พิชิตใจนายปีศาจ - ตอนที่ 17
ตอนที่17 เธอถูกคนไปแล้ว
“คุณปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันแค่ถูกหลอกมาที่นี่ ฉันขอร้องคุณช่วยปล่อยฉันไปเถอะจันวิภาลุกขึ้น ยืน อยากคว้ามือของผู้ชายคนนั้นจับเพื่อขอร้อง
“ที…”ชายคนนั้นกลับยิ้มขึ้นมาในทันที จ้องมองดูจันวิภา แล้วพูดออกมาอย่างสนุกสนาน ” โดนหลอกมาหรอ
“อืม! “จันวิภาพยักหน้าอย่างรวดเร็ว เธอเกือบถูกรอย
ยิ้มที่อยู่บนใบหน้าของเขาทำให้สับสนไปเสียแล้ว
“ผมเข้าใจแล้ว
ชายคนนั้นพยักหน้า จันวิภารู้สึกยินดีเป็นอย่างมากเมื่อ คิดว่าเขาจะปล่อยตนเองไป แต่กลับได้ฟังพูดที่หยอกล้อของ เขาอย่างช้าๆ “แต่ว่า ผมต้องส่งเธอให้กับคุณบูรพา”
จันคนงง จ้องมองเขาอย่างไม่เชื่อสายตา
สุมิตรขายตนเองไป ผู้ชายคนนี้ซื้อเธอไป สุดท้ายก็ต้อง ส่งต่อให้คนอื่นอีกหนึ่ง
“เป็นอย่างนี้นี่เอง ฮ่าๆๆ งั้นก็ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้จะรองรับ ความต้องการของคุณบูรพาได้หรือไม่! “พิธีกรที่อยู่บนเวธี หัวเราะขึ้นมา
สีหน้าของจันวิภาเปลี่ยนเป็นขาวซีดในทันที ลากเอา กุญแจมือที่หนักอึ้งเดินตามหลังของชายที่สวมหน้ากากสีเงิน คนนั้น
เงยหน้าขึ้นมองชายคนนี้อย่างละเอียด จันวิภาจึงสังเกต ได้ว่ารูปร่างของเขานั้นคล้ายคลึงกับสุมิตรเป็นอย่างมาก แต่ กลิ่นของร่างกายที่แผ่ซ่านออกมานั้น มันช่างด่างกับความโหด เที้ยมและเย็นยะเยือกของสุมิตรโดยสิ้นเชิง เขาดูช่างอบอุ่น แต่ ถึงกระนั้น กลับแข็งแกร่งจนมิอาจที่จะต่อต้านใด้
“คุณผู้ชาย ไม่ทราบว่าบูรพาคนนั้นคือ…”
จันวิภากัดริมฝีปากล่าง อดไม่ได้จะเอ่ยปากถามออกไป ชายคนนั้นหยุดนิ่งไปพักหนึ่ง และไม่สนใจเธออีก
ไม่สนใจงั้นหรือ จันวิภาขมวดคิ้ว มองซ้ายและขวา ไม่ว่า จะเป็นอย่างไง เธอก็ไม่อาจที่จะยอมรับชะตาชีวิตเช่นนี้ได้ เธอ จะต้องหนีอย่างแน่นอน!
“ผมจะแนะนำเธอนะว่าอย่าคิดที่จะทำอะไรให้เสียแรง เปล่าเลย ในเมื่อผมได้ซื้อเธอไปแล้ว เธอก็ไม่มีทางหนีได้อีก” เขาคาดการณ์ได้อย่างทะลุปรุโปร่งว่าจันวิภากำลังคิดอะไรอยู่ เสียงของชายคนนั้นก็ดังขึ้นมาทันที จากนั้นจึงยื่นมือออกมา แล้วดีด นิ้ว ก็ได้มีชายสองคนที่ร่างกายกำยำใส่แว่นกันแดดสี ดำ สวมใส่สูทสีดำ ยืนอยู่ทางด้านหลังของเธอ
คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีบอดี้การ์ด
จันวิภาตัวแข็งที่อขึ้นมาทันที อดไม่ได้ที่จะเราะเยาะตนเอง
เป็นอย่างนี้ไปแล้ว จันวิภา เธอยังคาดหวังว่าตนเองจะได้
รับความช่วยเหลืออีกหรอ? สุมิตรเพียงต้องการอัปยศอดสูเธอ นั่นแหละ แต่พวกเขาเป็นสามีภรรยากัน เขายังขายเธอไปได้เฮ้อ
เมื่อจันวิภาสูญสิ้นความหวัง ก็ได้เห็นรถเก๋งสีดำของนัก ธุรกิจระดับสูง จากนั้นชายคนนั้นก็ได้พูดกับเธอว่า”ขึ้นรถ”
จันวิภากัดฟัน ลังเลใจอยู่เล็กน้อย
แต่ทว่าบอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังนั้นไม่ให้โอกาสอะไรแก่ เธอเลย ผลักเธอย่างรุนแรง จนจันวิภาสะดุดโซซัดโซเซ ไม่ทัน ตั้งตัวกำลังจะล้มลง
แต่ทว่าวินาทีต่อมา เธอกลับไม่ได้ล้มลง แต่ล่วงหล่นลงสู่ อ้อมกอดอันแสนอบอุ่น
“โถมตัวเข้ามาสู่อ้อมแขนหรอ”เสียงเยาะเย้ยสดใสของ ชายคนนั้นตั้งอยู่บนศีรษะของเธอ”เธอนี้ไม่ทำตัวให้ดีจริงๆ”
“ใครโถมตัวเข้ามาสู่อ้อมแขน ถ้าบอดี้การ์ดของนายไม่ ผลักฉันล่ะก็ ฉันก็ไม่ล้มลงหรอก! “จันวิภาแบะปาก แล้วลุกขึ้น มาอย่างรวดเร็ว แหงนหน้าขึ้นมองชายคนนั้นอย่างดื้อรั้นแล้ว พูดขึ้นว่า “นาย….ยังไม่คู่ควรที่จะให้ฉันไปริเริ่มหรอก ที ”
ชายคนนั้นก้มศีรษะลงมา จ้องมองดูท่าทีของจันวิภา อดไม่ได้ที่จะแสยะยิ้มออกมา
เมื่อคนขึ้นรถไปแล้ว คิดถึงตนเองจะต้องถูกส่งไปให้กับ บูรพาคนนั้น แถมยังจะหนีไม่ได้อีก จันวิภาจงรู้สึกร้อนใจ
เจ้าสารเลวสุมิตรนั่น เจ้านั่นไม่มีความเป็นมนุษย์อยู่เลย หากมีวันหนึ่ง เธอจะต้องล้างแค้นให้ได้
ชายที่นั่งอยู่ด้านข้างจันวิภา ไม่ได้สังเกตถึงการ
เคลื่อนไหวอันเล็กน้อยของเธอ ตอนนี้เขามองออกไปที่ด้าน นอกของหน้าต่าง ราวกับว่ากำลังครุ่นคิดอะไรอยู่
ในนานนัก รถก็ได้จอดอยู่ที่หน้าประตูโรงแรมอันหรูหรา โอ่อ่าแห่งหนึ่ง
จันวิภาตะลึงงันทันที มองไปรอบๆ นิ้วมือเริ่มที่จะสั่นไหว ไม่หยุดหย่อน ต้องเริ่มแล้วหรือ…
หลังจากลงจากรถ จันวิภาเดินตามหลังชายคนนั้นเข้าไป
ในโรงแรม
ทำอย่างไรดี สายเกินไปแล้ว..
ตอนนี้ควรทำอย่างไรดี
ถ้าไม่หนีก็
เมื่อเดินไปยังลิฟต์เพื่อขึ้นไปชั้นบน จันวิภาคิดได้แผนขึ้น มาอย่างรีบร้อน ร้องสะอื้นทันที”ฮะ.โอ้ยๆ..อูย..”
“เป็นอะไรไป?”ชายคนนั้นหันหน้ากลับมองจันวิภา
“ฉัน…ฉันปวดท้อง….”จันวิภาขมวดคิ้วขึ้นมาทันที แสร้ง ทำเป็นว่าเจ็บปวด เธอแหงนหน้าขึ้นมามองชายคนนั้นอย่าง ขลาด กลัว กระซิบขอร้อง”ฉันอยากไปเข้าห้องน้ำก่อนแล้วค่อย กลับมา..