พิชิตใจนายปีศาจ - ตอนที่ 30
ตอนที่30 ฉันต้องการแต่คุณเท่านั้น
จันวิภาตกใจอยากจะเอามือที่นราวิชญ์จับไว้ดึง กลับมาแต่ว่าแค่ขยับเขายิ่งจับแน่นขึ้นจะดึงกลับก็ดึง กลับไม่ได้
จันวิภาถอดหายใจมองไปที่นราวิชญ์ข้างหน้า แล้วรู้สึกได้ว่าพวกเขาทั้งสองในใจลึกๆมีความเศร้า แฝงอยู่
พี่นราวิชญ์ ถ้าแค่โดนมะลิวัลย์ บีบบังคับให้
แต่งงาน ฉันยังอาจจะทิ้งทุกอย่างไปกับพี่ได้ แต่ตอนนี้ ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว คืนครั้งแรกของฉัน ทุกสิ่ง ทุกอย่างที่เป็นของฉัน รวมถึงสุมิตร ล้วนกลั้นขวางอยู่ ระหว่างเรา
ฉันทำแบบนั้นไม่ได้
จันวิภาไม่ทันตอบอะไร นราวิชญ์ยิ่งผิดหวังขึ้นไป อีกใบหน้าเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง จับแขนของจัน วิภาแน่นขึ้นไม่มีทางปล่อยให้เธอหลุดไปแน่นอน
อยู่อยู่เขาก็เข้าก็พุ่งเข้ามาที่นั่งข้างๆจันวิภาและ โอบจันวิภาเข้าอ้อมอกของเขา
กอดจันวิภาไม่ให้เธอดิ้นและหนีไปได้ น้ำเสียง ของนราวิชญ์แฝงด้วยน้ำตาเจ็บปวดสุดขีด ให้ฉันกอดเธอหน่อยนะ ให้ฉันกอดเธอหน่อยนะจันวิภา…”
น้ำเสียงของเขาทั้งเศร้าทั้งเจ็บปวด มือของจันวิภา ที่พยายามผลักหนีก็หยุดนิ่งลง ในใจของเธอนั้นเต็มไป ด้วยความเศร้า ตอนนี้ไม่รู้จะทำยังไงดี
แล้วในขณะนั้นเองที่ถนนฝั่งตรงข้าม สุมิตรสวม แว่นกันแดดสีดำมองผ่านกระจกรถมองเห็นเหตุการ์ที่ เกิดข้างหน้า เขามองเห็นสีหน้าของจันวิภาชัดเจน แต่ ครั้งนี้กลับไม่เหมือนที่แสดงกับเขาโดนสิ้นเชิง
เธอให้ผู้ชายคนนั้นก่อนเธอ….
สุมิตรโกรธสุดขึ้น มือกำหมัดแน่น “ จันวิภา ใคร กันแน่เป็นคนบอกว่าฉันไม่เต็มใจที่จะแต่งงานตอนนี้ เธอกำลังทำอะไรอยู่?”
สุมิตรไม่รู้เกิดอะไรขึ้นในใจเหมือนกับมีของบาง อย่างถูกคนอื่นเอาไป เขาไม่ชอบความรู้สึกนี้เลยทำให้ เขาโกรธขึ้นเดือดดาลสุดขีด ต่อยเข้าที่ผนักพิงแรงแรง หนึ่งที่ สุมิตรจ้องไปที่ร้านกาแฟด้วยสายตาอาฆาตและ ปิดกระจกรถ
คนขับที่นั่งอยู่ข้างหน้ามองเห็นสุมิตรเป็นแบบนี้ ตัวสั่นสะท้านด้วยความกลัว แล้วค่อยๆเอ๋ยปากถามขึ้น อย่างระมัดระวัง”นายน้อย จะไปที่ไหนต่อครับ?”
คนขับไม่เคยเห็นสมิตรโกรธแบบนี้มาก่อน เป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะไม่รู้สึกกลัว
สุมิตรไม่พูดอะไร หลับตานั่งคิด เขาไม่รู้ว่าชายคน ที่กอดจันวิภานั้นเป็นใคร แต่เขารู้สึกได้ว่าความ สัมพันธ์ของทั้งสองไม่ธรรมดาแน่ๆ
เขาเป็นชายคนแรกของจันวิภาเหรอ?
พอคิดถึงจุดจุดนี้ ตัวเขารับของต่อจากคนอื่น ใน ใจของสุมิตรยิ่งเดือดขึ้นไปอีกในใจลึกๆเกิดเจ็บขึ้นมา
ผ่านไปสักพักหนึ่งสุมิตรถึงจะพูดขึ้น “ออกรถ”
คนขับตกใจ ยังไม่รู้เลยว่าจะไป เลยตัดสินใจถาม
อีกรอบ”นายน้อยท่านต้องการไปที่ไหน?”
สุมิตรตอบอย่างรำคาญ “ฉันบอกให้ขับไง!”
คนขับถูกตะคอกก็ตกใจ ไม่กล้าพูดอะไรขึ้นมาอีก
รีบขับรถออกไปทันที
“จันวิภา เธอต้องการอะไรฉันให้เธอได้ทุกอย่าง เพียงแค่เธอกลับมาอยู่ข้างๆฉันได้ไหม?” นราวิชณ์ กอดจันวิภาพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ขมขื่นมากกว่าเดิม
ด้านนราวิชญ์เห็นจันวิภาไม่ผลักตัวเขาก็ยิ่งกอด แน่นขึ้นไปอีก
จันวิภาตกใจ มองเห็นเขายังซื้อไม่เลิก ก็รีบผลัก นราวิชญ์ออกไปอย่างแรง ทำให้ทั้งสองเริ่มมีระยะห่าง ขึ้นมา
นราวิชญ์ยังไม่ทันยืนดี จันวิภาก็พูดขึ้น “พี่นรา วิชญ์ ฉันเคยสัญญากับพี่ แต่มันก็แค่ตอนเด็กพูดแล้วก็ เหมือนเล่นกันแค่นั้น มันจะไปเป็นจริงได้ยังไงล่ะ? ฉัน ลืมไปแล้ว พี่ก็ควรลืมได้แล้ว!
นราวิชญ์ยืนมั่นขึ้นแล้วพอฟังคำพูดของจันวิภาก็ สายหัวอย่างแรง “ไม่ จันวิภา นั้นไม่ใช่เรื่องล้อเล่น มัน คือคำสัญญาจริงๆ ในชีวิตเราต้องทำตามสัญญาสิ จะ ลืมได้ยัง?แล้วทำยังไงถึงมันจะลืมได้ล่ะ?”
จันวิภาพยายามอดกลั้นความเจ็บปวดในใจ มอง นราวิชญ์ตรงหน้าสูดหายใจลึกลึกหนึ่งที่พร้อมพูดขึ้น : “แล้วมันยังไงล่ะ? สำหรับฉันมันก็แค่เรื่องล้อเล่นเท่านั้น ฉันแต่งกับคนอื่นแล้ว ตอนนี้ฉันก็มีความสุข สามีฉันก็ ร่ำรวย พี่ไม่มีเงิน แต่เขามี ดังนั้นฉันถึงแต่งกับเขายังไง ล่ะเข้าใจไหม ฉันเป็นผู้หญิงที่เห็นแก่เงินคนหนึ่ง!”
จันวิภากำลังพูดศรีษะค่อยๆก้มลงไม่กล้ามองไปที่ นราวิชญ์ พยายามแสดงสุดๆ ดื่มกาแฟตรงหน้าหนึ่ง แก้ว รีบยกมือเรียกจ่ายเงิน พยายามไม่สนใจอะไรอีก ต่อไป
“น่าแปลกที่เธอแต่งงานกับเขาเพื่อเงิน? พลอย ฉันรู้เธอไม่ใช่คนแบบนั้น!”นราวิชญ์ไม่เชื่อจันวิภา พร้อมพูดขึ้นอย่างหนักแน่น
นราวิชญ์ไม่มีทางเชื่อว่าผู้หญิงที่เกิดมาด้วยกันกับ เขาอย่างจันวิภาจะเป็นภูหญิงหน้าเงิน ถ้าเป็นแบบนั้น จริงๆเขาก็ไม่รักเธอหรอก.
จันวิภาไม่พูดอะไรต่อ เธอกลัวตัวเองจะแสดงต่อ ไปไม่ไหว รีบลุกขึ้นทันทีเก็บของเรียบร้อยแล้วพูด ขึ้น”ขอโทษนะ ฉันขอกลับก่อน สามีของฉันรออยู่ที่ บ้าน!”
พูดจบก็ออกจากร้ายไปทันที ขาก้าวไม่กล้าหยุด พยายามไม่ให้เกิดความสงสัย
นราวิชญ์มองจันวิภาที่เดินออกไปไกลๆ คิดถึง เรื่องที่เธอพูดขึ้นเมื่อสักครู่ ยิ่งรู้สึกเหมือนหัวใจโดนมีด กรีด กำหมัดแน่นทุบลงไปที่โต๊ะ” จันวิภาบอกฉันเถอะ นี้มันไม่ใช่ตัวเธอจริงๆหรอก!!”
เขาไม่เชื่อว่าจันวิภาเป็นคนแบบนี้ ไม่มีทางเชื่อ! เขาไม่ยอมแพ้เขาไม่ปล่อยจันวิภาไปแน่นอน!
เวลาผ่านไปชั่วขณะหนึ่งนราวิชญ์สงบอารมณ์ได้ แล้ว อยู่ๆนัยน์ตาก็เป็นประกายขึ้นเหมือนคิดอะไรขึ้น มาได้ เขารีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรออกไป
โทรศัพท์สายนั้นมีเสียงแก่ของชายผู้มีอายูอยู่ เสียงหนึ่งพูดขึ้น “นราวิชญ์ ว่าไง มีเรื่องอะไรถึงโทรหา ฉัน?”
“ผู้อาวุโส ผมยอมแล้ว ผมจะสืบทอดกิจการของที่ บ้าน!” นราวิชญ์กัดฟันแน่นจนพูดจบ พร้อมกับหลับตา แสดงให้เห็นถึงความเจ็บปวดแล้วเศร้าสร้อยแต่ไม่ กลับไม่มีความผิดหวังแม้แต่นิดเดียว
“โอ้? ดีจริงๆ! ในที่สุดก็เปลี่ยนความคิดแล้วสินะ? ดีดี ไม่มีปัญหา แค่ยอมกลับมาก็โอเคแล้ว เดียวฉันจะ ส่งคนเริ่มจัดการเรื่องให้!” เสียงในโทรศัพท์ดูเหมือน จะดีใจมาก
สายโทรศัพท์วางเรียบร้อยแล้ว นราวิชญ์หลับตา หลงเอนหลังลงที่พนักเก้าอี้ ปากพีมพำ”ถ้าเธอชอบ อำนาจเงินทอง ได้เดียวฉันหาให้เธอ ฉันให้เธอได้ทุก อย่าง พลอย ถ้าเธออยากได้ฉันให้เธอได้หมด แต่ ฉัน แค่ต้องการเธอเท่านั้น”
อีกมุมหนึ่งจันวิภาออกจากร้านกาแฟแล้วก็กวัก มือเรียกรถแท็กซี่กลับบ้านสุมิตร
เพิ่งถึงบ้าน สาวใช้กลุ่มหนึ่งก็ตรงเข้ามาล้อมจัน
วิภาไว้
จันวิกางง ยังไม่ทันที่จะร้องก็โดนคนเอามือ ปิดปากพร้อมกับมัดเชือกพาเข้าไปห้องมืดเรียบร้อย แล้ว