พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 108 ตั้งใจปล่อยเบาะแส
บทที่ 108 ตั้งใจปล่อยเบาะแส
“เป็นความจริงแน่นอน ถ้าฉันกล้าหลอกคุณ งั้นฉันจะถูกฟ้าผ่า!”ฟางหลงเทียนสาบาน
“เรื่องนี้ฉันจะตรวจสอบชัดเจน อีกสองวันฉันจะให้คำตอบคุณ”
“ตอนนี้บริษัทสาขาของฉันลักลอบนำเข้าเนื้อแช่แข็งสิบตัน ถูกทางตำรวจสกัดจับได้ ถ้าอีกสองวันคุณค่อยตอบฉันมา เวลานั้นตระกูลฟางของเราคงตายห่าแล้ว!”
ฟางหลงเทียมมีความรีบร้อน”หรือคุณคิดจะให้ไอ้คนนั้นอยู่บนโลกมาแก้แค้นกับคุณอีกหรือ!”
“หุบปาก!”
ฝ่ายตรงข้ามก็มีความโกรธบางอย่าง ราวกับว่าใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
“ฉันจะสั่งให้คุณไปจัดการเรื่องนี้”
ฟางหลงเทียนได้ยินคนอีกฝั่งหนึ่งสัญญาแบบนี้ เขาก็โล่งใจลง”โอเค!”
เขาเลียริมฝีปากที่แหบแห้ง คิดอยู่ในใจว่าตกลงคนที่มากระทำให้สามตระกูลตัวพ่อล่มสบายลงคือใคร……
ตระกูลเว่ยถามก็ถามไม่ได้อะไร ครอบครัวพวกเขาล่มสลายลง ไม่มีใครที่รู้เหตุหรอก
ส่วนตระกูลจูก็มีแค่จูเย่าเหวินคนเดียว แต่จูเย่าเหวินก็บ้าไปแล้ว ไม่มีทางมาระบุข้อความที่เป็นสาระสำคัญใดๆ
หลัวปินของตระกูลหลัวกับตระกูลฟางของพวกเขาไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ น่าจะไม่สามารถถามอะไรได้จากปากของพวกเขา
แต่ในนี้ก็มีจุดที่เหมือนกัน ที่พวกเขาสี่ตระกูลตัวพ่อแบ่งปันนั้นล้วนเป็นทรัพย์สินของตระกูลเนี่ย
หลังจากวันนั้นที่งานการประมูลสิ้นสุดลง ฟางหลงเทียนเห็นว่าลูกชายตัวเองกลับบ้านด้วยความโกรธ และกล่าวถึงเรื่องของเนี่ยเฟิง
ตามความเป็นจริงแล้ว ฟางหลงเทียนก็แค่นึกว่าเนี่ยเฟิงเป็นเพียงบังเอิญไม่ได้ตายเท่านั้น และตระกูลเนี่ยตอนนี้ก็กระจายแบ่งแยกเป็นหลายๆส่วนแล้ว เขาน่าจะก็ไม่สามารถทำอะไรได้หรอก
แม้ว่าเนี่ยเฟิงมีพี่สาวที่เก่งหลายคนสนับสนุนอยู่ แต่พี่สองของเขาเนื่องจากใช้อำนาจในทางที่ผิด ถูกเขาฟ้องไปที่กองทหาร ฝั่งของกองทหารได้จัดการกับพี่สองของเขา ตอนนี้ก็ไม่สามารถออกมาทำอะไรได้แล้ว
ดังนั้นฟางหลงเทียนไม่กลัวเนี่ยเฟิงเลย
เป็นเพียงแค่เด็กที่ยังโตไม่ถึง กล้าปลอมตัวเป็นเก่งกล้าต่อเขาได้ยังไงล่ะ?
แต่การขยายตัวของเรื่องไม่เป็นไปได้ที่คิดของฟางหลงเทียนเลย
ตระกูลจูเนื่องจากการทดลองร่างมนุษย์ที่ผิดกฎหมายถูกสอบสวน ผู้นำของตระกูลจูเย่าเหวินก็ถูกจับเข้าไป
แต่ตอนนี้โรงพยาบาลเฟิร์สแห่งเมืองจินไห่ก็ตกอยู่ในมือของหมิงอี๋หาน
ความสัมพันธ์ระหว่างหมิงอี๋หานกับเนี่ยเฟิงก็สนิทสนมอยู่ ทุกอย่างนี้ไม่มีความสอดคล้องกันหรือ?
และอีกอย่างหนึ่งตระกูลหลัวไม่มีแล้ว บริษัทการสื่อสารจินไห่ตกอยู่ในมือของเสิ่นโจวราชินีแห่งภาพยนตร์……เสิ่นโจวเป็นนักแสดงที่ตระกูลเนียฝึกอบรมขึ้นมา
ฟางหลงเทียนค่อยๆถอนหายใจออกมา ไม่ว่าเป็นยังไง ตอนนี้ก็ต้องคิดวิธีหนึ่ง ยังไงก็ต้องตรวจสอบว่าเรื่องพวกนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเนี่ยเฟิงหรือเปล่า
ถ้ามีความเกี่ยวข้องกับเจ้าตัวนั้นจริงๆ เขาก็ต้องลงมือก่อน!
ยังไงพวกเขาทั้งครอบครัวควรที่จะตายอยู่บนทะเลตั้งนานแล้ว ตอนนี้เขากลับมาคนเดียวถือเป็นอะไรล่ะ?
ฟางหลงเทียนไม่ค่อยเชื่อใจฝ่ายตรงข้าม ดังนั้นเลยรีบโทรอีกสายหนึ่ง”เอาเงินให้นักสืบเอกชนไปสืบค้นเนี่ยเฟิง ยิ่งละเอียดยิ่งดี!”
เช้าวันรุ่งขึ้น เนี่ยเฟิงตื่นแต่เช้า เปิดดูอีเมล์ให้โทรศัพท์อย่างเป็นนิสัย
ในนั้นมีสิ่งหนึ่งทำให้เนี่ยเฟิงเกิดความสนใจ”ดูเหมือนว่าคนที่อายุมากมีความเชื่อมั่นในตัวเองจริงๆ ตอนนี้ถึงคิดจะมาสืบค้นข้อมูลของฉัน…….สั่งลงไป ปล่อยเบาะแสออกไปหน่อย ให้พวกเขารีบๆสืบค้นถึงหัวฉัน และคดีลักลอบนำเข้ากับรายรับรายจ่ายของธนาคารหลักฐานพวกนี้เก็บถึงไหนแล้ว?”
“แม้ว่าฝ่ายตรงข้ามถึงว่าจัดการได้เรียบร้อยอยู่ แต่พวกเขาก็ยังคงมีข้อบกพร่องบางอย่าง ทางเราเก็บเรียบร้อยแล้ว”
“ส่งมาที่อีเมล์ของฉันโดยตรง”
อาหารทะเลแอนตาร์กติกาเป็นสิ่งของของพวกเขา เขาจะให้คนอื่นฟรีๆได้ยังไงล่ะ?
“หลี่จื่อเทาก็โง่จัง อาหารทะเลแอนตาร์กติกาและธุรกิจสายน้ำทางไกลแอนตาร์กติกฟังแล้วก็เป็นธุรกิจเดียวกัน ยังไม่ได้นึกถึงตระกูลเนี่ยอีก”
เนี่ยเฟิงยิ้มอย่างเย็นชา”ฟางหลงเทียน ฟางซื่อเหา ครั้งนี้ฉันจะลองดูว่าพวกคุณพ่อลูกสองคนยังทำอะไรได้อีก”
ฟางหลงเทียนราวกับว่าเป็นมดในกระทะร้อน ธนาคารไป่ฮัวได้ทำบัญชีปลอมให้เขาชุดหนึ่ง ตอนนี้ฟางหลงเทียนสบายขึ้นมาก บริษัทสาขาเขาสามารถทำให้คนอื่นจับผิดไม่ได้ แต่บริษัทสาขาที่อื่นยังคงรับการตรวจสอบอีก
“แม่ง ไอ้เหี้ยบ้านหลี่ ทำจนฉันเรื่องมากเช่นนี้!”
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ฟางหลงเทียนก็โกรธมาก
“พ่อ คุณได้ยินหรือยัง?เมื่อคืนบ้านหลี่ถูกตรวจแล้ว!”
เวลานี้ฟางซื่อเหาวิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อน
“อย่ามาตะโกนเช่นนี้สิ ฉันรู้แน่นอนสิ ดังนั้นฉันวางแผนเสร็จตั้งนานแล้ว”
ฟางหลงเทียนเบิกตาขาวขึ้นมา ถ้าจะพึ่งพาลูกชายที่แสนโง่ของตัวเอง พึ่งหมูย่างชิ้นหนึ่งไม่ดีกว่าหรือ
ฟางซื่อเหาก็คาดไม่ถึงว่า เมื่อวานถึงได้เห็นหลี่จื่อเทา แต่วันนี้ก็ได้ยินเรื่องที่ธุรกิจของหลี่จื่อเทาถูกตรวจ
“คนเชื่อมตอนนี้ก็ถูกจับ งั้นเราก็เท่ากับว่าขาดการติดต่อกับฝั่งนู้นไม่ใช่หรือ?”
ฟางซื่อเหาชกไปทางผนังอย่างโกรธ
“นั่นเป็นแค่คนเล็กจิ๋ว ไม่ใช่เจ้าของใหญ่ในเบื้องหลัง รอให้ช่วงนี้ผ่านไปก่อน เราค่อยติดต่อเขา……”
“แต่ถึงเวลานั้นพวกเขายังยอมร่วมมือกับพวกเราไหม?ต้องรู้นะว่าพวกเขาโดนจับเพราะธุรกิจของเรา ขาดทุนไปสินค้าที่มูลค่าสูงขนาดนั้น พวกเขาต้องเสียไปเยอะเลย”
ฟางซื่อเหาเป็นห่วงมาก
“นี่ก็ไม่มีวิธีอื่น ฉันเตือนบ้านของหลี่จื่อเทาตั้งนานแล้ว ให้พวกเขาอย่าทำอะไรในช่วงนี้อีก ก่อเรื่องมาใหญ่ขนาดนั้น ตอนนี้ยังมีเกี่ยวโยงกับพวกเราอีก ยังต้องให้พวกเรามาจัดการภายหลัง”
ฟางหลงเทียนสูบบุหรี่เข้าไป”แต่ปัญหาไม่มาก เราได้ทำการวางแผนฉุกเฉิน พวกเขาตรวจก็ตรวจไม่ถึงเราหรอก แม้ว่าหลี่จื่อเทาพูดอะไรออกมา ขอให้แค่เราบอกว่าไม่ได้ทำ พวกเขาก็ไม่มีหลักฐานที่แน่วแน่ ทำอะไรเราไม่ได้อยู่ดี!”
ฟางซื่อเหาฟังแล้วจึงโล่งใจได้
“แล้วคุณก็อย่าวิ่งไปข้างนอกอยู่เรื่อย และก็อย่าไปยั่วยุคนที่นามสกุลเนี่ย ตอนนี้ฉันยังไม่แน่ใจว่าคนนั้นมีเบื้องหลังหรือเปล่า!”
ฟางซื่อเหาส่ายมือ”ไอ้เจ้านั่นจะมีเบื้องหลังได้ยังไงล่ะ?คุณไว้ใจเถอะ เขาแค่พึ่งคนที่รู้จักของพ่อเขาในเมื่อก่อนเท่านั้นเอง!”
“แม่ง ถ้ารู้ก่อนตอนนั้นก็ควรที่จะกินกลืนธุรกิจเหล่านี้ลงไปหมด คาดไม่ถึงว่ายังมีคนที่หนีรอดไปได้ จินไห่เวยมีความเกี่ยวข้องกับตระกูลเนี่ยตั้งแต่เมื่อไหร่ ฉันยังไม่รู้เลย”
ฟางหลงเทียนเลียริมฝีปากที่แห้ง และพูดอย่างไม่สบายใจ
“อาจจะแค่คืนบุญคุณให้พ่อเขาเท่านั้น พ่อ คูณเชื่อฉันเถอะ ไอ้เจ้านี่แค่พึ่งคนรู้จักของพ่อเขาเท่านั้น จะเก่งไปถึงไหนล่ะ!”
“ไม่ว่ายังไง สำหรับเราไอ้เจ้านี่ก็คือลูกระเบิดที่มีเวลากำหนด เราต้องรีบคิดวิธีฆ่ามันให้ได้!”
ฟางซื่อเหาเกิดความสนใจทันที”แล้วเราต้องทำยังไง?”
สายตาของฟางหลงเทียนปรากฏความอันตรายออกมา”อันนี้คุณอย่ายุ่งเลย”
พอดีในเวลานี้ นักสืบส่วนบุคคลโทรมาให้ฟางหลงเทียน”เราได้ตรวจพบข้อมูลบางอย่าง……”
“โอเค!รีบๆบอกมา!”
ส่วนอีกฝั่งหนึ่ง เนี่ยเฟิงกำลังดื่มนม กินอาหารเช้า มีความสุขมาก
ไม่ว่าฝั่งของตระกูลฟางทำเรื่องอะไร ฝั่งของเขาก็เหมือนเป็นกล้องวงจรที่สามารถดูได้ตลอด ไม่มีสิ่งที่ไม่รู้ ล้วนมาถึงมือของเขาทั้งหมด