พิชิตใจนายปีศาจ - ตอนที่ 207
ตอนที่207สุมิตรเกิดเรื่องขึ้นแล้ว?
“ฉันไม่รู้ว่านายมีความคิดอะไรถึงพูดคำ พูดแบบนั้นออกมาต่อจากนี้ฉันไม่ต้องก ารได้ยินเรื่องมือที่สามกับนายอีกแล้ว งไปกว่านั้นนายไม่พูดเลยว่าจะให้ฉันไป เป็นมือที่สาม ! ฉันไม่ต้องการ ! และน ายก็ไม่เหมาะสม”
คำพูดของจันวิภาแทบจะพูดตะคอกออ กมาเมื่อสุมิตรได้ยินจึงมีสีหน้าที่หม่นห มองเขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ จันวิ ภาในเมื่อเธอรู้ว่าฉันพูดเล่นเธอจะโกรธ ขนาดนี้ทำไม?”
สุมิตรฉุนจันวิภาสีหน้าของเธอหันกลับ มาอย่างไม่เป็นธรรมชาติท่าทางโกรธม ากพูดขึ้น อย่างไรก็ตามฉันไม่ชอบที่นา ยล้อเล่นขนาดนั้นฉันจะคิดว่านายไม่เคา รพฉัน”
“สุมิตรกวาดสายตามองจันวิภาผ่าน กรจกมองหลังเขาหัวเราะเยาะแล้วพูด ตอบกลับไป“จันวิภาในเมื่อเธอพูดอย่า งนี้เธอจะพิจารณาฉันอีกครั้งงั้นหรอ? ”
“นายหมายความว่าไง?”แม้ว่าจะยังโกร ธอยู่แต่จันวิภาก็ยังคงรักษาเหตุและผล เอาไว้อยู่คำพูดของสุมิตรทำให้เธอรู้สึ กแปลกและไม่ลงรอยกันเธอจ้องมองสุ มิตรด้วยสีหน้าที่สงสัยดูเหมือนว่าจะต้อ งการคำตอบจากเขา
อย่างไรก็ตามสุมิตรกลับไม่พูดออกมา อีกหลังจากที่เขาพูดประโยคนั้นออกไป ก็ขับรถมองตรงไปข้างหน้าอย่างจริงจัง ถึงโรงแรมแล้วสุมิตรจอดรถในที่จอดร ถโดยที่ไม่พูดอะไรสักคำจากนั้นจึงเดิน ไปที่ประตูโรงแรม
จันวิภาเดินตามหลังเขามาแต่กลับถูกสุ มิตรทิ้งระยะห่างไปอย่างรวดเร็วจันวิภา ไม่รู้จะทำอย่างไรทำได้เพียงก้าวขาเล็ กๆเดินตามไป
ขึ้นไปยังชั้นที่พักอยู่จันวิภาจึงจะคิดได้ ว่าสุมิตรพูดอะไรออกมาสุมิตรก็ได้เดินเ ข้าไปในห้องของตัวเองจากนั้นก็มีเสียง ปิดประตูดัง“ปัง”ตามมาทิ้งจันวิภาให้เดิ นอยู่ตรงทางเดินคนเดียว
11
จันวิภาจ้องมองสุมิตรที่สะบัดประตูปิดไ ปอย่างงุนงงอดไม่ได้ที่จะลูบจมูกของต นเองไม่รู้ว่าเขาเป็นบ้าอะไรขึ้นมาอีก จันวิภาไม่รู้ว่าสุมิตรโกรธอะไรขึ้นมาอีก หรือจะเป็นคำพูดนั่นตอนที่เขาอยู่บนรถ ….เธอยังไม่ได้ตำหนิเขาเลยเขาหันไป ตำหนิตัวเองแล้ว?
ใครกันที่พูดปากพล่อยออกมาก่อน?หา กไม่ใช่ว่าเขาพูดเรื่องที่จะให้ตนเองเป็น มือที่สามออกมาก่อนล่ะก็เธอก็คงจะไม่ โกรธขนาดนี้จริงมั้ย?
ที่แท้เป็นใครกันแน่ที่ไม่คิดถึงความรู้สึ กของใคร?ที่จะให้ผู้หญิงที่มีลูกแล้วหนึ่ งคนไปเป็นมือที่สามของคนอื่นมันถูกห รอ?ยิ่งไปกว่านั้นผู้ชายคนนั้นยังมีคู่มั่นแ ล้วด้วย
เป็นใครกันแน่ที่ไม่เห็นใครอยู่ในสายตา
!
จันวิภายิ่งคิดก็ยิ่งโกรธเธอเปิดประตูห้อ งของตนเองและสะบัดปิดไปอย่างแรง อาบน้ำแล้เข้านอนด้วยความโกรธ
เป็นคำคืนที่ไร้เสียง
ตอนที่ตื่นขึ้นในวันต่อมาหลังจากที่จันวิ ภาลุกขึ้นมาหวีผมแต่งหน้าแล้วก็เดินลง ไปชั้นล่างเพื่อรับประทานอาหารเช้ารอ จนกระทั่งเธอทานอาหารเช้าจนหมดจึง จะกลับไปชั้นบนแล้วมองดูประตูห้องข องสุมิตรอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามไม่รู้ว่าสุมิตรจะยังโกรธกั บเรื่องเมื่อวานนี้อยู่มั้ยจันวิภาเคาะประตู แต่ก็ไม่มีใครมาเปิด
คงไม่ได้ขี้น้อยใจขนาดนั้นหรอกคงไม่ หรอกมั้งเรื่องเล็กแค่นี้เองแม้ว่าผู้หญิง อย่างเธอจะไม่ได้ซักถามเขาเป็นผู้ชาย อกสามศอกจะมาทะเลาะอะไรกัน
จันวิภาเคาะประตูอีกครั้งก็ยังไม่มีใครม าเปิดประตูจันวิภาจึงไม่มีทางเลือกแล้ว เรียกุมิตรให้ตื่นขึ้นมา
จันวิภาหันตัวกลับไปที่ห้องในใจอยาก ที่จะให้สุมิตรมาหาตนเองอย่างไงก็ต้อ งพาตนเองไปหารือเกี่ยวกับโครงการค วามร่วมมืออยู่แล้วแม้จะไม่พาตนเองไ ปก็ไม่เป็นไรจันวิภาก็ไม่สนใจเช่นกัน
แต่สิ่งที่ทำให้จันวิภาคิดไม่ถึงเลยก็คือ สุมิตรไม่มาเคาะประตูหาเธอจริงๆตลอ ดช่วงบ่ายจันวิภากำลังเล่นคอมพิวเตอร์ อย่างเหม่อลอยพร้อมกับเหลือบมองไ ปทางประตูบ้างเป็นครั้งคราว
เมื่อใกล้จะถึงเวลาเที่ยงจันวิภาอดไม่ไ ด้จริงๆลุกขึ้นเดินออกจากห้องไปเคาะป ระตูห้องของสุมิตรอีกครั้ง
ครั้งนี้สุมิตรก็ยังไม่มาเปิดประตู
เคาะอะไร?
จันวิภาขมวดคิ้วขึ้นมาสายตาจ้องมองป ระตูที่ปิดสนิทอยู่แล้วครุ่นคิดเจ้าหมอนี่ คงไม่ได้บ้าไปแล้วหรอกนะ?หรือเกิดป่ วยขึ้นมาหรือร่างกายมีตรงไหนที่ไม่สบ าย?
เคาะประตูอีกครั้งจันวิภาตะโกนพูดออก มา”สุมิตรเปิดประตูฉันมีเรื่องจะคุยกับน
าย”
แต่ทว่าภายในห้องกลับไม่มีเยงตอบรับ
เธอเลย
เป็นเวลานานความอดทนของจันวิภา พังทลายลงเช่นกันเธอจ้องมองไปที่ปร ะตูตะคอกออกมาในใจ : ได้สุมิตรในเมื่ อนายไม่สนใจฉันฉันเองก็จะไม่สนใจน ายเช่นกัน !
ครุ่นคิดเมื่อจันวิภากลับมาถึงห้องก็ได้ปิ ดประตูอย่างแรงทำให้ห้องถัดไปได้รู้ไ ม่ใช่ว่าเขาไม่พอใจ
จนกระทั่งถึงตอนมืดสุมิตรก็ยังไม่มาหา เธอแม้แต่โทรศัพท์ก็ยังไม่รับสาย ! จัน วิภาจ้องมองไปยังโทรศัพท์มือถือกับป ระตูท้ายที่สุดใจของเธอก็ร้อนรนจนนั่ง ไม่ติดก้าวเดินไปมาอยู่ในห้องอย่างไม่ สบายใจ
สุมิตรบ้าไปแล้วงั้นหรือ?เธอเป็นผู้หญิง ยังไม่คิดเล็กคิดน้อยไม่นึกเลยว่าเพราะ เรื่องที่เล็กน้อยแค่นี้เขาถึงกับเป็นตลอ ดทั้งวัน ! ไม่หรอกมั้ง ! จันวิภาจ้องมองโทรศัพท์อยากที่จะโทร ไปด่าสุมิตรแต่พอหวนนึกคิดดูถ้าเธอโ ทรไปทั้งอย่างนี้คงไม่ใช่ว่าเป็นการอธิบ ายว่าเธอสนใจกับเรื่องนี้มากหรอกนะนี่ คงไม่ใช่ถูกเขาชักจูงจมูกเดินหรอกใช่ มั้ย !
เมื่อถึงตอนนั้นเขาจะต้องเยาะเย้ยเธออี กครั้งเป็นแน่แท้จันวิภาครุ่นคิดอย่างกร ะด้างกระเดื่องไม่ได้ฉันโทรหาเขาไม่ไ ด้อย่างเด็ดขาด !
ดังนั้นจันวิภาจึงหงิกงออยู่ตลอดทั้งวัน อารมณ์ของเธอที่เริ่มจากใจร้อนหงุดห งิดโกรธวิตกกังวลและในที่สุดมันก็ได้แ ปรเปลี่ยนเป็นความห่วงใย
สุมิตรคงไม่ได้ป่วยไปจริงๆหรอกใช่มั้ย ?ป่วยจนลุกจากเตียงไม่ไหวก็เลยเปิดป ระตูไม่ได้ดังนั้นตอนที่เธอเคาะประตูเล ยไม่มีใครมาเปิด?
คงไม่ใช่ว่าเป็นหนักหรอกนะหนักเสียจ นคุมสติไม่อยู่ถึงขนาดรับโทรศัพท์ไม่ไ ด้…งคิดถึงตอนสุดท้ายจันวิภาก็ยิ่งไ ม่สงบถ้าเป็นอย่างนี้จริงๆตอนนี้มันก็คง จะสายไปแล้วถ้างั้นสุมิตรก็สลบอยู่ตลอ ดทั้งวัน?
บ้าเอ้ย ! ถ้าอย่างนั้นเขาจะไม่เป็นอันตร ายถึงชีวิตหรอ ?!
เมื่อคิดถึงตรงนี้จันวิภาจึงไม่อาจอยู่ใน ห้องได้อีกต่อไปเธอวิ่งไปที่แผนกต้อน รับที่ชั้นหนึ่งเธอตึงเครียดเสียจนอธิบา ยสถานการณ์ออกมาไม่ต่อเนื่องกัน
เนื่องจากในใจตอนนี้กำลังเป็นกังวลจน ถึงที่สุดจันวิภาจึงพูดอย่างรวดเร็ว ฉันม าด้วยกันกับคุณสุมิตรที่อยู่ห้องข้างๆ ! ฉันไม่ได้หลอกนะนี่ไม่ได้มีเจตนาจะมา ก่อกวนคุณ…….ขอร้องใหคุณช่วยเปิดห้ อง1348หน่อยนะตลอดทั้งวันฉันยังไม่เ จอหน้าเขาเลยบางทีคุณสุมิตรอาจจะป่ วยหนักอยู่ในห้อง……..ขอร้องล่ะ ! นี่มัน เกี่ยวข้องกับชีวิต ! คุณต้องช่วยฉันนะ ! โรงแรมน่าจะมีการเช็คอินอยู่ถ้าไม่เ ชื่อคุณลองตรวจสอบดูได้.
จันวิภายิ่งพูดก็ยิ่งตื่นตระหนกไม่เคยที่จ ะตกอยู่ในสภาวะที่สับสนเช่นนี้และที่ไม่ ได้สังเกตถึงนี่เป็นครั้งแรกที่เธอตั้งสติไ ม่อยู่ต่อหน้าบุคคลภายนอก
พนักงานต้อนรับหญิงก็งุนงงกับคำพูดข องเธอเธอใช้เวลาอยู่ครู่หนึ่งในการฟื้น ฟูความสงบของเธอเธอยิ้มและปลอบโ ยนจันวิภาที่เครียดและไม่สบายใจพูดอ อกมาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน”คุณจันวิภ าอย่าได้เป็นกังวลเลยค่ะทางเราจะส่งค นไปจัดการเปิดประตูให้คุณ……..ได้โปรด รอสักครู่นะคะ”
พูดจบเขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทร
เมื่อได้ยินคําพูดของพนักงานต้อนรับห ญิงคนนั้นจันวิภาจึงรออย่างสงบหลังจา กที่พนักงานสาวคุยโทรศัพท์เสร็จก็เอ่ย ถามออกมาอย่างอดใจไม่ไหว”ขอถาม หน่อยนะคะตอนนี้ทําได้มั้ย?”