พิชิตใจนายปีศาจ - ตอนที่ 60
ตอนที่ 60 ห่วงใยกับเกลียดชัง
อาศัยฤทธิ์ของสุรา หมัดของจันวิภาได้จู่โจมไปยังหน้าอก อันแข็งแกร่งของสุมิตร เมื่อคิดถึงเรื่องที่สุมิตรดูถูกเหยียด หยามเธอในคืนนี้ ดวงตาทั้งสองข้างก็แดงขึ้นมาทันที จนอยาก ที่จะร้องไห้ออกมา แต่ทว่ากลับกัดริมฝีปากเอาไว้อย่างเอาเป็น เอาตาย กล้ำกลืนน้ำตาของตนเองเอาไว้อย่างสุดชีวิต
หลังจากที่สุมิตรถูกผลักออกไป ก็ได้สายหัว เพื่อขับความ มีนเมาให้หายไป เขาบีบกำปั้นเล็กๆของจันวิภาอย่างป่าเถื่อน ในใจระอุไปด้วยความโกรธ
สุมิตรอ้าปากหอบ แล้วผลักจันวิภาล้มลงไปอย่างแรง
สุมิตรฉีกเสื้อผ้าของเธอออกอย่างบ้าคลั่ง ท้ายที่สุดแล้ว ภายใต้ความไร้เรี่ยวแรงของเธอ จึงได้ถูกสุมิตรกระทำชำเรา
อย่างรุนแรง
ตลอดกระบวนการ สุมิตรปู่ยี้ปู่ย่าเธออย่างบ้าคลั่งอยู่ ตลอด ทำให้เธอร้องออกมาเสียงดัง
จันวิภากัดฟันเอาไว้จนแน่น ไม่อ้าปากออกมา หลังจากที่ เธอเหงื่อออก ทั่วทั้งตัวปวดร้าว ในที่สุดเธอก็นอนหลับใหลไป
สุมิตรพาจันวิภากลับบ้าน โอบกอดไว้ในอ้อมแขนของ ตนเองแล้วเดินไปทางห้อง จ้องมองดูเสื้อผ้าของจันวิภาที่ถูก ตนเองฉีกขาด มันไม่อาจปกปิดเรือนร่างที่ขาวราวกับหิมะไต้อีก ต่อไป ในใจจุดประกายไฟอีกครั้ง โดยไม่คาดคิด
หลังจากที่มาถึงห้องนอน สมิตรถอดเสื้อผ้าของจันวิภาจน ตอนที่ 60 ห่วงใยกับเกลียดชัง
อาศัยฤทธิ์ของสุรา หมัดของจันวิภาได้จู่โจมไปยังหน้าอก อันแข็งแกร่งของสุมิตร เมื่อคิดถึงเรื่องที่สุมิตรดูถูกเหยียด หยามเธอในคืนนี้ ดวงตาทั้งสองข้างก็แดงขึ้นมาทันที จนอยาก ที่จะร้องไห้ออกมา แต่ทว่ากลับกัดริมฝีปากเอาไว้อย่างเอาเป็น เอาตาย กล้ำกลืนน้ำตาของตนเองเอาไว้อย่างสุดชีวิต
หลังจากที่สุมิตรถูกผลักออกไป ก็ได้สายหัว เพื่อขับความ มีนเมาให้หายไป เขาบีบกำปั้นเล็กๆของจันวิภาอย่างป่าเถื่อน ในใจระอุไปด้วยความโกรธ
สุมิตรอ้าปากหอบ แล้วผลักจันวิภาล้มลงไปอย่างแรง
สุมิตรฉีกเสื้อผ้าของเธอออกอย่างบ้าคลั่ง ท้ายที่สุดแล้ว ภายใต้ความไร้เรี่ยวแรงของเธอ จึงได้ถูกสุมิตรกระทำชำเรา
อย่างรุนแรง
ตลอดกระบวนการ สุมิตรปู่ยี้ปู่ย่าเธออย่างบ้าคลั่งอยู่ ตลอด ทำให้เธอร้องออกมาเสียงดัง
จันวิภากัดฟันเอาไว้จนแน่น ไม่อ้าปากออกมา หลังจากที่ เธอเหงื่อออก ทั่วทั้งตัวปวดร้าว ในที่สุดเธอก็นอนหลับใหลไป
สุมิตรพาจันวิภากลับบ้าน โอบกอดไว้ในอ้อมแขนของ ตนเองแล้วเดินไปทางห้อง จ้องมองดูเสื้อผ้าของจันวิภาที่ถูก ตนเองฉีกขาด มันไม่อาจปกปิดเรือนร่างที่ขาวราวกับหิมะไต้อีก ต่อไป ในใจจุดประกายไฟอีกครั้ง โดยไม่คาดคิด
หลังจากที่มาถึงห้องนอน สมิตรถอดเสื้อผ้าของจันวิภาจน เปลือยเปล่า โยนลงไปในอ่างที่เต็มไปด้วยน้ำอุ่น แล้วกระทำ เธออย่างรุนแรงอีกครั้งหนึ่ง
จันวิภาถูกปลุกให้ตื่นด้วยความเจ็บปวดที่รุนแรง มองเห็น ใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยตัณหาอันน่าสะอิดสะเอียนของสุมิตรได้ อย่างชัดเจน มันน่าแปลกที่จันวิภาไม่ได้ดิ้นรน เพียงแค่จ้อง มองเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดอย่างเย็นชา แม้แต่เสียงหอบเล็กน้อย ก็ไม่มีเปล่งเสียงออกมา
สุมิตรรู้สึกได้ว่าจันวิภาผิดปกติไป จึงบีบไปที่ใบหน้าของ เธออย่างรุนแรง บังคับให้เธอมองตนเอง แต่ทว่าจันวิภากลับ หลับตาลงไป
สุมิตรโกรธขึ้นมาทันที เมื่อพบว่าเส้นขอบตาประกบซิตจน ปิดสนิท ทันใดนั้นเองน้ำตาไม่กี่หยดก็ได้ไหลซึมออกมา ไหล ผ่านแก้ม แล้วหยดลงไปบนกระดูกไหปลาร้าที่งดงาม
สุมิตรนิ่งอึ้งไป รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง เขาลุกขึ้นมา และ ไม่สนใจจันวิภาอีก กลับขึ้นไปบนเตียงของตนเองแล้วนอนหลับ
ไป
จันวิภาพิ้งอยู่ในอ่างน้ำ หลังจากที่รอจนน้ำอุ่นกลายเป็น น้ำเย็น ร่างกายของเธอก็สั่นไหวออกมาอย่างไม่หยุดหย่อน
จันวิภารู้สึกว่าตนเองกำลังจะตาย ความปวดหัวหลังจากที่ ดื่มสุราไปมันช่างมีนงงแล้วเหมือนกับจะเป็นหวัด ทำให้เธอ รู้สึกเหมือนจะเป็นลมอยู่ตลอดเวลา
เธอห่อหุ้มร่างกายของเธอด้วยผ้าเช็ดตัวผืนหนึ่ง จากนั้น เปลือยเปล่า โยนลงไปในอ่างที่เต็มไปด้วยน้ำอุ่น แล้วกระทำ เธออย่างรุนแรงอีกครั้งหนึ่ง
จันวิภาถูกปลุกให้ตื่นด้วยความเจ็บปวดที่รุนแรง มองเห็น ใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยตัณหาอันน่าสะอิดสะเอียนของสุมิตรได้ อย่างชัดเจน มันน่าแปลกที่จันวิภาไม่ได้ดิ้นรน เพียงแค่จ้อง มองเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดอย่างเย็นชา แม้แต่เสียงหอบเล็กน้อย ก็ไม่มีเปล่งเสียงออกมา
สุมิตรรู้สึกได้ว่าจันวิภาผิดปกติไป จึงบีบไปที่ใบหน้าของ เธออย่างรุนแรง บังคับให้เธอมองตนเอง แต่ทว่าจันวิภากลับ หลับตาลงไป
สุมิตรโกรธขึ้นมาทันที เมื่อพบว่าเส้นขอบตาประกบซิตจน ปิดสนิท ทันใดนั้นเองน้ำตาไม่กี่หยดก็ได้ไหลซึมออกมา ไหล ผ่านแก้ม แล้วหยดลงไปบนกระดูกไหปลาร้าที่งดงาม
สุมิตรนิ่งอึ้งไป รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง เขาลุกขึ้นมา และ ไม่สนใจจันวิภาอีก กลับขึ้นไปบนเตียงของตนเองแล้วนอนหลับ
ไป
จันวิภาพิ้งอยู่ในอ่างน้ำ หลังจากที่รอจนน้ำอุ่นกลายเป็น น้ำเย็น ร่างกายของเธอก็สั่นไหวออกมาอย่างไม่หยุดหย่อน
จันวิภารู้สึกว่าตนเองกำลังจะตาย ความปวดหัวหลังจากที่ ดื่มสุราไปมันช่างมีนงงแล้วเหมือนกับจะเป็นหวัด ทำให้เธอ รู้สึกเหมือนจะเป็นลมอยู่ตลอดเวลา
เธอห่อหุ้มร่างกายของเธอด้วยผ้าเช็ดตัวผืนหนึ่ง จากนั้น จึงเดินออกมาจากห้องน้ำ มองเตียงด้วยสายตาที่เรือนราง ล้ม ลงแล้วหลับไป
วันที่สอง พอจันวิภาตื่นขึ้นมาก็ได้เห็นสุมิตรเอนตัวอยู่ตรง หัวเตียง จ้องมองเธออย่างเยือกเย็น
“เธอนี่นับวันยิ่งกล้าขึ้นทุกที เธอคิดว่าตัวเองมีคุณสมบัติ พอที่จะนอนกับผมงั้นหรอ?” น้ำเสียงของสุมิตรเย็นชา ทำให้จัน วิภานึกถึงเรื่องเมื่อคืนขึ้นมาได้ทั้งหมด
เธอหยิบหมอนขึ้นมาแล้วทุบไปทางสุมิตรอย่างแรง ตะโกนออกมาจากในปาก “ระยำ! นายมันเลวระยำ! ”
สุมิตรยกมือขึ้นมาขวางกั้นหมอนใบนั้นเอาไว้อย่างไร้ซึ่ง ความอดทน ยิ้มเยาะเย้ยแล้วพูด “ผมเอาเธอได้ แต่จะไม่ยอม ให้ผู้ชายคนอื่นมาเอาเธอไปง่ายๆหรอก มานอนเตียงเดียวกัน กับผม ผู้หญิงร่าน เธอเสแสร้งอย่างนี้ไม่เหนื่อยหรอ?”
จันวิภายิ้มอย่างดูถูก “พูดเหมือนว่าตัวนายจะสะอาดมาก งั้นแหละ นายกับผู้หญิงพวกนั้นนิ่งๆ ฉับๆกัน นายคิดว่าฉัน ตาบอดหรือไง?”
สุมิตรยิ้มเยาะเย้ย แล้วพูด “เธอไม่มีสิทธิ์หึง”
จันวิภาพยักหน้าแล้วพูด “ตามใจ! สุมิตร ฉันจะบอก นายให้นะ ฉันทนนายไม่ไหวแล้ว ฉันอยากจะหย่ากับนาย สารเลว! ”
สุมิตรพูด “หย่าหรือไม่หย่า เธอไม่มีสิทธิ์เลือก” จึงเดินออกมาจากห้องน้ำ มองเตียงด้วยสายตาที่เรือนราง ล้ม ลงแล้วหลับไป
วันที่สอง พอจันวิภาตื่นขึ้นมาก็ได้เห็นสุมิตรเอนตัวอยู่ตรง หัวเตียง จ้องมองเธออย่างเยือกเย็น
“เธอนี่นับวันยิ่งกล้าขึ้นทุกที เธอคิดว่าตัวเองมีคุณสมบัติ พอที่จะนอนกับผมงั้นหรอ?” น้ำเสียงของสุมิตรเย็นชา ทำให้จัน วิภานึกถึงเรื่องเมื่อคืนขึ้นมาได้ทั้งหมด
เธอหยิบหมอนขึ้นมาแล้วทุบไปทางสุมิตรอย่างแรง ตะโกนออกมาจากในปาก “ระยำ! นายมันเลวระยำ! ”
สุมิตรยกมือขึ้นมาขวางกั้นหมอนใบนั้นเอาไว้อย่างไร้ซึ่ง ความอดทน ยิ้มเยาะเย้ยแล้วพูด “ผมเอาเธอได้ แต่จะไม่ยอม ให้ผู้ชายคนอื่นมาเอาเธอไปง่ายๆหรอก มานอนเตียงเดียวกัน กับผม ผู้หญิงร่าน เธอเสแสร้งอย่างนี้ไม่เหนื่อยหรอ?”
จันวิภายิ้มอย่างดูถูก “พูดเหมือนว่าตัวนายจะสะอาดมาก งั้นแหละ นายกับผู้หญิงพวกนั้นนิ่งๆ ฉับๆกัน นายคิดว่าฉัน ตาบอดหรือไง?”
สุมิตรยิ้มเยาะเย้ย แล้วพูด “เธอไม่มีสิทธิ์หึง”
จันวิภาพยักหน้าแล้วพูด “ตามใจ! สุมิตร ฉันจะบอก นายให้นะ ฉันทนนายไม่ไหวแล้ว ฉันอยากจะหย่ากับนาย สารเลว! ”
สุมิตรพูด “หย่าหรือไม่หย่า เธอไม่มีสิทธิ์เลือก” จนวภาพูดออกเบอย่างรบรอน “นาย..” เธอเกรธเสย จนหน้าอกอันขาวผ่องสั่นกระเพื่อมออกมา
ตอนนั้นเธอพึ่งจะรู้ตัวว่าตนเองไม่ได้สวมเสื้อผ้าอะไรเอาไว้ อยู่เลย หน้าแตงขึ้นมาทันที แล้วรีบแย่งผ้าปูที่นอนจากบน ร่างกายของสุมิตรมาปิดเรือนร่างของตนเองเอาไว้
แต่ทว่าหลังจากนั้น ผ้าปูเตียงที่แย่งมาจากสุมิตรได้นั้น กลับเผยให้เห็นถึงเรือนร่างที่ไม่ได้สวมอะไรอยู่เลยแม้แต่ชิ้น เดียว จันวิภารับหันหน้ากลับไปทันที ไม่กล้ามองอีก
รอยยิ้มที่อยู่บนมุมปากของสุมิตรสลายหายไป พูดออกมา อย่างเยือกเย็น “เธอก็ไม่ใช่สาวบริสุทธิ์อยู่แล้ว และก็ไม่รู้ว่าถูก ผู้ชายปู่ยี่ปู่ยำมามากเท่าไหร่แล้ว ยังจะเสแสร้งอะไรอยู่อีก! ”
“ฉันเปล่า! ! ! ” เขาดูถูกเธออีกแล้ว จันวิภาพูดอธิบาย ด้วยความโกรธ “นอกจากนายแล้ว ของฉัน..ครั้งแรกของฉัน ได้ถูกแย่งชิงไปอย่างไม่คาดฝัน และฉันก็ไม่เคยมีความสัมพันธ์ กับผู้ชายคนไหนมาก่อน!
“ใช่หรอ?” สุมิตรยิ้มเยาะเย้ย “จันวิภา ผมจะบอกเธอให้ นะ แม้ว่าเธอจะสกปรก แต่เธอก็เป็นของผม กับชายที่พบเจอ โดยบังเอิญนั่น ผมจะปล่อยให้พวกเขาตายโดยไร้หลุมศพ ทาง ที่ดีเธอบอกกับผมดีกว่าว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร?”
“ฉัน..ฉันไม่รู้..” จันวิภาส่ายหัวอย่างร้อนรน พยายามนึกถึงเรื่องนั้นให้ออกมาจากในสมอง
สุมิตรตูท่าทางที่เสแสร้งของจันวิภา ภายในใจเกิดความ จนวภาพูดออกเบอย่างรบรอน “นาย..” เธอเกรธเสย จนหน้าอกอันขาวผ่องสั่นกระเพื่อมออกมา
ตอนนั้นเธอพึ่งจะรู้ตัวว่าตนเองไม่ได้สวมเสื้อผ้าอะไรเอาไว้ อยู่เลย หน้าแตงขึ้นมาทันที แล้วรีบแย่งผ้าปูที่นอนจากบน ร่างกายของสุมิตรมาปิดเรือนร่างของตนเองเอาไว้
แต่ทว่าหลังจากนั้น ผ้าปูเตียงที่แย่งมาจากสุมิตรได้นั้น กลับเผยให้เห็นถึงเรือนร่างที่ไม่ได้สวมอะไรอยู่เลยแม้แต่ชิ้น เดียว จันวิภารับหันหน้ากลับไปทันที ไม่กล้ามองอีก
รอยยิ้มที่อยู่บนมุมปากของสุมิตรสลายหายไป พูดออกมา อย่างเยือกเย็น “เธอก็ไม่ใช่สาวบริสุทธิ์อยู่แล้ว และก็ไม่รู้ว่าถูก ผู้ชายปู่ยี่ปู่ยำมามากเท่าไหร่แล้ว ยังจะเสแสร้งอะไรอยู่อีก! ”
“ฉันเปล่า! ! ! ” เขาดูถูกเธออีกแล้ว จันวิภาพูดอธิบาย ด้วยความโกรธ “นอกจากนายแล้ว ของฉัน..ครั้งแรกของฉัน ได้ถูกแย่งชิงไปอย่างไม่คาดฝัน และฉันก็ไม่เคยมีความสัมพันธ์ กับผู้ชายคนไหนมาก่อน!
“ใช่หรอ?” สุมิตรยิ้มเยาะเย้ย “จันวิภา ผมจะบอกเธอให้ นะ แม้ว่าเธอจะสกปรก แต่เธอก็เป็นของผม กับชายที่พบเจอ โดยบังเอิญนั่น ผมจะปล่อยให้พวกเขาตายโดยไร้หลุมศพ ทาง ที่ดีเธอบอกกับผมดีกว่าว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร?”
“ฉัน..ฉันไม่รู้..” จันวิภาส่ายหัวอย่างร้อนรน พยายามนึกถึงเรื่องนั้นให้ออกมาจากในสมอง
สุมิตรตูท่าทางที่เสแสร้งของจันวิภา ภายในใจเกิดความ ไม่พอใจ จึงพูดออกไปด้วยความโมโห “จันวิภา! ผมจะให้ โอกาสเธอเป็นครั้งสุดท้าย บอกมาว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใครกัน แน่”
คำพูดของสุมิตรได้ไปชี้จุดอ่อนของจันวิภาเข้า เธอยังคง ยืนยันคำเดิม น้ำตาเริ่มคลออยู่ตรงเบ้าตา “ฉันไม่รู้จริงๆ อย่า ถามอีกเลย วันนั้นฉันไม่รู้อะไรเลย จู่ๆเขาก็พุ่งเข้ามา ฉันไม่รู้ อะไรเลย…ฉันไม่ได้ตั้งใจไม่ใช่….”
สุมิตรกัดริมฝีปาก ยิ้มอย่างบูดบึ้ง “ไม่รู้อะไรสักอย่าง? ผู้ชายที่จู่ๆก็พุ่งเข้ามา? ที! ดี จันวิภา ถ้าผมเจอเข้าละก็ ไม่ เพียงแต่เธอเท่านั้น ชู้ของเธอก็จะต้องตายอย่างน่าเวทนา”
“ฉันไม่รู้จริงๆ และเขาก็ไม่ใช่ซูของฉัน” จันวิภาพูดออกมา อย่างทุกข์ระทม
สุมิตรไม่สนใจเธออีก สวมใส่เสื้อผ้าแล้วเดินออกไปข้าง นอก พูดอย่างเยือกเย็นก่อนที่จะก้าวเดินไป “จันวิภา ผมให้ เวลาเธอค่อยๆคิดไป แต่ทางที่ดีเธออย่าเห็นผมสุมิตรคนนี้เป็น ของเล่นที่โง่ที่ม ไม่งั้นเธอจะได้รู้ผลที่ตามมา!
จันวิภาลุกขึ้นจากเตียง ชี้ไปทางด้านหลังของสุมิตร แต่ กลับพูดอะไรไม่ออกอยู่นาน เพราว่าครั้งแรกของเธอ ผู้ชาย แปลกหน้าคนนั้น เธอไม่รู้จริงๆว่าเขาเป็นใครกันแน่…
หลังจากสุมิตรเดินออกไปแล้ว จันวิภาจึงลุกขึ้นมา แต่ กลับพบว่าตนเองไม่มีเสื้อผ้าอะไรสวมใส่อยู่เลย
ตอนนี้เธอจึงตะโกนเรียกสุมิตรอย่างดังลั่น “สุมิตร นาย ไม่พอใจ จึงพูดออกไปด้วยความโมโห “จันวิภา! ผมจะให้ โอกาสเธอเป็นครั้งสุดท้าย บอกมาว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใครกัน แน่”
คำพูดของสุมิตรได้ไปชี้จุดอ่อนของจันวิภาเข้า เธอยังคง ยืนยันคำเดิม น้ำตาเริ่มคลออยู่ตรงเบ้าตา “ฉันไม่รู้จริงๆ อย่า ถามอีกเลย วันนั้นฉันไม่รู้อะไรเลย จู่ๆเขาก็พุ่งเข้ามา ฉันไม่รู้ อะไรเลย…ฉันไม่ได้ตั้งใจไม่ใช่….”
สุมิตรกัดริมฝีปาก ยิ้มอย่างบูดบึ้ง “ไม่รู้อะไรสักอย่าง? ผู้ชายที่จู่ๆก็พุ่งเข้ามา? ที! ดี จันวิภา ถ้าผมเจอเข้าละก็ ไม่ เพียงแต่เธอเท่านั้น ชู้ของเธอก็จะต้องตายอย่างน่าเวทนา”
“ฉันไม่รู้จริงๆ และเขาก็ไม่ใช่ซูของฉัน” จันวิภาพูดออกมา อย่างทุกข์ระทม
สุมิตรไม่สนใจเธออีก สวมใส่เสื้อผ้าแล้วเดินออกไปข้าง นอก พูดอย่างเยือกเย็นก่อนที่จะก้าวเดินไป “จันวิภา ผมให้ เวลาเธอค่อยๆคิดไป แต่ทางที่ดีเธออย่าเห็นผมสุมิตรคนนี้เป็น ของเล่นที่โง่ที่ม ไม่งั้นเธอจะได้รู้ผลที่ตามมา!
จันวิภาลุกขึ้นจากเตียง ชี้ไปทางด้านหลังของสุมิตร แต่ กลับพูดอะไรไม่ออกอยู่นาน เพราว่าครั้งแรกของเธอ ผู้ชาย แปลกหน้าคนนั้น เธอไม่รู้จริงๆว่าเขาเป็นใครกันแน่…
หลังจากสุมิตรเดินออกไปแล้ว จันวิภาจึงลุกขึ้นมา แต่ กลับพบว่าตนเองไม่มีเสื้อผ้าอะไรสวมใส่อยู่เลย
ตอนนี้เธอจึงตะโกนเรียกสุมิตรอย่างดังลั่น “สุมิตร นาย มันสารเลวฉีกเสื้อผ้าของฉันขาดหมด ฉันจะออกไปอย่างไง! กลับมาเดี๋ยวนี้ ไอ้คนวิปริต! ”
ไม่มีเสียงตอบรับ มีเพียงแต่เสียงเดินลงบันไดของสุมิตร
เมื่อจันวิภาไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ มีสาวใช้คนหนึ่ง เดินเข้ามาอย่างหงุดหงิด ในมือถือเสื้อผ้าของจันวิภาเอาไว้อยู่ อย่างสะเพร่า โยนลงบนเตียง สายตาเต็มไปด้วยความดูถูก และเยาะเย้ย
จันวิภาไม่สนใจเธอ ขอเพียงแค่สวมใส่เสื้อผ้าแล้วลงไป ชั้นล่างได้ สุมิตรออกไปข้างนอกแล้ว มีเพียงแต่เวยธัสที่นั่งอยู่บน โซฟาจ้องมองเธออยู่
จันวิภาเดินเข้าไป แล้วพูดอย่างสงสัย “นายเป็นอะไรไป?”
เวธัสส่ายหัว พูดออกมาเสียงดัง “เธอยังถามผมอีกหรอว่า เป็นอะไรไป? ผมยังคิดอยู่เลยว่าเธอกับพี่ของผมเป็นอะไรไป?”
จันวิภาส่งเสียง “อ๋อ” ออกมา ยิ้มอย่างขึ้นขมแล้วพูด “นายเป็นน้องชายของเขา นายยังไม่เข้าใจอีกหรอว่าเขาเป็น คนอย่างไง? เขาเป็นคนวิปริตไง”
เวธัสถอนหายใจแล้วพูด “เมื่อคืนผมเห็นพี่ท่าทางเหมือน จะโกรธมาก ไม่ได้ทำอะไรกับเธอหรอกนะ?”
จันวิภามองใบหน้าของเวธัสที่เป็นห่วงอย่างจริงจัง เธอจึง ยิ้มแล้วพูดขึ้น “ยังจะทำอะไรได้อีกล่ะ? พอเถอะน่า! มันสารเลวฉีกเสื้อผ้าของฉันขาดหมด ฉันจะออกไปอย่างไง! กลับมาเดี๋ยวนี้ ไอ้คนวิปริต! ”
ไม่มีเสียงตอบรับ มีเพียงแต่เสียงเดินลงบันไดของสุมิตร
เมื่อจันวิภาไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ มีสาวใช้คนหนึ่ง เดินเข้ามาอย่างหงุดหงิด ในมือถือเสื้อผ้าของจันวิภาเอาไว้อยู่ อย่างสะเพร่า โยนลงบนเตียง สายตาเต็มไปด้วยความดูถูก และเยาะเย้ย
จันวิภาไม่สนใจเธอ ขอเพียงแค่สวมใส่เสื้อผ้าแล้วลงไป ชั้นล่างได้ สุมิตรออกไปข้างนอกแล้ว มีเพียงแต่เวยธัสที่นั่งอยู่บน โซฟาจ้องมองเธออยู่
จันวิภาเดินเข้าไป แล้วพูดอย่างสงสัย “นายเป็นอะไรไป?”
เวธัสส่ายหัว พูดออกมาเสียงดัง “เธอยังถามผมอีกหรอว่า เป็นอะไรไป? ผมยังคิดอยู่เลยว่าเธอกับพี่ของผมเป็นอะไรไป?”
จันวิภาส่งเสียง “อ๋อ” ออกมา ยิ้มอย่างขึ้นขมแล้วพูด “นายเป็นน้องชายของเขา นายยังไม่เข้าใจอีกหรอว่าเขาเป็น คนอย่างไง? เขาเป็นคนวิปริตไง”
เวธัสถอนหายใจแล้วพูด “เมื่อคืนผมเห็นพี่ท่าทางเหมือน จะโกรธมาก ไม่ได้ทำอะไรกับเธอหรอกนะ?”
จันวิภามองใบหน้าของเวธัสที่เป็นห่วงอย่างจริงจัง เธอจึง ยิ้มแล้วพูดขึ้น “ยังจะทำอะไรได้อีกล่ะ? พอเถอะน่า!