พิชิตใจนายปีศาจ - ตอนที่ 81
ตอนที่ 81 โดนตบ ความเย็นชาของเขา
จันวิภาไม่เปิดไฟ พาตัวเองเข้าไปในความมืดมิดนั้น ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่
ตอนจันวิภาตื่นขึ้นมาเห็นเวลาก็รู้ว่าผ่านไปแล้วหนึ่งวัน ประตูก็ไม่เคยเปิดออกเลย สุมิตรก็ไม่ให้คนมาส่งข้าวส่งน้ำมา
จันวิภารู้สึกก็คงตายไป แน่ๆ ตอนนี้ลงจากเตียงขาก็ สั่นแล้ว
จันวิภาคเธอเคาะประตู แล้วเคาะประตูอีก คน เธอเปิด ประตู แม้ว่าข้างนอกน่าจะมีคนคอยเฝ้าอยู่ เธอก็ต้องออกไปให้ ได้ ไม่งั้นเธอตายแน่
สิ่งที่ทำให้จันวิภาประหลาดใจก็คือคนคุมและสาวใช้ที่อยู่ หน้าประตูกลับไม่เห็นแล้ว เธอคิดว่าสุมิตรจะขังเธอทั้งชีวิตนึก ไม่ถึงเลยว่าจะแค่วันเดียว
จันวิภาเกิดความกลัวขึ้นมา สายตาพร่ามัวขึ้นมา ปากที่ แห้งหยาบของเธอขาวซีด นัยน์ตาทั้งคู่ไร้วิญญาณและหย่อน ยาน
หลังจากใช้แรงเดินอันหนักหน่วงออกจากคฤหาสน์ จัน วิภาก็เลยตามองเห็นนวาระ
นวาระกำลังยิ้มอยู่ ใบหน้าเต็มไปด้วยความสุข แต่งหน้า
ราวกับดอกไม้ที่กำลังผลิตอกออกมา กระโปรงสั้นสีแดงใส่คู่
กับถุงน่องบางๆอีกหนึ่งชั้น รองเท้าส้นสูงสีแดง ทำให้เธอที่ยืน อยู่หน้าจันวิภายิ่งดูสูงขึ้นมาก * โธ่ คุณหญิงของวิบูลย์ธนภัณฑ์ ไม่เจอแค่วันเดียวทำไม ถึงถูกทิ้งซะล่ะ” นวาระใช้มือป้องปากสีแดงเสแสร้งเป็นตกใจ
สุดสุด
จันวิภากำลังจะหมดแรงยืนข้างประตู มองนวาระอย่างเย็น ยา “นวาระ เธอต้องการอะไรกันแน่? เธอชนะแล้ว เธอเป็นคุณ หญิงของวิบูลย์ธนภัณฑ์ แล้วฉันไม่อยากจะแย่งที่นี่กับเธอด้วย อย่าเอาฉันไปเป็นศัตรูในความคิดของเธอเลย!”
นวาระ 2 มือ เท้าเอว คิดสิ่งที่จันวิภาพูด เธอยังคงไม่คิดจะ เปิดทางให้ พูดขึ้น: ใช่เหรอ? เมื่อวานใครบางคนนะบอกให้ ฉันจำตลอดไว้ตลอด ว่าเธอคือนายหญิงของบ้านนี้ใช่ไหม”
จันวิภากัดฟัน เธอพูดอย่างเย็นชา: “นวาระ เธอเลิกเล่นแง่ ได้แล้ว เธออย่าพยายามทำให้ฉันและเธอเป็นคู่แค้นกันเลย”
นวาระหัวเราะพูด: “หะ? คู่แค้น? ฉันแค่อยากจะเห็นเธอ
ถูกทิ้งเท่านั้นเองและเธอมีค่าอะไรจะเป็นคู่แค้นของฉันล่ะ”
นวาระตั้งใจใช้นิ้วมือกดหน้าที่กำลังแดงอยู่ เธอตบเข้าที่ หน้าของตัวเองกลับยิ่งทำให้จันวิภาต้องเสียมากกว่าอีก นั้นไม่ใช่เพราะด้วนวาระได้รับความเจ็บปวด แต่มันจะเป็น เครื่องหมายของความชนะของเธอ
จันวิภามองเห็นหน้าของเธอแดงบวม เสียงหัวเราะเย็น
ชาหนึ่งเสียงดั้งออกมา
ตามมาด้วย พริบตาเดียวนั้น จันวิภาไม่รู้ว่าเอาแรงจาก ไหน เธอผู้อ่อนแรงยกมือขึ้น ตบเข้าที่หน้าของนวาระอย่างแรง
เพี้ย!
เสียงดังใสดังออกมา
นวาระเดิมที่หน้าบวมแดงอยู่แล้ว ถูกจันวิภาตบเข้าอีก ยิ่ง
ทำให้เธอเจ็บใจเข้าไปอีก
จันวิภาหัวเราะพูด: “เธออยากจะตบกลับสักหน่อยเหรอ?
ไม่ได้บอกว่าฉันตบเธอเหรอ? งั้นก็ตบเธอให้มันรู้แล้วรู้รอดไป เลย ต่ำตมจริงๆ”
นวาระมองจันวิภาอย่างไม่อยากจะเชื่อ หน้าที่เจ็บจี๊ด ตอยู่หันมาน้ำตาเกือบจะไหลออกมาแล้ว เธอใช้มือปิดหน้าของ เธอพร้อมกลับเดินถอยออกไป: “นางสารเลวนี้ แกกล้าตบหน้า
ฉัน แก..”
จันวิภากัตฟันหัวเราะ: “เธอรนหาที่เอง ฉันเตือนเธอกี่รอบ
แล้ว”
ที่มันบังเอิญก็คือ เหตุการณ์ที่เกิดตรงหน้านี้ถูกสุมิตรที่เพิ่ง กลับมาเห็นเข้าพอดี
สุมิตรรีบพุ่งเข้าไปที่ข้างนวาระ เขาลูบหน้าของนวาระ
อย่างสงสารเหนืออื่นใด ขมวดควพูดเสียงเบา, “ไม่เป็นอะไรใช่ ใหมนวาระ
จันวิภารู้ว่าตอนนี้เธอเจอเรื่องร้ายของจริงเข้าให้แล้ว เธอ รับอธิบายขึ้น: “สุมิตร มันไม่ใช่แบบที่คิด ไม่ใช่…”
“ไม่ใช่? จันวิภาเธอบอกผมว่าไม่ใช่อะไร?” สุมิตรโกรธ ตะโกนออกมา จากนั้นพูดกับคนที่ตามด้านหลัง: “กดนางผู้ หญิงนี่ให้ผมเดี๋ยวนี้”
จันวิภาเห็นบอดี้การ์ดใส่สูทสีดำตัวสูงกำลังเดินเข้ามา เดิมที่ไม่มีแรงที่จะต้านไหวอีกทั้งแรงที่จะอธิบายก็ไม่มีแล้ว เธอ อ่อนแอเกินไป อ่อนแอจนหมดแรงพยุงตัว ก็ลงไปที่พื้นทันที
บอดี้การ์ดชุดดำกดที่ไหล่ของเธอ ทำให้เธอไม่มีทางที่จะ
ดิ้น
ในตอนนี้สุมิตรก็พูดเบาๆกับนวาระที่ร้องไห้อยู่: “ขอโทษ ที่ทำให้เธอเจ็บอีกแล้ว แต่ครั้งนี้ปล่อยเธอไปไม่ได้ เธอทำอะไร กับเธอนวาระ เธอทำกลับไปอย่างนั้น”
“ผมสุมิตร ที่ผ่านมาทั้งหมดจะจัดการลงโทษให้กระจ่าง เอง” สุมิตรมองอย่างเย็นชาไปที่จันวิภา
นวาระเดิมที่เสแสร้งไม่ยอมตบคน แต่จันวิภากลับรู้ว่าผู้ หญิงคนนี้อดใจไม่ไหวรออยากจะตบเข้าที่หน้าเธออยู่แล้ว ผลลัพธ์ก็คือสุมิตรพูดแค่ไม่กี่ประโยค นวาระก็เดินไปที่ข้างจันวิภา พร้อมยกมือขึ้น
จันวิภารู้สึกอัปยศสุดๆ แล้วยังไม่มีทางดิ้นอีก ได้แต่
หลับตาลง
นวาระดูเหมือนไม่ยอมจะทำ แต่ในใจกลับดีใจสุดขีด ตบ
เข้าที่หน้าของจันวิภาติดกันสี่ห้าที
จันวิภากัดฟันแน่น เธอสาบานเลยว่า ไม่ว่าจะเป็นยังไง ที่ นวาระตบเธอนี้ แม้ว่าเธอจะตาย เธอก็ต้องแก้แค้นเอาคืนเข้าที่ หน้าของนวาระให้ได้
ผ่านไปสักพัก จันวิภาเปิดตาขึ้น นัยน์ตาของเธอล่องลอย
สุมิตรอยู่ๆก็กังวลขึ้น ราวกับมีอะไรมาสั่งเขา แล้วเขาก็ หยุดนวาระไว้: “พอแล้ว นวาระ”
สุมิตรดึงนวาระเข้ามา
นวาระยังเสแสร้งไร้เดียงสาต่อไป: “อะไรกัน สุมิตร?”
สุมิตรลังเลเล็กน้อย แล้วก็หัวเราะอย่างอ่อนโยนพร้อมกับ พูดขึ้น: “แม้ว่าผู้หญิงคนนี้จะเลวแค่ไหน แต่เธอก็ตบเยอะเกิน ไป เดี๋ยวมือของเธอก็เจ็บหรอก”
พูดจบ สุมิตรก็โอบนวาระเข้าห้องไป
จันวิภากลับถึงห้อง เธอไม่รู้ว่าเธอเข้ามาห้องของตัวเองได้ ยังไง และก็ไม่รู้ว่าตอนนี้เธอเจ็บปวดขนาดไหน
เลกแทบจะไม่มีแรงที่จะคิดอะไรอื่นๆแล้ว มองไปที่เตียง ที่
ล้มตัวลงบนเตียงทันที
ความอ่อนแรงทำให้ร่างกายของเธอสั่นยิ่งแรงขึ้น เยองอ เช่าขึ้น กอดขาแน่น คอดัวจนนอนหลับไป ทำแบบนี้ความเจ็บ ปวดที่ได้รับมาน่าจะลดลงเล็กน้อย
จันวิภาไม่รู้ตัวเธอเองสลบหรือว่าหลับไปด้วยซ้ำ เธอแค่ ฝันถึงความฝันที่ยาวนาน มองเห็นตัวเองอยู่ในความมืดมิด
เย็นยะเยือก ลึก มีดมิดไม่มีที่สิ้นสุด ในความมืดนั้นมีมือ เย็นๆดึงกระชากเสื้อของเธอ ใช้มือตบหน้าของเธอ กระทืบเธอ ทำร้ายเธอ รังแกเธอ ทำให้เธอไร้ศักดิ์ศรี ราวกับสุนัขพเนจรตัว หนึ่งที่ถูกทิ้งและถูกแกล้งเล่น
แต่แล้วเสียงโทรศัพท์เสียงหนึ่งดังขึ้นช่วยเธอไว้ เธอถูก ทำให้สะดุ้งตื่น ยังมีนๆคิดถึงฝันนั้น ทั้งความสิ้นหวังและน่า กลัวยังครอบงำใจเธออยู่
ผ่านไปเนินนานจันวิภาถึงจะกลับมารับโทรศัพท์
“ว่าไง พัชรี…”
เสียงจันวิภาแหบยิ่งกว่าอะไร ผ่านสายโทรศัพท์เข้าที่หู ของพัชรียิ่งทำให้เธอเศร้าเข้าไปอีก
“จันวิภา เธอเป็นอะไร ทำไมเสียงดูอ่อนแรงยังไงไม่รู้” พัช รีกังวลสถานะของจันวิภามาก