พิชิตใจนายปีศาจ - ตอนที่ 126
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
ตอนที่ 126 เหตุฉุกเฉินที่บริสุทธิ์
หลังจากที่ธนภาคเดินออกไปจากห้องผู้ป่วย รีบหยิบ โทรศัพท์ออกมาจากในกระเป๋าแล้วโทรหาเบอร์ๆ นึ่ง ปลาย สายนั้นพอได้ยินก็รับอย่างวดเร็ว ธนภาคเอ่ยปากถามขึ้นอย่าง ร้อนรน “เป็นไงบ้าง ยืนยันแล้วใช่มั้ย?”
“พี่ธนภาค ยืนยันแน่นอนแล้ว เป็นเธอไม่ผิดแน่ พี่จะเอา
วีดีโอตอนไหน?”
“เร็วที่สุด! เอามาให้ฉันตอนนี้จะเป็นการดีที่สุด! ”
” โอเคพี่ธนภาค”
หลังจากสายตัดไป ธนภาคก็หยุดมองไปทางห้องผู้ป่วย ของจันวิภา ในแววตามีอารมณ์ความรู้สึกที่ไม่อาจคาดเดาได้
ที่แท้ก็เป็นเธอ…
หลังจากที่ธนภาคจากไป จันวิภาก็ยังออกไปดูอย่างไม่ วางใจ จากนั้นตอนที่เธอออกประตูห้องผู้ป่วยมา ธนภาคก็ได้ หายตัวไปไม่เหลือแม้แต่เงา
กลับไปที่เตียงด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน จันวิภาไม่ได้สังเกต ว่าเมื่อครู่นี้ตรงมุมทางเดินนอกระเบียง มีคนกำลังจ้องมองเธอ
อยู่ กลางดึก จันวิภาหลับลงอย่างเงียบๆ มีหลอดไฟเพียง หลอดเดียวในห้องผู้ป่วยที่ยังคงส่องแสงอยู่ แสงไฟอ่อนๆ ประตูห้องค่อยๆถูกคนจากด้านนอกเปิดเข้ามา
เพียงไม่นาน ก็มีชายร่างอ้วนค่อยๆเดินโค้งย่องเข้ามา
เงานั่นมองดูแล้วเป็นเงาของผู้ชาย เห็นแต่เพียงเอวที่ โค้งๆเหมือนแมวของเขา เขามองไปรอบๆ พร้อมกับเดินเข้ามา ทางเตียงของจันวิภา
ดวงตาของชุติเดชส่องประกายออกมาด้วยความตื่นเต้น สาวงามที่หลับใหลอยู่ต่อหน้าคนนี้ช่างน่ารักเสียจริง เรือนร่าง งดงาม ใบหน้ารูปไข่ และสีหน้าที่ซีดเซียวหน่อยๆทำให้เธอเป็น เหมือนเจ้าหญิงนิทรา ในขณะนี้ อยากที่จะจูบเธอให้ตื่นขึ้นมา เสียจริง
ความงดงามที่คุ้นเคยเช่นนี้ เป็นดั่งของล้ำค้าที่เขาเฝ้าฝัน ตลอดทั้งวันทั้งคืน คิดไม่ถึงเลยว่าวันนี้จะได้มาเจออยู่ที่นี่
ชุติเดชจันวิภามานานแล้ว ครั้งที่แล้วตอนที่อยู่ในบาร์ ก็ได้วางยาเธอ และคิดว่าจะชิงเอาครั้งแรกของเธอมาได้ แต่คิด ไม่ถึงเลยว่าจะถูกคนอื่นมาตัดหน้าไป ความโกรธทำให้ชุติเดช รู้สึกหดหูใจเป็นเวลาหลายวัน
วันนี้ ตอนที่ชุติเดชไปโรงพยาบาลเพื่อทำแท้งกับเพื่อน หญิงคนใหม่ของเขา จึงได้เห็นจันวิภาที่ถวิลหาเข้า ชุติเดชที่ อยากจะเอาจันวิภาเข้ามาสู่อ้อมกอดตั้งนานแล้ว จึงฉวยโอกาส จากความเงียบของค่ำคืน มาลิ้มลองรสชาติของจันวิภา
ผู้หญิงคนนี้ ช่างน่าทึ่งจริงๆ ทำให้เขามองอยู่นานโดยไม่ อาจที่จะหยุดมองได้ อยากที่จะครอบครองเธออยู่คนเดียวทุก ขณะเวลา
เป็นที่น่าเสียดายที่เธอแต่งงานกับสุมิตร นั่นเป็นชื่อที่ ทำให้ผู้คนที่ได้ยินหวาดกลัวอย่างพิลึก มากถึงขนาดที่ทำให้ ชุติเดชไม่กล้าทำอะไรอย่างอื่น เพราะสุมิตรเหยียบย่ำได้ ตามใจ แม้แต่กลุ่มใหญ่อย่างบริษัทวงษ์วริศกุลก็ต้องปิดตัวลง ไปอย่างง่ายดาย
แต่ทว่าทำไมวันนี้ชุติเดชถึงกล้ามายุ่งกับจันวิภากันล่ะ เพราะว่าเขาชอบจันวิภาจริงๆ ชอบเสียจนผนังห้องเต็มไปด้วย รูปภาพของเธอ ดังนั้นคืนนี้เขาจึงเตรียมการในห้องผู้ป่วยนี้เป็น พิเศษ เพียงเพื่อลิ้มรสความสวยงามของหญิงสาวที่ฝันถึงมา ตลอดในจิตวิญญาณ
พี่เลี้ยงที่สุมิตรจัดเตรียมเอาไว้ถูกเรียกตัวกลับไปแล้ว กลับมาไม่ได้อยู่พักหนึ่ง และอาหารคืนนี้ของจันวิภาเองก็เป็น แผนการของเขาด้วยเช่นกัน ให้จันวิภากินแล้วรู้สึกง่วง ผลของ ยามันยาวนานพอที่จะทำธุระให้เสร็จ
สิ่งที่ทำให้ชุติเดชมั่นใจมากขึ้นก็คือ เขาตรวจสอบมาว่า คืนนี้สุมิตรต้องไปพูดคุยธุรกิจบันเทิงที่สำคัญ จึงไม่อาจปรากฏ ตัวมาหาจันวิภาได้ในทันที
หลังจากทุกอย่างพร้อม ชุติเดชเดินไปที่ข้างเตียงของจัน วิภา สายตาเผยออกมาให้เห็นถึงความโลภราวกับสัตว์ป่า เขา มีปากที่ใหญ่ ในปากราวกับว่าน้ำลายจะไหลหยุดลงมา ยื่นมือ ออกไปลูบคลำผิวของจันวิภา อดไม่ได้ที่จะพูดเชยชมออกมา “เยี่ยม! นี่มันเยี่ยมจริงๆ! ผิวนี้…ช่างนุ่มละมุน เปล่งปลั่ง และน่าหลงใหล ฉันอยากที่จะทะนุถนอมจริงๆ”
พูดไปพลาง เขายื่นมือออกมาจับใบหน้าของจันวิภาอีก ครั้ง แล้วพูดพึมพำ “ดูสิ ใบหน้านี้ มันทั้งขาวและนุ่มนวล ริมฝี ปากเล็กๆนี่….ช่างน่าหลงใหลจริงๆ…”
ชุติเดชกลืนน้ำตาลงไปอีกหนึ่ง เขายังไม่ได้มีแผนที่จะยึด ครองจันวิภาอย่างรวดเร็ว เขาต้องการที่จะสัมผัสผิวของจันวิภา เขาต้องการรู้สึกถึงความงามของร่างกายทุก ๆ ส่วนของจัน
วิภา
ลูบคล้ำใบหน้าของจันวิภาจนพอใจแล้ว จู่าชุติเดชก็เปิด ผ้าห่มของจันวิภาออก จึงเผยออกมาให้เห็นถึงเรือนร่างของเธอ ที่สวมชุดผู้ป่วยอยู่
อย่างไรก็ตามตอนนี้จันวิภากำลังถูกยาควบคุมอยู่ทำให้ ตกลงสู่การหลับใหลที่ลึก และไม่รู้สึกเลยว่าร่ายกายกำลังถูก คนอื่นสัมผัสอยู่
หลังจากที่ชุติเดชกระฉากผ้าห่มออกมาแล้ว เขาก็มอง เรือนร่างของจันวิภาอยู่นาน ราวกับต้องการมองทุลุเรือนร่างที่ อยู่ด้านใน มองอยู่นาน เขาจึงเผยรอยยิ้มที่ปลิ้นปล้อนออกมา ให้เห็น ปลดกระดุมเสื้อผู้ป่วยของจันวิภาออกอย่างบ้ากาม หนึ่งเม็ด สองเม็ด สามเม็ด..
กระดุมถูกปลดมาขึ้นเรื่อยๆ ใบหน้าของชุติเดชแดงแจ๋ หัวใจเต้นรัว มองไปยังร่างกายส่วนบนที่ภาคภูมิใจของจันวิภา
เมื่อชุติเดชปลดกระดุมเสื้อผ้าออกจนหมด ตอนที่สำรวจ ข้างในนั้นเป็นฉากที่ทำให้เลือดกำเดาพุ่งกระฉูด ทันใดนั้นๆ ห้องก็ถูกคนเตะเปิดออกมา มันมาพร้อมกับเสียงที่แฝงไว้ด้วย ความโกรธ “กล้าดีนี่! ยังไม่รีบหยุดมืออีก! ”
เมื่อเห็นว่าเรื่องดีๆของตนเองได้ถูกคนอื่นทำลายลงไป ชุติเดชจึงหันหน้ากลับมาอย่างไม่พอใจ จ้องมองคนที่เตะประตู เข้ามาด้วยความโกรธแค้น แล้วพูดอย่างไม่พอใจ “แกเป็น ใคร! กล้ามาขัดจังหวะเรื่องดีๆของฉัน! แกรู้มั้ยว่าฉันเป็น ใคร? ! ”
“ฉันสนแน่ว่าแกเป็นใคร! ” ธนภาคก้าวเท้ายาวมาข้าง หน้าแล้วพุ่งกำปั้นเข้าไปหาชุติเดช ชุติเดชถูกชกจนเอนเอียง
หากไม่ใช่ว่าเขาแอบจัดคนไว้ดูจันวิภาอย่างลับๆแล้วล่ะก็ เกรงว่าเขาก็ยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในคืนนี้ และยิ่งไม่ต้องพูด ถึงเรื่องที่จะหยุดมัน!
พอคิดว่าจันวิภาจะต้องมาปนเปื้อนกับคนอื่น ธนภาคจึง โกรธแค้น เขาต่อยไปหมัดหนึ่งแล้วยังไม่พอใจ จากนั้นจึงกด ชุติเดชไว้กับพื้น แล้วต่อยเข้าไปที่หน้าเขาอย่างแรง
“ไอ้เลว! แกกล้าต่อยฉันหรอ! ” ถูกคนต่อยจนล้มลงกับ พื้น ชุติเดชเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เขาอยากจะต่อยคืน แต่ ทว่าธนภาครวดเร็วกว่าเขามากนัก เขาจึงชกเข้าไปที่หน้าก่อน หมัดหนึ่ง เช่นนี้ ชุติเดชจึงทำได้แค่หันหน้ามามองธนภาคด้วยความ โกรธ ธนภาคก็ต่อยลงไปอีกหมัดหนึ่ง ตอยจนใบหน้าของเขา
หันไปข้างๆอีกครั้ง
ร่างกายที่เต็มไปด้วยไขมันของชุติเดชดิ้นรนไม่หยุด อย่างไรก็ตามคนส่วนใหญ่ที่อ้วนมักจะอ่อนแอ เขาเติบโตขึ้นมา ในฐานะลูกชายคนเดียวในครอบครัว มันมีที่ไหนกันที่เขาจะ แข็งแกร่ง ไม่ต้องพูดถึงการถูกกระแทกลงกับพื้นเช่นนี้ นี่มัน ช่างลำบากเสียจริง
“แกยังจะต่อยอีกหรอ! แกรู้มั้ยว่าฉันเป็นใคร! ถ้า….ถ้าฉันปล่อยให้แกหาว่าฉันเป็นใคร ฉันจะทำให้แกวิบัติ แน่! โอ๊ยย..” ชุติเดชยังไม่ทันพูดจบก็เจ็บเสียจนร้องโอด ครวญออกมา เพียงไม่นาน ธนภาคก็ทำให้เขาเงียบลงได้
ชุติเดชโดนต่อยเสียจนร่างกายบาดเจ็บ นอนอยู่กับพื้นไม่ กระดิกไปไหน ธนภาคจึงลุกขึ้นยืนอย่างพอใจ เขากวาดสายตา มองจันวิภาที่อยู่บนเตียง จากนั้นจึงเปลี่ยนสายตาของเขาทันที
สายตามองไปที่อื่น แต่มือกลับดึงผ้าห่มมาคลุมเรือนร่าง ของเธอ หลังจากสิ่งเหล่านี้เสร็จสิ้น ธนภาคจึงหันมาจ้องหน้า เธอ แล้วดูให้ละเอียดว่าจันวิภาไม่ได้เป็นอะไร
หลังจากที่แน่ใจว่าจันวิภาไม่เป็นอะไรแล้ว ธนภาคจึงหัน หลังกลับแล้วเผยความชั่วร้ายออกมา เขาจ้องมองชุติเดชที่กอง อยู่กับพื้น แล้วพูดอย่างเยือกเย็น “แกกล้าดีนี่ แม้แต่ผู้หญิงของ สุมิตรแกก็กล้าแตะต้อง ฉันว่าชีวิตของแกคงจะไปยึดสะ แล้ว!