พิชิตใจนายปีศาจ - ตอนที่ 149
ตอนที่ 149 การเปลี่ยนแปลงของสุมิตร
แต่ว่าเธอกับสุมิตรรู้จักกันมาได้ห้าปีแล้ว ในห้าปีนี้ เธอใช้ แรงกายแรงใจก็ไม่รู้ว่าเขาคิดอย่างไรกับเธอ เขาสองคนมี
ท่าทางเมินเฉย เรียบง่ายอย่างธรรมดาปกติ
เวลาผ่านไปนานแล้ว เจริญศรีเกิดความสงสัยว่าการตอบ สนองสิ่งเร้าของเขาปกติหรือไม่………
เจริญศรีนั่งอย่างเหม่อลอย มองเห็นสุมิตรที่ยังไม่สนใจ เธอ จึงออกมาจากห้องทำงาน
แต่ไม่คิดว่าตอนที่กำลังเปิดประตู หน้าประตูมีร่างคนล้ม
เข้ามาพอดี
เจริญศรีนิ่งไปพักหนึ่ง มีคนล้มทับร่างเธอ เธอจึงกรีดร้อง
เสียงดัง
“นี่เธอ?” เจริญศรีเลิกคิ้วขึ้น นี่มันเลขานุการที่ควรจะนั่ง ตรงเคาเตอร์ ทำไมมาอยู่หน้าประตูได้ หรือว่าแอบฟังอยู่หน้า
ประตู?!
เอาจุดประสงค์ของยัยเลขา เจริญศรีหันหน้าไปพลางถาม
“นี่เธอมาทําอะไรตรงนี้?”
“…………… เลขานุการตัวแข็งนิ่ง เจริญศรีทำเธอกลัวจนไม่รู้จะพูดอะไรดี หางตาเหลือบมองไปที่สุมิตรพบว่าเขา
ทํางานอยู่หน้าคอม โดยไม่ได้แสดงท่าทางอะไร ไม่ได้สนใจ เรื่องที่เกิดขึ้นตอนนี้ “ว่าไง? เธออะไร? พูดให้ชัดเจนนะไม่งั้นฉันไม่ให้อภัยเธอ แน่!” เจริญศรีด่าว่าเลขานุการอย่างโกรธเคือง ความโกรธที่
โดนสุมิตรตำหนิมาเมื่อครู่เอามาลงที่เลขานุการทั้งหมด
เห็นว่าสุมิตรยังไม่สนใจตนทางด้านนี้ เลขานุการจึงกัด ปากล่างพูดไม่ทันเจริญศรีที่กำลังด่าเธออยู่ “เธอมองอะไร? ไม่ ได้ยินที่ฉันพูดหรือ?”
เรื่องที่ยัยบ้านอยากจะได้สุมิตรจนตัวสั่นช่างมันไปก่อน ประเด็นสำคัญคือยังกล้ามาแอบดูสุมิตรอีก ไม่เห็นหัวเธอที่เป็น คู่หมั้นเลย หากว่าสุมิตรไม่ได้อยู่ที่นี่ล่ะก็เธออยากจะตบภัยนี้ สักที
เลขานุการรู้สึกไม่ปลอดภัย ตอนนี้ถูกเจริญศรีด่าว่ายิ่งไม่ พอใจ เธอจ้องเจริญศรีด้วยท่าทางหาเรื่อง “คุณมาด่าฉันทำไม คะ คุณไม่ใช่หรือคะที่จะสั่งให้ฉันนำเรื่องที่ว่าคุณสุมิตรติดต่อ กับใครบ้างให้คุณรู้ คุณเลยให้ฉันอยู่ใกล้ๆคุณสุมิตร ว่า อย่างไรคะ คุณจะกลับค่าหรือคะ?”
แน่นอนว่าเมื่อครู่เธอแอบฟังบทสนทนาด้านใน แล้วรู้สึก ว่าเธอทะเลาะกับสุมิตรเพราะเรื่องสอดแนม
และเธอนี่แหละคือคนที่เจริญศรีให้สอดแนม ตอนแรกเธอ เกรงว่าจะไม่สามารถทำงานเลขาได้ต่อ ตอนนี้มองเจริญศรีที่กำลังด่าทอเธอ จะไม่ทนผู้หญิงคนนี้อีกแล้ว
ตอนนี้เธอยากจะฉวยโอกาสที่สุมิตรอยู่ที่นี่ นำเอกสารไป วางไว้ที่โต๊ะ อย่างร้ายแรงเลยก็ถูกไล่ออก
ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีเรื่องนี้ ผลลัพธ์เธอก็ล้วนเหมือนเดิม ถือ โอกาสนี้มีความสุขสักวันหนึ่ง เธอก็ทนยัยผู้หญิงหน้าไหว้หลัง
หลอกนั้นต่อไปไม่ได้แล้วจริงๆ
ปกติช่างกระแหนะกระแหน ใจแคบน่ะไม่เป็นอะไร แต่พอ อยู่ต่อหน้าสุมิตรน่ะทำเป็นใจดี เธอน่ะไม่ชอบผู้หญิงประเภทนี้ เอาเสียเลย!
เมื่อได้ยินเลขาพูด เจริญศรี ก็สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก เธอกวาดสายตามองไปที่สุมิตรอย่างระแวง ดูเหมือนว่าจะเริ่ม สนใจ จึงหันหน้ากลับพูดว่า “หุบปากไปเลย หุบปากเดี๋ยวนี้ ฉันสั่งให้แกสอดแนมตอนไหน มีหลักฐานหรือไง”
“ฉันจะไม่มีหลักฐานได้ยังไง?” เลขาได้อดทนกับเจริญศรี มานานแล้ว เมื่อพูดออกมาพลางชูโทรศัพท์มือถือด้วยรอยยิ้ม กว้าง “ให้ท่านประธานดูที่ฉันเพิ่งส่งข้อความให้คุณไหมคะ? อ้อ ยังมีก่อนหน้านี้ด้วยนะคะ”
“นี่แก!” เจริญศรีจ้องเขม็งเลขาด้วยความโกรธ ไม่เคยคิด แม้แต่น้อยว่าจะถูกหักหลังโดยยัยเลขาหน้าห้อง โกรธจนอยาก
จะคบคน!
เมื่อสถานการณ์เริ่มรุนแรงขึ้น สุมิตรจึงโพล่งออกมาด้วย ความโมโห “ออกไปเดี๋ยวนี้ ทั้งสองคนเลย!
เสียงของสุมิตรดังผ่านออกไปด้านนอกทำให้สองคนที่ ทะเลาะกันอยู่หยุดลง ทั้งสองมองเขาอย่างทำตัวไม่ถูก
“ยังอยู่ทำไมอีก อย่าให้ฉันพูดซ้ำสอง!” ความโกรธของ มิตรมาถึงขีดสุด หน้าดำหน้าแดงราวกลับจะระเบิดความโกรธ ออกมา
เขากำลังทำงานอยู่กลับมีหญิงสองคนมาทะเลาะกันไม่รู้ จักที่ไม่รู้จักทาง ไร้สาระสิ้นดี!
สิ้นคำพูดของสุมิตร เจริญศรีกับเลขาก็รีบออกไปพลางปิด ประตูอย่างนิ่มนวล เกรงว่าจะทำให้สุมิตรไม่พอใจอีก
หลังจากเจริญศรีกับเลขาออกไป ห้องทำงานก็กลับมา เงียบในที่สุด สุมิตรสูดหายใจเข้าลึกๆ โทรศัพท์ภายในหา แผนกบุคคลให้หาเลขานุการคนใหม่ให้เขาหนึ่งคน
ธนภาคพานิเวศน์กลับมาที่บ้าน พาไปหยุดยังหน้าประตู ห้องหนึ่ง เปิดประตูเข้าไปพลางพูดอย่างรู้สึกผิด “นิเวศน์ โทษที นะ เพราะมันกะทันหันมาก ฉันให้คนมาทำความสะอาดห้องนี้ ไว้ไม่รู้ว่าเธอจะชอบไหม
เมื่อประตูเปิดขึ้น กำแพงสีฟ้า เตียงที่เต็มไปด้วยตุ๊กตา มุมห้องเกลื่อนกลาดไปด้วยของเล่นหุ่นยนต์ต่างๆ สำหรับเด็ก
เมื่อเห็นภาพข้างหน้านิเวศน์ก็อดยิ้มมุมปากไม่ได้ เขาได้ ผ่านวัยที่ชอบของเล่นมาแล้ว ห้องนอนที่อเมริกาเขาคล้ายกับห้องผู้ใหญ่ เป็นห้องนอนธรรมดาเรียบๆ ไม่มีของเล่นพวกนี้
นิเวศน์พยายามไม่แสดงอะไรออกไป เขาเงยหน้ามองธน ภาค แล้วพูดกับธนภาคด้วยใบหน้าใสชื่อว่า “ลุงธนภาคครับ ผมชอบเล่นคอมพิวเตอร์ มีคอมพิวเตอร์ให้ผมเล่นไหมครับ?
“นี่เธอชอบเล่นคอมพิวเตอร์นั้นหรือ?” เขานึกว่าเด็กๆจะ ชอบเล่นของเล่นเสียอีก ไม่คิดว่าเขาจะชอบเล่นคอมพิวเตอร์
การเลี้ยงดูของจันวิภานี้ไม่เหมือนคนอื่นจริงๆ
“อืม ผมชอบเล่นคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์เป็นของเล่นที่ สนุกและน่าสนใจที่สุดในโลกเลยครับ” นิเวศน์พูดเจื้อยแจ้ว ด้วยใบหน้าใส อ
ธนภาคพยักหน้า คอมพิวเตอร์เป็นของเล่นที่มากอย่าง หนึ่งเพราะมันมีระบบกว้างขวาง มีเกมส์เล็กๆ แถมยังหาข้อมูล ได้ ในวิภาอาจจะเตรียมการเพื่อลูกชายตนซึ่งเป็นการใส่ใจที่ ไม่เลว
ธนภาคนาคอมพิวเตอร์ที่ห้องหนังสือตนมาให้นิเวศน์ที่ ห้อง ก่อนออกจากห้องก็เตือนว่า “อย่าเล่นคอมพิวเตอร์นาน เกินไปล่ะ ของพวกนี้มันมีคลื่นรังสีซึ่งมันไม่ดีต่อร่างกาย
นิเวศน์นึกอยากจะตอบกลับไปว่ารู้อยู่แล้ว แต่หากว่าพูด แบบนั้นออกไปจะเป็นการเผยไอคิวของตน ว่าตนรู้มากไป
ดังนั้นจึงพูดคำถามที่เหมาะกับวัยตน พลางทำหน้าด้วย ความสงสัย “อาชนภาคครับ คลื่นรังสีคืออะไรหรือครับ?”