบจะเอาชีวิตไม่รอด แต่เขาก็ยิ่งแพ้ยิ่งกล้าหาญ ตอนนี้ได้เป็นอ๋องสวรรค์คุมทัพใต้แล้ว นี่ก็คือตัวอย่างลูกชายข้าจะสู้กับคนธรรมดาสามัญไม่ได้เชียวหรือ ? แต่ตอนนี้พวกเราถูกสถานการณ์บีบบังคับ ต้องคอยเกรงใจคนอื่นอย่างเลี่ยงไม่ได้ คำโบราณกล่าวไว้ดีมาก ถอยหนังกาว ทะเลกว้างฟ้าใส!” คำพูดไพเราะไม่ว่าใครก็พูดได้ทั้งนั้น แต่เมื่อเรื่องราวมาถึงตัวนำง นางกลับไม่ได้สง่าผ่าเผยอย่างนี้
เมื่อแน่ใจแล้วว่าเบื้องล่างเริ่มเก็บรวบรวมกำลังพล ชิงหยวนจุนก็วางระฆังดาราแล้วถอนหายใจ “เฮ้อ”
“จุนเอ๋อร์ถอนหายใจทำไม ?” เซี่ยโห้วเฉิงอวี่
ชิงหยวนจุนส่ำย่อหน้ายิ้มเจื่อน “ลูกไม่เต็มใจ!”
รู้ถึงความรู้สึกของนาง เซี่ยโห้วเฉิงอวี่บอกว่า “ลูกชายข้าอย่าท้อแท้ นี่ไม่นับว่าพ่ายแพ้อะไร ในปีนั้นหนิวโหย่วเต๋อได้รับความยากลำบากครั้งแล้วครั้งเล่าหลายครั้งแทบจะเอาชีวิตไม่รอด แต่เขาก็ยิ่งแพ้ยิ่งกล้าหาญ ตอนนี้ได้เป็นอ๋องสวรรค์คุมทัพใต้แล้ว นี่ก็คือตัวอย่างลูกชายข้าจะสู้กับคนธรรมดาสามัญไม่ได้เชียวหรือ ? แต่ตอนนี้พวกเราถูกสถานการณ์บีบบังคับ ต้องคอยเกรงใจคนอื่นอย่างเลี่ยงไม่ได้ คำโบราณกล่าวไว้ดีมาก ถอยหนังกาว ทะเลกว้างฟ้าใส!” คำพูดไพเราะไม่ว่าใครก็พูดได้ทั้งนั้น แต่เมื่อเรื่องราวมาถึงตัวนำง นางกลับไม่ได้สง่าผ่าเผยอย่างนี้
“เสด็จแม่พูดถูก เป็นถูกเองที่ไม่ทำสภาพจิตใจให้ถูกต้อง เพียงแต่ว่า…” ชิงหยวนจุนอึกอักเหมือนอยากพูดอะไร สุดท้ายก็ขมวดคิ้วบอกว่า “คิดไม่ตกว่าตระกูลเซี่ยโห้วคิดยังไงกันแน่ พวกเรายินดีเป็นฝ่ายไปขอพึ่งพาแล้ว ในเมือตั้งใจจะสนับสนุน ทำไมยังต้องให้หนิวโหย่วเต๋อมาเป็นคนกลางอีก ?”
ตอนแรกยังซื่อบื้อก่อกบฏภายใต้อารมณ์โกรธชั่ววูบ ตอนนี้เริ่มสังเกตได้นิดหน่อยว่าเหมือนจะถูกหนิวโหย่วเต๋อจูงจมูกเดินมาตลอด ทว่าสถานการณ์ทำให้เขาไม่มีอำนาจตัดสินใจเลย เดินมาถึงขั้นนี้แล้วเหมือนจะไม่มีทางเลือกมากนัก
ใต้ตึก ฉินฟ่างสวมเกราะรบนำคนหลายสิบคนเดินก้าวยาวมาจากปลายสุดของทางเดิน
พอเดินมาถึงใต้ตึกศาลำ ในบรรดาสาวใช้ที่คอยปรนนิบัติ เอ๋อเหมยออกมายื่นมือขวาง “ขุนพลฉินมเรื่องอะไร บ่าวจะไปรายงานก่อน!” สายตามองประเมินคนที่ถือดาบถือทวนอยู่ข้างหลัง
ใครจะคิดฉันฟ่างไม่พูดพร่ำทำเพลงเลย จู่ ๆ ก็ชักกระบี่วิเศษออกจากฝัก ถือโอกาสปาดเฉียงขึ้นไป ทำให้เกิดดอกเลอดกลุ่มหนึ่ง
เหนือความคาดหมายโดยสมบูรณ์ เอ๋อเหมยแทบจะตอบสนองอะไรไม่ทันด้วยซ้ำนางเบิกตากว้าง ในดวงตำเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อซี่โครงขวาจนถึงไหล่ขวามีเลือดสาดออกมาก่อนจะพังทลายลงไป ร่างกายท่อนล่างล้มตามลงไปเช่นกัน
ตอนแรกยังซื่อบื้อก่อกบฏภายใต้อารมณ์โกรธชั่ววูบ ตอนนี้เริ่มสังเกตได้นิดหน่อยว่าเหมือนจะถูกหนิวโหย่วเต๋อจูงจมูกเดินมาตลอด ทว่าสถานการณ์ทำให้เขาไม่มีอำนาจตัดสินใจเลย เดินมาถึงขั้นนี้แล้วเหมือนจะไม่มีทางเลือกมากนัก
ใต้ตึก ฉินฟ่างสวมเกราะรบนำคนหลายสิบคนเดินก้าวยาวมาจากปลายสุดของทางเดิน
พอเดินมาถึงใต้ตึกศาลำ ในบรรดาสาวใช้ที่คอยปรนนิบัติ เอ๋อเหมยออกมายื่นมือขวาง “ขุนพลฉินมเรื่องอะไร บ่าวจะไปรายงานก่อน!” สายตามองประเมินคนที่ถือดาบถือทวนอยู่ข้างหลัง
ใครจะคิดฉันฟ่างไม่พูดพร่ำทำเพลงเลย จู่ ๆ ก็ชักกระบี่วิเศษออกจากฝัก ถือโอกาสปาดเฉียงขึ้นไป ทำให้เกิดดอกเลอดกลุ่มหนึ่ง
เหนือความคาดหมายโดยสมบูรณ์ เอ๋อเหมยแทบจะตอบสนองอะไรไม่ทันด้วยซ้ำนางเบิกตากว้าง ในดวงตำเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อซี่โครงขวาจนถึงไหล่ขวามีเลือดสาดออกมาก่อนจะพังทลายลงไป ร่างกายท่อนล่างล้มตามลงไปเช่นกัน
เลือดสดสาดเข้ามาฉินฟ่างไม่ได้หลบ ปล่อยให้เลือดกระเด็นใส่ร่างกายตัวเอง
สาวใช้หลายคนที่อยู่ข้างหลังตกใจค้าง คนถือดาบทวันที่อยู่ข้างหลังฉินฟ่างตามสังหารสาวใช้เหล่านั้นทันที่สาวใช้ที่เริ่มระวังตัวบ้างแล้วรีบถลันหลบ ขณะเดียวกันก็ส่งเสียงกรีดร้อง “มีมือสังหาร มีมือสังหาร…”
ทหารหลายสิบคนไล่ตามสังหาร
ฉินฟ่างที่ปลายกระบี่มีเลือดหยด ถือกระบี่เดินขึ้นมาบนตึกทีละก้าว
เซี่ยโห้วเฉิงอวี่กับชิงหยวนจุนที่อยู่บนตึกกำลังรู้สึกสมองมืดทึบ คนหนึ่งส่ำย่อหน้าคนหนึ่งเอามือนวดขมับ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงกรีดร้องดังมาจากด้านล่าง สองแม่ลูกตกใจ ลุกขึ้นยืนพร้อมกัน เซี่ยโห้วเฉิงอวี่ร่างกายโซเซ ส่วนชิงหยวนจุนก็นั่งกลับลงไป พยายามออกแรงตบหน้าผากตัวเอง
เซี่ยโห้วเฉิงอวี่พลันจ้องอาหารบนโต๊ะ ทำสีหน้าตกใจเสียขวัญ “ในอาหารมียาพิษ! ใครก็ได้…” ตะโกนหลายครั้งแต่ไม่มีเสียงตอบ อยากจะร่ำยอิทธิฤทธิ์แต่กลับพบว่าพลังอิทธิฤทธิ์เชื่องช้าลง ข้างล่างมีเสียงฝีเท้าประชิดเข้ามา เซี่ยโห้วเฉิงอวี่โซเซไปอยู่ข้างกายชิงหยวนจุนทันที่ประคองแขนเขาพร้อมบอกว่า “จุนเอ๋อร์ รีบไป!”
สาวใช้หลายคนที่อยู่ข้างหลังตกใจค้าง คนถือดาบทวันที่อยู่ข้างหลังฉินฟ่างตามสังหารสาวใช้เหล่านั้นทันที่สาวใช้ที่เริ่มระวังตัวบ้างแล้วรีบถลันหลบ ขณะเดียวกันก็ส่งเสียงกรีดร้อง “มีมือสังหาร มีมือสังหาร…”
ทหารหลายสิบคนไล่ตามสังหาร
ฉินฟ่างที่ปลายกระบี่มีเลือดหยด ถือกระบี่เดินขึ้นมาบนตึกทีละก้าว
เซี่ยโห้วเฉิงอวี่กับชิงหยวนจุนที่อยู่บนตึกกำลังรู้สึกสมองมืดทึบ คนหนึ่งส่ำย่อหน้าคนหนึ่งเอามือนวดขมับ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงกรีดร้องดังมาจากด้านล่าง สองแม่ลูกตกใจ ลุกขึ้นยืนพร้อมกัน เซี่ยโห้วเฉิงอวี่ร่างกายโซเซ ส่วนชิงหยวนจุนก็นั่งกลับลงไป พยายามออกแรงตบหน้าผากตัวเอง
เซี่ยโห้วเฉิงอวี่พลันจ้องอาหารบนโต๊ะ ทำสีหน้าตกใจเสียขวัญ “ในอาหารมียาพิษ! ใครก็ได้…” ตะโกนหลายครั้งแต่ไม่มีเสียงตอบ อยากจะร่ำยอิทธิฤทธิ์แต่กลับพบว่าพลังอิทธิฤทธิ์เชื่องช้าลง ข้างล่างมีเสียงฝีเท้าประชิดเข้ามา เซี่ยโห้วเฉิงอวี่โซเซไปอยู่ข้างกายชิงหยวนจุนทันที่ประคองแขนเขาพร้อมบอกว่า “จุนเอ๋อร์ รีบไป!”
สองแม่ลูกเดินโซเซออกจากโต๊ะ เดินไปได้ไม่ไกลนัก ข้างหลังก็มีเสียงทุ้มต่ำดังมา “เหนียงเหนียง องค์ชาย จะไปไหนักน ?”
พอสองแม่ลูกหันกลับไปมอง สายตำก็หยุดอยู่บนกระบี่วิเศษเปื้อนเลือดบนมือฉินฟ่าง บนใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัวทันที่
“รีบหนี้ไป!” เซี่ยโห้วเฉิงอวี่ผลักลูกชาย เอาร่างกายมาขวางตรงหน้า ชี้เขาพลางตะโกนว่า “ับงอาจ! ฉินฟ่าง เจ้าคิดจะทำอะไร ?”
เสียงต่อสู้ข้างล่างสงบลงเร็วมาก เสียงกรีดร้องสุดท้ายดังออกมาชิงหยวนจุนเอียงหนามิอง มองจากบนระเบี่ยงเห็นสาวใช้คนหนึ่งของตัวเองใต้ตึกโดนฟันหัวขาด เป็นครั้งแรกที่เจอทหารกบฏอย่างนี้ เขาตกใจจนขวัญกระเจิง ใบหน้าซีดขาว ไม่สนใจมารดาตัวเองแล้ว ล้มลุกคลุกคลานวิ่งหนีอยู่อย่างนั้น
ฉินฟ่างพลิกมือคว้ากระบี่ โบกมือแทงกระบี่ออกมา แสงสะท้อนคมกระบี่แฉลบผ่านตัวเซี่ยโห้วเฉิงอวี่ไป
“อำ!” เสียงกรีดร้องดังขึ้น
เสียงที่คุ้นเคยนั้นทำให้เซี่ยโห้วเฉิงอวี่ตัวสั่นขณะหันกลับไปมอง เห็นเพียงชิงหยวนจุนถูกกระบี่วิเศษแทงทะลุหลังแล้ว ตอกไว้บนเสาต้นหนึ่งข้างระเบี่ยง เลือดสดไหลหยดลงมามือเท้าขยับดิ้นรน แต่กลับไม่มีทางหนี้ไปได้ กอดเสาหันกลับมาอย่างไร้เรี่ยวแรง ร้องเรีกยเสียงสั่นว่า “เสด็จแม่ช่วยข้าด้วย…ช่วยข้าด้วย…”
พอสองแม่ลูกหันกลับไปมอง สายตำก็หยุดอยู่บนกระบี่วิเศษเปื้อนเลือดบนมือฉินฟ่าง บนใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัวทันที่
“รีบหนี้ไป!” เซี่ยโห้วเฉิงอวี่ผลักลูกชาย เอาร่างกายมาขวางตรงหน้า ชี้เขาพลางตะโกนว่า “ับงอาจ! ฉินฟ่าง เจ้าคิดจะทำอะไร ?”
เสียงต่อสู้ข้างล่างสงบลงเร็วมาก เสียงกรีดร้องสุดท้ายดังออกมาชิงหยวนจุนเอียงหนามิอง มองจากบนระเบี่ยงเห็นสาวใช้คนหนึ่งของตัวเองใต้ตึกโดนฟันหัวขาด เป็นครั้งแรกที่เจอทหารกบฏอย่างนี้ เขาตกใจจนขวัญกระเจิง ใบหน้าซีดขาว ไม่สนใจมารดาตัวเองแล้ว ล้มลุกคลุกคลานวิ่งหนีอยู่อย่างนั้น
ฉินฟ่างพลิกมือคว้ากระบี่ โบกมือแทงกระบี่ออกมา แสงสะท้อนคมกระบี่แฉลบผ่านตัวเซี่ยโห้วเฉิงอวี่ไป
“อำ!” เสียงกรีดร้องดังขึ้น
เสียงที่คุ้นเคยนั้นทำให้เซี่ยโห้วเฉิงอวี่ตัวสั่นขณะหันกลับไปมอง เห็นเพียงชิงหยวนจุนถูกกระบี่วิเศษแทงทะลุหลังแล้ว ตอกไว้บนเสาต้นหนึ่งข้างระเบี่ยง เลือดสดไหลหยดลงมามือเท้าขยับดิ้นรน แต่กลับไม่มีทางหนี้ไปได้ กอดเสาหันกลับมาอย่างไร้เรี่ยวแรง ร้องเรีกยเสียงสั่นว่า “เสด็จแม่ช่วยข้าด้วย…ช่วยข้าด้วย…”
เซี่ยโห้วเฉิงอวี่แทบจะตำถลน ตกใจจนทรุดนั่งกับพื้น นางได้ยินเสียงฝีเท้าเดินมาข้างกายพอหันไปมองแล้วเห็นว่าเป็นฉินฟ่าง ก็ยื่นมือขวางพลางตวาดถาม “เจ้าคิดจะก่อกบฏเหรอ ?”
ฉินฟ่างก้มมองต่ำกล่าวอย่างเย็นชาวา “คนที่ก่อกบฏคือพวกเจ้าสองแม่ลูกต่างหาก แต่กลับวางกับดักพวกเราแล้ว! เดิมทีคิดว่าติดตามพวกเจ้าสองแม่ลูกแล้วจะมีอนาคตแต่ใครจะคิด…ถอยกลับแดนรัตติกำลัง้นเหรอ ? พวกเจ้าสองคนช่างคิดได้ เจ้าคิดว่าตำหนักสวรรค์ยังจะควักค่าจ้างเลี้ยงทัพใหญ่แดนรัตติกาลหรือไง ? พวกเจ้าสองคนจะเอาอะไรมาเลี้ยงกำลังพลมากขึ้นาดนั้น ?”
เซี่ยโห้วเฉิงอวี่มองแม่ที่พคนอื่นที่กำลังจ้องมองอย่างดุร้าย ตอบเสียงดังว่า “มีคนให้ทรัพยากร ขอเพียงข้าเอ่ยปาก อ๋องสวรรค์คุมทัพใต้จะต้องให้แน่นอน ทั้งยังมีตระกูลเซี่ยโห้วอีก ฆ่าเขาให้ข้าฆ่าเขาให้เขารีบช่วยองค์ชาย!”
ฉินฟ่างแสยะยิ้ม “ในเมือหวังให้คนอื่นเลียง พวกเรายังต้องห่วงให้พวกเจ้าสองแม่ลูกมาเลี้ยงอีกเหรอยังจำเป็นต้องเชื่อฟังพวกเจ้าสองแม่ลูกอีกเหรอ ?” พูดจบก็เดินไปข้างหน้าต่อ
เซี่ยโห้วเฉิงอวี่ที่ล้มอยู่บนพื้นกระโจนเข้ามากอดขำฉินฟ่างเอาไว้ ส่ำย่อหน้าวิงวอนขอร้อง “ขอร้องเจ้าล่ะ! ข้าขอร้องเจ้าปล่อยจุนเอ๋อร์ไป ช่วยเขาด้วย!”
“เหนียงเหนียงโปรดสารวมกริยา!” ฉินฟ่างยกเท้าขึ้นมา เซี่ยโห้วเฉิงอวี่ล้มไปด้านข้าง หมอบบนพื้นพลางร้องอย่างโศกเศร้า “อย่า!”
ฉินฟ่างก้มมองต่ำกล่าวอย่างเย็นชาวา “คนที่ก่อกบฏคือพวกเจ้าสองแม่ลูกต่างหาก แต่กลับวางกับดักพวกเราแล้ว! เดิมทีคิดว่าติดตามพวกเจ้าสองแม่ลูกแล้วจะมีอนาคตแต่ใครจะคิด…ถอยกลับแดนรัตติกำลัง้นเหรอ ? พวกเจ้าสองคนช่างคิดได้ เจ้าคิดว่าตำหนักสวรรค์ยังจะควักค่าจ้างเลี้ยงทัพใหญ่แดนรัตติกาลหรือไง ? พวกเจ้าสองคนจะเอาอะไรมาเลี้ยงกำลังพลมากขึ้นาดนั้น ?”
เซี่ยโห้วเฉิงอวี่มองแม่ที่พคนอื่นที่กำลังจ้องมองอย่างดุร้าย ตอบเสียงดังว่า “มีคนให้ทรัพยากร ขอเพียงข้าเอ่ยปาก อ๋องสวรรค์คุมทัพใต้จะต้องให้แน่นอน ทั้งยังมีตระกูลเซี่ยโห้วอีก ฆ่าเขาให้ข้าฆ่าเขาให้เขารีบช่วยองค์ชาย!”
ฉินฟ่างแสยะยิ้ม “ในเมือหวังให้คนอื่นเลียง พวกเรายังต้องห่วงให้พวกเจ้าสองแม่ลูกมาเลี้ยงอีกเหรอยังจำเป็นต้องเชื่อฟังพวกเจ้าสองแม่ลูกอีกเหรอ ?” พูดจบก็เดินไปข้างหน้าต่อ
เซี่ยโห้วเฉิงอวี่ที่ล้มอยู่บนพื้นกระโจนเข้ามากอดขำฉินฟ่างเอาไว้ ส่ำย่อหน้าวิงวอนขอร้อง “ขอร้องเจ้าล่ะ! ข้าขอร้องเจ้าปล่อยจุนเอ๋อร์ไป ช่วยเขาด้วย!”
“เหนียงเหนียงโปรดสารวมกริยา!” ฉินฟ่างยกเท้าขึ้นมา เซี่ยโห้วเฉิงอวี่ล้มไปด้านข้าง หมอบบนพื้นพลางร้องอย่างโศกเศร้า “อย่า!”
พอเดินมาข้างหลังชิงหยวนจุน ฉินฟ่างก็ชักกระบี่แหย่เข้ามาตรงคอชิงหยวนจุนมีเลือดสาดออกมาศีรษะใบใหญ่กลิ้งบนไม้กระดาน จากนั้นร่างก็ล้มลงพื้น
เซี่ยโห้วเฉิงอวี่ถลึงตากว้าง รู้สึกโงเขลาอย่างถึงที่สุด ฉากที่อยู่ตรงหน้ารวมทั้งแต่ละฉากในอดีตที่ผ่านมาราวกับเป็นความฝันฉากหนึ่ง
“พำตัวไป!” ฉินฟ่างตะคอก มีคนสองเข้ามาขนาบข้างเซี่ยโห้วเฉิงอวี่แล้วคล้องแขนลากออกไปทันที่
ส่วนฉินฟ่างก็โน้มตัวเก็บศีรษะของชิงหยวนจุนขึ้นมาชูไปทางตึกไกล ๆ หลังหนึ่งที่หน้าต่างปิดสนิท
ึตกนั้นเปิดหน้าต่างออกครึ่งเดียว ร่างของหยางชิ่งหันหลังให้แล้วหายไป…
ใช้เวลาไม่นาน บนฟ้าก็มีกำลังพลกลุ่มหนึ่งสังหารเข้ามาทางนี้อย่างรวดเร็ว ผู้บัญชาการทัพก็คือเหิงอู๋เต้า…
ในจวนเทพประจำดาว เยี่ยนหลูหนึ่งในหัวหน้าภาคทั้งห้าของทัพใหญ่แดนรัตติกาล กำลังเดินไปเดินมาอยู่ในศาลำอาลัยอาวรณ์ทิวทัศน์อันงดงามในจวันนี้เช่นกัน
ตั้งแต่เข้ามาอยู่ในตำหนักสวรรค์ เวลาส่วนใหญ่ของเขาก็ใช้ไปกับการฟังคำสั่งอยู่ในกองทัพองครักษ์ ตอนหลังถูกย้ายเข้ามาในทัพใหญ่แดนรัตติกาล ยังไม่เคยได้เสพสุขกับจวันทั้งดงามหรูหราขนาด
เซี่ยโห้วเฉิงอวี่ถลึงตากว้าง รู้สึกโงเขลาอย่างถึงที่สุด ฉากที่อยู่ตรงหน้ารวมทั้งแต่ละฉากในอดีตที่ผ่านมาราวกับเป็นความฝันฉากหนึ่ง
“พำตัวไป!” ฉินฟ่างตะคอก มีคนสองเข้ามาขนาบข้างเซี่ยโห้วเฉิงอวี่แล้วคล้องแขนลากออกไปทันที่
ส่วนฉินฟ่างก็โน้มตัวเก็บศีรษะของชิงหยวนจุนขึ้นมาชูไปทางตึกไกล ๆ หลังหนึ่งที่หน้าต่างปิดสนิท
ึตกนั้นเปิดหน้าต่างออกครึ่งเดียว ร่างของหยางชิ่งหันหลังให้แล้วหายไป…
ใช้เวลาไม่นาน บนฟ้าก็มีกำลังพลกลุ่มหนึ่งสังหารเข้ามาทางนี้อย่างรวดเร็ว ผู้บัญชาการทัพก็คือเหิงอู๋เต้า…
ในจวนเทพประจำดาว เยี่ยนหลูหนึ่งในหัวหน้าภาคทั้งห้าของทัพใหญ่แดนรัตติกาล กำลังเดินไปเดินมาอยู่ในศาลำอาลัยอาวรณ์ทิวทัศน์อันงดงามในจวันนี้เช่นกัน
ตั้งแต่เข้ามาอยู่ในตำหนักสวรรค์ เวลาส่วนใหญ่ของเขาก็ใช้ไปกับการฟังคำสั่งอยู่ในกองทัพองครักษ์ ตอนหลังถูกย้ายเข้ามาในทัพใหญ่แดนรัตติกาล ยังไม่เคยได้เสพสุขกับจวันทั้งดงามหรูหราขนาด
นี้มาก่อน นี่เพิ่งเสพสุขได้ไม่กี่วัน ผลปรากฏว่าต้องทิ้งไปอีกแล้ว แต่สถานการณ์ก็ทำให้คนทำตามใจตัวเองไม่ได้!
รองหัวหน้าภาคจ้าวเซียนเดินก้าวยาวเข้ามากุมหมัดคารวะ “นายท่าน!”
“ระดมกำลังพลไปถึงไหนแล้ว ?” เยี่ยนหลูเอ่ยถาม
จ้าวเซียนบอกว่า “ใกล้แล้วขอรับ…แต่ข้าน้อยได้ยินข่าวบางอย่างมาจากเพื่อนร่วมงานที่ดีจอมพลสายมะเส็งสถานการณ์ไม่ค่อยดี ไม่รู้ว่าจริงหรือโกหก”
เยี่ยนหลูเหล่ตามอง “มีอะไรก็พูดมาตรง ๆ ไม่ตองอูึกอัก”
จ้าวเซียนขมวดคิ้ว “ได้ยินว่าองค์ชายตายแล้ว”
“เจ้าพูดเหลวไหลอะไรกัน ?” คำพูดของเขาทำให้เยี่ยนหลูตกใจทันที่
จ้าวเซียนบอกว่า “ข้าน้อยก็ได้ยินมาเหมือนกัน ข้าน้อยก็รู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ฟังจากที่อีกฝ่ายพูดก็เหมือนจะใช้่องค์ชายออกคำสั่งให้ถอนทัพกลับแดนรัตติกาล ทำให้คนจำนวนมากไม่พอใจ ฉินฟ่าง หัวหน้าภาคฉินต่อต้านอย่างหนัก องค์ชายโมโหมากต้องการสั่งลงโทษหัวหน้าภาคฉิน ผลปรากฏว่าหัวหน้าภาคฉินนำทหารมาสังหารู้องค์ชายด้วยความโมโห!”
รองหัวหน้าภาคจ้าวเซียนเดินก้าวยาวเข้ามากุมหมัดคารวะ “นายท่าน!”
“ระดมกำลังพลไปถึงไหนแล้ว ?” เยี่ยนหลูเอ่ยถาม
จ้าวเซียนบอกว่า “ใกล้แล้วขอรับ…แต่ข้าน้อยได้ยินข่าวบางอย่างมาจากเพื่อนร่วมงานที่ดีจอมพลสายมะเส็งสถานการณ์ไม่ค่อยดี ไม่รู้ว่าจริงหรือโกหก”
เยี่ยนหลูเหล่ตามอง “มีอะไรก็พูดมาตรง ๆ ไม่ตองอูึกอัก”
จ้าวเซียนขมวดคิ้ว “ได้ยินว่าองค์ชายตายแล้ว”
“เจ้าพูดเหลวไหลอะไรกัน ?” คำพูดของเขาทำให้เยี่ยนหลูตกใจทันที่
จ้าวเซียนบอกว่า “ข้าน้อยก็ได้ยินมาเหมือนกัน ข้าน้อยก็รู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ฟังจากที่อีกฝ่ายพูดก็เหมือนจะใช้่องค์ชายออกคำสั่งให้ถอนทัพกลับแดนรัตติกาล ทำให้คนจำนวนมากไม่พอใจ ฉินฟ่าง หัวหน้าภาคฉินต่อต้านอย่างหนัก องค์ชายโมโหมากต้องการสั่งลงโทษหัวหน้าภาคฉิน ผลปรากฏว่าหัวหน้าภาคฉินนำทหารมาสังหารู้องค์ชายด้วยความโมโห!”
“…” เยี่ยนหลูได้ยินแล้วอกสั่นขวัญแขวน แต่อย่าให้เป็นความจริงเลย ในเวลานี้จะเกิดเรื่องกับชิงหยวนจุนไม่ได้ ทุกคนทรยศตำหนักสวรรค์อย่างเปิดเผยแล้วยังมีความห่วงกับสายสัมพันธ์ระหว่างท่านั้นนกับตระกูลเซี่ยโห้ว
จ้าวเซียนบอกอกว่า “จะจริงหรือโกหก นายท่านติดต่อองค์ชายดูสักหน่อยก็รู้แล้ว”
เยี่ยนหลูจ้องนาเขาครูเดียว จากนั้นก็นำระฆังดาราออกมาติดต่อชิงหยวนจุน ทว่าไม่ว่าจะติดต่ออย่างไรก็ไม่มีการตอบกลับ เขาเริ่มวิตกกังวลแล้ว อย่าให้เรื่องนี้เป็นจริงเลย! เขาอยากจะติดต่อเซี่ยโห้วเฉิงอวี่ แต่จนใจที่ต่อให้เซี่ยโห้วเฉิงอวี่จะเป็นหงส์ตกอับ แต่ก็ไม่ทิ้งช่องทางการติดต่อไว้ให้เขาเลย
เขาไม่มีความมั่นใจกับเรื่องนี้ สุดท้ายก็แข็งใจติดต่อฉินฟ่างอีก อยากจะหยั่งเชิงฉินฟ่างสักหน่อย
ใครจะคิดว่าพอติดต่อไปแล้ว เขาก็ยังไม่ทันได้พูดอะไร ฉินฟ่างบอกเขาอย่างหัวร้อนแล้วว่า : พี่เยี่ยน กำลังจะติดต่อเจ้าอยู่พอดี เกิดเรื่องใหญ่แล้ว จู่ ๆ เหิงอู๋เต้าก็นำทัพใหญ่จู่โจมเข้ามาองค์ชายตายอยู่ท่ามกลางการต่อสู้ที่ชุลมุน หนียงเหนียงบาดเจ็บสาหัส หน่วยของข้าถูกเหิงอู๋เต้าทัพใหญ่ล้อมโจมตี รีบนำทัพมาช่วยหน่อย!
เยี่ยนหลูวิงเวียนศีรษะ รีบถามว่า : องค์ชายตายแล้วเหรอ ?
จ้าวเซียนบอกอกว่า “จะจริงหรือโกหก นายท่านติดต่อองค์ชายดูสักหน่อยก็รู้แล้ว”
เยี่ยนหลูจ้องนาเขาครูเดียว จากนั้นก็นำระฆังดาราออกมาติดต่อชิงหยวนจุน ทว่าไม่ว่าจะติดต่ออย่างไรก็ไม่มีการตอบกลับ เขาเริ่มวิตกกังวลแล้ว อย่าให้เรื่องนี้เป็นจริงเลย! เขาอยากจะติดต่อเซี่ยโห้วเฉิงอวี่ แต่จนใจที่ต่อให้เซี่ยโห้วเฉิงอวี่จะเป็นหงส์ตกอับ แต่ก็ไม่ทิ้งช่องทางการติดต่อไว้ให้เขาเลย
เขาไม่มีความมั่นใจกับเรื่องนี้ สุดท้ายก็แข็งใจติดต่อฉินฟ่างอีก อยากจะหยั่งเชิงฉินฟ่างสักหน่อย
ใครจะคิดว่าพอติดต่อไปแล้ว เขาก็ยังไม่ทันได้พูดอะไร ฉินฟ่างบอกเขาอย่างหัวร้อนแล้วว่า : พี่เยี่ยน กำลังจะติดต่อเจ้าอยู่พอดี เกิดเรื่องใหญ่แล้ว จู่ ๆ เหิงอู๋เต้าก็นำทัพใหญ่จู่โจมเข้ามาองค์ชายตายอยู่ท่ามกลางการต่อสู้ที่ชุลมุน หนียงเหนียงบาดเจ็บสาหัส หน่วยของข้าถูกเหิงอู๋เต้าทัพใหญ่ล้อมโจมตี รีบนำทัพมาช่วยหน่อย!
เยี่ยนหลูวิงเวียนศีรษะ รีบถามว่า : องค์ชายตายแล้วเหรอ ?
ฉินฟ่าง : ข้าจะหลอกลวงเจ้าเชียวหรือรีบนำทัพมาช่วย ไม่อย่างนั้นพวกเราจะตายโดยไร้หลุมฝังศพ!
หลังจากติดต่อเสร็จแล้ว เยี่ยนหลัก็ระแวงสงสัยไม่หยุด จ้าวเซียนบอกว่าองค์ชายถูกฉินฟ่างฆ่า แต่ฉินฟ่างก็บอกว่าองค์ชายถูกฆ่าอยู่ในทัพใหญ่ของเหิงอู๋เต้า ไม่ว่าเรื่องไหนจะเป็นความจริง แต่ก็เหมือนว่าองค์ชายจะตายแล้วจริง ๆ!
ข่าวนี้ไม่ชัดเจน จะให้เขาเชื่อฟังไหนดีล่ะ ? เห็นได้ชัดว่าเขาจะไม่เชื่อใครง่าย ๆ จึงรีบติดต่อสมาชิกที่เกี่ยวข้องเพื่อยืนยันอีก ข่าวที่ได้ล้วนี้เป็นองค์ชายรบตาย จอมพลสายมะเส็งกำลังถูกทัพใหญ่ของเหิงอู๋เต้าล้อมโจมตี
พอเก็บระฆังดาราแล้ว เยี่ยนหลัก็กล่าวเสียงต่ำว่า “ถ่ายทอดคำสั่งขาลงไป ให้ทัพใหญ่รีบระดมพลโดยเร็วที่สุด!”
จ้าวเซียนยังไม่รับคำสั่ง แต่ถามกลับว่า “นายท่านรู้สึกว่าไปช่วยตอนนี้ยังทัน หรือขอรับ ?”
เยี่ยนหลูโมโห”หรือว่าเห็นคนเดือดร้อนแล้วจะไม่ช่วย ? ถ้าเกิดเหตุไม่คาดคิดกับเหนียงเหนียง หนทางสุดท้ายที่พวกเราจะพึ่งพาตระกูลเซี่ยโห้วก็จะถูกตัดขาดแล้ว!”
จ้าวเซียนบอกว่า “ถ้าไม่มีคำสั่งของอ๋องสวรรค์หนิว นายท่านคิดว่าเหิงอู๋เต้าจะกล้าเคลื่อนทัพโจมตีเหรอ ? ในเมืออ๋องสวรรค์หนิวกล้าลงมือโดยมองข้ามหัวตระกูลเซี่ยโห้ว นายท่านคิดว่ายังจะช่วยไหวอยู่
หลังจากติดต่อเสร็จแล้ว เยี่ยนหลัก็ระแวงสงสัยไม่หยุด จ้าวเซียนบอกว่าองค์ชายถูกฉินฟ่างฆ่า แต่ฉินฟ่างก็บอกว่าองค์ชายถูกฆ่าอยู่ในทัพใหญ่ของเหิงอู๋เต้า ไม่ว่าเรื่องไหนจะเป็นความจริง แต่ก็เหมือนว่าองค์ชายจะตายแล้วจริง ๆ!
ข่าวนี้ไม่ชัดเจน จะให้เขาเชื่อฟังไหนดีล่ะ ? เห็นได้ชัดว่าเขาจะไม่เชื่อใครง่าย ๆ จึงรีบติดต่อสมาชิกที่เกี่ยวข้องเพื่อยืนยันอีก ข่าวที่ได้ล้วนี้เป็นองค์ชายรบตาย จอมพลสายมะเส็งกำลังถูกทัพใหญ่ของเหิงอู๋เต้าล้อมโจมตี
พอเก็บระฆังดาราแล้ว เยี่ยนหลัก็กล่าวเสียงต่ำว่า “ถ่ายทอดคำสั่งขาลงไป ให้ทัพใหญ่รีบระดมพลโดยเร็วที่สุด!”
จ้าวเซียนยังไม่รับคำสั่ง แต่ถามกลับว่า “นายท่านรู้สึกว่าไปช่วยตอนนี้ยังทัน หรือขอรับ ?”
เยี่ยนหลูโมโห”หรือว่าเห็นคนเดือดร้อนแล้วจะไม่ช่วย ? ถ้าเกิดเหตุไม่คาดคิดกับเหนียงเหนียง หนทางสุดท้ายที่พวกเราจะพึ่งพาตระกูลเซี่ยโห้วก็จะถูกตัดขาดแล้ว!”
จ้าวเซียนบอกว่า “ถ้าไม่มีคำสั่งของอ๋องสวรรค์หนิว นายท่านคิดว่าเหิงอู๋เต้าจะกล้าเคลื่อนทัพโจมตีเหรอ ? ในเมืออ๋องสวรรค์หนิวกล้าลงมือโดยมองข้ามหัวตระกูลเซี่ยโห้ว นายท่านคิดว่ายังจะช่วยไหวอยู่
ไหม ? อ๋องสวรรค์หนิวคือขุนพลผู้มีชื่อเสียงแห่งยุค ไม่ใช้คนที่ลงมือโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง ทำไมถึงโจมตีแค่จอมพลสายมะเส็งและปล่อยพวกเรากับคนอื่น ๆ ล่ะ นายท่านไม่รู้สึกว่าในนนมีลับลมคมใน หรือขอรับ ? ตามความเห็นของข้าน้อย นี่เขาต้องการจะใช้กำลังหลักล้อมโจมตีกำลังเสริมชัด ๆ! ข้าน้อยขอถามอีกสักหน่อย ที่นี่คืออาณาเขตของอ๋องสวรรค์หนิว ถ้าเขาต้องการจะลงมือจริง ๆ น่ายท่านรู้สึกว่าทัพใหญ่แดนรัตติกาลของพวกเรายังจะมโอกาสชนะไหม ? กำลังพลของพวกเรากระจัดกระจายกัน เป็นโอกาสดีให้พวกเขาลงมือสังหาร มีหรือที่จะให้โอกาสทัพใหญ่แดนรัตติกาลระดมพล ? เมื่ออ๋องสวรรค์หนิวลงมือก็แสดงว่าเขาเลิกปกป้องพวกเราแล้ว เขายังจะสกัดกองทัพองครักษ์ไม่ให้มาปราบพวกเราได้อีกเหรอ ? เขายังจะปล่อยให้พวกเราหนีกลับแดนรัตติกาลอีกเหรอ ? เกรงวาระหว่างทางกลับแดนรัตติกาลคงโดนทัพใหญ่ของเขาดักแน่”
เยี่ยนหลักัดฟันถาม “ถ้าเป็นอย่างที่เจ้าบอก พวกเราก็ต้องตายสถานเดียวเหรอ ?”
” ก็ไม่แน่!” จ้าวเซียนส่ำย่อหน้า “ข้าน้อยมีคำแนะนำอย่างหนึ่ง…ยอมแพ้!”
“ยอมแพ้ ?” เยี่ยนหลูมองไปรอบ ๆ แล้วกล่าวปนเสียงหัวเราะเจื่อื่น ๆ “ยอมแพ้ใครล่ะ ? พวกเราเป็นทัพกบฏ ตำหนักสวรรค์จะปล่อยพวกเราไปได้เหรอ ? ใครจะกล้ารับพวกเราไว้ ?”
เยี่ยนหลักัดฟันถาม “ถ้าเป็นอย่างที่เจ้าบอก พวกเราก็ต้องตายสถานเดียวเหรอ ?”
” ก็ไม่แน่!” จ้าวเซียนส่ำย่อหน้า “ข้าน้อยมีคำแนะนำอย่างหนึ่ง…ยอมแพ้!”
“ยอมแพ้ ?” เยี่ยนหลูมองไปรอบ ๆ แล้วกล่าวปนเสียงหัวเราะเจื่อื่น ๆ “ยอมแพ้ใครล่ะ ? พวกเราเป็นทัพกบฏ ตำหนักสวรรค์จะปล่อยพวกเราไปได้เหรอ ? ใครจะกล้ารับพวกเราไว้ ?”
จ้าวเซียนบอกว่า “ข้าน้อยมีคนคนหนึ่งจะแนะนำให้นำยท่าน รับรองว่าช่วยแก้ไขความกังวลให้นำยท่านได้แน่ ปกป้องชีวิตพี่น้องของหน่วยเราได้แน่!”
เยี่ยนหลูถามทันที่”ใคร ?”
จ้าวเซียนกล่าวช้า ๆ ว่า “ลูกนองค์นสนิทของอ๋องสวรรค์หนิว…สวีถังหรานิทานโหวสวี บังเอิญว่าเขาดื่มน้ำชำอยู่กับข้าน้อยพอดี่”
เยี่ยนหลูพลันเบิกตากว้าง จ้องเขาไม่ละสายตำ
เยี่ยนหลูถามทันที่”ใคร ?”
จ้าวเซียนกล่าวช้า ๆ ว่า “ลูกนองค์นสนิทของอ๋องสวรรค์หนิว…สวีถังหรานิทานโหวสวี บังเอิญว่าเขาดื่มน้ำชำอยู่กับข้าน้อยพอดี่”
เยี่ยนหลูพลันเบิกตากว้าง จ้องเขาไม่ละสายตำ