พิชิตใจนายปีศาจ - ตอนที่ 122
ตอนที่ 122 ฉันกลัวว่าจะเสียเธอไป
เม้มริมฝีปากล่าง ใบหน้าของสุมิตรหม่นหมอง เขาขมวด คิ้วขึ้นจนแน่น แล้วท่าท่าทีเหมือนไม่เต็มใจที่จะอยากพูดเรื่องนี้ ต่อไป “ไม่ว่าเธอจะเชื่อหรือไม่ เธอรู้แค่ว่าที่ฉันทำอย่างนี้เพราะ อยากจะทำดีกับเธอ และไม่ทำร้ายเธออีกก็พอแล้ว”
“ถย! ” จันวิภาอดไม่ได้ที่จะระเบิดคำหยาบคายออกมา “สุมิตร นายไสหัวไปให้ไกลๆฉัน! นายมีสิทธิ์อะไรมาพูดกับ ฉันแบบนี้ ทำไมฉันต้องเชื่อนาย? ! ทำดีกับฉัน? สุมิตร นาย อย่ามาทำให้ฉันหัวเราะจนฟันร่วงหน่อยเลยดีกว่า!
เมื่อเห็นจันวิภากระวนกระวายเช่นนี้ สุมิตรจึงทำได้เพียง แค่เข้มแข็งเอาไว้ แล้วพูดกับเธอว่า “จันวิภา ฉันรู้ว่าตอนนี้ฉัน พูดอะไรไปเธอก็คงไม่เชื่อ ไม่เป็นไร เธอเชื่อก็ดี ไม่เชื่อก็ชั่ง เธอ เป็นผู้หญิงของฉัน นั่นมันก็ง่ายนิดเดียว! ”
ภายในใจของจันวิภารู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก เธอไม่ หันหน้ามา และไม่อยากที่จะมองสุมิตรอีก
ภายในก้นบึงของหัวใจสุมิตรถอนหายใจออกมาเบาๆ แต่ กลับไม่กล้าทิ้งใบหน้าของตนเองและไปขออภัยจันวิภาอย่าง จริงใจได้ วันนี้ที่เขาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็นับว่าเป็นก้าวที่ ใหญ่ที่สุดแล้ว ตอน122ฉันกลัวว่าจะเสียเธอไป
ตอนที่ 122 ฉันกลัวว่าจะเสียเธอไป
เม้มริมฝีปากล่าง ใบหน้าของสุมิตรหม่นหมอง เขาขมวด คิ้วขึ้นจนแน่น แล้วท่าท่าทีเหมือนไม่เต็มใจที่จะอยากพูดเรื่องนี้ ต่อไป “ไม่ว่าเธอจะเชื่อหรือไม่ เธอรู้แค่ว่าที่ฉันทำอย่างนี้เพราะ อยากจะทำดีกับเธอ และไม่ทำร้ายเธออีกก็พอแล้ว”
“ถย! ” จันวิภาอดไม่ได้ที่จะระเบิดคำหยาบคายออกมา “สุมิตร นายไสหัวไปให้ไกลๆฉัน! นายมีสิทธิ์อะไรมาพูดกับ ฉันแบบนี้ ทำไมฉันต้องเชื่อนาย? ! ทำดีกับฉัน? สุมิตร นาย อย่ามาทำให้ฉันหัวเราะจนฟันร่วงหน่อยเลยดีกว่า!
เมื่อเห็นจันวิภากระวนกระวายเช่นนี้ สุมิตรจึงทำได้เพียง แค่เข้มแข็งเอาไว้ แล้วพูดกับเธอว่า “จันวิภา ฉันรู้ว่าตอนนี้ฉัน พูดอะไรไปเธอก็คงไม่เชื่อ ไม่เป็นไร เธอเชื่อก็ดี ไม่เชื่อก็ชั่ง เธอ เป็นผู้หญิงของฉัน นั่นมันก็ง่ายนิดเดียว! ”
ภายในใจของจันวิภารู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก เธอไม่ หันหน้ามา และไม่อยากที่จะมองสุมิตรอีก
ภายในก้นบึงของหัวใจสุมิตรถอนหายใจออกมาเบาๆ แต่ กลับไม่กล้าทิ้งใบหน้าของตนเองและไปขออภัยจันวิภาอย่าง จริงใจได้ วันนี้ที่เขาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็นับว่าเป็นก้าวที่ ใหญ่ที่สุดแล้ว สุมิตรลุกขึ้นยืนอย่างสงบ แล้วพูดออกมาอย่างนี่งเงียบ “ในเมื่อเธอไม่ยอมกินโจ๊กที่ฉันป้อนให้ งั้นรออีกสักหน่อยเธอ ต่อยกินมันละกัน อย่าปล่อยให้ตัวเองหิวก็พอแล้ว ฉันไปจัดการ เรื่องของบริษัทก่อน”
พูดจบ เขาก็หันตัวแล้วเดินจากไป
หลังจากสุมิตรไปแล้ว จันวิถาจึงหันหน้าเขามองดูโจ๊กที่ วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงอย่างเงียบๆ โจ๊กไข่ที่มาพร้อมกับผัก ดอง เป็นสิ่งที่เธอชอบมากที่สุด
แต่ใบหน้าของจันวิภายังคงไม่ดีขึ้น เป็นเวลานานที่เธอยัง ไม่ได้ตัดสินใจเลือกกินมัน
เธอไม่อาจที่จะกินได้ แต่เด็กในท้องจำเป็นต้องกิน!
มองดูห้องผู้ป่วยที่หรูหราอลังการ ภายในใจของจันวิภา รู้สึกเศร้าโศก เธอจะต้องออกไปจากที่นี่อย่างแน่นอน ออกไป จากข้างกายของสุมิตร ออกไปจากเมืองแห่งนี้
คิดไปคิดมา จันวิภาก็รู้สึกเจ็บปวดใจจริงๆ จึงวางแผนที่ จะออกไปเดินเล่น ดังนั้นเธอจึงกระชากสายน้ำเกลือที่อยู่หลัง มือออก สวมใส่เสื้อโค้ทและเดินออกจากห้อง
ตอนที่สุมิตรกลับเข้ามา ภายในห้องผู้ป่วยไม่มีใครเลย แม้แต่คนเดียว เขาสับสนขึ้นมาทันที จึงรีบไปจับพยาบาลมาชัก ถาม แต่กลับไม่มีใครรู้เลยแม้แต่คนเดียว สุมิตรลุกขึ้นยืนอย่างสงบ แล้วพูดออกมาอย่างนี่งเงียบ “ในเมื่อเธอไม่ยอมกินโจ๊กที่ฉันป้อนให้ งั้นรออีกสักหน่อยเธอ ต่อยกินมันละกัน อย่าปล่อยให้ตัวเองหิวก็พอแล้ว ฉันไปจัดการ เรื่องของบริษัทก่อน”
พูดจบ เขาก็หันตัวแล้วเดินจากไป
หลังจากสุมิตรไปแล้ว จันวิถาจึงหันหน้าเขามองดูโจ๊กที่ วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงอย่างเงียบๆ โจ๊กไข่ที่มาพร้อมกับผัก ดอง เป็นสิ่งที่เธอชอบมากที่สุด
แต่ใบหน้าของจันวิภายังคงไม่ดีขึ้น เป็นเวลานานที่เธอยัง ไม่ได้ตัดสินใจเลือกกินมัน
เธอไม่อาจที่จะกินได้ แต่เด็กในท้องจำเป็นต้องกิน!
มองดูห้องผู้ป่วยที่หรูหราอลังการ ภายในใจของจันวิภา รู้สึกเศร้าโศก เธอจะต้องออกไปจากที่นี่อย่างแน่นอน ออกไป จากข้างกายของสุมิตร ออกไปจากเมืองแห่งนี้
คิดไปคิดมา จันวิภาก็รู้สึกเจ็บปวดใจจริงๆ จึงวางแผนที่ จะออกไปเดินเล่น ดังนั้นเธอจึงกระชากสายน้ำเกลือที่อยู่หลัง มือออก สวมใส่เสื้อโค้ทและเดินออกจากห้อง
ตอนที่สุมิตรกลับเข้ามา ภายในห้องผู้ป่วยไม่มีใครเลย แม้แต่คนเดียว เขาสับสนขึ้นมาทันที จึงรีบไปจับพยาบาลมาชัก ถาม แต่กลับไม่มีใครรู้เลยแม้แต่คนเดียว ร่างกายของจันวิภายังไม่ดีขึ้น และต้องการเวลาดูแลอีก ช่วงหนึ่ง ที่แท้เธอก็อดใจรอช่วงเวลานี้ไม่ไหว แล้วรีบหนีออก ไปจากเขางั้นหรือ? !
มองดูห้องผู้ป่วยที่ว่างเปล่า สุมิตรรู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่าง มาก อารมณ์ที่กำลังจะสูญเสียบางสิ่งบางอย่างที่สำคัญกำลังจะ เกิดขึ้นมาอีกครั้ง สุมิตรอดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมา จน พยาบาลที่เรียกมาซักถามตกใจกลัว
“พวกเธอมัวเหม่ออะไรอยู่? คนไข้หายไปแล้ว พวกเธอยัง ไม่รีบออกไปหาอีก! ถ้าเธอหนีออกไปจริงๆ ฉันจะฉีกโรง พยาบาลนี้ให้เป็นชิ้นๆ ! ” เสียงตะโกนจากลำคอของสุมิตรพุ่ง เข้าไปหาพยาบาลตัวน้อย พยาบาลตกใจเสียจนน้ำตาไหลออก มา รีบก้มหัวพยักหน้าแล้วออกไปทันที
เพราะความโกรธของสุมิตร จึงทำให้พยาบาลที่กำลัง ปฏิบัติหน้าที่อยู่มากมายตื่นตระหนก คนไข้ที่อยู่ในห้องผู้ป่วย ระดับสูงหายตัวไป มันจึงเป็นความรับผิดชอบอันใหญ่หลวง ของพวกเขา ดังนั้นพยาบาลจำนวนมากจึงถูกส่งออกไปตามหา จันวิภา
ท้ายสุดแล้ว ก็ได้มีพยาบาลนางหนึ่งพบจันวิภาอยู่ในสวน จึงรีบที่จะเชิญเธอกลับเข้าไป
จันวิภากำลังสอนเด็กๆ ให้ใช้กิ่งไม้วาดรูปบนพื้น เพื่อนตัว น้อยคนนั้นก็เป็นผู้ป่วยที่อยู่ในโรงพยาบาลเช่นเดียวกัน จัน วิภามองดูเขาอย่างเอ็นดู และเริ่มเล่นกับเขา ร่างกายของจันวิภายังไม่ดีขึ้น และต้องการเวลาดูแลอีก ช่วงหนึ่ง ที่แท้เธอก็อดใจรอช่วงเวลานี้ไม่ไหว แล้วรีบหนีออก ไปจากเขางั้นหรือ? !
มองดูห้องผู้ป่วยที่ว่างเปล่า สุมิตรรู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่าง มาก อารมณ์ที่กำลังจะสูญเสียบางสิ่งบางอย่างที่สำคัญกำลังจะ เกิดขึ้นมาอีกครั้ง สุมิตรอดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมา จน พยาบาลที่เรียกมาซักถามตกใจกลัว
“พวกเธอมัวเหม่ออะไรอยู่? คนไข้หายไปแล้ว พวกเธอยัง ไม่รีบออกไปหาอีก! ถ้าเธอหนีออกไปจริงๆ ฉันจะฉีกโรง พยาบาลนี้ให้เป็นชิ้นๆ ! ” เสียงตะโกนจากลำคอของสุมิตรพุ่ง เข้าไปหาพยาบาลตัวน้อย พยาบาลตกใจเสียจนน้ำตาไหลออก มา รีบก้มหัวพยักหน้าแล้วออกไปทันที
เพราะความโกรธของสุมิตร จึงทำให้พยาบาลที่กำลัง ปฏิบัติหน้าที่อยู่มากมายตื่นตระหนก คนไข้ที่อยู่ในห้องผู้ป่วย ระดับสูงหายตัวไป มันจึงเป็นความรับผิดชอบอันใหญ่หลวง ของพวกเขา ดังนั้นพยาบาลจำนวนมากจึงถูกส่งออกไปตามหา จันวิภา
ท้ายสุดแล้ว ก็ได้มีพยาบาลนางหนึ่งพบจันวิภาอยู่ในสวน จึงรีบที่จะเชิญเธอกลับเข้าไป
จันวิภากำลังสอนเด็กๆ ให้ใช้กิ่งไม้วาดรูปบนพื้น เพื่อนตัว น้อยคนนั้นก็เป็นผู้ป่วยที่อยู่ในโรงพยาบาลเช่นเดียวกัน จัน วิภามองดูเขาอย่างเอ็นดู และเริ่มเล่นกับเขา แต่คิดไม่ถึงเลยว่าทั้งสองคนจะเล่นกันได้อย่างสนุกสนาน แต่จู่ๆก็ถูกพยาบาลเข้ามารบกวน และลากเธอออกไปโดยไม่มี คำอธิบายใดๆ
“เธอทำอะไร? แม้ว่าเธอจะเป็นพยาบาล แต่ก็ไม่ควรที่จะ ใช้มารยาทกับคนไข้ขนาดนี้ ! ” จันวิภาพยายามที่จะสะบัดมือ ของพยาบาลคนนั้นออกไป แต่กลับพบว่าร่างกายของตนเอง นั้นช่างอ่อนแอเสียเหลือเกิน และก็ไม่มีแรงมากพอที่จะขันขึ้น กับคนที่แข็งแรงได้
พยาบาลดูเหมือนจะโกรธยิ่งกว่าเธอเสียอีก เมื่อเห็นจัน วิภาดิ้นรนไม่หยุดหย่อน เธอจึงหันหน้าไปทางจันวิภาและพูดสั่ง สอนออกไปอย่างไม่พอใจ “ผู้ป่วยรายนี้เห็นได้ชัดว่าคุณกำลังมี ปัญหา! ออกมาเดินเล่นทำไมไม่บอกกับพยาบาลเวรสักหน่อย ละคะ? คุณรู้มั้ยว่าสิ่งที่คุณทำอยู่นี้มันได้สร้างความลำบากให้ กับพวกเรา! ตอนนี้มีพวกเรามากมายที่ไม่ได้ทำงาน และตาม หาคุณอยู่! คุณรู้บ้างมั้ย? ! ”
จันวิภาถูกพยาบาลตะคอกเสียจนตกใจ เธอไม่เข้าใจ คนไข้ที่อยู่ในห้องนานแล้วออกมาเดินเล่นที่สวน มันจะต้องมี การตอบสนองที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้เชียวหรือ และยังจะตามหาเธอ กันอีกมามาย..
ความสงสัยเช่นนี้หลังจากที่เธอถูกพยาบาลพากลับมาที่ ห้องแล้ว จันวิภาจึงได้รับรู้ค่าตอบ และก็ได้รู้ว่าทำไมถึงได้มี การเคลื่อนไหวที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ เพราะมีสุมิตรอยู่มันไม่มีลม ไม่มีคลื่นจริงๆ เขาจะไม่สบายจนกว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น แต่คิดไม่ถึงเลยว่าทั้งสองคนจะเล่นกันได้อย่างสนุกสนาน แต่จู่ๆก็ถูกพยาบาลเข้ามารบกวน และลากเธอออกไปโดยไม่มี คำอธิบายใดๆ
“เธอทำอะไร? แม้ว่าเธอจะเป็นพยาบาล แต่ก็ไม่ควรที่จะ ใช้มารยาทกับคนไข้ขนาดนี้ ! ” จันวิภาพยายามที่จะสะบัดมือ ของพยาบาลคนนั้นออกไป แต่กลับพบว่าร่างกายของตนเอง นั้นช่างอ่อนแอเสียเหลือเกิน และก็ไม่มีแรงมากพอที่จะขันขึ้น กับคนที่แข็งแรงได้
พยาบาลดูเหมือนจะโกรธยิ่งกว่าเธอเสียอีก เมื่อเห็นจัน วิภาดิ้นรนไม่หยุดหย่อน เธอจึงหันหน้าไปทางจันวิภาและพูดสั่ง สอนออกไปอย่างไม่พอใจ “ผู้ป่วยรายนี้เห็นได้ชัดว่าคุณกำลังมี ปัญหา! ออกมาเดินเล่นทำไมไม่บอกกับพยาบาลเวรสักหน่อย ละคะ? คุณรู้มั้ยว่าสิ่งที่คุณทำอยู่นี้มันได้สร้างความลำบากให้ กับพวกเรา! ตอนนี้มีพวกเรามากมายที่ไม่ได้ทำงาน และตาม หาคุณอยู่! คุณรู้บ้างมั้ย? ! ”
จันวิภาถูกพยาบาลตะคอกเสียจนตกใจ เธอไม่เข้าใจ คนไข้ที่อยู่ในห้องนานแล้วออกมาเดินเล่นที่สวน มันจะต้องมี การตอบสนองที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้เชียวหรือ และยังจะตามหาเธอ กันอีกมามาย..
ความสงสัยเช่นนี้หลังจากที่เธอถูกพยาบาลพากลับมาที่ ห้องแล้ว จันวิภาจึงได้รับรู้ค่าตอบ และก็ได้รู้ว่าทำไมถึงได้มี การเคลื่อนไหวที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ เพราะมีสุมิตรอยู่มันไม่มีลม ไม่มีคลื่นจริงๆ เขาจะไม่สบายจนกว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น และสุมิตร ก็กำลังนั่งอย่างหม่นหมองอยู่ที่หัวเตียง ใต้ขา ของสุมิตรมีเก้าอี้ล้มลงอยู่ตัวหนึ่ง เห็นได้ชัดว่ามันถูกเตะจนล้ม ลงเพราะความโกรธของเขา
เมื่อได้ยินเสียงเคลื่อนไหว เขาจึงแหงนหน้าขึ้นมามองจัน วิภา และพูดอย่างไม่ร้อนไม่หนาว “เธอกลับมาแล้ว! ”
สุมิตรที่เป็นเช่นนี้ จันวิภารู้สึกคุ้นเคยเป็นอย่างยิ่ง มัน ชัดเจนว่าเป็นอาการความโกรธระเบิดออกมา เธอถอยหลัง ออกไปก้าวหนึ่งอย่างไม่รู้ตัว
“ถ้าฉันไม่กลับมา นายจะเอาความโกรธไปลงกับผู้บริสุทธิ์ จากนั้นก็ทำลายโรงพยาบาลทิ้งใช่มั้ย?” กังวลใจ จันวิภา เหยียดเอวของเธอ แล้วเอ่ยถามออกไปอย่างมั่นใจ
เมื่อได้ยินดังนั้น สุมิตรจึงลุกขึ้นยืน เขาเดินเข้ามาหาจัน วิภาที่อยู่ตรงหน้าด้วยใบหน้าที่เยือกเย็น และพูดออกไปด้วย น้ำเสียงที่แข็งกร้าว “จันวิภา เธอก็รู้นี่ว่าฉันเป็นห่วงเธอ แล้ว เธอจะหนีไปทำไม?”
จันวิภาไม่พอใจ “นายเป็นห่วงฉัน?”
สุมิตรยื่นมือออกมาบีบคางของจันวิภา บีบบังคับให้เธอ หันหน้ามามองตนเอง น้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความโกรธ “เธอรู้ม นว่าเมื่อกี้นี้ฉันเป็นห่วงเธอขนาดไหน! ถ้าเธอออกจากฉันโดย ไม่ให้สุ่มให้เสียงอีก หรือเกิดเรื่องไม่คาดฝันอะไรขึ้นมา เธอจะ ให้ฉันทำอย่างไง! ”
จันวิภานิ่งอึ้งไป น้ำเสียงของสุมิตร ความหมายของ และสุมิตร ก็กำลังนั่งอย่างหม่นหมองอยู่ที่หัวเตียง ใต้ขา ของสุมิตรมีเก้าอี้ล้มลงอยู่ตัวหนึ่ง เห็นได้ชัดว่ามันถูกเตะจนล้ม ลงเพราะความโกรธของเขา
เมื่อได้ยินเสียงเคลื่อนไหว เขาจึงแหงนหน้าขึ้นมามองจัน วิภา และพูดอย่างไม่ร้อนไม่หนาว “เธอกลับมาแล้ว! ”
สุมิตรที่เป็นเช่นนี้ จันวิภารู้สึกคุ้นเคยเป็นอย่างยิ่ง มัน ชัดเจนว่าเป็นอาการความโกรธระเบิดออกมา เธอถอยหลัง ออกไปก้าวหนึ่งอย่างไม่รู้ตัว
“ถ้าฉันไม่กลับมา นายจะเอาความโกรธไปลงกับผู้บริสุทธิ์ จากนั้นก็ทำลายโรงพยาบาลทิ้งใช่มั้ย?” กังวลใจ จันวิภา เหยียดเอวของเธอ แล้วเอ่ยถามออกไปอย่างมั่นใจ
เมื่อได้ยินดังนั้น สุมิตรจึงลุกขึ้นยืน เขาเดินเข้ามาหาจัน วิภาที่อยู่ตรงหน้าด้วยใบหน้าที่เยือกเย็น และพูดออกไปด้วย น้ำเสียงที่แข็งกร้าว “จันวิภา เธอก็รู้นี่ว่าฉันเป็นห่วงเธอ แล้ว เธอจะหนีไปทำไม?”
จันวิภาไม่พอใจ “นายเป็นห่วงฉัน?”
สุมิตรยื่นมือออกมาบีบคางของจันวิภา บีบบังคับให้เธอ หันหน้ามามองตนเอง น้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความโกรธ “เธอรู้ม นว่าเมื่อกี้นี้ฉันเป็นห่วงเธอขนาดไหน! ถ้าเธอออกจากฉันโดย ไม่ให้สุ่มให้เสียงอีก หรือเกิดเรื่องไม่คาดฝันอะไรขึ้นมา เธอจะ ให้ฉันทำอย่างไง! ”
จันวิภานิ่งอึ้งไป น้ำเสียงของสุมิตร ความหมายของ ประโยคนี้..
เขาค้นพบจิตใจที่ดีงามแล้วงั้นหรือ? !
หลังจากฆ่าพ่อผู้ให้กำเนิดเธอ ฆ่าพี่นราวิชญ์เธอ หลังจาก บีบให้เธอฆ่าตัวตายแล้วเขาจึงค้นพบจิตใจที่ดีงามงั้นหรือ? !
เสียงหัวเราะ จันวิภามองดูนัยน์ตาสีดำที่มองไม่เห็นกันบึ้ง ของสุมิตรโดยตรง ทุกคนสามารถรู้สึกถึงความโกรธที่เขา กดดันอยู่ แต่กลับฝันไม่พุ่งเข้าใส่เธอ
ช่างน่าหัวเราะจริงๆ!
ใช้แรงสะบัดมือของสุมิตรออกไป จันวิภายิ้มออกมาอย่าง เยือกเย็น “อย่าคิดว่าคำสวยหรูที่พ่นออกมาสองสามคำนั้นจำ ให้ฉันสับสนได้นะ ฉันจะไม่อยู่กับนาย สุมิตร ใจนายมันตาย ด้านไปแล้ว นายฆ่าพ่อฉัน ฆ่าพี่นราวิชญ์ ฉันจะไม่ให้อภัยนาย เด็ดขาด แม้ว่าเราทั้งสองจะไม่ได้แต่งงานกัน ไม่ช้าก็เร็วฉันจะ หนีออกไปจากนาย!
จันวิภาใบหน้าเย็นชา เธอไม่เคยลืมสิ่งที่สุมิตรทำกับเธอ ไว้ทั้งหมดเลย ไม่ลืมว่าเขาฆ่าพ่อและพี่นราวิชญ์ ความเกลียด เช่นนั้น ได้ฝังอยู่ในส่วนลึกในจิตวิญญาณของเธอเสียแล้ว ไม่มี วัน ไม่มีวันลืมได้อย่างเด็ดขาด!
“เธอหยุดคิดได้แล้ว! ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอหนีไป แม้ว่า จะไม่ได้แต่งงาน แต่วันหลังพวกเราค่อยไปจดทะเบียนสมรส ด้วยกันก็ได้ และจัดงานแต่งงานขึ้นก็ใช้ได้แล้ว! ” สุมิตรน้ำ เสียงทุ้มต่ำ เดินเข้ามาข้างหน้าก้าวหนึ่งแล้วกอดจันวิภา ประโยคนี้..
เขาค้นพบจิตใจที่ดีงามแล้วงั้นหรือ? !
หลังจากฆ่าพ่อผู้ให้กำเนิดเธอ ฆ่าพี่นราวิชญ์เธอ หลังจาก บีบให้เธอฆ่าตัวตายแล้วเขาจึงค้นพบจิตใจที่ดีงามงั้นหรือ? !
เสียงหัวเราะ จันวิภามองดูนัยน์ตาสีดำที่มองไม่เห็นกันบึ้ง ของสุมิตรโดยตรง ทุกคนสามารถรู้สึกถึงความโกรธที่เขา กดดันอยู่ แต่กลับฝันไม่พุ่งเข้าใส่เธอ
ช่างน่าหัวเราะจริงๆ!
ใช้แรงสะบัดมือของสุมิตรออกไป จันวิภายิ้มออกมาอย่าง เยือกเย็น “อย่าคิดว่าคำสวยหรูที่พ่นออกมาสองสามคำนั้นจำ ให้ฉันสับสนได้นะ ฉันจะไม่อยู่กับนาย สุมิตร ใจนายมันตาย ด้านไปแล้ว นายฆ่าพ่อฉัน ฆ่าพี่นราวิชญ์ ฉันจะไม่ให้อภัยนาย เด็ดขาด แม้ว่าเราทั้งสองจะไม่ได้แต่งงานกัน ไม่ช้าก็เร็วฉันจะ หนีออกไปจากนาย!
จันวิภาใบหน้าเย็นชา เธอไม่เคยลืมสิ่งที่สุมิตรทำกับเธอ ไว้ทั้งหมดเลย ไม่ลืมว่าเขาฆ่าพ่อและพี่นราวิชญ์ ความเกลียด เช่นนั้น ได้ฝังอยู่ในส่วนลึกในจิตวิญญาณของเธอเสียแล้ว ไม่มี วัน ไม่มีวันลืมได้อย่างเด็ดขาด!
“เธอหยุดคิดได้แล้ว! ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอหนีไป แม้ว่า จะไม่ได้แต่งงาน แต่วันหลังพวกเราค่อยไปจดทะเบียนสมรส ด้วยกันก็ได้ และจัดงานแต่งงานขึ้นก็ใช้ได้แล้ว! ” สุมิตรน้ำ เสียงทุ้มต่ำ เดินเข้ามาข้างหน้าก้าวหนึ่งแล้วกอดจันวิภา