พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 112 ที่นี่เป็นร้านของฉัน
บทที่ 112 ที่นี่เป็นร้านของฉัน
“นายมาอยู่นี่ได้อย่างไร!”
เห็นใบหน้าที่ตกใจของฟางซื่อเหา เนี่ยเฟิงได้แต่รู้สึกสนุก
“เวลาพวกนายจะก่อการลับอะไร ไม่รู้จักไปปรึกษากันที่บริษัทหรือที่ร้านของตัวเองกันเหรอไง? จะต้องมาคุยกันในถิ่นของฉันให้ได้”
ฟางซื่อเหากระเดือกน้ำลายลงคอ
“นายพูดจาเหลวไหลอะไรที่นี่จะเป็นร้านของนายได้อย่างไร!”
“โทษทีเถอะ ที่นี่เป็นร้านของฉันจริงๆ เจ้าของร้านอาหารเหอผิงก็คือฉัน”
เนี่ยเฟิงยักหัวไหล่ ร้านอาหารเหอผิงเป็นของสำนักมังกร ดังนั้นการเคลื่อนไหวของพวกเขาจึงถูกจับตามอง
กิจการของสำนักมังกรมีอยู่ทั่วโลก กิจการขนาดใหญ่ในเมืองจินไห่มีหลายกิจการที่เป็นของสำนักมังกร ไม่มีอะไรให้น่าแปลกใจ
“ที่พวกเราคุยกันเมื่อกี๊ นายได้ยินหมดแล้วล่ะสิ?”
ตอนนี้ไม่ใช่เวลาถกกันว่าร้านอาหารนี้เป็นของใคร
“ใช่แล้ว ไม่ใช่แค่ได้ยิน ฉันยังบันทึกวิดีโอที่พวกนายคุยกันทั้งหมดเอาไว้ด้วย นายจะดูไหม คมชัดมาก”
เนี่ยเฟิงพูดพลางยกมือถือขึ้น และภาพวิดีโอในมือถือ เป็นเนื้อหาที่พวกเขาเพิ่งคุยกันพอดี ไม่ตกหล่นแม้แต่คำเดียว
“ไอ้หมอนี่ ปล่อยไว้ไม่ได้แล้ว”
ฟางซื่อเหายังไม่ทันลงมือ พวกลูกค้าเก่าข้างตัวเขาก็รีบคว้าเก้าอี้ขึ้น คิดจะฟาดไปที่เนี่ยเฟิง เพราะรู้ว่าพวกเขาค้าสัตว์ป่าหากถูกจับต้องถูกตัดสินจำคุกแน่! พวกเขาจะให้เนี่ยเฟิงเอาวิดีโอนี้มาจับคุมพวกเขาได้อย่างไร?
เพียงแต่คนพวกนี้ประเมินความสามารถของเนี่ยเฟิงต่ำไป ใช้แค่เก้าอี้ก็คิดว่าจะข่มขู่เนี่ยเฟิงได้
เนี่ยเฟิงถอนใจส่ายหน้า
“ฟางซื่อเหา หรือนายลืมแล้วว่าคราวก่อนคนของนายพ่ายแพ้ไปอย่างไร? แค่กลุ่มกระจอกอย่างพวกนาย ก็คิดจะสั่นคลอนฉัน เป็นเรื่องน่าขำชมัด”
เนี่ยเฟิงพูดจบก็ออกหมัดไปคนละที ต่อยพวกลูกค้าเก่าจนหาฟันแทบไม่ทัน พวกลูกค้าเก่าหมอบลงกับพื้น เจ็บจนฟักหักปากแตก
“เนี่ยเฟิง! นายอย่าเข้ามานะ!”
จิตสังหารของฟางซื่อเหาปะทุขึ้นมา เห็นเขาชักปืนออกมาจากเอว เล็งไปที่เนี่ยเฟิง ชักสีหน้าดุดัน!
“นึกไม่ถึงว่าคนอย่างนายจะมีปืน แถมเป็นปืนพกซะด้วย นายไม่กลัวว่าปืนมันจะลั่นถูกใส่ตัวเองบาดเจ็บเหรอ?”
เนี่ยอดผิวปากขึ้นมาไม่ได้
“มุกขำนานาชาติอะไรของนาย ฉันสอบใบอนุญาตมาแล้ว จะอะไรให้ ฉันน่ะเป็นเซียนปืนเลยนะโว้ย เล็งร้อยแม่นร้อย! ทางที่ดีนายอย่าขยับดีกว่า!”
“งั้นนายต้องเล็งให้แม่นแล้วล่ะ เพราะถ้านายฆ่าฉันไม่ตาย นายต้องเจอเรื่องยุ่งยากมโหฬารแน่”
“นี่นายจะมาไม้นั้นอีกล่ะสิ ไลฟ์สดอยู่ใช่ไหม?!”
ฟางซื่อเหามองไปรอบๆ อย่างระวังว่ามีกล้องวิดีโอหรือไม่ เนี่ยเฟิงกลับหัวเราะส่ายหน้า
“เที่ยวนี้ฉันลงมือซัดพวกนายเอง ฉันก็ต้องไลฟ์สดไม่ได้อยู่แล้ว”
“นายมั่นใจขนาดนั้นเชียวเหรอ? งั้นฉันจะให้นายลิ้มรสว่าอะไรคือความเจ็บปวด!”
ฟางซื่อเหายกปืนขึ้น ยิงรัวไปหลายนัด!
เขาสอบได้ใบอนุญาตปืนจริงๆ อีกทั้งเล็งร้อยแม่นร้อย แต่เที่ยวนี้ไม่มีสักนัดที่ยิงถูกเนี่ยเฟิงเลย!
ฟางซื่อเหาไม่เพียงตกใจยกใหญ่ มันเป็นไปได้อย่างไรกัน?!
“คนที่สอบได้ใบอนุญาตปืนมีแต่นายคนเดียวเหรอไง? ตอนฉันเล่นปืนนายยังนุ่งกางเกงแหกเป้าอยู่เลย!”
เนี่ยเฟิงเหมือนปีศาจ ไม่รู้ว่ามาปรากฏข้างตัวฟางซื่อเหาตั้งแต่เมื่อไหร่ ฟางซื่อเหายังไม่ทันตั้งตัว ก็ถูกเนี่ยเฟิงเตะเข้าให้ ฟางซื่อเหาหน้าเสียล้มคะมำไปที่โต๊ะ จนถ้วยชามบนโต๊ะหล่นระเนระนาด
กับข้าวกับปลาทั้งหลายราดลงบนฟางซื่อเหา ทำเขาหน้าเสียเหลือสองนิ้ว!
ฟางซื่อเหากระเสือกกระสนที่จะลุกขึ้น แต่ยังไม่ทันที่เขาจะลุกขึ้นได้ ก็ถูกเนี่ยเฟิงใช้เท้าเหยียบไว้ที่หน้าอก
ขาของเนี่ยเฟิงหนักอยู่หลายกิโล ทำให้ฟางซื่อเหาไม่สามารถขยับตัวได้! ฟางซื่อเหาใช้มือกระวีกระวาดจับข้อเท้าเนี่ยเฟิง เพื่อยกตัวเนี่ยเฟิงออก แต่เนี่ยเฟิงแค่ออกแรงนิดหน่อย ฟางซื่อเหาก็เจ็บจนกัดฟันฉีกปาก
เนี่ยเฟิงหยิบปืนที่อยู่บนพื้นขึ้นมา เปิดลูกโม่ออก มองดูข้างใน ในนี้ยังกระสุนอยู่3นัด เนี่ยเฟิงเล็งปืนไปที่ฟางซื่อเหาหัวเราะแล้วพูดว่า:
“นายว่าถ้าฉันยิงไปที่สมองนาย สมองนายจะระเบิดเป็นจุณไหม?”
ฟางซื่อเหาตกใจมาก ตัวสั่นงันงก ถูกปากกระบอกปืนสีดำเล็งมาที่เขา รู้สึกเรี่ยวแรงในตัวหายไปหมด
“นายฆ่าฉันไม่ได้ ถ้านายฆ่าฉันนายต้องติดคุกแน่!”
“แล้วจะทำอย่างไร? มือของฉันมันเปื้อนเลือดมานับไม่ถ้วนแล้ว เพิ่มนายอีกคนก็ไม่เท่าไหร่ นายคนเดียวก็ไม่เยอะ ถ้าฉันฆ่านายยังไงก็ไม่ติดคุกอยู่แล้ว”
ฟางซื่อเหาถูกสายตาที่เย็นชาของเนี่ยเฟิงมองจนตัวสั่น เขารู้สึกว่าวินาทีต่อไปเนี่ยเฟิงก็จะลั่นไกแล้ว!
“รู้สึกถึงความกลัวใช่ไหม หืม? รสชาติมันเป็นอย่างไร? ฉันก็ว่าเกิดอะไรขึ้น ที่แท้มีคนตกใจจนฉี่ราด นายกลัวขนาดนั้นเลยเชียวเหรอ?”
ฟางซื่อเหากระเดือกน้ำลายลงคออย่างสั่นเทา เมื่อครู่เขารู้สึกแค่ว่ากางเกงในร้อนขึ้นมาไม่ทันได้คิดอะไร ฉี่ก็ราดแล้ว
“ปัง!”
อยู่ๆ เสียงปืนก็ดังขึ้น ฟางซื่อเหาตกใจจนพูดอะไรไม่ออก เขารู้สึกแต่ว่าร้อนที่ใบหู ที่แท้ลูกกระสุนแฉลบข้างหูเขา หูของเขาเป็นแผลไหม้! ปวดแสบปวดร้อน
ฟางซื่อเหาร้องไห้โหวกเหวกเสียงดัง
“ขอโทษที เมื่อกี๊ฉันยิงเบี้ยวไปหน่อย ท่าทางฉันไม่เหมาะจะเป็นเซียนปืน แต่เซียนปืนก็มาจากการฝึกฝนกันทั้งนั้นไม่ใช่เหรอ? งั้นฉันขอใช้นายเป็นเป้าฝึกมือก็แล้วกันนะ อย่างไรก็ยังเหลือกระสุนอีก2นัดต้องมีสักนัดยิงโดนตัวนายบ้างล่ะ”
เนี่ยเฟิงพูดเสร็จก็ลั่นไกไปที่ฟางซื่อเหาอีกครั้ง วิญญาณฟางซื่อเหาไม่อยู่กับเนื้อกับตัว!
“ท่าทางจะเบี้ยวอีกแล้ว คราวนี้ขอโทษด้วยแต่นายวางใจเถอะ นัดนี้ยิงเข้าตัวนายแน่นอน!”
“ขอร้องนายปล่อยฉันไปเถอะ ฉันผิดไปแล้ว อย่าฆ่าฉันเลย ฉันไม่อยากตาย!”
ฟางซื่อเหาร้องขอชีวิตด้วยเสียงแหลม
“แต่จะทำอย่างไรดี? ฉันอยากเห็นสมองของนายบานเป็นดอกไม้”
เนี่ยเฟิงแสยะยิ้ม ดูแล้วโหดเหี้ยมมาก
ฟางซื่อเหากระเดือกน้ำลายลงคอ ตัวเขาในตอนนี้ถูกความกลัวเข้าครอบงำแล้ว
เนี่ยเฟิงลั่นกระสุนนัดสุดท้าย นึกไม่ถึงว่าฟางซื่อเหาจะสลบไปแบบไม่สู้ อันที่จริงปืนนัดนี้ก็ไม่ได้ยิงไปที่ตัวของฟางซื่อเหา พอเห็นฟางซื่อเหาสลบไป เนี่ยเฟิงก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้
พอขู่ฟางซื่อเหาเสร็จ เนี่ยเฟิงก็อารมณ์ดี หยิบมือถือขึ้นมา โทรหาเย่หรูเสว่
“พี่หกพี่ว่างไหม? มาที่ร้านอาหารเหอผิงหน่อย ผมมีของบางอย่างจะมอบให้พี่ รับรองว่าเป็นของที่มีประโยชน์มากแน่”
“นายอุบอะไรไว้อีกแล้ว? ตอนนี้ที่โรงพักงานยุ่งมาก ฉันไม่ว่างกับเรื่องแบบนี้”
เย่หรูเสว่อดถอนใจไม่ได้ เจ้าตัวแสบพอเหยียบคันเร่งก็ไหลซะเร็ว
“พี่มากเถอะ ผมรับรองว่าน่าสนใจจริงๆ พอมาถึงแล้วพี่ก็จะรู้เอง!”
เนี่ยเฟิงพูดจบก็วางสายลง ไม่ทันให้เนี่ยหรูเสว่ได้ปฏิเสธ
“หมอนี่เล่นพิเรนทร์อะไรนะ”
เย่หรูเสว่ถอนใจ แต่ก็ฟังที่เนี่ยเฟิงพูด มายังร้านอาหารเหอผิง ขณะที่เธอเดินเข้ามาในห้องเหมาส่วนตัว ก็อดเบิกตาโพลงไม่ได้เมื่อเห็นฉากนี้
“น่าสนใจใช่ไหมล่ะ!”
“น่าสนใจกับผีสิ นายลงมือชกต่อยคนอื่นอย่างนี้ได้อย่างไร! ถ้าพวกเขาฟ้องร้องขึ้นมา นายจะทำอย่างไร?