พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 10 ระบายโทสะ
บทที่ 10 ระบายโทสะ
“แกอยากจะขี้เกียจถึงได้พูดอย่างนี้ล่ะสิ ? จะมีคนใช้ขาข้างเดียวเตะคนลอยละลิ่วได้อย่างไร ? แกสมองเสื่อมเหรอเปล่า ?”
เฮยเป้าถุยน้ำลายอย่างเคียดแค้น
“แต่ว่า นี่เป็นเรื่องจริง !”
เจ้าอ้วนรีบร้อนจนไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดี
เฮยเป้าจ้องเจ้าอ้วนพริบตาหนึ่ง จากนั้นก็มองเนี่ยเฟิงตั้งแต่หัวจรดเท้า
เนี่ยเฟิงเป็นประเภทใส่เสื้อแล้วดูบางถอดเสื้อแล้วมีกล้าม ดูไม่ออกว่าเป็นคนที่มีพลังรุนแรง
เฮยเป้าเดินเข้ามา “เฮ้ นายตัวแสบ นายมาจากไหน ? ไม่รู้เหรอไงว่าที่นี่เป็นที่ไหน ? ถึงได้กล้ามาก่อเรื่องที่นี่ ?”
เนี่ยเฟิงไม่กลัวเฮยเป้าแม้แต่น้อย
เฮยเป้าทั้งสูงทั้งกำยำ ต่อให้บนตัวสวมชุดรักษาความปลอดภัย แต่ก็ไม่สามารถบดบังกล้ามเนื้อของเขาได้ มองผิวเผินเขาก็เหมือนภูเขาเล็ก ๆ ลูกหนึ่ง
“ฉันรู้ว่าที่นี่เป็นที่ไหน ที่นี่เป็นบ้านของฉัน”
เนี่ยเฟิงมองเฮยเป้าอย่างเยือกเย็น พูดอย่างช้า ๆ
คำพูดนี้ของเนี่ยเฟิงทำให้เฮยเป้าอดหัวเราะเสียงดังไม่ได้
“น่าขำเป็นบ้า ! ไอ้ติงต๊องนี่มาจากไหน ? ที่เป็นทรัพย์สินของฟางซื่อกรุ๊ปต่างหาก ! อาคารฟางเจิ้ง เข้าใจไหม ? รู้แล้วก็รีบไสหัวไปซะ อย่ามาขวางหูขวางตาอยู่ที่นี่ !”
เฮยเป้ายื่นมือออกมา ใช้แรงตบไปที่บ่าของเนี่ยเฟิง พละกำลังของเขาดีมาก จิ้มจนหัวไหล่ของเนี่ยเฟิงสะเทือน
“ฟางซื่อกรุ๊ป ?” เนี่ยเฟิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “เป็นทรัพย์สินของพวกเขาตระกูลฟาง ?”
“ไง ? รู้แล้วใช่ไหม ? รู้แล้วแล้วยังไม่รีบไสหัวไปอีก ? ”เฮยเป้าปริ้นตาขาวใส่
เนี่ยเฟิงคิดขึ้นมาได้อย่างฉับพลัน “โลกมันแคบจริง ๆ”
เฮยเป้าเห็นเนี่ยเฟิงพึมพำกับตัวเอง อดโมโหขึ้นมาไม่ได้ “หมอนี่ฟังภาษาคนไม่ออกเหรอไง ? หรือจะให้ฉันพูดซ้ำอีกครั้ง ? หา !”
เฮยเป้าใกล้จะหมดความอดทนแล้ว ถ้าไม่ห่วงว่าลงมือหนักไปจนฆ่าคนตาย ตอนนี้เนี่ยเฟิงคงคุกเขาร้องขอชีวิตแล้ว !
เนี่ยเฟิงเก็บอารมณ์ความคิดไว้ มองไปที่หัวแม่มือของเฮยเป้า พูดด้วยความไม่พอใจว่า: “นายลองจิ้มฉันอีกทีสิ ?”
“ลองดูก็ลอง !” เฮยเป้าหมอนี่ช่างไม่กลัวร่างบอบบางที่ไม่กลัวลมของเนี่ยเฟิง !
เฮยเป้าจิ้มลงไปอีกที เขามองดูเนี่ยเฟิงอย่างได้ใจ: “จิ้มนายแล้วยังไง? คนอย่างนายจะทำอะไรฉันได้ ?”
เนี่ยเฟิงฉับพลันก็ยื่นมือมา จับหัวแม่มือของเฮยเป้าไว้ ได้ยินแต่เสียง “กรอบ” ดังออกมา เฮยเป้าส่งเสียงร้องครวญครางด้วยความหวาดกลัวออกมา !
เนื่องจากเนี่ยเฟิงหักนิ้วหัวแม่มือของเธอเป้าในพริบตา !
เสียงร้องของเฮยเป้าดังสนั่นไปทั่วอาคารฟางเจิ้ง !
“หัวหน้า !”
บอดี้การ์ดคนอื่นเห็นสภาพ ก็รีบกระโจนกันออกมา
เนี่ยเฟิงไม่ได้คิดที่จะคว้านิ้วหัวแม่มือของเฮยเป้าให้หลุดเลย ในขณะที่คนอื่น ๆ กระโจนเข้ามา เขาก็ใช้ตัวเฮยเป้าเป็นโล่กำลัง !
เฮยเป้ารูปร่างใหญ่โตขนาดนั้น ถูกเนี่ยเฟิงเล่นงานด้วยมือ ไม่มีทางที่จะต่อต้านได้เลย
หมัดของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนอื่น รวมทั้งกระบองไฟฟ้ามาลงที่ตัวเฮยเป้าหมด เฮยเป้าถูกซ้อมร้องโหยอย่างเจ็บปวด !
เนี่ยเฟิงเตะหมาหมู่กลุ่มนี้ลอยละลิ่วด้วยเพียงขาเดียว
แค่วิทยายุทธเพียงพริบตา คนกลุ่มนี้ก็ถูกเตะหงายชี้ฟ้าแล้ว
เนี่ยเหล่าสี่เห็นภาพนี้ อดกลืนน้ำลายลงคอไม่ได้ คุณชายของพวกเขาช่างร้ายกาจเหลือเกิน ! ตระกูลเนี่ยมีความหวังแล้ว !
พวกที่ถูกเนี่ยเฟิงต่อยเรียกได้ว่าฟันร่วงเต็มพื้น
ส่วนเฮยเป้าที่ถูกเนี่ยเฟิงใช้เป็นโล่กำบัง ก็ถูกต่อยจนหน้าบวมจมูกเขียวจนมึนหัวหลงทิศไปแล้ว
หลังจากเนี่ยเฟิงคลายมือ เฮยเป้าหมุนตัวอยู่รอบหนึ่ง แล้วก็ล้มตัวลงบนพื้น
เนี่ยเฟิงมองคนพวกนี้จากมุมสูง พูดอย่างเยือกเย็นว่า:
“กลับไปบอกฟางซื่อเหา เกลี่ยอาคารนี้ให้ราบภายในสามวัน ฉันจะตั้งป้ายวิญญาณของพ่อแม่ใหม่ที่นี่ กราบไหว้วิญญาณพ่อแม่ หากทำไม่ได้ ก็อย่าหาว่าฉันเป็นคนโหดเหี้ยม !”
เนี่ยเฟิงพูดจบ ก็หันหลังพาเนี่ยเหล่าสี่เดินจากไป
เนี่ยเหล่าสี่รีบเดินกระโผกกระเผลกตามไป ใบหน้าที่ชราเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความปีติ
“คุณชาย ! ท่าหลายท่าเมื่อกี๊ของคุณชายสุดยอดไปเลย ! ผมขอนับถือ !”
“ฝีมือเด็ก ๆ เท่านั้นเอง ลุงสี่ ผมจะพาลุงไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดก่อน แล้วค่อยไปหาหมอรักษาขากับคุณลุง”
สำหรับเนี่ยเฟิงแล้ว การต่อสู้เมื่อครู่ยังไม่ถือว่าเป็นการวอร์มอัพด้วยซ้ำ
เนี่ยเหล่าสี่พยักหน้าซ้ำ ๆ ที่จริง ตอนนี้สารรูปเขาดูไม่ได้ ติดตามเนี่ยเฟิงก็ดีแต่ขายหน้าคนอื่น รีบไปเปลี่ยนชุดดีกว่า จะได้คอยปรนนิบัติเนี่ยเฟิง
ส่วนสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดในอาคารฟางเจิ้ง ฟางซื่อเหาได้รับรู้แล้ว
หลังจากเฮยเป้ากระเสือกกระสนลุกขึ้นมา พูดด้วยความโมโหว่า: “เร็ว ! ส่งภาพกล้องวงจรปิดไปให้คุณชาย! ไอ้ตัวแสบบังอาจพูดจาสามหาว !”
คนอื่นก็ไม่กล้าชักช้า รีบส่งภาพจากกล้องวงจรปิดไปให้ฟางซื่อเหา
เวลานี้ฟางซื่อเหากำลังใส่ฟันปลอมอยู่
พอรู้ข่าวนี้เข้า เห็นชัดว่าคนที่มาหาเรื่องเป็นใครก็โกรธจนควันออกหู !
“หมอนี่เป็นใครกันนะ ! ไปสืบมา ! สืบให้รู้ ! ฉันจะเอาให้มันตาย !”
เรื่องว่าที่ “ภรรยา” ของฟางซื่อเหาหนีงานแต่งไปกับหนุ่มยาจกก็ขายหน้าจะแย่แล้ว
นึกไม่ถึงว่าหนุ่มยาจกนี่จะมาหาเรื่องถึงที่ แล้วยังกล้าสั่งให้เขาเกลี่ยอาคารให้ราบ !
“เศษสวะอย่างพวกแก ! ไม่มีใครสู้มันได้เลยเหรอ ? แล้วฉันจะเลี้ยงพวกแกให้เสียข้าวสุกทำไมกัน?”
ฟางซื่อเหาด่าจนปากฉีก แต่เพราะฟันปลอมยังใส่ไม่เสร็จ ฉะนั้นเวลาพูดจึงมีลมเสียดสีออกมา
“คุณชาย ไม่ใช่ว่าพวกเราสู้ไม่ได้ หมอนี่มันเล่นไม่ซื่อ มัน… มันรู้การต่อสู้แค่ตื้น ๆ !”
เฮยเป้าพูดจาตะกุกตะกัก
ความจริงแล้วเนี่ยเฟิงฝีมือร้ายกาจต่างหาก แค่ไม่กี่ทีก็ทำพวกเขาล้มไม่เป็นท่าแล้ว
“ให้ตาย เห็นพยัคฆ์ไม่คำราม คิดว่าฉันเป็นแมวป่วยล่ะสิ ? เฮยเป้า เรียกพรรคพวกมาให้หมอ ! เกิดอะไรขึ้นฉันแบกรับเอง ! อย่าให้มันหนีไปได้ !”
“ครับ ! คุณชายไม่ต้องห่วง ! ผมจะจัดการให้เรียบร้อย !”
ฟางซื่อเหาเลียริมฝีปากที่แห้งของตัวเอง สายตาดูเหี้ยมโหด เขาไม่ปล่อยหมอนี่ไว้แน่ !
ส่วนทางเนี่ยเฟิง เขาพาเนี่ยเหล่าสี่มายังโรงแรมใกล้ ๆ เปิดห้องในโรงแรมก่อน จากนั้นก็สั่งของกิน
พอเนี่ยเหล่าสี่อาบน้ำเสร็จก็สวาปามอาหารอย่างเสือโหย กินไปกินมา จนเนี่ยเหล่าสี่ร้องไห้ออกมา
เนี่ยเฟิงเห็นท่าทางเนี่ยเหล่าสี่เช่นนี้ ก็ได้แต่รู้สึกปวดใจ เนี่ยเหล่าสี่เป็นคนจงรักภักดีอย่างยิ่ง ไม่เช่นนั้นคงไม่เฝ้าบ้านเกิดมาตลอด ถูกคนตีจนขาหักก็ไม่จากไปไหน
หลังจากเนี่ยเหล่าสี่เก็บข้าวของเสร็จ เนี่ยเฟิงก็พาเขาไปตรวจที่โรงพยาบาล
ขาของเนี่ยเหล่าสี่ยังรักษาระยะหลังได้ แต่ค่าใช้จ่ายก็ไม่น้อย
ทว่าเงินเล็กน้อยแค่นี้สำหรับเนี่ยเฟิงแล้วเป็นแค่จำนวนน้อยนิดในจำนวนมหาศาล
“ไม่ว่าอย่างไร พวกคุณต้องรักษาขาเขาให้หาย ไม่ว่าจะต้องใช้เงินเท่าไหร่ก็ตาม”
เนี่ยเฟิงพูดไป แล้วก็รูดค่ารักษาพยาบาล ทางโรงพยาบาลได้เงินแล้ว แน่นอนต้องใช้วิธีที่ดีที่สุด
ไป ๆ มา ๆ ฟ้าก็มืดลง
เนี่ยเฟิงหยิบมือถือออกมาดู ปรากฏว่าแบตเตอรี่หมดแล้ว ไม่รู้ว่าเหล่าพี่สาวติดต่อเขาไม่ได้จะร้อนใจแค่ไหน
“ลุงสี่ ลุงรักษาตัวอยู่ที่นี่ พรุ่งนี้ผมจะมาหาลุงใหม่
เนี่ยเฟิงปลอบเนี่ยเหล่าสี่เสร็จ เนี่ยเหล่าสี่รีบพยักหน้าซ้ำ ๆ: “คุณชายไม่ต้องห่วงไปเถอะ”
พอเนี่ยเฟิงออกมา กำลังจะเรียกรถ ก็รู้สึกว่ามีคนตามเขามาข้างหลัง