พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 101 เปลี่ยนชุด
บทที่ 101 เปลี่ยนชุด
เนี่ยเฟิงหัวเราะเย็นชาออกมาเสียงหนึ่ง หลังจากเย่หรูเสว่ดูแล้ว ก็พยักหน้าเบาๆ”ประมาณนี้แหละ แต่ยังขาดอีกหน่อย”
เนี่ยเฟิงมองไปดูกระจกตาหนึ่ง จากนั้นค่อยๆหงายมุมฉากขึ้น
“ใช่ๆๆ ก็คือสีหน้าแบบนี้ ต้องแสดงออกอย่างไม่ตั้งใจ ไม่สนใจต่อสิ่งใดๆแบบนี้แหละ ดีมาก”
เย่หรูเสว่โบกมือใส่เนี่ยเฟิง”คุณนั่งที่นี่ ฉันจะจัดการผมให้คุณหน่อยนึง”
เนี่ยเฟิงนั่งลงมาอย่างเชื่อฟัง เขาเงยหน้าขึ้นมามองเย่หรูเสว่
เย่หรูเสว่มองไปดูเนี่ยเฟิงที่ราวกับเป็นเด็กผู้ชายวัยรุ่น รู้สึกแต่หัวใจเต้นค่อนข้างเร็ว มองคนอย่างนี้มันผิดเกณฑ์หรือเกิน
“อย่าใช้สายตานี้มองฉัน เดี๋ยวก็อย่าใช้สายตานี้มองคนอื่นเช่นกัน”
เนี่ยเฟิงพยักหน้า
เย่หรูเสว่หยิบสเปรย์ฉีดผมมา และเทใส่มือตัวเอง จากนั้นทำผมทรงหวีเสยให้เนี่ยเฟิง
หลังจากทำเสร็จ เย่หรูเสว่ก็ใส่แว่นกันแดดคู่หนึ่งให้เนี่ยเฟิง จากนั้นเอาบุหรี่มวลหนึ่งให้เนี่ยเฟิง
เมื่อกี้เนี่ยเฟิงยังเป็นเหมือนเด็กมหาลัย แต่ตอนนี้เห็นแล้วเหมือนเป็นนักเลง
“ดีมาก ก็คือแบบนี้แหละ”
เย่หรูเสว่พยักหน้าอย่างพอใจ”คุณรอฉันอยู่ข้างนอกสักครู่หนึ่ง ฉันออกมาเดี๋ยวนี้”
เย่หรูเสว่พูดเสร็จก็เข้าไปเปลี่ยนอีกชุดหนึ่ง
ที่เธอใส่เป็นชุดเดรสสีดำ สายรัด เผยหลัง ดูแล้วเว่อร์มาก
แต่ว่าเดิมทีเย่หรูเสว่ก็มีหุ่นที่ดี เมื่อใส่ชุดนี้แล้วไม่มีความเป็นผู้หญิงเซ็กซี่แม่แต่นิด ในทางตรงข้ามยังทำให้คนไม่สามารถย้ายสายตาออกไปได้
เธอได้ใส่ผมสีเหลืองที่เว่อร์ให้ตัวเอง จากนั้นแต่งหน้าให้ตัวเอง ริมฝีปากทาอย่างแดงมาก
“พี่หก ทุกครั้งที่พวกคุณไปสืบค้นข้อมูลล้วนต้องแต่งหน้าให้ตนเองหรือ?”เนี่ยเฟิงถาม
“แน่นอนสิ ไปสถานที่ที่ต่างกันก็ต้องแต่งหน้าที่แตกต่างกัน ใส่เสื้อผ้าที่ไม่เหมือนกัน ถ้าหากเราไปสืบค้นข้อมูลที่โรงเรียน คุณรู้สึกว่าเราใส่ชุดนี้จะเหมาะหรือ?”
เย่หรูเสว่หยิบกระเป๋าประณีตมาใบหนึ่ง จากนั้นใส่รองเท้าส้นสูงที่เว่อร์
หลังจากที่เธอฉีดน้ำหอมแล้ว ก็เก็บกุญแจมือและปืนพกไว้ให้ดี จากนั้นก็ปัดผมไปข้างหน้า
มองขึ้นไปแล้วเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งอย่างสิ้นเชิง ไม่เหมือนคุณตำรวจหญิงอีก เหมือนเป็นคนที่เล่นในคลับไนท์บ่อยๆ
“ไปเถอะ”
เย่หรูเสว่ลงตึกแล้วใส่หมวกน็อค กำลังจะขึ้นไปขับรถ เนี่ยเฟิงเห็นแล้วรีบขึ้นไปห้าม”พี่หก คุณใส่กระโปรงที่สั้นขนาดนั้นยังจะขับรถอีกหรือ?”
“ไม่นั้นเราไปยังไงล่ะ?”เย่หรูเสว่ขมวดคิ้ว
“ไม่งั้นฉันขับรถเถอะ!ขับรถของคุณไป แล้วหากเกิดอะไร ฝ่ายตรงข้ามจำเลขทะเบียนรถของคุณได้ งั้นเราก็เปิดเผยตัวตนแล้วไม่ใช่หรือ?”
เย่หรูเสว่พยักหน้า”คุณพูดแบบนี้มันก็มีเหตุผลเนอะ แต่ตอนนี้ต้องไปหารถที่ไหนล่ะ?”
“ฉันมีเพื่อนในร้านขายรถ ให้เขาส่งคันหนึ่งมา!”
ระหว่างที่พูดเนี่ยเฟิงก็ส่งข้อความไป ไม่นาน ก็มีคนของสำนักมังกรส่งรถสปอร์ตมาเซราติมาคันหนึ่ง
“สุดยอด รถคันนี้แพงมากเลยนะ”
เย่หรูเสว่นิ่งอึ้ง เธอก็เป็นคนที่ชอบรถ ไม่เหมือนกับผู้หญิงคนอื่น เธอรักรถสปอร์ตโดยเฉพาะ
“ไม่เป็นไร เพื่อนฉันบอกแล้ว คันนี้เป็นรถมือสอง ทะเบียนรถก็ตรวจไม่พบอะไร พอถึงเวลาเราทำภารกิจเสร็จค่อยคืนรถไป ขึ้นรถเถอะ พี่หก!”
เนี่ยเฟิงพูดเสร็จก็นั่งขึ้นไป เขาเป็นตั้งราชามังกรของสำนักมังกร เป็นไปได้ยังไงที่เขาจะขับรถมือสอง รถคันนี้เป็นรถใหม่ล้วนๆ
เย่หรูเสว่นั่งไปที่เบาะข้างคนขับ รัดเข็มขัดนิรภัยให้ดี สายตาเต็มไปด้วยความสุข”ก่อนหน้านี้ฉันได้ทำความเข้าใจกับรถนี้บนเน็ต ฉันรู้สึกว่ารถนี้ดีมาก แต่ว่าถ้าจะซื้อรถคันนี้ แม้ว่าฉันขายทรัพย์สินทั้งหมดก็ไม่มีปัญญาซื้อ”
“พี่หกชอบ?ถ้าพี่หกชอบทีหลังฉันซื้อคันหนึ่งให้!”
เย่หรูเสว่หัวเราะออกมา”คุณนี่เลี้ยงตัวเองให้ได้ก่อนค่อยมาว่ากัน คุณรู้ว่ารถคันนี้เท่าไหร่ไหม?ก็มาบอกว่าจะซื้อให้ฉัน?”
“คนเราต้องมีเป้าหมาย หากมันเป็นจริงล่ะ?”
เนี่ยเฟิงเหยียบคันเร่ง แล้วขับออกไป
“ได้ พอถึงเวลานั้นคุณมีความสามารถแล้วซื้อคันหนึ่งให้ฉัน เอ๊ะ เดี๋ยวพอถึงที่นู้น คุณเรียกฉันพี่หกไม่ได้อีกแล้วนะ”
เนี่ยเฟิงกระพริบตา”งั้นฉันควรเรียกคุณว่าอะไร?”
เย่หรูเสว่จับคางไว้ คิดสักครู่หนึ่ง”ฉันคิดก่อนว่าเรียกอะไรมันใกล้ชิด คุณเรียกฉันว่าเสี่ยวเสว่?”
“ไม่ได้ อย่างนี้ฟังแล้วไม่ค่อยสนิทสนม ไม่งั้นฉันเรียกคุณว่าภรรยา?”
สีหน้าของเย่หรูเสว่แดงก่ำ”ทำไมฉันรู้สึกว่าคุณเอาเปรียบฉันอยู่?”
“นี่มันเอาเปรียบที่ไหนล่ะ คุณก็สามารถเรียกฉันส่าสามีไง!นี่มันสนิทสนมมากไม่ใช่หรือ?”
ฟัวแล้วมันก็ใช่นะ”ช่างเถอะ ยังไงก็มาดำเนินเรื่อง งั้นก็อย่างนี้เถอะ!”
“ฉันกลัวว่าเดี๋ยวจะเรียกไม่ออก ไม่งั้นลองฝึกก่อน?”
เนี่ยเฟิงยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์”ภรรยา?”
เย่หรูเสว่:……
“ภรรยา?เอ๊ะ ทำไมคุณไม่ตอบฉันล่ะ?”
เย่หรูเสว่ไอออกมาเบาๆ เพื่อซ่อมสีหน้าที่ไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ”สา……ทำไมฉันเรียกไม่ออกล่ะ?”
“ภรรยาคุณนี่ไม่ได้นะ ถ้าเดี๋ยวเรียกไม่ออกทำให้คนอื่นเกิดความสงสัย ต้องทำยังไงดีล่ะ?”
เย่หรูเสว่กัดฟัน คิดอยู่ในใจว่ามันเป็นเช่นนี้จริงๆ ดังนั้นเธอพูดเสียงเบาอย่างกับแมลง”สา สามี……”
“อะไรนะ?เมื่อกี้คุณพูดอะไร?ฉันไม่ได้ยิน!รถขับเร็วไป ทุกที่ล้วนเป็นเสียงลม”
“สามี”
เย่หรูเสว่เรียกสองคำนี้ออกมารู้สึกแต่มันอึดอัดมาก มีอะไรไม่ปกติ
“คุณเสียงดังอีกหน่อย ฉันยังคงไม่ได้ยิน!”
“ไอ้แกนี่ อย่ามาได้คืบจะเอาศอก อย่านึกว่าฉันไม่รู้ว่าคุณได้ยินแล้ว!”
เนี่ยเฟิงทำเป็นโง่”ฉันไม่รู้ว่าคุณพูดอะไรอยู่ ฉันไม่ได้ยินจริงๆ คุณภรรยาเรียกอีกครั้งหนึ่งสิ!”
“หุบปาก!ขับรถให้ดี!”
เย่หรูเสว่บีบเนี่ยเฟิงแรงๆครั้งหนึ่ง เนี่ยเฟิงเจ็บจนอ้าปากกว้าง
ไม่นาน รถของพวกเขาก็มาถึงคลับไนท์ที่มีชื่อเสียงระดับต้นๆของเมืองจินไห่
หน้าประตูมีคนยืนอยู่มากนัก หลังจากเนี่ยเฟิงจอดรถแล้ว เย่หรูเสว่กอดมือเนี่ยเฟิงเดินไปอย่างมีเสน่ห์
ในเวลานี้ บอดี้การ์ดห้ามพวกเขาไว้”เชิญพวกคุณผ่านการตรวจสอบความปลอดภัย”
“ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัย?เฮ่อๆ แกยังไม่รู้ว่าฉันเป็นใครใช่ไหม รีบไปสืบค้นสิ ฉันนี่มาที่ผับราตรีกุหลาบไม่เคยต้องผ่านการตรวจสอบความปลอดภัย!”
เย่หรูเสว่พูดอย่างแข็งแกร่ง
เนี่ยเฟิงตกใจมาก คาดไม่ถึงว่าเย่หรูเสว่ที่เป็นคนดีในปกติ ยังมีด้านแบบนี้อีก
“นี่……”
บอดี้การ์ดสองคนมองหน้าเข้าหากัน เมื่อกี้พวกเขาสองคนได้ขับรถสปอร์ตมา รถคันนั้นมูลค่า20กว่าล้าน
แต่มองดูพวกเขาแล้วไม่คุ้นเคยจริงๆ
“ตามหลักแล้วก็ต้องผ่านการตรวจสอบการปลอดภัยอยู่ดี”
“ยังไง?หรือว่าพวกแกจะใช้มือที่สกปรกของพวกแกมาจับต้องที่รักของฉันหรือ?”
เนี่ยเฟิงมองดูบอดี้การ์ดสองคนด้วยความเย็นชา”เราคุณชายเฟิงมาที่นี่ ก็คือไว้หน้าพวกแกแล้ว!ยังกล้ามาห้ามเราอยู่ข้างนอก ไม่ให้พวกเราเข้าไป กล้าหาญจริงๆ ให้เจ้านายพวกแกออกมา!ไม่งั้นวันนี้ฉันจะทำให้ผับราตรีกุหลาบเปิดลงไปไม่ได้!”