พิชิตใจนายปีศาจ - ตอนที่ 103
ตอนที่ 103 ฉันไม่ได้เขานะ
จันวิภากลับมาที่ห้องแล้วทำความสะอาดตนเอง ตอนที่ กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่นั้น เวลาก็ได้เดินมาถึงช่วงแล้ว เธออยากจะเอนตัวลงบนเตียงแล้วนอนพักสักหนึ่ง แต่เมื่อ หลับตาลง ในสมองได้ปรากฏใบหน้าของนวาระที่แต่งหน้าจัด และบิดเบี้ยวราวกับ
จันวิภาส่ายที่จะเอาภาพนี้ออก จากสมอง เพียงไม่ฝัน
แต่ที่เธอคิดฝัน เธอยังจะเห็น นวาระที่กลายเป็นมาเอาชีวิตของ เธอและลูกน้อย เหมือนกับตอนที่ อยู่ในบ้านร้างอย่างไรอย่างนั้น มันทำอะไรไม่ถูกและหวาด
ผวา!
“! ”
จันวิภาตื่นขึ้นมาจากฝันอย่างรวดเร็ว หวนถึงฉากที่ นวาระจะลากเธอลงไปในนรก ทั่วทั้งตัวขนลุกซู่ อดไม่ได้ที่จะ สัมผัสผิวของตนเอง แล้วขดตัวอยู่ในมุมเตียง
มือลูบคลำท้องของตนเอง หัวใจของจันวิภายังเต้นตุ๊บๆ
ไม่หยุด
ในความฝันมันช่างเหมือนจริง จนกระทั่งหลังจากที่จันวิภา ตื่นขึ้นมาก็ยังรู้สึกว่านวาระอาจจะกลายเป็นผีแล้วตามมาหลอก หลอนเธอจริงๆ ถึงอย่างไรนวาระก็ตายไปแล้ว แม้ว่าจะไม่ใช่ เธอที่เป็นคนฆ่า แต่ทว่าวันนั้นตนเองก็ได้อยู่ในสถานที่เกิดเหตุ ยิ่งไปกว่านั้นนวาระยังเกลียดเธอและเกลียดเธอลึกถึง กระดูกดำ
ที่สำคัญกว่านั้นเลยก็คือ เธอไม่สนว่าจะแก้แค้นเธอ แต่ ทำไมถึงมาเกี่ยวข้องกับลูกที่อยู่ในท้องของเธอล่ะ
ภายใต้ความครุ่นคิด ประตูห้องของจันวิภาจู่ๆก็ถูกคนเตะ จนเปิดออก เธอตกใจเสียจนกระโดดขึ้นมา พึ่งจะฝันร้ายไปเมื่อ กี้ ตอนนี้ก็มาเตะประตูอีกแล้ว นี่ นี่คงไม่ใช่ว่านวาระมาจริงๆ
หรอกนะ!
โชคดีที่เมื่อกี้เธอหวนคิดอยู่ในใจไม่หยุด ตราบใดที่ไม่ได้
ทำอะไรผิด ก็ไม่กลัวว่าผีจะมาเคาะประตูตอนดึกหรอก!
เรื่องละอายไม่เคยทำ แต่ดันเคาะประตูมา
“จันวิภา! ” เสียงคำรามแห่งความโกรธดังกึกก้องขึ้นมา จากนั้นเงาที่อยู่ด้านนอกก็เดินเข้ามา
หัวใจของจันวิภายังไม่ทันที่จะได้ผ่อนคลาย ก็เห็นสุมิตรที่ โกรธแค้นชุดประตูเข้ามา จากนั้นจึงเข้ามาหาเธออย่างรวดเร็ว ยกมือขึ้น แล้วตบไปที่หน้าเธออย่างรุนแรง
จันวิภาถูกตบเสียจนตกตะลึง จ้องมองสุมิตรด้วยความ โกรธ แล้วตะโกนออกมา “สุมิตรนายเป็นบ้าอะไรอีก! นายตบฉันทำไม! ”
“ฉันตบเธอทำไม? ฉันอยากจะตบก็ตบ ต้องโทษที่เธอเป็น นางร่าน นวาระก็เลยถูกเธอทำร้ายจนตาย! เธอสาแก่ใจแล้ว ใช่มั้ย! ดวงตาของสุมิตรเต็มไปด้วยเส้นเลือดสีแดง มองดู แล้วมันช่างน่ากลัวอย่างถึงที่สุด
จันวิภาอดไม่ได้ที่จะสั่นเทาอยู่เล็กน้อย เธอค่อยๆถอยไป พิงที่มุมกำแพง ปากยังไม่ลืมที่จะพูดโต้แย้งอย่างมีเหตุผล “ฉัน ไม่ได้ฆ่านวาระ! มันไม่เกี่ยวกับฉันเลย! !
“เขาไม่ได้ถูกเธอฆ่า แต่เขาตายเพราะเธอ! ” เหตุและผล ของสุมิตรได้ถูกความโกรธครอบงำเอาไว้ เมื่อเห็นจันวิภาตัว หดด้วยความกลัว มันจึงยิ่งกระตุ้นเขามากขึ้น เขาลากเธอมา แล้วคิดอยากจะทำให้เธอความอัปยศอดสู
แน่นอนว่าจันวิภาไม่ยอมแน่นอน ตอนนี้สุมิตรกำลังหัว ร้อน หากคุณไม่ระวัง เกิดทำร้ายลูกน้อยขึ้นมาจะทำอย่างไร
ตอนนี้ไม่ใช่แค่เพียงเธอคนเดียว ในท้องเธอยังมีลูกน้อย ที่ยังไม่ได้เกิดออกมาอีก จั ไม่ว่าจะพูดอะไรก็ตามก็จะไม่ยอม ให้ใครหน้าไหนมาทำร้ายลูกน้อยได้
การดิ้นรนของจันวิภากลับยิ่งทำให้สุมิตรหงุดหงิดมากยิ่ง ขึ้น เขากดร่างกายของจันวิภาลง สองเท้าหนีบสองขาของเธอที่ เตะอย่างต่อเนื่องเอาไว้ จับมือทั้งสองของเธอจนแน่น จากนั้น จึงโน้มตัวลงและกัดไปที่ริมฝีปากเธออย่างแรง
“อับ….สุมิตรไอ้สารเลว! นายพูดออกมาให้ชัดๆ ! อะไรที่บอกว่าฉันเป็นสาเหตุที่ทำให้นวาระตาย! ฉันไม่ได้ทำร้าย เธอเลย! ทั่วทั้งร่างกายของจันวิภาถูกกดเอาไว้ แต่ปากยังคง พูดความไม่พอใจที่อยู่ในใจออกมา”
รอยจูบของสุมิตรได้แฝงไว้ด้วยรสชาติแห่งเอาแต่ใจและ ก้าวร้าว เขากัดริมฝีปากของจันวิภาเสียจนบวมและแดงหาใด เปรียบ จึงจะหยุดแล้วมองเธออย่างเยือกเย็น “นวาระโดนนรา วิชญ์ของเธอ…ฆ่า นราวิชญ์อีกแล้ว ฉันคนนี้ไม่ปล่อยพวกเธอ ไปแน่!
กล่าวไปพลาง สุมิตรใช้มือที่ว่างอยู่ฉีกกระฉากเสื้อของจัน
วิภาออก
จันวิภาที่ได้ฟังคำพูดของสุมิตร สมองก็ราวกับถูกฟ้าผ่า อย่างไรอย่างนั้น มันขาวโพลน ทำไมในเวลาเพียงแค่คืนเดียว ฆาตกรกลับเปลี่ยนไปเป็นนราวิชญ์เสียได้!
นี่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับนราวิชญ์เลย เห็นได้ชัดว่าฆาตกรมี ความเกี่ยวข้องกับชายหน้ากากเงินที่จ่ายเงินซื้อเธอสามสิบ ล้าน!
“ไม่! ฆาตรกรไม่ใช่พื้นราวิชญ์! ฆาตกรเป็นคนอื่น และ ฉันก็รู้ว่าฆาตกรคือใคร! ” จันวิภาไม่สนใจสิ่งที่สุมิตรจะทำกับ เธอต่อจากนี้ แล้วรีบอธิบายนราวิชญ์ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยให้ เขาฟังอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตามเมื่อสุมิตรได้ยินคำพูดของจันวิภา ก็ได้หยุด มือที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ลง เขายิ่งโกรธมากขึ้นไปอีก เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว นางสารเลวนี่ยังคิดจะช่วยพูดให้นราวิชญ์อีก!
สุมิตรแสยะยิ้มจ้องมองจันวิถา แล้วพูดขึ้นอย่างไม่พอใจ “เธอเสแสรังต่อหน้าฉันให้มันน้อยๆ! หน่อยเธอพูดว่าฆาตกร ไม่ใช่มัน! งั้นฆาตกรเป็นใครกันล่ะ?”
“ฉัน….” จันวิภาต้องการที่จะพูดชื่อชายหน้ากากเงินคน นั้นออกมา แต่จู่ๆก็นึกขึ้นได้ ตนเองไม่รู้จักชื่อของผู้ชายคนนั้นนี่ นา! อยู่ด้วยกันตั้งวันหนึ่ง เขาไม่เคยบอกเธอเลย!
เมื่อเห็นจันวิภาพูดไม่ออก สุมิตรจึงหัวเราะเยาะ น้ำเสียง เปี่ยมไปด้วยการดูถูก “ทำไม? หาเหตุผลอะไรดีๆมาหลอกฉัน ได้หรือยัง?”
“ไม่ใช่! ” จันวิภารีบโต้แย้ง หลังจากครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งก็ ยังหาคำพูดที่สวยหรูมาพูดไม่ได้ จึงทำได้เพียงแค่กลืนน้ำลาย แล้วพูดออกไป “เป็นผู้ชายที่สวมหน้ากากเงิน….ก็คือชายคน ที่อยู่ในงานประมูลวันนั้นที่ซื้อฉันด้วยเงินสามสิบล้าน!
“ฮ่าๆ…” จู่ๆสุมิตรก็หัวเราะออกมายกใหญ่ ยิ่งหัวเราะก็ เหมือนยิ่งบ้า หัวเราะเสียจนจันวิภาทำอะไรไม่ถูก
สุมิตรหัวเราะจนหนำใจแล้ว ทันใดนั้นเองเขาก็ก้มหน้าลง มองจันวิภา สายตาบ้าคลั่งกระหายเลือด ราวกับต้องการจะ กลืนกินชีวิตเธอ “จันวิภา เธอนี่จริงๆเลย เพื่อช่วยชู้ของตัวเอง แม้แต่เหตุผลที่น่าขำอย่างนี้ก็พูดออกมาได้…นางร่าน เธอกะ จะไม่คิดก่อนพูดจาเหลวไหลออกมาเลยหรอ?”
ไม่รอให้จันวิภาแก้ตัว สุมิตรจี บคอของเธออย่างโกรธแค้น กตร่างกายเธอลงแล้วตะคอกออกมาอย่างโมโห “นาง แพศยา! สารเลว! ต้องโทษแก! ถ้าไม่ใช่เพราะแกกับนรา วิชญ์เป็นชู้รักกัน นราวะก็คงไม่ตาย! ฉันจะต้องให้พวกแกได้ ชดใช้แน่! ”
จันวิภาถูกสุมิตรบีบคอเอาไว้ อาการขาดอากาศหายใจ เหมือนเมื่อตอนค่ำได้กลับมาอีกครั้ง เธอตีไปที่แขนของสุมิตร อย่างต่อเนื่อง แต่กลับไร้ผล
ครั้งนี้สุมิตรไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้จันวิภาขาดอากาศ หายใจ หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ปล่อยจันวิภาลง กดเรือนร่าง และต้องการข่มขื่นเธออีกครั้ง
“ร้อง ร้องออกสิ! ร้องขอให้ฉันอภัยให้เธอ! ร้องสิ! ๆ สุมิตรเอากับจันวิภาไม่ถึงจุดสุดยอด เขาจ้องมองเธอด้วยความ โกรธ พยายามทำให้เธอร้องไห้เหมือนอย่างกับนวาระ แล้ว ขอร้องให้เขาปล่อยเธอไป
สุมิตรต้องการเห็นจันวิภาที่ร้องไห้ฟูมฟายอยู่ใต้เรือนร่าง
ของเขา
แต่อย่างไรก็ตามภายใต้การกระทำทั้งหมดจันวิภาได้มอง เพดานอย่างเอาเป็นเอาตาย อดทนกัดฟันต่อความป่าเถื่อน ของสุมิตร
เมื่อสุมิตรเห็นเช่นนี้ ในใจกลับยิ่งไม่สบายใจ ผู้หญิงคนนี้ เมื่อไหร่ที่จะรู้จักเป็นเด็กดี! และยอมแพ้ต่อหน้าเขา! ในโลก ใบนี้ คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีผู้หญิงที่สุมิตรไม่มีทางเอาชนะอยู่ได้!
เพราะอารมณ์หงุดหงิด สุมิตรจึงทำสิ่งที่หยาบ หลังจาก เสร็จสิ้นแล้ว เขาก็ได้สวมใส่เสื้อผ้าแล้วคิดที่จะเดินออกไป แต่ ทว่าจันวิภากลับดึงมือของเขาเอาไว้
“สุมิตร.” น้ำเสียงของจันวิภาแหบแห้งดั่งทราย คาดว่า น่าจะเป็นเพราะผลที่ตามมาจากการถูกกดอัดเมื่อครู่นี้
“มีอะไรก็รีบพูดมา! ” สุมิตรสะบัดมือของจันวิภาออก
อย่างหยาบคาย แต่ร่างกายกลับหยุดนิ่งลง ดูเหมือนจะ ต้องการฟังว่าจันวิภายังมีอะไรจะพูดอีก