พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า - บทที่ 2175 จุดไฟสงคราม
คนกลุ่มหนึ่งที่ปลอมตัวแล้วขึ้นมาบนพื้นดิน แล้วเหาะไปยังจุดลึกของดาราจักรอย่างรวดเร็ว
คิดจะลงมือกับหนิวโหย่วเต๋อมีแม่ทัพจำนวนไม่น้อยที่บอกไม่ถูกว่าตัวเองรู้สึกเครียดีหรือรู้สึกตื่นเต้น หนิวโหย่วเต๋อก็มีพื้นเพมาจากกองทัพองครักษ์เหมือนกัน เคยเป็นความภาคภูมิใจของกองทัพองครักษ์ มีคาสรรเสริญว่ารบไม่แพ้ จนป่านี้นได้ไต่เต้าทะยานขึ้นสู่ตำแหน่งอ๋องสวรรค์คุมทัพใต้แล้ว คนภายในกองทัพองครักษ์ไม่หยุดยั้งความเลื่อมใสแบบนี้เพราะหนิวโหย่วเต๋อออกไปแล้ว กองทัพองครักษ์ส่งเสริมความเลื่อมใสศรัทธานี้ ไม่ว่าจะเป็นศัตรูหรือค้นของตัวเองหากทาศึกได้ก็แสดงว่าเป็นวีรบุรุษ ต่อให้เป็นศัตรูก็ควรค่าแก่การนับถือ!
แน่นอน นับถือก็ไม่ได้แปลว่าหวาดกลัว และต้องเอาชนะเขาให้ได้ด้วย ตองอยู่เหนือกว่าเขาให้ได้
กำลังจะประมือกลับขุนพลเลื่องชื่อที่มีพื้นเพจากกองทัพองครักษ์ กำลังจะท้ารบขุนนพลเลื่องชื่อที่สร้างผลงานรบไม่แพ้ไว้ที่กองทัพองครักษ์ มีคนไม่น้อยรู้สึกเครียดกังวลจริง ๆ รู้สึกตื่นเต้นก็มี ถึงขั้นเฝ้าคอยศึกนี้ด้วย บางคนก็ยิ่งเลือดร้อน หวังว่าจะได้ใช้ดาบสังหารหนิวโหย่วเต๋อด้วยมือตัวเองที่ำให้นำมอันยิ่งใหญ่ของตัวเองเปล่งประกายอยู่ในกองทัพองครักษ์ !
คิดจะลงมือกับหนิวโหย่วเต๋อมีแม่ทัพจำนวนไม่น้อยที่บอกไม่ถูกว่าตัวเองรู้สึกเครียดีหรือรู้สึกตื่นเต้น หนิวโหย่วเต๋อก็มีพื้นเพมาจากกองทัพองครักษ์เหมือนกัน เคยเป็นความภาคภูมิใจของกองทัพองครักษ์ มีคาสรรเสริญว่ารบไม่แพ้ จนป่านี้นได้ไต่เต้าทะยานขึ้นสู่ตำแหน่งอ๋องสวรรค์คุมทัพใต้แล้ว คนภายในกองทัพองครักษ์ไม่หยุดยั้งความเลื่อมใสแบบนี้เพราะหนิวโหย่วเต๋อออกไปแล้ว กองทัพองครักษ์ส่งเสริมความเลื่อมใสศรัทธานี้ ไม่ว่าจะเป็นศัตรูหรือค้นของตัวเองหากทาศึกได้ก็แสดงว่าเป็นวีรบุรุษ ต่อให้เป็นศัตรูก็ควรค่าแก่การนับถือ!
แน่นอน นับถือก็ไม่ได้แปลว่าหวาดกลัว และต้องเอาชนะเขาให้ได้ด้วย ตองอยู่เหนือกว่าเขาให้ได้
กำลังจะประมือกลับขุนพลเลื่องชื่อที่มีพื้นเพจากกองทัพองครักษ์ กำลังจะท้ารบขุนนพลเลื่องชื่อที่สร้างผลงานรบไม่แพ้ไว้ที่กองทัพองครักษ์ มีคนไม่น้อยรู้สึกเครียดกังวลจริง ๆ รู้สึกตื่นเต้นก็มี ถึงขั้นเฝ้าคอยศึกนี้ด้วย บางคนก็ยิ่งเลือดร้อน หวังว่าจะได้ใช้ดาบสังหารหนิวโหย่วเต๋อด้วยมือตัวเองที่ำให้นำมอันยิ่งใหญ่ของตัวเองเปล่งประกายอยู่ในกองทัพองครักษ์ !
สำหรับนามอันยิ่งใหญ่ของหนิวโหย่วเต๋อพวกเขาชื่นชมมานานแล้ว แต่ในบรรดาคนที่อยู่ตรงนี้ยังไม่มีใครเคยประมือกับเขา ไม่รู้ว่าครั้งนี้จะได้เห็นท่วงท่าอันสง่างามของท่านขุนพลหรือเปล่า!
ตรงจุดซ่อนตัวนี้อยู่ไม่ไกลจากอาณาเขตดาวของดาวอ๋องสวรรค์หนิว พวกฉวี่ฉางเทียนซ่อนตัวอยู่ตรงนี้เพื่อรอฟังคำสั่งบุกโจมตีมาตลอด ทำแบบนี้ก็เพื่อให้ปฏิบัติภารกิจได้ทันเวลาตามคำสั่ง
หลังจากนั้นสักพัก ประตูดวงดาวทางเข้าอาณาเขตดาวของจุดหมายปลายทางก็ปรากฏสู่สายตา ทว่าตรงทางเข้าประตูดวงดาวมีกำลังพลหลายล้านเฝ้าอย่างเข้มงวด จำนวนของกำลังพลไม่ใช้น่อย ๆ
เมื่อเห็นว่ามีคนแปลูกหนาเข้ามาใกล้ กำลังพลที่เฝ้าอยู่ก็แบ่งกลุ่มเล็ก ๆ หนึ่งพันคนเหาะเข้ามาทันที่ก้าวเข้ามาดักไว้ แม่ทัพที่นาหน้ามาตะโกนถาม “เป็นใครกัน ?”
ฉวี่ฉางเทียนไม่สนใจเลย พอโบกมือส่งสัญญาณ แม่ทัพหลายคนที่อยู่ข้างกายก็ปล่อยกำลังพลห้าสิบล้านออกมา
“ฆ่า!” แม่ทัพโบกกระบี่ออกคำสั่ง
กำลังพลห้าสิบล้านตะโกนเสียงดัง ชั่วพริบตานั้นกำลังพลหนึ่งพันก็เหมือนถูกกระแสน้าไหลท่วมจนมิด
หลังจากกระแสน้าพัดผ่านไปแล้ว ในดาราจักรก็ทิ้งเศษซากเอาไว้เปลือก
ตรงจุดซ่อนตัวนี้อยู่ไม่ไกลจากอาณาเขตดาวของดาวอ๋องสวรรค์หนิว พวกฉวี่ฉางเทียนซ่อนตัวอยู่ตรงนี้เพื่อรอฟังคำสั่งบุกโจมตีมาตลอด ทำแบบนี้ก็เพื่อให้ปฏิบัติภารกิจได้ทันเวลาตามคำสั่ง
หลังจากนั้นสักพัก ประตูดวงดาวทางเข้าอาณาเขตดาวของจุดหมายปลายทางก็ปรากฏสู่สายตา ทว่าตรงทางเข้าประตูดวงดาวมีกำลังพลหลายล้านเฝ้าอย่างเข้มงวด จำนวนของกำลังพลไม่ใช้น่อย ๆ
เมื่อเห็นว่ามีคนแปลูกหนาเข้ามาใกล้ กำลังพลที่เฝ้าอยู่ก็แบ่งกลุ่มเล็ก ๆ หนึ่งพันคนเหาะเข้ามาทันที่ก้าวเข้ามาดักไว้ แม่ทัพที่นาหน้ามาตะโกนถาม “เป็นใครกัน ?”
ฉวี่ฉางเทียนไม่สนใจเลย พอโบกมือส่งสัญญาณ แม่ทัพหลายคนที่อยู่ข้างกายก็ปล่อยกำลังพลห้าสิบล้านออกมา
“ฆ่า!” แม่ทัพโบกกระบี่ออกคำสั่ง
กำลังพลห้าสิบล้านตะโกนเสียงดัง ชั่วพริบตานั้นกำลังพลหนึ่งพันก็เหมือนถูกกระแสน้าไหลท่วมจนมิด
หลังจากกระแสน้าพัดผ่านไปแล้ว ในดาราจักรก็ทิ้งเศษซากเอาไว้เปลือก
“ข้าศึกบุก!” ทหารยามตรงประตูดวงดาวตะโกนบอกอย่างโมโหทางฝั่งนี้รีบรับมืออย่างเร่งด่วน เมื่อเห็นว่ามีกำลังพลมากขึ้นาดนี้พุ่งเข้ามาก็ตกใจแทบแย่แล้ว
“ยิงธนู!”
ชั่วพริบตาที่สองทัพปะทะกัน แม่ทัพใหญ่ฉวี่ก็ตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด
ธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์ในมือกำลังพลกองทัพองครักษ์สิบล้านที่พุ่งมาตรงหน้าสุดกะพริบแสง ตามด้วยเสียงระเบิดดังเปรี้ยงปร้าง ลาแสงนับไม่ถ้วนยิงเข้ามาราวกับห่าฝน
ก่อนที่จะบุกโจมตี ฝั่งนี้คาดคะเนเหตุการณ์และวางแผนรบไม่รู้ตั้งกี่รอบแล้ว กำลังพลมากขึ้นาดนี้บุกโจมตียิงธนูแต่กลับราบรื่นราวกับเมฆเหินน้าไหล
บึ้ม!
เพียงชั่วพริบตานี้ ลาแสงนับไม่ถ้วนถล่มกองทัพหลายล้านตรงประตูดวงดาวแตกแล้ว
ทัพใหญ่ที่บุกโจมตีพุ่งเข้ามาในทัพที่กระจัดกระจายด้วยกระบวนทัพรูปลิ่ม ราวกับกระแสน้าที่ชะล้าง ทุกอย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใด และไม่พัวพันใด ๆ ด้วย บุกเข้าไปในประตูดวงดาวโดยตรง ไม่สนด้วยว่ากองทัพที่โดนถล่มจนวุ่นวายเมื่อครูนี้จะมีสภาพเป็นอย่างไร ไม่แม้แต่จะหันกลับไปมองด้วย ฝ่าด่านพุ่งเข้าไปเลย
“ยิงธนู!”
ชั่วพริบตาที่สองทัพปะทะกัน แม่ทัพใหญ่ฉวี่ก็ตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด
ธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์ในมือกำลังพลกองทัพองครักษ์สิบล้านที่พุ่งมาตรงหน้าสุดกะพริบแสง ตามด้วยเสียงระเบิดดังเปรี้ยงปร้าง ลาแสงนับไม่ถ้วนยิงเข้ามาราวกับห่าฝน
ก่อนที่จะบุกโจมตี ฝั่งนี้คาดคะเนเหตุการณ์และวางแผนรบไม่รู้ตั้งกี่รอบแล้ว กำลังพลมากขึ้นาดนี้บุกโจมตียิงธนูแต่กลับราบรื่นราวกับเมฆเหินน้าไหล
บึ้ม!
เพียงชั่วพริบตานี้ ลาแสงนับไม่ถ้วนถล่มกองทัพหลายล้านตรงประตูดวงดาวแตกแล้ว
ทัพใหญ่ที่บุกโจมตีพุ่งเข้ามาในทัพที่กระจัดกระจายด้วยกระบวนทัพรูปลิ่ม ราวกับกระแสน้าที่ชะล้าง ทุกอย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใด และไม่พัวพันใด ๆ ด้วย บุกเข้าไปในประตูดวงดาวโดยตรง ไม่สนด้วยว่ากองทัพที่โดนถล่มจนวุ่นวายเมื่อครูนี้จะมีสภาพเป็นอย่างไร ไม่แม้แต่จะหันกลับไปมองด้วย ฝ่าด่านพุ่งเข้าไปเลย
ทัพใหญ่ที่บุกโจมตีเก็บงานแล้วเข้ามา โผล่มากะทันหันและหายเข้าไปในประตูดวงดาวอย่างกะทันหันแล้ว กองทัพที่วุ่นวายและบาดเจ็บล้มตายไปหลายแสนนอกประตูดวงดาวงงนิดหน่อย ทหารรีบหยิบระฆังดาราออกมารายงานด่วน
ส่วนฉวี่ฉางเทียนที่นาทัพบุกเข้าประตูดวงดาวมาก็รีบหันรอบ ๆ เพื่อสำรวจสถานการณ์ในดาราจักร พอเห็นว่าข้างในไม่มีการเตรียมป้องกันใด ๆ ในใจก็ดีใจมาก ดูท่าแล้ว ฝั่งนี้คงไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลยจริง ๆ
แต่เขาก็ร้อย่างชัดเจน ว่าความเคลื่อนไหวอย่างนี้ปิดบังหนิวโหย่วเต๋อไม่ได้ ต่อให้เมื่อครูนี้จะล้างเลือดทหารยามข้างนอกจนสะอาดเรียบร้อยแล้วก็ไม่มีประโยชน์ ยังคงมีข่าวหลุดออกไปได้เหมือนเดิม กำลังพลหลายล้านไม่ใช้กำลังพลหลายแสน ต่อให้เขาใช้ทัพใหญ่หลายร้อยล้านออกมาโจมตีทั้งหมด แต่ก็ไม่มีทางจะกำจัดทิ้งทั้งหมดได้
เมื่อตัดสินแล้วว่าตรงนี้ยังไม่มีภัยคุกคาม ฉวี่ฉางเทียนก็โบกมือชี้ทันที่”ปี่จัว เจ้านากำลังพลไปปิดทางออกประตูดวงดาวเดียวนี้อย่าปล่อยให้ใครหนี้ไปได้ ไม่อย่างนั้นข้าจะเอาเรื่องเจ้า!”
“ข้าน้อยน้อมรับคำสั่ง!” แม่ทัพใหญ่ปี่จัวกุมหมัดเอ่ยรับคำสั่ง จากนั้นโบกมือนาแม่ทพอีกหลายสิบเหาะออกจากกลุ่มไป
ส่วนฉวี่ฉางเทียนก็นากำลังพลุ่มงหน้าไปยังจุดบุกโจมตีต่อขณะเดียวกันก็หยิบระฆังดาราขึ้นมารายงานสถานการณ์ต่อเบื้องบน
ส่วนฉวี่ฉางเทียนที่นาทัพบุกเข้าประตูดวงดาวมาก็รีบหันรอบ ๆ เพื่อสำรวจสถานการณ์ในดาราจักร พอเห็นว่าข้างในไม่มีการเตรียมป้องกันใด ๆ ในใจก็ดีใจมาก ดูท่าแล้ว ฝั่งนี้คงไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลยจริง ๆ
แต่เขาก็ร้อย่างชัดเจน ว่าความเคลื่อนไหวอย่างนี้ปิดบังหนิวโหย่วเต๋อไม่ได้ ต่อให้เมื่อครูนี้จะล้างเลือดทหารยามข้างนอกจนสะอาดเรียบร้อยแล้วก็ไม่มีประโยชน์ ยังคงมีข่าวหลุดออกไปได้เหมือนเดิม กำลังพลหลายล้านไม่ใช้กำลังพลหลายแสน ต่อให้เขาใช้ทัพใหญ่หลายร้อยล้านออกมาโจมตีทั้งหมด แต่ก็ไม่มีทางจะกำจัดทิ้งทั้งหมดได้
เมื่อตัดสินแล้วว่าตรงนี้ยังไม่มีภัยคุกคาม ฉวี่ฉางเทียนก็โบกมือชี้ทันที่”ปี่จัว เจ้านากำลังพลไปปิดทางออกประตูดวงดาวเดียวนี้อย่าปล่อยให้ใครหนี้ไปได้ ไม่อย่างนั้นข้าจะเอาเรื่องเจ้า!”
“ข้าน้อยน้อมรับคำสั่ง!” แม่ทัพใหญ่ปี่จัวกุมหมัดเอ่ยรับคำสั่ง จากนั้นโบกมือนาแม่ทพอีกหลายสิบเหาะออกจากกลุ่มไป
ส่วนฉวี่ฉางเทียนก็นากำลังพลุ่มงหน้าไปยังจุดบุกโจมตีต่อขณะเดียวกันก็หยิบระฆังดาราขึ้นมารายงานสถานการณ์ต่อเบื้องบน
เขารู้ว่าเบื้องบนกำลังรอข่าวการบุกโจมตีจากฝั่งเขาอยู่ เพื่อที่จะบัญชาการการบุกโจมตีขั้นต่อไป
วังสวรรค์ ตาหนักดาราจักร เมื่อได้รับรายงานจากฉวี่ฉางเทียนที่ร่วมบัญชีาการและลงสนามรบด้วยตัวเอง อู๋ฉวี่ก็การะฆังดาราไว้ แล้วกุมหมัดคารวะ “ฝ่าบาท ฉวี่ฉางเทียนนากำลังพลบุกโจมตีฝ่าเข้ารังของข้าศึกได้อย่างราบรื่น ในนนยังไม่พบการเตรียมป้องกันใด ๆ!”
“ดี่” ประมุขชิงตบโต๊ะลุกขึ้นยืน แล้วเดินไปเดินมาอย่างตื่นเต้น เขาชี้ซือหม่ำเวิ่นเทียน “ลองถามดูว่าสถานการณ์ในจวนอ๋องสวรรค์หนิวเป็นยังไงบาง!”
ซือหม่ำเวิ่นเทียนที่ได้ยินรายงานจากอู๋ฉวี่แล้วพี่ติดต่อตามคำสั่ง หลังจากได้คำตอบแล้วก็กุมหมัดคารวะ “ฝ่าบาท หนิวโหย่วเต๋อยังอยู่ในจวนท่านอ๋อง อวิ๋นจือชิวเพิ่งจะเรียกรวมกลุ่มอนุภรรยามาสั่งสอน เมื่อคืนี้นสายลับยังเห็นหนิวโหย่วเต๋อเอ้อระเหยลอยชายอยู่ในจวนท่านอ๋อง เหมือนคาดไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุการณ์บุกโจมตี”
“ดี่” ประมุขชิงทาสีหน้าตื่นเต้นบนดุร้าย ชี้อู๋ฉวี่พร้อมบอกว่า “ให้ฉวี่ฉางเทียนมุ่งตรงสู่เป้าหมาย พยายามดักหนิวโหย่วเต๋อเอาไว้ พยายามอย่าให้เขาหนี้ไป ต่อให้สกัดไม่ได้แต่ก็ต้องโจมตีกำลังพลเดิมของเขาให้ย่อยยับ!”
“รับทราบ!” อู๋ฉวี่พยักหน้าเอ่ยรับ เข้าใจเจตนาของเขาแล้ว
วังสวรรค์ ตาหนักดาราจักร เมื่อได้รับรายงานจากฉวี่ฉางเทียนที่ร่วมบัญชีาการและลงสนามรบด้วยตัวเอง อู๋ฉวี่ก็การะฆังดาราไว้ แล้วกุมหมัดคารวะ “ฝ่าบาท ฉวี่ฉางเทียนนากำลังพลบุกโจมตีฝ่าเข้ารังของข้าศึกได้อย่างราบรื่น ในนนยังไม่พบการเตรียมป้องกันใด ๆ!”
“ดี่” ประมุขชิงตบโต๊ะลุกขึ้นยืน แล้วเดินไปเดินมาอย่างตื่นเต้น เขาชี้ซือหม่ำเวิ่นเทียน “ลองถามดูว่าสถานการณ์ในจวนอ๋องสวรรค์หนิวเป็นยังไงบาง!”
ซือหม่ำเวิ่นเทียนที่ได้ยินรายงานจากอู๋ฉวี่แล้วพี่ติดต่อตามคำสั่ง หลังจากได้คำตอบแล้วก็กุมหมัดคารวะ “ฝ่าบาท หนิวโหย่วเต๋อยังอยู่ในจวนท่านอ๋อง อวิ๋นจือชิวเพิ่งจะเรียกรวมกลุ่มอนุภรรยามาสั่งสอน เมื่อคืนี้นสายลับยังเห็นหนิวโหย่วเต๋อเอ้อระเหยลอยชายอยู่ในจวนท่านอ๋อง เหมือนคาดไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุการณ์บุกโจมตี”
“ดี่” ประมุขชิงทาสีหน้าตื่นเต้นบนดุร้าย ชี้อู๋ฉวี่พร้อมบอกว่า “ให้ฉวี่ฉางเทียนมุ่งตรงสู่เป้าหมาย พยายามดักหนิวโหย่วเต๋อเอาไว้ พยายามอย่าให้เขาหนี้ไป ต่อให้สกัดไม่ได้แต่ก็ต้องโจมตีกำลังพลเดิมของเขาให้ย่อยยับ!”
“รับทราบ!” อู๋ฉวี่พยักหน้าเอ่ยรับ เข้าใจเจตนาของเขาแล้ว
ทางนั้นคือรังของหนิวโหย่วเต๋อถ้าหนิวโหย่วเต๋อหนี้ไปทันที่เกรงว่าจะจับตัวหนิวโหย่วเต๋อได้ยากแล้ว แต่ถ้าหนิวโหย่วเต๋อจะหนี ก็ต้องส่งกำลังพลมาโจมตีสกัดข้าศึกที่ไล่ตามแน่นอน ไม่มีทางให้โอกาสข้าศึกไล่กัดไม่ปล่อย เช่นั้นนก็มโอกาสโจมตีกำลังพลเดิมของหนิวโหย่วเต๋อให้ย่อยยับแล้ว ขอเพียงกำจัดกำลังพลของหนิวโหย่วเต๋อได้ ต่อให้หนิวโหย่วเต๋อหนี้ไปอาณาเขตดาวนิรนาม ขอเพียงฝั่งนี้ปิดล้อมทางออกไว้ ก็สามารถรับมือกับกำลังพลของหนิวโหย่วเต๋อที่อยู่ด้านนอกกกได้เต็มที่ยิ่งไปกว่านั้น ข่าวหนิวโหย่วเต๋อรบแพ้ก็จะแพร่ออกไป้จะต้องทำให้ขวัญกำลังใจทหารสั่นคลอนแน่นอน เป็นประโยชน์ต่อทัพใหญ่ในการกวาดล้างทัพใต้ยิ่งขึ้น หลังจากนี้ต่อให้หนิวโหย่วเต๋อโชคดีรอดชีวิตไปได้ แต่ก็ไม่มีความเป็นไปได้ที่จะกลับตัวแล้ว
ประมุขชิงกาชับอกว่า “ทางฮวาอี้เทียน ให้เริ่มได้แล้ว!”
อู๋ฉวี่เอ่ยรับคำสั่ง แล้วรีบถ่ายทอดคำสั่งลงไป
ประมุขชิงชี้ไปที่ซ่างกวนชิงอีก “แจ้งไปทางกำลังพลของพี่ใหญ่พุทธะ ให้ออกมาเสริมอานุภาพได้แล้ว ต้องให้พวกเขาควบคุมสถานการณ์ให้ได้!”
“ขอรับ!” ซ่างกวนชิงเอ่ยรับ แล้วหยิบระฆังดาราออกมาติดต่อ
ในจวนอ๋องสวรรค์หนิว เหมียวอี้นั่งอยู่ในศาลา ชิงเยว่ถลันตัวเข้ามา เหาะขึ้นตึกไปโดยตรง แล้วกุมหมัดรายงานด่วนว่า “ท่านอ๋องเป็นอย่างที่คาดไว้อีกฝ่ายลงมือแล้ว”
ประมุขชิงกาชับอกว่า “ทางฮวาอี้เทียน ให้เริ่มได้แล้ว!”
อู๋ฉวี่เอ่ยรับคำสั่ง แล้วรีบถ่ายทอดคำสั่งลงไป
ประมุขชิงชี้ไปที่ซ่างกวนชิงอีก “แจ้งไปทางกำลังพลของพี่ใหญ่พุทธะ ให้ออกมาเสริมอานุภาพได้แล้ว ต้องให้พวกเขาควบคุมสถานการณ์ให้ได้!”
“ขอรับ!” ซ่างกวนชิงเอ่ยรับ แล้วหยิบระฆังดาราออกมาติดต่อ
ในจวนอ๋องสวรรค์หนิว เหมียวอี้นั่งอยู่ในศาลา ชิงเยว่ถลันตัวเข้ามา เหาะขึ้นตึกไปโดยตรง แล้วกุมหมัดรายงานด่วนว่า “ท่านอ๋องเป็นอย่างที่คาดไว้อีกฝ่ายลงมือแล้ว”
เหมียวอี้แสยะยิ้ม ถามว่า “มากันเท่าไหร่ ?”
” หลังจากกำลังพลประมาณห้าสิบล้านบุกฝ่าด่านเข้ามาก็มุ่งุตรงมาทางนี้” ชิงเยว่ตอบ
เหมียวอี้กล่าวเสียงเรียบว่า “กองทัพองครักษ์ไม่มีทางยอมแพ้อย่าเปลืองความพยายาม ไม่เอาทหารที่ยอมแพ้อย่าเก็บไว้แม้แต่คนเดียว รีบฆ่าให้หมด ข้าจะสังหารให้พวกเขาขวัญผวา! ชิงเยว่ ศึกนี้สำคัญยิ่ง ต้องทำลายขวัญกำลังใจทหารของประมุขชิงภายในศึกเดียว ต้องทำให้อำนาจฝ่ายอื่นเห็นด้วยว่าประมุขชิงมันก็เท่านี้เอง ถึงจะทำให้พวกเขามีความมั่นใจในการลงมือไปด้วย เข้าใจใช้มั้ย ?”
” ข้าน้อยเข้าใจแล้ว!” หญิงแกร่งกุมหมัดคารวะอย่างองอาจห้าวหาญ
เหมียวอี้ปัดมือ”ไปเถอะ!”
ชิงเยว่ถลันตัวออกไปอย่างรวดเร็ว
“บอกเฉิงไที่เจ๋อให้พวกเขามาร่วมมือกัยทำภารกิจสำคัญกับข้าที่นี่!” เหมียวอี้ยืนขึ้น เดินมาเอามือไขว้หลังพิงระเบี่ยง เปี่ยมด้วยพลังอันน่าเกรงขาม พลังแบบที่จะทาศึกตัดสินกับราชันแห่งใต้หล้า เขากวาดมองตึกรามบ้านช่องในจวนท่านอ๋องด้วยสีหน้าเรียบเฉย พลางกล่าวอย่างเยัอกเย็น “ตอนนี้จับตาดูสายลับทุกคนในจวนท่านอ๋องไว้ให้ดี จับตาดูให้ข้า อยากจะเห็นนักใช้มั้ยว่าข้ามีปฏิกิริยายังไง ได้ ข้า
” หลังจากกำลังพลประมาณห้าสิบล้านบุกฝ่าด่านเข้ามาก็มุ่งุตรงมาทางนี้” ชิงเยว่ตอบ
เหมียวอี้กล่าวเสียงเรียบว่า “กองทัพองครักษ์ไม่มีทางยอมแพ้อย่าเปลืองความพยายาม ไม่เอาทหารที่ยอมแพ้อย่าเก็บไว้แม้แต่คนเดียว รีบฆ่าให้หมด ข้าจะสังหารให้พวกเขาขวัญผวา! ชิงเยว่ ศึกนี้สำคัญยิ่ง ต้องทำลายขวัญกำลังใจทหารของประมุขชิงภายในศึกเดียว ต้องทำให้อำนาจฝ่ายอื่นเห็นด้วยว่าประมุขชิงมันก็เท่านี้เอง ถึงจะทำให้พวกเขามีความมั่นใจในการลงมือไปด้วย เข้าใจใช้มั้ย ?”
” ข้าน้อยเข้าใจแล้ว!” หญิงแกร่งกุมหมัดคารวะอย่างองอาจห้าวหาญ
เหมียวอี้ปัดมือ”ไปเถอะ!”
ชิงเยว่ถลันตัวออกไปอย่างรวดเร็ว
“บอกเฉิงไที่เจ๋อให้พวกเขามาร่วมมือกัยทำภารกิจสำคัญกับข้าที่นี่!” เหมียวอี้ยืนขึ้น เดินมาเอามือไขว้หลังพิงระเบี่ยง เปี่ยมด้วยพลังอันน่าเกรงขาม พลังแบบที่จะทาศึกตัดสินกับราชันแห่งใต้หล้า เขากวาดมองตึกรามบ้านช่องในจวนท่านอ๋องด้วยสีหน้าเรียบเฉย พลางกล่าวอย่างเยัอกเย็น “ตอนนี้จับตาดูสายลับทุกคนในจวนท่านอ๋องไว้ให้ดี จับตาดูให้ข้า อยากจะเห็นนักใช้มั้ยว่าข้ามีปฏิกิริยายังไง ได้ ข้า
จะให้พวกเขาได้เห็น! ข้าอยากจะเหน็จริง ๆ ว่าถ้าประมุขชิงรู้ว่าเฉิงไที่เจ๋อใครอยู่ข้างหลังฆ่าแล้วจะทาสีหน้ายังไ!”
“เกรงว่าคงนึกเสียใจทีหลังไม่หาย แต่ขี่หลังเสือแล้วก็คงยาก ทำได้เพียงประสาทเสีย อาจจะเจรจาสงบศึก” หยางชิ่งกล่าวอยู่ข้าง ๆ
“เจรจาสงบศึก ? ก็ได้ ขอเพียงเขาประกาศต่อใต้หล้า ประกาศยอมรับผิดต่อข้าให้คนรู้ทั้งใต้หล้ ข้าก็ยินดีเปลื่ยนอาวุธสงครามให้เป็นหยกแพรไหม!” เหมียวอี้เอ่ยเสียงเรียบ
ไม่เห็นเขาดูมีความมั่นใจเกินไป หยางชิ่งก็กล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “ท่านอ๋อง พลังรบของกองทัพองครักษ์ไม่ธรรมดา ทุกคนล้วนมีธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์ ประมาทศัตรูไม่ได้”
เหมียวอี้เอียงหนามิองเขาแวบหนึ่ง “เจ้าคิดว่าตอนแรกข้าตัดสินใจลงมือเพราะอะไรล่ะ ? ถ้าไม่มีความมั่นใจข้าจะกล้าบุ่มบ่ามลงมือได้ไง ? ประมุขชิงมีธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์ แล้วข้าไม่มีเหรอ ? ถ้าข้าบอกว่าฉวี่ฉางเทียนจะต้องแพ้แน่นอน เจ้าเชื่อหรือเปล่าล่ะ ?”
หยางชิ่งขมวดคิ้ว คิดในใจว่าต่อให้เอาธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์ทั้งทัพใต้มาร่วมกัน ก็อาจไม่เยอะเท่าฉวี่ฉางเทียนก็ได้ เขาไม่รู้ว่าเหมียวอี้ความมั่นใจมาจากไหน ถึงพูดเรื่องธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์อย่างนี้
“ให้เฮยทั่นมาพบข้า” เหมียวอี้กล่าวอย่างไม่แยแส
“ขอรับ!” หยางเจาชิงเอ่ยรับ
“เกรงว่าคงนึกเสียใจทีหลังไม่หาย แต่ขี่หลังเสือแล้วก็คงยาก ทำได้เพียงประสาทเสีย อาจจะเจรจาสงบศึก” หยางชิ่งกล่าวอยู่ข้าง ๆ
“เจรจาสงบศึก ? ก็ได้ ขอเพียงเขาประกาศต่อใต้หล้า ประกาศยอมรับผิดต่อข้าให้คนรู้ทั้งใต้หล้ ข้าก็ยินดีเปลื่ยนอาวุธสงครามให้เป็นหยกแพรไหม!” เหมียวอี้เอ่ยเสียงเรียบ
ไม่เห็นเขาดูมีความมั่นใจเกินไป หยางชิ่งก็กล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “ท่านอ๋อง พลังรบของกองทัพองครักษ์ไม่ธรรมดา ทุกคนล้วนมีธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์ ประมาทศัตรูไม่ได้”
เหมียวอี้เอียงหนามิองเขาแวบหนึ่ง “เจ้าคิดว่าตอนแรกข้าตัดสินใจลงมือเพราะอะไรล่ะ ? ถ้าไม่มีความมั่นใจข้าจะกล้าบุ่มบ่ามลงมือได้ไง ? ประมุขชิงมีธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์ แล้วข้าไม่มีเหรอ ? ถ้าข้าบอกว่าฉวี่ฉางเทียนจะต้องแพ้แน่นอน เจ้าเชื่อหรือเปล่าล่ะ ?”
หยางชิ่งขมวดคิ้ว คิดในใจว่าต่อให้เอาธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์ทั้งทัพใต้มาร่วมกัน ก็อาจไม่เยอะเท่าฉวี่ฉางเทียนก็ได้ เขาไม่รู้ว่าเหมียวอี้ความมั่นใจมาจากไหน ถึงพูดเรื่องธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์อย่างนี้
“ให้เฮยทั่นมาพบข้า” เหมียวอี้กล่าวอย่างไม่แยแส
“ขอรับ!” หยางเจาชิงเอ่ยรับ
ในจวนท่านอ๋องตอนนี้ มีกำลังพลจำนวนมากปรากฏตัวออกมาเตรียมพร้อมป้องกันแล้ว ทุกที่ล้วนมีทหารสวมเราะรบลาดตระเวน ป้องกันไม่ให้มีคนฉวยโอกาสก่อกวน
ผ่านไปเพียงครูเดียว เฮยทั่นเดินก้าวยาวเข้ามากุมหมัดคารวะอย่างตื่นเต้นว่า “ท่านอ๋อง ในจวนท่านอ๋องมีความเคลื่อนไหวไม่ใช้น่อย เริ่มต่อสู้กันแล้วหรือเปล่า ? ถึงคร่าวที่จะให้กำลังพลของขาลงสนามได้หรือยัง ?”
กำลังพลของเจ้า ? หยางชิ่งสงสัย ไม่รู้ว่าเขาเอากำลังพลมาจากไหน ให้คนประเภทนี้บัญชาการกองทัพ ไม่ใช้เรื่องล้อเล่นหรอก หรือ ?
เหมียวอี้หันตัวไปมองเขา “กำลังพลของเจ้าฝึกไปถึงไหนแล้วล่ะ ?”
เฮยทั่นตบนหน้าอกเสียงตุ้บ ๆ “ไม่มีปัญหา! ขอเพียงให้ขาลงสนาม ข้าคุณชายเฮยก็จะสังหารพวกเขาให้คนล้มมาพลิกเลย”
“กองทัพองครักษ์ห้าร้อยล้าน เจ้าแน่ใจน่ะว่าเจ้าจะนำกำลังพลหนึ่งแสนไปสังหารพวกเขาจนคนล้มมาพลิกได้ ?” เหมียวอี้พูดแขวะ
“เอ่อ…” เฮยทั่นรู้สึกเหมือนถูกบีบคอกองทัพองครักษ์ห้าร้อยล้านเหรอ ? คิดดูแล้วก็ตัวสั่น ยิ้มแห้งตอบว่า “แน่นอนว่าต้องให้กำลังพลของท่านอ๋องให้ความร่วมมือ…” เมื่อเห็นเหมียวอี้ทาสีหน้าแปลก ๆ ก็พูดเสริมด้วยน้ำเสียงอ่อนปวกเปียกว่า “พวกเราให้ความร่วมมือกับกำลังพลของท่านอ๋อง”
ผ่านไปเพียงครูเดียว เฮยทั่นเดินก้าวยาวเข้ามากุมหมัดคารวะอย่างตื่นเต้นว่า “ท่านอ๋อง ในจวนท่านอ๋องมีความเคลื่อนไหวไม่ใช้น่อย เริ่มต่อสู้กันแล้วหรือเปล่า ? ถึงคร่าวที่จะให้กำลังพลของขาลงสนามได้หรือยัง ?”
กำลังพลของเจ้า ? หยางชิ่งสงสัย ไม่รู้ว่าเขาเอากำลังพลมาจากไหน ให้คนประเภทนี้บัญชาการกองทัพ ไม่ใช้เรื่องล้อเล่นหรอก หรือ ?
เหมียวอี้หันตัวไปมองเขา “กำลังพลของเจ้าฝึกไปถึงไหนแล้วล่ะ ?”
เฮยทั่นตบนหน้าอกเสียงตุ้บ ๆ “ไม่มีปัญหา! ขอเพียงให้ขาลงสนาม ข้าคุณชายเฮยก็จะสังหารพวกเขาให้คนล้มมาพลิกเลย”
“กองทัพองครักษ์ห้าร้อยล้าน เจ้าแน่ใจน่ะว่าเจ้าจะนำกำลังพลหนึ่งแสนไปสังหารพวกเขาจนคนล้มมาพลิกได้ ?” เหมียวอี้พูดแขวะ
“เอ่อ…” เฮยทั่นรู้สึกเหมือนถูกบีบคอกองทัพองครักษ์ห้าร้อยล้านเหรอ ? คิดดูแล้วก็ตัวสั่น ยิ้มแห้งตอบว่า “แน่นอนว่าต้องให้กำลังพลของท่านอ๋องให้ความร่วมมือ…” เมื่อเห็นเหมียวอี้ทาสีหน้าแปลก ๆ ก็พูดเสริมด้วยน้ำเสียงอ่อนปวกเปียกว่า “พวกเราให้ความร่วมมือกับกำลังพลของท่านอ๋อง”
หยางเจาชิงที่อยู่ข้าง ๆ เตือนว่า “พี่เฮย ไม่มีกำลังพลของเจ้าหรอก ทั้งหมดเป็นกำลังพลของท่านอ๋อง เข้าใจใช้ไหม ?”
” เอ่อ…” เฮยทั่นรู้ตัวทันที่รู้ว่าตัวเองพูดผิดไปแล้ว จึงตบปากตัวเองหลายที่แล้วพยักหน้าซ้ำ ๆ “ใช้ ๆ ๆ ๆ ล้วนี้เป็นกำลังพลของท่านอ๋อง ทั้งหมดเป็นกำลังพลของท่านอ๋อง”
หยางชิ่งประหลาดใจสงสัยยิ่งกว่าเดิม ทัพใหญ่ขนาดนี้สู้รบกัน กำลังพล หนึ่งแสนนับเป็นก้นอะไร พอเข้าสนามรบแล้วก็อาจจะโผล่ออกมาไม่ได้แม้แต่ฟองด้วยซ้ำ แต่ทำไม่ทานอ๋องทาท่าเหมือนให้ความำคัญมาก อดไม่ได้ที่จะถามว่า “ท่านอ๋อง กำลังพลหนึ่งแสนี้นคือ ?”
เหมียวอี้ยิ้มเรียบ ๆ “หลายปีมานี้ข้าทาธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์หนึ่งแสนคันที่สามารถใช้ไข่มุกวิญญาณจากวิญญาณชั่วร้ายมาเป็นพลังงานได้ ภายใต้เงื่อนไขที่ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์การรบ ก็อาจแสดงประโยชน์ได้ไม่มาก แต่ถ้าสามารถทำให้สถานการณ์รบมั่นคงได้ ธนูหนึ่งแสนัคนนี้ก็แสดงอานุภาพได้ไม่น้อย!”
หยางชิ่งตกใจ เขาย่อมรู้ว่าเมื่อใช้ปราณชั่วร้ายที่ระเบิดออกจากไข่มุกวิญญาณมาเสริมฤทธิ์ในธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์ จะทำให้ธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์มีอานุภาพเพิ่มขึ้นขนาดไหน แต่ธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์ที่ระดับต่ำสุดล้วนี้เป็นของวิเศษขั้นห้า ที่แดนมรณะดึกดำบรรพ์มีการกวาดล้างเป็นระยะ ไข่มุกวิญญาณของวิญญาณชั่วร้ายระดับต่ำพวกนี้ ต้องใช้เท่าไรถึงจะเติมีพลังงานให้ธนูคันหนึ่งใช้งานได้ ? หนึ่งแสนคัน
” เอ่อ…” เฮยทั่นรู้ตัวทันที่รู้ว่าตัวเองพูดผิดไปแล้ว จึงตบปากตัวเองหลายที่แล้วพยักหน้าซ้ำ ๆ “ใช้ ๆ ๆ ๆ ล้วนี้เป็นกำลังพลของท่านอ๋อง ทั้งหมดเป็นกำลังพลของท่านอ๋อง”
หยางชิ่งประหลาดใจสงสัยยิ่งกว่าเดิม ทัพใหญ่ขนาดนี้สู้รบกัน กำลังพล หนึ่งแสนนับเป็นก้นอะไร พอเข้าสนามรบแล้วก็อาจจะโผล่ออกมาไม่ได้แม้แต่ฟองด้วยซ้ำ แต่ทำไม่ทานอ๋องทาท่าเหมือนให้ความำคัญมาก อดไม่ได้ที่จะถามว่า “ท่านอ๋อง กำลังพลหนึ่งแสนี้นคือ ?”
เหมียวอี้ยิ้มเรียบ ๆ “หลายปีมานี้ข้าทาธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์หนึ่งแสนคันที่สามารถใช้ไข่มุกวิญญาณจากวิญญาณชั่วร้ายมาเป็นพลังงานได้ ภายใต้เงื่อนไขที่ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์การรบ ก็อาจแสดงประโยชน์ได้ไม่มาก แต่ถ้าสามารถทำให้สถานการณ์รบมั่นคงได้ ธนูหนึ่งแสนัคนนี้ก็แสดงอานุภาพได้ไม่น้อย!”
หยางชิ่งตกใจ เขาย่อมรู้ว่าเมื่อใช้ปราณชั่วร้ายที่ระเบิดออกจากไข่มุกวิญญาณมาเสริมฤทธิ์ในธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์ จะทำให้ธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์มีอานุภาพเพิ่มขึ้นขนาดไหน แต่ธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์ที่ระดับต่ำสุดล้วนี้เป็นของวิเศษขั้นห้า ที่แดนมรณะดึกดำบรรพ์มีการกวาดล้างเป็นระยะ ไข่มุกวิญญาณของวิญญาณชั่วร้ายระดับต่ำพวกนี้ ต้องใช้เท่าไรถึงจะเติมีพลังงานให้ธนูคันหนึ่งใช้งานได้ ? หนึ่งแสนคัน
เชียวเชียวนะ นั่นต้องใช้ไข่มุกวิญญาณมากขึ้นาดไหนักน ? ถ้ารวบรวมปริมาณได้ง่ายขนาดนั้น เกรงว่าตาหนักสวรรค์ก็ทาไปนานแล้ว