พิชิตใจนายปีศาจ - ตอนที่ 235
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
ตอนที่ 235 ความสัมพันธ์ที่เบิกบานกับพัชรีที่ลุกเป็
นไฟ
หลังจากจูบไปหนึ่งที
จันวิภาก็ได้ตื่นจากความฝัน
ในระหว่างที่ดวงตาของเธอมองไปที่ใบ หน้าใบใหญ่นั่น ก็สะดุ้งตกใจ
ร่างกายก็เหมือนกับอยากหลบไปด้านห
ลัง สุมิตร
ยื่นมือออกมาแล้วรั้งเธอไว้ที่ด้านหลังศึ
รษะของเธอ
จากนั่นก็จูบเข้าอย่างดูดดื่ม
จันวิภา เพิ่งตื่นมา สมองยังอยู่ในสภาวะ
เนสภาวะสบสน
จังหวะที่ร่างกายได้เข้าไปทางสุมิตร จูบของทั้งสองยิ่งจูบยิ่งเหมือนจูบที่ดุร้า ยอย่างดูดดื่ม
เหมือนกับอยู่ในการบังคับของสุมิตร
นึกขึ้นได้ว่าที่นี่คือบริษัทถึงได้หยุดกระ เขาค่อยๆตีไปที่แก้มของจันวิภาอย่างเ บาๆ และพูดค่อยๆว่า “พอแล้ว
ทำลง
กลับบ้านกันเถอะ”
แต่ว่าเวลานี้จันวิภาถึงได้รวบรวมสติได้ เธอจับไปจับมา ตรงที่สุมิตรตีมาเมื่อกี้
ในใจก็คิดว่าตัวเองทำไมไม่ระวังตัวกว่า นี้ ถึงขั้นรอไปรอมาหลับซะงั้น
ไม่งั้นคงไม่เปิดโอกาสให้สุมิตรมาโจม ตีแบบนี้ ที่นี่มันบริษัทนะ ! บทเวลาองเกตวาตอนนก
ดึกมากแล้วห้าทุ่มกว่าแล้ว จากนั่นก็ถอนหายใจ ดึกขนาดนี้คงไม่มีใครมาเห็นเข้าหรอก
ถึงแม้ว่าคอนโดของจันวิภาจะอยู่ใกล้กั บบริษัทมาก
แต่สุมิตรก็พยายามยังจะที่จะไปส่งเธอ กลับบ้าน สุมิตรคิดว่าดึกขนาดนี้แล้ว เธอกลับบ้านคนเดียวคงไม่ปลอดภัย เลยไม่ได้ปฏิเสธไป
ใครจะไปรู้ว่า
สุมิตรส่งเธอถึงหน้าตึกคอนโดแล้ว เขาก็ยังจะลงจากรถตาม จันวิภาเห็นการกระทำของสุมิตร แล้วตกใจ
“ท่านประธาน คุณลงจากรถทำไม คุณไม่กลับบ้านหรือไงคะ? ” ลุมตามองเบทเธอแวบหนึ่ง พูดแบบส่งๆแบบหนีปัญหาว่า “คืนนี้ฉันจะนอนที่นี่
พูดไปแล้วก็เดินไปที่หน้าตึกแล้ว
“ไม่ รอแปป ! ”
จันวิภารีบลากตัวของสุมิตรไว้ก่อนที่เข าจะเดินเข้าไป เธอรีบพูดขึ้นมาว่า
“ท่านประธาน
คุณทำแบบนี่มันไม่ถูกนะคะ
คุณเป็นใคร
คุณถึงต้องมาอาศัยอยู่กับฉัน ! ”
ฟังคำพูดของจันวิภาแล้ว
สุมิตรหันไปมองเธอ และถามว่า
“ฉันเป็นใคร?”
“อ่า ไม่ใช่..
จันวิภาเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองพูดอะไรผิดไป เพราะเธอจะวังสุมารเว ก็แค่แปปเดียวจิตก็กระวนกระวาย ถึงได้พูดออกเหมือนกับใจคิด เธอพยายามรวบรวมสติอีกครั้ง พูดว่า “เพราะยังงั้น
ผู้ชายกับผู้หญิงตามลำพัง
มันอยู่ด้วยกันไม่ได้อยู่แล้ว
ไม่งั้นท่านประธานกลับบ้านเถอะ ยังงั้นคุณก็ขับรถเอง สะดวกมาก”
แล้วทำไมละ
ไม่ใช่ว่ายังไม่เคยนอนห้องเดียวกันสัก
หน่อย”
สุมิตรตอบแบบไม่คิดว่ามันไม่ถูกต้อง
เพราะฉะนั้นนั่นแหละที่เป็นปัญหาใหญ่! จันวิภาหัวเสียและไม่รู้จะทำยังไงดีแล้ว เธอ เมื่อยากหยุงกับสุมตรระหว่างความ สัมพันธ์ที่ไม่แน่ชัดแบบนี้ ขึ่นเป็นแบบนี้ต่อไป ไม่ว่าช้าจะเร็ว วันหนึ่งเจริญศรีต้องรู้เรื่องแน่ๆ
แต่ว่าดูจากสถานการณ์ตอนนี้ เธอไม่รู้จะหาคำแก้ตัวต่างๆนานาไปหล อกสุมิตรให้ตายใจ
ดูจันวิภาไม่พูดอะไร สุมิตรก็พูดขึ้นว่า
“วันนี้ยุ่งมาทั้งวัน
ไม่อยากถูกใช้ให้ไปขับรถ ยังไงตรงนี้ก็อยู่ใกล้กับบริษัทมาก พรุ่งนี้ก็รวดไปบริษัททีเดียวเลย”
คำพูดที่เหมือนจะเหนื่อยล้า
จันวิภาหมดคำพูด
และหลอดไฟบนถนนได้ส่องไปที่หน้าข
องสุมิตร
สังเกตว่าใบหน้าที่ที่ดูสง่าเปลี่ยนเป็นใบ พอมองแล้ว จันวิภาก็ไม่สามารถปฏิเสธได้
ในใจของจันวิภากำลังโต้แย้ง ยังไงก็มาถึงขนาดนี้แล้ว “เอาเถอะ แต่ครั้งนี้ฉันข้อแม้ว่า
คุณต้องนอนที่โซฟาเท่านั้น ห้ามนอนบนเตียงของฉัน! ”
“โซฟามันแข็ง…………
สุมิตรกำลังจะปฏิเสธ แต่ได้ถูกจันวิภาดักหน้าคำพูดไว้
“ถ้าคุณไม่ทำตามที่ตกลง ฉันก็ไม่ให้คุณเข้าห้องของฉัน!
…..ก็ได้”
สุมิตรได้เดินตามหลังจันวิภาไป เพิ่งถึงห้อง สุมิตรก็พูดขึ้นมาว่าหิว
จันวิภาก็นึกถึงตอนที่พวกเขาทั้งสองไ ดกน วันนั้นด้วยกัน ทั้งสองคนได้กินอาหารที่ง่ายๆในมื้อเย็ นมื้อนั่น
สุมิตรกินไปด้วย อีกใจก็ยิ้มไปด้วย
คืนนี้ที่เขาตั้งใจที่จะอยู่ด้วย
เหตุผลเดียวก็คือเขาอยากอยู่กับจันวิภ
า ถึงแม้ว่าห้องนี้จะดูเล็กๆไปหน่อย แต่มีความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน
กินของที่จันวิภาทำให้
สองคนกินหมดไปกับบรรยากาศที่เงียบ
กับทุกอย่างที่มีคนมารวมทำกิจกรรมด้ว ทำให้เขารู้สึกถึงความรักมันไม่มีที่สิ้นสุ
ถ้าเกิดเป็นไปได้
เขาอยากอยู่กับจันวิภาไปตลอดชีวิต แด
เมเดคดแบบน
เขาอยากรีบหาลูกชายเขาเจอ
ไม่นานจะช้าหรือเร็วก็คงต้องจบความสั มพันธ์ที่ดีเหล่านี้
หลังจากที่กินมื้อดึกนี้ไป
จันวิภาก็ไปอาบน้ำ
จากนั่นก็รีบเข้าห้องตัวเองก่อนที่จะล็อ
คกรประตู
ไม่เปิดโอกาสให้สุมิตรได้เข้าไปได้
สุมิตรได้อาบน้ำเสร็จก็ไปเปิดประตูห้อง
จันวิภา
สังเกตว่าเธอได้ล็อกกรประตูผิดด้าน จากนั่นก็หัวเราะเบาๆอย่างไม่มีสาเหตุ ยอมไปนอนที่โซฟาคืนหนึ่ง
กับหนึ่งคืนที่ไม่มีการพูดจา
เช้าตรู่ของ วันที่สอง กเลยออดดงรบกวนจนต
น
ระหว่างที่เดินผ่านห้องนั่งเล่นตาเธอก็แ วบไปมองที่สุมิตรที่กำลังหลับใหลฝันอ ยู่ เดินไปที่โซฟาอย่างไวแล้วถ่ายรูปไว้ พูดขึ้นว่า “ตื่นได้แล้ว
จะถึงเวลาทํางานแล้ว”
พูดจบ จันวิภาถึงไปเปิดประตู
จันวิภาคิดว่าเช่าขนาดนี้
คงจะเป็นป้าคนที่ดูแลคอนโดนี้มาหาเธ
อคงจะมีเรื่องอะไร
แค่ยืนพูดอยู่หน้าประตูก็พอ
แต่จ้นวิภานึกไม่ถึงเลยว่า คนที่มาหากลับเป็นพชรี !
“พช
พชร…..เธอมาไมถึงมาที่นี่ได้ละ?” บดบระตู ระตู เบนดโดย มองไปที่คนนอกประตูอย่างตกใจ
ทำไมฉันจะมาไม่ได้? ” พชรีพูดอย่างไม่พอใจ เธอเอามือดันประตูออก เดินไปที่ห้อง “เมื่อคืนฉันกับเพื่อนไปปาร์ตี้ที่KTVทั้งคื น จากนั่นก็หลับไปที่KTV วันนี้เช้าก็ถูกคนไล่ออกมา ก็รู้ว่าเธอพักอยู่ใกล้
เพาะยังงั้นฉันก็เลย…….
“ให้ตายสิ! ทำไมสุมิตรถึงมาอยู่ที่นี่ได้ ?! จันวิภา ! นี่มันเกิดอะไรขึ้น! ”
พชรีเดินไปห้องด้วย
เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานไปด้วยแต่ว่าเ แต่สังเกตเห็นห้องของจันวิภาที่มีคนทีเ
ธอยังเล่าไม่จบ
ธอนึกว่าไม่ถึงอยู่ด้วย เธอกรูสกว่าเ มอนจะระเบิด แล้วหลังจากนั้นก็แสดงอาการที่ไม่พอใ จกับจันวิภา
อย่างไรก็ตามจันวิภาถูกความตกใจค้าง
ไว้ พชรีก็ มือและเท้าจุ่มง่าม ไม่ทันให้เธอมาดักทางไว้
เธอเดินเข้าห้องไปแล้ว
ตอนนี้ก็ทำให้จันวิภาสติไม่อยู่กับตัวแล้ ว เธอมองไปที่พชรีที่เดินเข้าไป
จากนั้นก็มองไปที่สุมิตรที่กำลังตื่นนอน ย่างขี้เซา
ขณะนี้ก็ตกใจกระวนกระวายเหมือนคิ้ว กำลังจะลุกเป็นไฟแล้ว
อีกฝั่งคือหัวหน้า
ส่วนอีกฝั่งคือเพื่อนที่สนิทมาหลายปีสอ งคนนี้ก็ไม่ชอบขี้หน้ากัน
จันวิภารู้สึกเหมือนตัวเองถึงจะโดดไปที่ าหวงก มสามารถลางมันออกใบเ
“พชรี……ฉัน…….
สมองจันวิภากําลังประมวลผลที่จะหา พชรีก็รีบพูดตัดบทเธอ
คําแก้ตัวออกมา
จากนั่นไม่ต้องให้เธอพูดจบ
“จันวิภา
เธอไม่ต้องพูด!”พชรีทำมือท่าทางเหมื อนเป็นสัญญาณให้จันวิภาหุบปาก หลังจากนั้นเธอก็เดินตรงเข้าไปหาสุมิต
มือเท้าเอวมองไปที่สุมิตรที่กำลังขี้เซา อยู่บนโซฟา แล้วพูดขึ้นมาว่า “สุมิตร! คุณบังคับใหงันวิภาทําเรื่องที่ไม่ควรทำ ใช่ไหม?!