พิชิตใจนายปีศาจ - ตอนที่ 62
ตอนที่62 ความคลุมเครือ แตกหักลง
“เป็นไปได้อย่างไร?มันจะเป็นอย่างนี้ได้อย่างไร?” เวธัส ค่อยๆยึดตัวขึ้น แต่เสียงเอ้อระเหยอ้อยอิ่งใจยังคงดังเข้ามาใน หูเขาอย่างต่อเนื่อง
เวธัสกระแทกหัวตัวเอง คาดไม่ถึงว่าพี่สะใภ้
จันวิภา ก่อนหน้านี้ ผมยังอธิบายให้พี่ฟัง หรือคิดว่าเป็นพี่ ชายที่ดูสงสัย สุดท้าย ตัวคุณเองนั้นเป็นเหมือนแม่ของคุณ ก็ เป็นผู้หญิงร่าน ยั่วกับผู้ชายคนอื่นๆลับหลังพี่ชายกับผม เวธัส กัดฟันแน่น ออกไปที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง
แต่ ทั้งจันวิภาและนราวิชญ์ที่อยู่ด้านในห้องกลับไม่รับรู้
อะไรเสียเลย
จันวิภายังคงหลับตา พลางร้องไห้ในลำคอ: “ร้อน ร้อน เหลือเกิน ร้อนมาก ช่วยฉันด้วย”
เมื่อได้ยินจันวิภาร้องขอให้ช่วย นราวิชญ์ชะงักลงด้วย ความหวาดกลัว และหยุดถอดเสื้อผ้าตัวเองออก ร่างของเขาก็ แข็งขึ้น
คราวนี้นราวิชญ์สังเกตว่าจันวิภามีอาการผิดปกติ ร่างกาย เธอมันร้อนเอามากๆ สติเริ่มเลือนลาง ซึ่งมันเป็นอาการที่ถูก วางยา
ทันใดนัยน์ตาเย็นเยือกลง นราวิชญ์คิดว่า ต้องเป็นจิลลา ต้องไม่พอใจกับเรื่องนี้ แล้วมาทำร้ายจันวิภา จากนั้นเขาก็โทร ตอนที่62 ความคลุมเครือ แตกหักลง
“เป็นไปได้อย่างไร?มันจะเป็นอย่างนี้ได้อย่างไร?” เวธัส ค่อยๆยึดตัวขึ้น แต่เสียงเอ้อระเหยอ้อยอิ่งใจยังคงดังเข้ามาใน หูเขาอย่างต่อเนื่อง
เวธัสกระแทกหัวตัวเอง คาดไม่ถึงว่าพี่สะใภ้
จันวิภา ก่อนหน้านี้ ผมยังอธิบายให้พี่ฟัง หรือคิดว่าเป็นพี่ ชายที่ดูสงสัย สุดท้าย ตัวคุณเองนั้นเป็นเหมือนแม่ของคุณ ก็ เป็นผู้หญิงร่าน ยั่วกับผู้ชายคนอื่นๆลับหลังพี่ชายกับผม เวธัส กัดฟันแน่น ออกไปที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง
แต่ ทั้งจันวิภาและนราวิชญ์ที่อยู่ด้านในห้องกลับไม่รับรู้
อะไรเสียเลย
จันวิภายังคงหลับตา พลางร้องไห้ในลำคอ: “ร้อน ร้อน เหลือเกิน ร้อนมาก ช่วยฉันด้วย”
เมื่อได้ยินจันวิภาร้องขอให้ช่วย นราวิชญ์ชะงักลงด้วย ความหวาดกลัว และหยุดถอดเสื้อผ้าตัวเองออก ร่างของเขาก็ แข็งขึ้น
คราวนี้นราวิชญ์สังเกตว่าจันวิภามีอาการผิดปกติ ร่างกาย เธอมันร้อนเอามากๆ สติเริ่มเลือนลาง ซึ่งมันเป็นอาการที่ถูก วางยา
ทันใดนัยน์ตาเย็นเยือกลง นราวิชญ์คิดว่า ต้องเป็นจิลลา ต้องไม่พอใจกับเรื่องนี้ แล้วมาทำร้ายจันวิภา จากนั้นเขาก็โทร หาจิลลาทันที
“เฮ้.. มีเสียงโทรศัพท์ของผู้หญิง
“ผมนราวิชญ์เอง ตอนนี้ เธอควรมาที่สำนักงานผมให้เร็ว ที่สุด” “นราวิชญ์พูดเสียงเย็นเยือก ข่มความโกรธลงไว้”
ไม่นาน จิลลาก็เดินเข้ามา
นราวิชญ์เดินเข้ามาจ้องจิลลา หัวเราะเสียงเย็น: “โชคร้าย มาก คงทำให้เธอผิดหวังสีนะ สิ่งที่เธอหวังจะให้มันเกิดแต่มัน ดันไม่เกิด”
จิลลาแกล้งโง่ เธอจึงสายหัว พร้อมพูดว่า: “ท่านประธาน ฉัน ฉันไม่รู้ว่าคุณพูดอะไร”
นราวิชญ์ขัดจังหวะจิลลา ระเบิดออกมา: “เธอคิดว่าผมโง่ ใช่ไหม? เอายาถอนพิษมาแก้พิษเดี๋ยวนี้”
จิลลาคิดไม่ถึงว่านราวิชญ์จะไม่ดื่มด่ำกับจันวิภา หากแต่ ยังต้องการยาถอนพิษให้เธออีก
ความจริงครั้งนี้แผนการเธอไม่เพียงทำให้จันวิภาเสื่อม เสีย แต่ยังทำให้นราวิชญ์พอใจ เนื่องจากเรื่องที่เกิดขึ้นในพิธี เปิดครั้งที่แล้ว ทำให้จิลลามั่นใจมากๆ ว่านราวิชญ์ซอบจันวิภา
ดูแล้วจิลลายังคงมีสายตาว่างเปล่า นราวิชญ์ยกมือตัวเอง ขึ้น เตรียมพร้อมจะตี นี่เป็นครั้งแรกที่เดียวที่อยากลงมือจัดการ กับผู้หญิง
จิลลายังคงตะลึง และตกตะลึงมากขึ้น ที่ไม่ได้ใช้คำพูดที่ หาจิลลาทันที
“เฮ้.. มีเสียงโทรศัพท์ของผู้หญิง
“ผมนราวิชญ์เอง ตอนนี้ เธอควรมาที่สำนักงานผมให้เร็ว ที่สุด” “นราวิชญ์พูดเสียงเย็นเยือก ข่มความโกรธลงไว้”
ไม่นาน จิลลาก็เดินเข้ามา
นราวิชญ์เดินเข้ามาจ้องจิลลา หัวเราะเสียงเย็น: “โชคร้าย มาก คงทำให้เธอผิดหวังสีนะ สิ่งที่เธอหวังจะให้มันเกิดแต่มัน ดันไม่เกิด”
จิลลาแกล้งโง่ เธอจึงสายหัว พร้อมพูดว่า: “ท่านประธาน ฉัน ฉันไม่รู้ว่าคุณพูดอะไร”
นราวิชญ์ขัดจังหวะจิลลา ระเบิดออกมา: “เธอคิดว่าผมโง่ ใช่ไหม? เอายาถอนพิษมาแก้พิษเดี๋ยวนี้”
จิลลาคิดไม่ถึงว่านราวิชญ์จะไม่ดื่มด่ำกับจันวิภา หากแต่ ยังต้องการยาถอนพิษให้เธออีก
ความจริงครั้งนี้แผนการเธอไม่เพียงทำให้จันวิภาเสื่อม เสีย แต่ยังทำให้นราวิชญ์พอใจ เนื่องจากเรื่องที่เกิดขึ้นในพิธี เปิดครั้งที่แล้ว ทำให้จิลลามั่นใจมากๆ ว่านราวิชญ์ซอบจันวิภา
ดูแล้วจิลลายังคงมีสายตาว่างเปล่า นราวิชญ์ยกมือตัวเอง ขึ้น เตรียมพร้อมจะตี นี่เป็นครั้งแรกที่เดียวที่อยากลงมือจัดการ กับผู้หญิง
จิลลายังคงตะลึง และตกตะลึงมากขึ้น ที่ไม่ได้ใช้คำพูดที่ น่าฟังมาหลอกหลวงผู้อื่น จึงได้แต่ยอมเอายาถอนพิษให้แต่
โดยดี
นราวิชญ์หยิบยาจากจิลลาด้วยท่าทางที่ดุร้าย: “หากยานี้ มีปัญหาอะไร เธอต้องรับผิดชอบ”
จิลลาตกใจจนหน้าซีดที่ถูกนราวิชญ์กดดันข่มขู่ เธอกำลัง จะพูดออกมา แต่ถูกนราวิชญ์ตะโกนก่นใส่: “ตอนนี้ไปให้พ้น อย่ามาทำให้ที่ของผมแปดเปื้อน
จิลลาในสภาพบรรยากาศนี้ ได้แต่รีบเดินออกไปอย่าง
รวดเร็ว
นราวิชญ์น้ำยาถอนพิษผสมน้ำให้จันวิภาดื่มลงไป
นั่นก็เป็นยาถอนพิษแก้พิษได้จริง จันวิภาหลังจากกินยา แล้ว อุณหภูมิร่างกายค่อยๆ ลดลง ไม่หายใจแรงหรือเพ้อออก มา จากนั้นไม่นานก็หลับสนิท
แสงจันทร์จากกนอกหน้าต่างค่อยสาดส่องเข้ามา ในที่สุด จันวิภาก็ตื่นขึ้นมาพร้อมกับเสียงกรน
นราวิชญ์รีบเข้ามาช่วยเธอ: “จันวิภา ดีขึ้นหรือยัง”
จันวิภาใช้หัวนิ้วมือนวดหน้าผาก รอการมองเห็นของตน
กลับมาชัดเจน หลังจากเห็นนราวิชญ์ก็ตกตะลึงและหดตัว จาก นั้นลดศีรษะลง หน้าแดงไปถึงต้นคอ
“พี่นราวิชญ์ ฉัน ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไร…
“ไม่ใช่ความผิดของเธอ จันวิภา” นราวิชญ์ใช้มืออันอบอุ่น น่าฟังมาหลอกหลวงผู้อื่น จึงได้แต่ยอมเอายาถอนพิษให้แต่
โดยดี
นราวิชญ์หยิบยาจากจิลลาด้วยท่าทางที่ดุร้าย: “หากยานี้ มีปัญหาอะไร เธอต้องรับผิดชอบ”
จิลลาตกใจจนหน้าซีดที่ถูกนราวิชญ์กดดันข่มขู่ เธอกำลัง จะพูดออกมา แต่ถูกนราวิชญ์ตะโกนก่นใส่: “ตอนนี้ไปให้พ้น อย่ามาทำให้ที่ของผมแปดเปื้อน
จิลลาในสภาพบรรยากาศนี้ ได้แต่รีบเดินออกไปอย่าง
รวดเร็ว
นราวิชญ์น้ำยาถอนพิษผสมน้ำให้จันวิภาดื่มลงไป
นั่นก็เป็นยาถอนพิษแก้พิษได้จริง จันวิภาหลังจากกินยา แล้ว อุณหภูมิร่างกายค่อยๆ ลดลง ไม่หายใจแรงหรือเพ้อออก มา จากนั้นไม่นานก็หลับสนิท
แสงจันทร์จากกนอกหน้าต่างค่อยสาดส่องเข้ามา ในที่สุด จันวิภาก็ตื่นขึ้นมาพร้อมกับเสียงกรน
นราวิชญ์รีบเข้ามาช่วยเธอ: “จันวิภา ดีขึ้นหรือยัง”
จันวิภาใช้หัวนิ้วมือนวดหน้าผาก รอการมองเห็นของตน
กลับมาชัดเจน หลังจากเห็นนราวิชญ์ก็ตกตะลึงและหดตัว จาก นั้นลดศีรษะลง หน้าแดงไปถึงต้นคอ
“พี่นราวิชญ์ ฉัน ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไร…
“ไม่ใช่ความผิดของเธอ จันวิภา” นราวิชญ์ใช้มืออันอบอุ่น ลูบหัวจันวิภา: “เธอแค่เผชิญกับแผนการของจิลลา วางใจเถอะ เรื่องนี้ผมไม่จบง่ายๆกับเขาแน่นอน”
จันวิภาถึงจะคิดออก ก่อนหน้านี้ เธอก็ปกติ น่าจะเป็นไปได้ ที่จิลลาวางยาเธอในงานเลี้ยงอาหารค่ำที่สมาคมนักเรียน ขณะ นั้นในใจนึกโมโห หากเพียงแต่…
“แต่ว่า ถึงอย่างนั้น ทำเรื่องแบบนี้ ฉันควรจะทำยังไงนะ ตอนนี้ที่จันวิภากลัวที่สุดคือการที่สุมิตรรับรู้เรื่องราวที่ ฉัน.” เกิดขึ้น
นราวิชญ์ยิ้มอย่างอบอุ่น พูดว่า: “จันวิภา พี่ชายคนนี้เป็น คนน่ากลัวไหม? ระหว่างเราสองคนไม่มีเกิดอะไรขึ้น เธอวางใจ ได้เลยนะ”
เนื่องจากจันวิภาอยู่ในช่วงที่ยากำลังออกฤทธิ์สูงสุดยัง รู้สึกมึนงง สำหรับนราวิชญ์และเขายังมีบางเรื่องที่ไม่ชัดเจน มากนัก อย่างไรก็ตามนราวิชญ์ยังยืนยันว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ช่วงเวลานี้จันวิภารู้สึกสงบดีขึ้นเล็กน้อย เธอมองไป แสงจันทร์ด้านนอกหน้าต่าง พูดต่ออย่างใจจดใจจ่อว่า: “ดึก แล้ว ตอนนี้ฉันควรกลับแล้ว พี่นราวิชญ์ ครั้งหน้าเจอกัน”
แต่เติมนราวิชญ์อยากส่งนวิภากลับ แต่ไม่ต้องการให้คน อื่นเข้าใจผิด กลัวจะเพิ่มปัญหาให้จันวิภา เขาจึงยอมแพ้ไป
หลังจากจันวิภากลับถึงบ้าน สายตาแวบแรกที่เห็นคือแวว
ตาที่เบิกบานใจของสาวใช้
หญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้ามา มองจันวิภาด้วยสายตาที่ว่าง ลูบหัวจันวิภา: “เธอแค่เผชิญกับแผนการของจิลลา วางใจเถอะ เรื่องนี้ผมไม่จบง่ายๆกับเขาแน่นอน”
จันวิภาถึงจะคิดออก ก่อนหน้านี้ เธอก็ปกติ น่าจะเป็นไปได้ ที่จิลลาวางยาเธอในงานเลี้ยงอาหารค่ำที่สมาคมนักเรียน ขณะ นั้นในใจนึกโมโห หากเพียงแต่…
“แต่ว่า ถึงอย่างนั้น ทำเรื่องแบบนี้ ฉันควรจะทำยังไงนะ ตอนนี้ที่จันวิภากลัวที่สุดคือการที่สุมิตรรับรู้เรื่องราวที่ ฉัน.” เกิดขึ้น
นราวิชญ์ยิ้มอย่างอบอุ่น พูดว่า: “จันวิภา พี่ชายคนนี้เป็น คนน่ากลัวไหม? ระหว่างเราสองคนไม่มีเกิดอะไรขึ้น เธอวางใจ ได้เลยนะ”
เนื่องจากจันวิภาอยู่ในช่วงที่ยากำลังออกฤทธิ์สูงสุดยัง รู้สึกมึนงง สำหรับนราวิชญ์และเขายังมีบางเรื่องที่ไม่ชัดเจน มากนัก อย่างไรก็ตามนราวิชญ์ยังยืนยันว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ช่วงเวลานี้จันวิภารู้สึกสงบดีขึ้นเล็กน้อย เธอมองไป แสงจันทร์ด้านนอกหน้าต่าง พูดต่ออย่างใจจดใจจ่อว่า: “ดึก แล้ว ตอนนี้ฉันควรกลับแล้ว พี่นราวิชญ์ ครั้งหน้าเจอกัน”
แต่เติมนราวิชญ์อยากส่งนวิภากลับ แต่ไม่ต้องการให้คน อื่นเข้าใจผิด กลัวจะเพิ่มปัญหาให้จันวิภา เขาจึงยอมแพ้ไป
หลังจากจันวิภากลับถึงบ้าน สายตาแวบแรกที่เห็นคือแวว
ตาที่เบิกบานใจของสาวใช้
หญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้ามา มองจันวิภาด้วยสายตาที่ว่าง เปล่า พร้อมหัวเราะเย้ยหยัน: “เจ้านายสุมิตรรู้ให้คุณขึ้นไปชั้น บน คุณผู้หญิง ดูแลตัวเองนะคะ”
คำพูดของสาวใช้เต็มไปด้วยการยั่วยุและล้อเลียนปนกัน
จันวิภาเหลือบมองไปที่แม่บ้านและเติยเข้าไปบ้านพักทันที ทันทีที่เข้าประตูไปเห็นเวธัสยืนอยู่ห่างๆ และมองด้วยสายตาที่ เย็นชา เขารีบกลับไปที่ห้องนอนตัวเอง
จันวิภาตกใจมาก รู้สึกกลัวขึ้นมาทันใด แต่เข้าก็ไปที่ห้อง ของสุมิตร
สุมิตรนั่งอยู่ที่หน้าของโต๊ะ หันหลังให้จันวิภา ได้ยินเสียง ฝีเท้าของเธอเดินเข้ามาก็ไม่หันมองใดๆ พูดด้วยเสียงเย็นเยือก “ตอนนี้ให้ผมพูด หรือเธอจะพูดเอง?”
จันวิภาคิดในใจว่าต้องเป็นเรื่องนั้นแน่ๆ แม้ว่าเธอรู้ว่า ตนเองไม่เคยทำเรื่องผิด แต่การเผชิญหน้ากับสุมิตรเป็นเรื่องที่ ยากมาก เธอเองก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไง พร้อมถาม “เธอต้องการ ให้ฉันพูดอะไร?”
สุมิตรหัวเราะเสียงเย็นเยียบ และหันหน้าเข้ามา พร้อมยก ขาขึ้นมา มองไปที่จันวิภาด้วยสายตาเย็นชา: “วันนี้กลับมาตีก ขนาดนี้? ดูท่าจะอยู่ที่สำนักงานของนราวิชญ์นานใช่ไหม?”
ใบหน้าของจันวิภาเขียวขึ้นมา ถอนหายใจ: “ฉันเป็น ภรรยาคุณ เรื่องนี้คุณไม่ได้รู้เรื่องอะไร อย่ามาใส่ความฉัน มั่วๆ”
ใส่ความ หมม” เปล่า พร้อมหัวเราะเย้ยหยัน: “เจ้านายสุมิตรรู้ให้คุณขึ้นไปชั้น บน คุณผู้หญิง ดูแลตัวเองนะคะ”
คำพูดของสาวใช้เต็มไปด้วยการยั่วยุและล้อเลียนปนกัน
จันวิภาเหลือบมองไปที่แม่บ้านและเติยเข้าไปบ้านพักทันที ทันทีที่เข้าประตูไปเห็นเวธัสยืนอยู่ห่างๆ และมองด้วยสายตาที่ เย็นชา เขารีบกลับไปที่ห้องนอนตัวเอง
จันวิภาตกใจมาก รู้สึกกลัวขึ้นมาทันใด แต่เข้าก็ไปที่ห้อง ของสุมิตร
สุมิตรนั่งอยู่ที่หน้าของโต๊ะ หันหลังให้จันวิภา ได้ยินเสียง ฝีเท้าของเธอเดินเข้ามาก็ไม่หันมองใดๆ พูดด้วยเสียงเย็นเยือก “ตอนนี้ให้ผมพูด หรือเธอจะพูดเอง?”
จันวิภาคิดในใจว่าต้องเป็นเรื่องนั้นแน่ๆ แม้ว่าเธอรู้ว่า ตนเองไม่เคยทำเรื่องผิด แต่การเผชิญหน้ากับสุมิตรเป็นเรื่องที่ ยากมาก เธอเองก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไง พร้อมถาม “เธอต้องการ ให้ฉันพูดอะไร?”
สุมิตรหัวเราะเสียงเย็นเยียบ และหันหน้าเข้ามา พร้อมยก ขาขึ้นมา มองไปที่จันวิภาด้วยสายตาเย็นชา: “วันนี้กลับมาตีก ขนาดนี้? ดูท่าจะอยู่ที่สำนักงานของนราวิชญ์นานใช่ไหม?”
ใบหน้าของจันวิภาเขียวขึ้นมา ถอนหายใจ: “ฉันเป็น ภรรยาคุณ เรื่องนี้คุณไม่ได้รู้เรื่องอะไร อย่ามาใส่ความฉัน มั่วๆ”
ใส่ความ หมม” ดูเหมือนว่า สุมิตรคิดว่าคำนี้ตลก เขาหันมองจันวิภาและ ยิ้มเย็น: “ดังนั้น ผมจะให้โอกาสเธอครั้งสุดท้ายนะ”
จันวิภาถอนหายใจ: “ฉันเข้าใจสิ่งที่คุณสงสัยฉันนะ แต่ฉัน ถูกใส่ร้าย จิลลาผู้หญิงคนนั้นวางยาฉัน แต่ฉันกับพี่นราวิชญ์ไม่ ได้มีอะไรกัน เขาไม่ใช่พวกคนที่ชอบเข้ามาฉวยโอกาส”
“พี่นราวิชญ์ เรียกกันเสียสนิทมากสินะ อยู่บนเตียงคง เรียกกันสนิทมากกว่านี้ละมั้ง จันวิภา เธอเห็นฉันโง่หรือไง หรือ ว่าเธอนั่นแหละที่โง่? หม? ”
จันวิภากระแทกเท้า รีบพูดดต่อ: “ฉันตกเป็นผู้เสียหาย เธอดูถูกฉันมากเลยนะ ฉันไม่มีก็ทางเลือก”
สุมิตรก้าวเข้ามา สองมือเขายื่นออก กระชากคอจันวิภา สีหน้าโหดเหี้ยม: “ก่อนที่คุณจะแต่งงานกับผมก็ไม่ใช่สาว บริสุทธิ์ เป็นผู้หญิงร่าน คุณมีคุณสมบัติอะไรที่จะมายืนยันว่า ไม่ใช่คนประเภทนั้นล่ะ?” ดูเหมือนว่า สุมิตรคิดว่าคำนี้ตลก เขาหันมองจันวิภาและ ยิ้มเย็น: “ดังนั้น ผมจะให้โอกาสเธอครั้งสุดท้ายนะ”
จันวิภาถอนหายใจ: “ฉันเข้าใจสิ่งที่คุณสงสัยฉันนะ แต่ฉัน ถูกใส่ร้าย จิลลาผู้หญิงคนนั้นวางยาฉัน แต่ฉันกับพี่นราวิชญ์ไม่ ได้มีอะไรกัน เขาไม่ใช่พวกคนที่ชอบเข้ามาฉวยโอกาส”
“พี่นราวิชญ์ เรียกกันเสียสนิทมากสินะ อยู่บนเตียงคง เรียกกันสนิทมากกว่านี้ละมั้ง จันวิภา เธอเห็นฉันโง่หรือไง หรือ ว่าเธอนั่นแหละที่โง่? หม? ”
จันวิภากระแทกเท้า รีบพูดดต่อ: “ฉันตกเป็นผู้เสียหาย เธอดูถูกฉันมากเลยนะ ฉันไม่มีก็ทางเลือก”
สุมิตรก้าวเข้ามา สองมือเขายื่นออก กระชากคอจันวิภา สีหน้าโหดเหี้ยม: “ก่อนที่คุณจะแต่งงานกับผมก็ไม่ใช่สาว บริสุทธิ์ เป็นผู้หญิงร่าน คุณมีคุณสมบัติอะไรที่จะมายืนยันว่า ไม่ใช่คนประเภทนั้นล่ะ?”