พิชิตใจนายปีศาจ - ตอนที่ 197
ตอนที่ 197เธอเป็นมือที่สามได้ไหม
เขากำลังสงสัยเธอ? !
จันวิภาหายใจเข้าลึกๆเฮือกหนึ่งพยายามทำให้ตนเอง สงบลงแล้วพูดจาไร้สาระออกมาอย่างเงียบๆ พูดไปแล้วฉันก็ สามารถให้ตนเองเข้ามาทำงานในบริษัทของนายได้อย่างราบ ……..นายดุสิตอนนี้การแข่งขันระดับมืออาชีพนั้นรุนแรงมาก เลขานุการตำแหน่งนี้จะต้องเป็นผู้หญิงที่สวยแน่นอน
และประวัติศาสตร์มีผู้หญิงคนที่ได้รับการเลื่อนตำแหน่ง เนื่องจากอาชีพของพวกเขาและเหตุการณ์ที่เกิดจากการสมรู้ ร่วมคิดกับผู้บังคับบัญชาตัวอย่างเช่นข่าวภายในของบริษัททั่ว ไหลออกมาทั้งวันคิดแต่เพียงสมคบคิดกับหัวหน้าและไม่ใช้ใจ ทำงานอีกตัวอย่างหนึ่งคือสภาพแวดล้อมการทำงานในฐานะ เจ้านายจะต้องไม่ชอบเลขาของตัวเองที่มีพฤติกรรมเช่นนี้…….
“ดังนั้นฉันก็เลยแต่งตัวน่าเกลียดหน่อยให้ดูแก่ๆและไม่ คิดอะไรมากมายไม่รู้สึกหรอว่าอย่างนี้มีโอกาสได้รับการคัด เลือกจากเจ้าหน้าที่สรรหาสูงกว่า?
เมื่อได้ยินจนวิภาพูดจบสุมิตรก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออก มาครั้งใหญ่ฮ่าๆๆเลขาของเขาคนนี้ช่างมีความคิดจริงๆเขาเอง ก็พึ่งเคยได้ยินความคิดเช่นนี้เป็นครั้งแรก
แม้ว่าเขาจะเคยมีเลขานุการแบบที่เธอเคยพูดแม้กระทั่ง เลขานุการก่อนหน้าเธอก็ยังพยายามล่อลวงความสนใจจาก เขาแม้ว่าเขาจะรู้แต่ก็ไม่เคยสนใจมันเลย
คนที่มีคุณธรรมสูงมักจะมีผู้หญิงต้องการมาแนบชิดติด ใกล้อยู่เสมอสุมิตรผู้ซึ่งผู้บนจุดสูงสุดได้คุ้นเคยกับผู้หญิงพวกนี้ มานานแล้ว
เสียงหัวเราะของสุมิตรดึงดูดจนวิภาให้ประหลาดใจ นาย หัวเราะอะไรหรือมันไม่ใช่อย่างนั้น ฉันรู้สึกว่าฉันมีไหวพริบ มากขึ้นเยอะแล้วนะ?”
“ไหวพริบ? เมื่อได้ยินคำพูดของฉันวิภาสุมิตรก็หัวเราะ อย่างเบิกบานใจขึ้นอีก
นี่เป็นครั้งแรกที่จันวิภาเห็นสุมิตรหัวเราะได้อย่างมีความ สุขเช่นนี้ตามปกติแล้วเขาจะหน้าแข็งที่อเยือกเย็นเสียจน ราวกับเหมือนภูเขาน้ำแข็งพันปีมองดูท่าทางที่เข้าถึงได้ง่ายมัน ช่างอบอุ่นเป็นอย่างยิ่ง……..
แสงตะวันยามเช้าสาดส่องลงมาร่างของสุมิตรราวกับถูก คลุมไว้ด้วยแสงสีทองใบหน้าอ่อนนุ่มหล่อเหลารอยยิ้มที่อยู่ตรง มุมปากนั้นสมบูรณ์แบบดูหล่อเหลาเป็นอย่างมาก
มีครู่หนึ่งในวิภามองดูอย่างตกตะลึง
แต่ทว่าคําพูดต่อไปของสุมิตรทำลายจินตนาการของเธอ เข้าเสียแล้ว แต่ฉันจำได้ตอนที่เธอมาสมัครก็ได้ถูกคน สัมภาษณ์ปฏิเสธไปและเจริญศรีก็แนะนำเธอให้มาเป็นเลขาของฉันเธอก็เลยเข้าบริษัทมาได้อย่างนี้น่ะหรอที่เธอยังจะพูดว่า ตนเองมีไหวพริบอยู่อีก?”
ก็ได้เป็นเธอเองที่คิดเยอะเกินไปดูเหมือนสุมิตรจะหล่อ มากแต่ตัวละครของเขากลับแย่เพราะปากนี่แหละ
พูดไปแล้วทำไมสุมิตรถึงได้รู้เรื่องการสัมภาษณ์ของเธอ ได้ดีขนาดนี้หรือเขาจะไปตรวจสอบมา
จันวิภาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงตัดสินใจเอาหน้าของตนเอง ก ลั บ ค น ม า จ า ก น น ถึง พูด อ อ ก ไ ป อ ย่ า ง กระวนกระวาย”ฉัน……..เป็นเพราะฉันแต่งตัวหน้าเกลียดเกินไป หน่อยคนสมภาษณ์ก็เลยไม่ต้องการฉัน…..และฉันก็จำได้คน สัมภาษณ์พูดเอาไว้ว่าผู้จัดการของบริษัทเราต้องการผู้หญิงที่ สวยๆ……คิดไม่ถึงเลยว่าคนสวยในบริษัทของนายจะทำงานไม่ เป็นและยังเป็นผู้จัดการอีก”
จันวิภาโกรธเสียจนสาดโคลนกลับมาหาสุมิตร
ใบหน้าของสุมิตรเปลี่ยนไปเล็กน้อยแต่เขาก็ไม่พอใจผู้ จัดการที่ให้โอกาสนวิภาได้แก้ต่างกับเขา
สุมิตรปรับอารมณ์ของเขาแล้วพูดกับจันวิภาอย่าง จริงจัง เดินทีเรื่องนี้เธอก็ทำไม่ถูกทำไมเธอไม่คิดมุมอื่นบ้างเจ้า นายบางคนชอบให้เลขาที่อยู่ข้างๆสวยและน่ามอง เช่นนี้จะ ทํางานออกมาได้ดีใครจะหวังว่าเลขาของตนเองจะเป็นคนขี้เหร่ กันล่ะ”
สำหรับคำพูดของสุมิตรจันวิภาแสดงออกถึงความไม่ พอใจอันเต็มเปี่ยมเธอมองไปทางสุมิตรแล้วพูดอย่างเยาะ เย้ย “นั่นไม่ใช่เพราะพวกผู้ชายบ้ากามหรือไงไม่งั้นก็คงไม่ให้ โอกาสผู้หญิงเช่นนี้ตอนนี้มีการปรากฏตัวขึ้นของพวกมือที่สาม ส่วนใหญ่เป็นเพราะมีความรักในที่ทำงานนี่แหละ……
“ใช่หรอ?”คำพูดของจันวิภาทำให้สุมิตรครุ่นคิดเขาคิด อยู่ครู่หนึ่งทันใดนั้นก็มองจันวิภาอย่างจริงจังสายตาส่อง ประกาย ถ้าอย่างนั้นเธอจะกลายมาเป็นมือที่สามนั่นมั้ย?”
ทันใดนั้นเองหัวใจของฉันวิภาก็เต้นเป็นจังหวะที่เร็วมาก ขึ้นคำพูดของสุมิตรทำให้ตัวเธอแข็งที่ออย่างเลี่ยงไม่ได้ราวกับ ว่าเลือดในร่างกายกำลังย้อนกลับจนวิภารู้สึกแต่เพียงว่าสมอง ของตนเองร้อนจี้เป็นที่สุด
คำพูดนี้ของสุมิตรหมายความว่าอย่างไงกันแน่?
เขามีคู่หมั้นอยู่แล้วหรือเขาต้องการจะให้ตนเองเป็นมือที่
สาม? !
หรือ……..ลังสงสัยว่าตนเองอยากจะเป็นมือที่สามหรือ
เปล่า?!
แต่ไม่สนว่าจะเป็นอย่างไรผลก็คือเธอไม่อาจยอมรับได้
ยิ่งไปกว่านั้นเธอก็ไม่มีความคิดที่จะเป็นมือที่สาม! ทำไมเธอต้องเป็นมือที่สาม? ! ว่ากันตามเหตุและผลแล้วเธอต้อง
เป็นภรรยาคนแรก ถึงจะถูก
แม้ว่าเธอกับสุมิตรจะไม่มีใบอะไรมารับรอง ในจุดนี้ ทำให้ฉันวิภารู้สึกสิ้นหวังอย่างแปลกประหลาด
ภายในใจของจันวิภาส่องประกายความไม่พอใจออกมา เล็กน้อยหัวเราะออกมาอย่างเยาะเย้ยเธอมองไปที่สุมิตร โดยมี แรงจูงใจซ่อนเร้นหัวเราะแล้วพูด “ท่านประธานอย่ามาล้อเล่น เลยฉันเองก็เป็นคนที่มีลูกแล้วจะให้ไปเป็นมือที่สามหรอ?”
“นั่นก็ไม่แน่! “รู้ดีว่าสิ่งที่ตนเองพูดตอนนี้มันอาจจะเป็น เลยไปหน่อยหากสุมิตรเปิดปากก็ไม่อาจหยุดได้เขาจ้องมองไป ที่ด้านหน้าแล้วพูดกับฉันวิภา”เธอเป็นผู้หญิงตัวคนเดียวและยัง มีลูกอีกคนหนึ่งมันก็ค่อนข้างที่จะลากใครจะรู้ล่ะว่าจะได้เป็น มั้ย? พูดไปแล้วพ่อของเด็กล่ะ? ทำไมเขาถึงไม่รับปิดชอบคิดไม่ ถึงเลยว่าจะทิ้งเด็กให้ผู้หญิงคนเดียวดูแล
คำพูดของสุมิตรได้กระโดดข้ามเส้นของจั่นวิภาเข้าเสีย แล้วทำไมเขาถึงพูดอย่างจริงจังว่าอยากให้ตนเองเป็นมือที่สาม จังนะ?
หรือว่าเขาคิดไม่บริสุทธิ์หรือว่าการแสดงออกของตนเอง ทำให้เขาเข้าใจผิดว่าตนเองไม่เหมือนอย่างนั้น?
“ฉันว่าท่านประทานกำลังเข้าใจผิดแล้ว”ภายในใจของฉัน วิภาแฝงไว้ด้วยความโกรธแต่ใบหน้ากลับเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม มองสุมิตรแล้วพูดขั้น “ทำไมฉันจะต้องเป็นมือที่สามด้วย ฉันรู้สึกว่าฐานะของพวกเราทั้งสองคนดูเหมือนจะไม่ค่อยดีนักที่จะ พูดถึงเรื่องนี้เดี๋ยวคนไม่รู้จะคิดว่าฉันมีความสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะ สมกับนาย
“สุมิตรจ้องมองจันวิภาอย่างลึกซึ้งแล้วไม่พูดอะไรอีก
เนื่องจากคำพูดเมื่อครู่นี้ทำให้เวลาช่วงต่อไปไม่ค่อยจะมี ความสุขนักทั้งสองคนกินอาหารเช้าด้วยกันจากนั้นทั้ง เครื่องบินบินไปยังเมือง คู่ก็ขึ้น
เมืองBเป็นเมืองชายฝั่งทะเลมีแหล่งท่องเที่ยวชายทะเล และการท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมหลัก โดยเฉพาะในช่วงฤดู ร้อนจึงดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากให้มาเล่น
ตอนที่เครื่องลงจอดก็เป็นช่วงบ่ายที่แดดร้อนจัดแล้วสุมิตร แสดงท่าทีว่าจะไปพักผ่อนที่โรงแรมก่อนหนึ่งวันแล้วพรุ่งนี้ค่อย พูดคุยเกี่ยวกับความร่วมมือกัน
จนวิภาเดินตามหลังอย่างไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่นักมา จนถึงโรงแรมเธอพึ่งจะพักแต่สุมิตรกลับเดินเข้ามาเคาะประตู ห้องของเธออีกครั้ง
“ทำอะไร?” เธอพึ่งจะเตรียมตัวนอนสุมิตรก็มารบกวนเธอ แล้วสีหน้าของเธอเปลี่ยน
“พวกเราไปเที่ยวกันเถอะ”สุมิตรพูดออกมาด้วยอารมณ์ที่
เบิกบาน