พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 114 พ่ายแพ้ย่อยยับ
บทที่ 114 พ่ายแพ้ย่อยยับ
เดิมทีฟางเทียนหลงคิดจะเล่นงานเนี่ยเฟิง แต่นึกไม่ถึงว่าตอนนี้น้ำจะท่วมอารามพญามังกรจนตัวเองก็แทบจะเอาชีวิตไม่รอด
“เนี่ยเฟิง! ฉันจะไม่ปล่อยนายไว้แน่!”
ฟางเทียนหลงกัดฟันกรอดๆ คำรามในคอ
เพียงแต่ตอนนี้ฟางซื่อเหาเข้าตะรางไปแล้ว และเพราะหลักฐานถูกขุดคุ้ย ดังนั้นการที่ฟางเทียนหลงจะเอาคนออกมาก็ทำไม่ได้ อีกทั้งคดีนี้เย่หรูเสว่เป็นคนติดตาม
เดิมเย่หรูเสว่ก็ขัดแย้งกับตระกูลของพวกเขาอยู่แล้ว อีกทั้งเนี่ยเฟิงก็เป็นน้องชายเย่หรูเสว่ เย่หรูเสว่ต้องจัดการอย่างเป็นธรรมแน่ คงไม่ให้โอกาสฟางเทียนหลงแม้แต่นิดเดียวพอฟางเทียนหลงออกไป ขยับหมวกกดลงบนศีรษะ จากนั้นก็รีบบึ่งรถออกไป
หลังจากเนี่ยเฟิงดึงหูฟังออก ก็ฮำเพลงเดินลงมาจากตึก
“เสี่ยวเฟิง นายมาได้พอดี”
ชิวมู่เฉิงมองเนี่ยเฟิงเดินลงมาจากตึก แล้วก็กวักมือเรียกเขา
เนี่ยเฟิงยิ้มจนดวงตากลมแบ๊ว เดินเข้าไปหา ถามอย่างเต็มใจว่า “พี่ใหญ่มีอะไรจะสั่งผมครับ? เชิญบอกมาได้เลย!”
“มีเรื่องบางอย่างอยากให้นายไปทำจริงๆ แต่ไม่รู้ว่านายจะว่างหรือเปล่า”
“แน่นอนว่างอยู่แล้ว ทางพี่หกผมช่วยอะไรมากไม่ได้ ตอนนี้ทางตำรวจก็ยุ่งมาก ผมอยู่ที่นั่นมีแต่สร้างความวุ่นวาย”
“ทางหน่วยงานพี่หกนายก็รู้ดี ปกติทั้งคนทั้งเรื่องราวที่ต้องคลุกคลีมีเยอะแยะมากมาย พี่ไม่ค่อยอยากให้นายไปทำงานที่หน่วยงานหล่อน ที่นั่นมันค่อนข้างเสี่ยงจริงๆ”
เนี่ยเฟิงพยักหน้าเล็กน้อย “ในเมื่อพี่ใหญ่บอกว่ามีความเสี่ยง ผมจะคิดดูอีกก็แล้วกัน ว่าแต่พี่ใหญ่มีเรื่องอะไรจะสั่งให้ผมไปทำเหรอครับ?”
“คืออย่างนี้ พี่ห้าจอมสะเพร่าของนายเมื่อวันก่อนกลับมารวมตัวไม่ใช่เหรอ? ปรากฏทิ้งบัตรประจำตัวไว้ในบ้าน ตอนนี้หล่อนนึกขึ้นมาได้ และวันนี้ต้องไปสนามบินจินไห่พอดี นายเอาบัตรประจำตัวนี่ไปให้หล่อนที พี่ยังมีงานยุ่งในมืออีกมาก ปลีกตัวไม่ได้”
อีกอย่างบัตรประจำตัวของอย่างนี้สำคัญมาก มอบให้คนอื่นไปทำ ชิวมู่เฉิงก็ไม่วางใจ
“ได้ครับ!”
เนี่ยเฟิงเต็มใจรับคำ “พี่ห้าจะถึงสนามบินเมื่อไหร่?”
“ถ้าไม่เครื่องบินไม่ล่าช้า ประมาณอีก2ชั่วโมงก็ถึงสนามบิน นายเอารถสกูตเตอร์ไฟฟ้าของฉันไปสิ”
รถของชิวมู่ถูกทุบพัง แม้พวกเขาจะมีประกัน ว่าแต่การเอาเงินประกันไปซื้อรถสู้เอาไปลงทุนเสียจะดีกว่า ดังนั้นชิวมู่งเฉิงจึงไม่ได้ซื้อรถ แต่ในบริษัทมีรถสกูตเตอร์ไฟฟ้า
ตอนแรกเนี่ยเฟิงคิดจะให้ตระกูลเว่ยหารถให้พี่ใหญ่ แต่ถ้าทำอย่างนี้ก็จะทำให้ฐานะของเนี่ยเฟิงเปิดเผย
แต่ในฐานะประธานกรรมการของเทียนหลงอินเตอร์เนชั่นแนลไม่ว่าอย่างไรก็ควรมีรถยนต์ประจำตำแหน่งถึงจะถูก อีกอย่างอีกไม่นานก็จะถึงวันเกิดของชิวมู่เฉิงแล้ว
เนี่ยเฟิงต้องคิดให้ดีๆ ว่าจะมอบรถคันนี้ให้อย่างไร
“ถ้าผมเอารถสกูตเตอร์ไฟฟ้าของพี่ใหญ่ไป แล้วพี่ใหญ่จะทำอย่างไร?”
เนี่ยเฟิงส่ายหน้า “ผมเรียกแท็กซี่ไปได้
“จากที่นี่ไปสนามบินยุ่งยากมาก นาบขับรถสกูตเตอร์ไฟฟ้าไปเถอะ อีกอย่าง จากที่นี่ไปสนามบินก็ยุ่งยาก นายขับรถไปเถอะ จะว่าไป ตอนนี้ฉันทำงานอยู่บ้าน วันนี้คงไม่ไปเทียนหลงอินเตอร์เนชั่นแนลแล้วล่ะ”
เนี่ยเฟิงพยักหน้า “งั้นก็ได้ งั้นผมยืมรถพี่ใหญ่ชั่วคราวก็แล้วกัน”
“นายไปตอนนี้เถอะ เดี๋ยวน้องห้าไปถึง ก็เอาบัตรประจำตัวให้หล่อนซะ”
เนี่ยเฟิงหยิบกุญแจรถแล้วก็เดินออกไป รถสกูตเตอร์ไฟฟ้าคันนี้ก็แค่รถราคาไม่กี่แสนเท่านั้นเอง ถ้าเป็นเมื่อก่อนเนี่ยเฟิงยังไม่มองเลย
ว่าแต่ในรถคันนี้กระจายกลิ่นหอมอ่อนที่เป็นเอกลักษณ์ของชิวมู่เฉิง เลยรู้สึกว่าการขับรถอย่างนี้ไม่ทรมานเท่าไหร่
ฟางซื่อเหาเข้าคุกไปแล้ว และเส้นทางการเดินเรือที่มีอยู่ของเขาถูกตรวจสอบ แค่นี้คงพอให้ฟางเทียนหลงได้รับบทเรียนแล้ว ตอนนี้ฟางเทียนหลงคงกำลังหาวิธีรับมืออยู่
เหตุผลที่เนี่ยเฟิงปล่อยให้ฟางเทียนหลงโลดแล่นต่อไป ก็เพื่อจะดูว่าฟางเทียนหลงจะติดต่อกับคนที่อยู่เบื้องหลังหรือไม่
ตอนพวกเขากดดันการเงินของตระกูลเนี่ย จนเกิดเป็นโศกนาฏกรรมในทะเล เนี่ยเฟิงมาคิดๆ ดู สี่ตระกูลตัวพ่อน่าจะไม่มีความสามารถเช่นนี้
แม้ว่าสุดท้ายสี่ตระกูลตัวพ่อเป็นตัวแบ่งสมบัติของตระกูลเนี่ยไป แต่เรื่องนี้มีคนยุยงส่งเสริมอยู่เบื้องหลัง
แผนโศกนาฏกรรมในทะเล กับการยึดแบ่งทรัพย์สินของตระกูลเนี่ย ต้องทำเป็นขบวนการแน่
อีกทั้งสายที่โทรเข้ามาของอีกฝ่ายมีระบบป้องกัน แม้แต่แฮคเกอร์ของเนี่ยเฟิงก็ไม่สามารถแฮคเข้าไปได้ คิดว่าที่มาของอีกฝ่ายต้องไม่ธรรมดาแน่
เนี่ยเฟิงได้ให้สำนักมังกรทำการสืบค้น ว่าผู้มีอำนาจที่ร่วมมือกับฟางเทียนหลง มีใครที่มีความสามารถเช่นนี้
อีกอย่างดูจากการพูดคุยผ่านโทรศัพท์ของฟางเทียนหลงกับอีกฝ่าย คาดว่าพวกเขาจะลงมือกันในเร็วๆ นี้
เนี่ยเฟิงเลียริมฝีปาก แสยะยิ้ม เขาจะดูสิว่าใครกันที่เป็นคนสั่งการ
ในเวลาไม่นาน เนี่ยเฟิงก็มาถึงสนามบิน เขาจอดรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าในบริเวณที่จอดรถ จากนั้นก็นั่งรออยู่ที่สนามบิน
ไม่นานเท่าไหร่ เครื่องบินของโจวลี่ซือก็ลงจอดอย่างปลอดภัย
เนี่ยเฟิงติดต่อทางมือถือกับโจวลี่ซือแล้ว โจวลี่ซือบอกว่าจะออกมาทางช่องทางพนักงาน
เนี่ยเฟิงรออยู่ที่ช่องทางพนักงานสักพัก พนักงานคนอื่นคุยเล่นหยอกล้อกันจนออกไปหมดแล้ว แต่กลับยังไม่เห็นโจวลี่ซือ
เนี่ยเฟิงไม่เพียงมีความสงสัย จึงขวางแอร์โฮสเตสที่เดินออกมาถามว่า “สวัสดีครับ ไม่ทราบผู้ช่วยนักบินโจวลี่ซือยังอยู่ข้างในไหม?”
แอร์โฮสเตสเห็นเนี่ยเฟิงน่าเอ็นดู ก็เกิดความรู้สึกดีด้วย “คุณถามถึงผู้ช่วยนักบินเหรอ? เธอยังอยู่ข้างในจริงๆ จะให้ฉันพาเข้าไปไหม?”
เนี่ยเฟิงพยักหน้า “ดี”
แอร์โฮสเตสพาเนี่ยเฟิงเดินเข้าไป “คุณรออยู่นี่สักพักละกัน เธอน่าจะออกมาแล้ว”
“ขอบคุณครับพี่สาว!”
แอร์โฮสเตสได้ยินคำว่าพี่สาวก็รู้สึกสดชื่นไปทั้งตัว ลูกหมาอะไรช่างน่ารักซะเหลือเกิน!
เนี่ยเฟิงรออยู่ประมาณ 2 นาทีก็ได้ยินเสียงที่ฟังดูรำคาญเล็ดลอดออกมา “ซ่าวเจ๋! ฉันบอกแล้วไง ว่าเราไม่เหมาะสมกัน ฉันไม่คิดที่จะเป็นแฟนสาวคุณ!”
“คุณยังไม่ทันลองเลย รู้ได้อย่างไรว่าไม่เหมาะ? หรือคุณมีแฟนหนุ่มแล้ว สายการบินคุณมีกฎว่าห้ามมีแฟนไม่ใช่เหรอ?”
โจวลี่ซือรู้สึกตัวเองซวยจริงๆ ทำไมถึงต้องมาเจอดวงความรักแบบนี้นะ!
“ไหนๆ คุณก็พูดขึ้นมาแล้ว ว่าบริษัทฉันห้ามมีแฟน ฉะนั้นอย่ามาเกาะแกะฉันอีก”
ซ่าวเจ๋พูดขึ้นมาอย่างลิงโลดว่า: “ไม่เป็นไร ผมรู้จักประธานใหญ่สายการบินจินไห่ เดี๋ยวผมจะให้เขาแก้ไขกฎ นี่มันสมัยไหนแล้ว ยังจะมาห้ามไม่ให้คนรักกัน แล้วต่อไปเรื่องใหญ่ชีวิตครอบครัวจะทำอย่างไร?”
โจวลี่ซืออดสะดุ้งไม่ได้ หมอนี่ชักจะสองมาตรฐานแล้ว!
“ต่อให้คุณแก้ไขกฎ ฉันก็ไม่คบกับคุณหรอก ฉันบอกกับคุณชัดเจนแล้วไง ว่าฉันไม่ชอบคุณ”
“ผมรู้ว่าคุณรู้สึกว่าเราสองคนมีฐานะแตกต่างกัน ก็เลยคิดมาก แต่คุณไม่ต้องห่วง ถึงเวลานั้นผมจะเกลี้ยกล่อมพ่อแม่ผมเอง พวกเขาตัดสินใจแทนผมไม่ได้อยู่แล้ว!”
โจวลี่ซือเร่งฝีเท้า สีหน้าดูไม่จืด
“อีกอย่าง การแต่งเข้าตระกูลเศรษฐีสำหรับคุณมันไม่ดีตรงไหน พวกคุณหากินได้แต่ตอนสาวๆ คุณเคยคิดไหม? พอคุณอายุมากขึ้นคุณจะบินอย่างไร?”
โจวลี่ซือโมโหจนกัดฟันกรอดๆ “ซ่าวเจ๋ ฉันไม่ใช่แอร์โฮสเตส ฉันเป็นผู้ช่วยนักบินนะ!”
“ก็ไม่เห็นต่างกันตรงไหนนี่! นั่งกินหรูอยู่สบายเฉยๆ มันไม่ดีตรงไหน?”