พิชิตใจนายปีศาจ - ตอนที่ 161
ตอนที่ 161 ฉันไม่ใช่ผู้หญิงง่ายๆ
จนวิภาอึ้ง ตั้งนานถึงจะย่อยคำพูดสุมิตได้ เธอคิดย้อนดู เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ เขาคิดว่าฉันชอบธนภาคหรือเปล่าหน
พอนึกถึงตรงนี้ จันวิภาไม่รู้ว่าควรจะร้องไห้หรือหัวเราะ จะโกรธหรือมีความสุขดี หลายปีแล้วสุมิตรยังแก้นินัยนี้ไม่ได้ รู้สึกเธอเจอผู้ชายคนไหนก็ชอบคนนั้น
สุมิตรนายจะสายตาดูถูกผู้หญิง มาคนไง?
วิภากลั้นไม่ไหวถอดหายใจ อธิบาย : ” ฉันคิดว่าท่าน
ประธานคุณเข้าใจอะไรผิดฉันกับธนภาคเพิ่งเคยเห็นครั้งที่ สองวันนี้ และอีกอย่างฉันก็ไม่ได้คิดอะไรกับเรา ประธานไม่ต้อง คิดมาก ฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่ชอบใครไปทั่ว
หม ตอบกลับอย่าเย็นชา : ” หวังว่าจะเหมือนอย่างที่เธอ
พูด”
เห็นหน้าสุมิตรเริ่มดีขึ้น จนวิภาก็โล่งใจ ไม่ว่าเวลาไหน ไม่ว่าสถานะอะไร เธอกสุมิตรคุยกันก็จะเหนื่อยมาก
บรรยากาศเงียบ จันวิภาเอากระเป๋าวานที่พกพาตลอด เอาเอกสารออกมาเป็นกองเพื่อเตรียมประชุมที่จะถึง มีรายละเอียดบงอย่างที่จะต้องบอกกับสุมิตร
สุมิตรมองจนวิภาที่กำลังอ่านบทอยู่เงียบๆถึงกับผู้หญิงคน นี้มีความทุเรศอยู่บ้าง แต่ความตั้งใจที่เน้นอยู่ที่เดียว ทำให้คน ผ่อนคลาย…..
พอจันวิภาอธิบายรายละเอียดเสร็จ สุมิตร * นารา ทำไมป่านี้แล้วเธอยังไม่แต่งงาน? ก็พูดขึ้นมา :
ตอนแรกกำลังคุยงานอยู่ พอสุมิตรแทรกเข้ามาแบบนี้ วัน วิภาไม่รู้จะทำยังไงเลย
“นี่……. จนวิภาไม่ตอบสักที เธอเลือกที่จะไม่ตอบได้ไหม?
เห็นสีหน้าที่ไม่อยากจะตอบของฉันวิภาแล้ว สุมิตรก็รู้ว่า เขาถามกะทันหันไป ไม่เพียงแต่นารา ตัวเขาเองก็ตกใจ
แต่ไม่รู้ทำไม เขาอยากจะรู้เรื่องราวของเธอ
“พอ ไม่ต้องพูดแล้ว”
สําหรับการผิดปกติแบบนี้ของตัวเองเขาไม่ชอบเลย สุมิตร นั่งตัวตรง หลับตาไม่พูดคุยกับใครอีก
จนวิภาห้ามใจไม่อยู่จับตา แล้วมองไปที่สุมิตร ไม่รู้ว่าวันนี้
เขาเป็นอะไร
กินนาผิดแน่ๆ?!
6ปีที่ไม่ได้เจอกัน สุมิตรไม่เพียงแต่เปลี่ยนไปมาก และยัง ผิดปกติอีก ทำให้จนวิภารู้สึกเหมือนไม่รู้จักเขา
การประชุมทางธุรกิจจะประชุมในบริษัทที่พัฒนาได้ เพราะว่าสงไกล ทั้งสองเลยออกเดินทางก่อน
การประชุมธุรกิจครั้งนี้เหตุผลหลักๆก็คือรวบรวมบิ๊กบอส ที่มีมา เปิดการประชุมเกี่ยวกับแนวโน้มของการพัฒนา อุตสาหกรรมเมื่อเร็ว ๆ นี้ มาลองพูดคุยเกี่ยวกับการพัฒนา อนาคตในด้านนี้
พูดง่ายๆคือ คนพวกร่วมรวมกันมีงาน
ตอนจันวิภากับสุมิตรถึง ก็มีบิ๊กบอสสองคนอยู่บนห้อง ประชุมแล้ว ตอนแรกทุกคนก็พูดคุยกัน จันวิภาก็ไม่ได้อะไร แค่ อยากนั่งอยู่เงียบๆตามลำพัง
แต่ไม่ทันใด ประตูถูกเปิด ปกติแล้วจันวิภาจะไม่มองอะไร มาก แต่เธอได้ยินเสียงที่คุ้นเคย เลยตั้งหน้าจ้องมอง
“คุณชนุดม คุณณัฏฐ์ คุณสุมิตร ขอโทษที ที่มาช้า “เสียงที่ หนาแน่นดังขึ้น เดินเข้ามาเรื่อยๆ แล้วมองหน้าแต่ละคน
เหมือนกับรอยยิ้มที่พัดมาในฤดูใบไม้ผลิ อารมณ์อ่อน
โยนสูงทรง แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจและความความสงบ เขาทักทายกับพวกนักธุรกิจพวกนั้นเสร็จ ก็นั่งลง
จันวิภาจ้องมองเธออย่างงง สายตาไปตามตัวเขา อึ้งไป
คนนั้นไม่ว่าจะยิ้มหรือขยับ มันคุ้นเคยมาก แต่ทำไม……..
ทำไม……….วิชญ์ยังมีชีวิตอยู่?!
จนวิภาอึ้งมาก เธอไม่อยากจะเชื่อสายตาเธอ ให้ตานเถอะ!!! ที่จริงแล้วเขายังมีชีวิตอยู่!!! นราวิชญ์ไม่ใช่ว่าตายแล้วหรอ?!
จันวิภามีสักช่วงหนึ่งที่อยากเข้าไปถาม ตอนนั้นเธอเห็น ศพเขากับตา และยังยืนยันว่าเรื่องที่เขาตายเป็นเรื่องจริง…….
หรือว่าในโลกนี้ยังมีของที่ทำให้คนตายแล้ว ฟื้นขึ้นมา หรืออาจจะเป็น คนบนโลกนี้มีคนสองคนที่หน้าตาเหมือนกัน? มันเป็นอะไรกันแน่?!
จันวิภาตกใจจนทำไรไม่ถูก เธอยืนอึ้งอยู่ตรงที่เดิม ไม่ ได้สติกลับมา
หรืออาจจะเป็นเพราะสายตาที่จันวิภามองนราวิชญ์ร้อน แรงเกินไป รู้สึกถึงเธอกำลังจ้องมอง นราวิชญ่ไม่เข้าใจ แต่ก็ มองไปที่เธออย่างมีมารยาท ยิ้มอ่อนๆ อ่อนหวานถึงสุดขีด
สุมิตรก็รู้สึกได้แล้ว ดูจันวิภาแบบนี้ เขารักคิ้วขึ้นเล็กน้อย อย่างไม่รู้สึกตัว โมโหนิดๆ นึกว่าจนวิภาชอบความรักของเรา วิชญ์ แล้วพูดประชดเธอว่า “ตั้งใจจด อย่าหลงผู้ชาย!
ผู้หญิงคนนี้ เขาเกือบจะเชื่อคำพูดเธอแล้วไหมล่ะ ก็คิดว่า เธอไม่คิดไรกับธนภาคจริงๆ แค่คิดไม่ถึงว่าเธอจะชอบธนภาค แล้ว ตอนนี้เจอนราวิชญ์แล้ว เธอถึงกับต้องไม่หยุด จ้องมองคน อื่นต่อหน้าต่อตา
ทําไมเธอหลายใจขนาดนี้ ชอบอีกคนแล้วอีกไปอีกคน ผู้หญิง ดูแค่ภายนอกไม่ได้ เขาประมาทเธอไปจริงๆ
สุมิตรยิ่งคิดยิ่งโมโห แต่อยู่ในงานห้ามโมโน แต่เขาไม่รู้ ตัว เทียบกับความโกรธแล้ว มากกว่าคือเขาอิจฉา
พอได้ยินเสียงเตือนของสุมิตร จันวิภาเพิ่งได้สติกลับมา ตอนนี้เริ่มประชุมแล้ว เธอต้องฝืนใจฟังเรื่องประชุม ในสมอง ไม่มีความคิดใดๆเลย
ทำไงดี เธอไม่สามารถที่จะตั้งสติได้ ในสมองมีแต่ภาพ ศพนราวิชญ์เมื่อปีที่แล้ว ตรงหน้าแถมยังมีนราวิชญ์ตัวเป็นๆ
ความสงสัยในใจไม่ได้รับคำตอบมา จนวิภากนั้นฝืนใจ จนถึงช่วงพัก เมื่อได้เสียงพัก เธอก็รีบวิ่งออกไปนอกประชุมวิ่ง ไปห้องชงชาไปตั้งสติ
จันวิภาดื่มไปแก้วหนึ่ง แล้วยิง ฝาผนังปล่อยให้สมอง โล่ง รอจนถึงเธอเริ่มใจเย็นลงได้ พอจะจากไป ก็เห็นคนที่ไม่
คาดคิดเกินมา
ใช่แล้ว เป็นสุมิตร!
จันวิภามองดูนราวิชญ์อย่างมึนงง ว่าจะทักทายด้วย แต่ก็ ไม่รู้ควรจะพูดยังไงดี
สวัสดีครับ” ดันเป็นนราวิชญ์ที่ทักทายอย่างมีมารยาท “คุณคือเลขาของประธานสุมิตร เมื่อตอนประชุมเห็นคุณยืน อยู่ข้างๆเขา
“อา……………….. จนวิภาอึ้งไปสักพักถึงจะได้สติกลับมา
แล้วมองไปที่เธอด้วยสายตาที่ประกายแสง
สายตาแบบนี้ของจันวิภา นราวิชญ์อดใจไม่ไหวม เขา เดินไปบดกาแฟให้ตัวเอง ยิ้มแล้วถาม: “ คุณเคยเจอผมก่อน หน้านี้ไหม? ทำไมใช้สายตาแบบนั้นมองผม?”