พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 118 สะกดรอยตาม
บทที่ 118 สะกดรอยตาม
โจวลี่ซือมาถึงโรงแรมก็เช็กอินเข้าพัก ก่อนเนี่ยเฟิงจะจากไปได้บอกกับโจวลี่ซือว่า: “พี่ห้า ถ้าหมอนั่นมาหาถึงที่ ให้รีบโทรหาผมทันที ผมจะรีบมาช่วย!”
“ได้ วางใจเถอะ ถ้าเกิดอะไรขึ้นพี่จะรีบบอกนาย เอาล่ะ รีบกลับไปเถอะ! วันนี้นายเหนื่อยแล้ว”
พอเนี่ยเฟิงออกไป ก็สั่งภารกิจไปที่สำนักมังกร “คุ้มครองโจวลี่ซือ แล้วก็สืบหาเบาะแสของซ่าวเจ๋”
เนี่ยเฟิงขับรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าของชิวมู่งเฉิงกลับไป
หลังจากขับรถออกไปไม่นาน เนี่ยเฟิงก็รู้สึกเหมือนมีใครตามมาอยู่ข้างหลัง ลางสังหรณ์ของเขาแม่นตลอด เขามองจากกระจกหลัง เจ้าของรถเป็นชายสวมหมวกแก๊ปเห็นใบหน้าไม่ชัดเจน และที่เบาะหลังรถก็มีชายหนุ่มนั่งอยู่สองสามคน สวมชุดดำกันหมด
ไม่ว่าเนี่ยเฟิงจะไปทางไหน พวกเขาก็ตามไป
ชักจะสนุกแล้วสิ
พอเนี่ยเฟิงเหลือบลูกตา เลี้ยวรถไปถนนใหญ่ที่ราบเรียบ เนื่องจากที่นี่ค่อนข้างลับตา จึงไม่ค่อยมีรถผ่าน บวกกับบริเวณนี้แทบจะเป็นรถใหญ่ที่วิ่ง จึงยิ่งไม่ใช่ทางคนสัญจร
เนี่ยเฟิงจงใจเลี้ยวรถมาที่นี่ เพื่อให้รถที่สะกดรอยตามเขามาสะดวกขึ้น พวกเขาอยากสะกดรอยตามเขาไม่ใช่เหรอ? ก็จะได้สมดังที่พวกเขาปรารถนา
ส่วนรถคันข้างหลังที่ตามเขามาตลอด ก็พบว่าตัวเองได้มาถึงที่ลับตา
“พี่ใหญ่ ไอ้ตัวแสบนั่นมันจะรู้ตัวแล้วหรือเปล่าว่าพวกเราตามรถมันมา?”
“งั้นไม่ยิ่งดีเหรอจะได้จัดการมันในที่ลับตา ที่นี่ไม่มีแม้แต่กล้องวงจรปิด สาวไม่ถึงที่มาของพวกเราแน่”
อีกฝ่ายยิ้มหึ “ว่าแต่ไอ้หมอนี่ก็ใจกล้าไม่เลว ทั้งที่รู้ว่ามีคนสะกดรอยตาม ก็ยังกล้ามาที่ลับตาแบบนี้”
“พี่รอง ยังไงผมก็รู้สึกไม่สบายใจ พี่ว่าในมือไอ้หมอนี่จะมีอาวุธหรือเปล่า?”
“กลัวอะไร? ในมือของพวกเราใช่ว่าไม่มี ไม่ต้องพูดแล้ว มันเลี้ยวไปข้างในแล้ว”
รถยนต์ของพวกเขาตามเข้าไป จากนั้นก็ถูกแสงไฟสาดมาที่หน้าจนลืมตาแทบไม่ขึ้น ที่แท้ในสุดซอย เนี่ยเฟิงได้จอดรถ แล้วก็เปิดไฟสูงหน้ารถไว้
พวกเขาต้องจอดรถอยู่ปากซอยอย่างเสียไม่ได้
“พวกนายตามฉันมาระยะหนึ่งแล้วสิ? มีอะไรก็รีบพูดมา ตามฉันมาเพื่อต้องการอะไร?”
อีกฝ่ายลงมาจากรถ หนึ่งในนั้นเอารูปถ่ายขึ้นมาเทียบสักพัก “ดูท่าทางนายก็คือเนี่ยเฟิงสินะ?”
“ใช่ ถูกต้อง ฉันก็คือเนี่ยเฟิง”
เนี่ยเฟิงพยักหน้าอย่างกล้าหาญ “แล้วยังไง?”
“ในเมื่อนายคือเนี่ยเฟิง งั้นก็……จงตายซะเถอะ!”
เห็นแค่หนึ่งในนั้นอยู่ๆ ก็ดูไม่จืด เห็นแต่ตัวและมือที่รวดเร็วของเขา ดูท่าทางเหมือนผ่านการฝึกฝนมา
เขายกกำปั้นขึ้นไปที่ใบหน้าของเนี่ยเฟิง! แต่นึกไม่ถึงว่ากำปั้นของเขาจะไม่โดนหน้าเนี่ยเฟิง!
นี่มันอะไรกัน!
“ความเร็วของนายได้แค่นี้เองเหรอ?”
เนี่ยเฟิงอดประชดออกมาไม่ได้ อีกฝ่ายยังไม่ทันตอบโต้ ก็ถูกเนี่ยเฟิงโจมตีจากทางด้านหลังแล้ว!
เขารู้สึกเจ็บที่ท้ายทอย หมดแรงไปชั่วพริบตา แล้วก็ล้มลงไปกองกับพื้น เจ็บจนไม่สามารถลุกขึ้นมาได้!
“พี่สาม!”
“ใครเป็นคนส่งพวกนายมา?”
เนี่ยเฟิงทำท่ายืดเส้นยืดสาย ข้อต่อของเขาดังกรอบแกรบ
“ไม่ต้องพูดมาก วันนี้เป็นวันตายของแก!”
พี่ใหญ่กับพี่รองชักปืนออกมา “ปังๆ” ยิงรัวติดกันไปหลายนัด!
ลูกกระสุนชนเข้ากับกำแพง ส่งประกายไฟสีทองระยิบระยับ
เนี่ยเฟิงใช้ขาเดียวเตะตัวเจ้าสามขึ้นจากพื้น สองคนนั้นเห็นเจ้าสามกลายเป็นโล่กันลูกศร ก็ได้แต่เก็บปืนลง
“ต่ำช้า! เก่งนักก็ดวลกันตัวต่อตัวสิ!”
เจ้าสี่ก็คำรามขึ้นมาด้วยความโมโห
“ต่ำช้า? พวกนายสี่คนรุมฉันคนเดียวเรียกว่าคุณธรรมสูงงั้นเหรอ? อีกอย่างฉันก็ไม่มีอาวุธในมือเลย”
เนี่ยเฟิงฉีกยิ้ม “ถ้าจะว่ากันว่าต่ำช้า ไม่สมควรเป็นพวกนายมากกว่าเหรอ?”
“ปล่อยเขาซะ!”
สีหน้าของพี่ใหญ่กับเจ้าสองหมองคล้ำจัด
“ก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้ แต่ฉันต้องรู้ว่า ใครเป็นคนส่งพวกนายมา?”
พวกเขาสองสามคนไม่มีใครพูดอะไรเลย ดูท่าทางเหมือนไม่อยากจะพูด
“ไม่พูดใช่ไหม? ได้ งั้นฉันก็ไม่เกรงใจแล้ว”
เนี่ยเฟิงใช้มือเดียวบีบคอเจ้าสามเอาไว้ ทุกคนไม่คิดว่าเนี่ยเฟิงจะแรงเยอะอย่างนี้ เจ้าสามตัวลอยขึ้นกลางอากาศ สีหน้าเหมือนสีของตับหมู ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป เจ้าสามคงต้องตายสถานเดียว!
“ปล่อยเขา!”
“พวกนายไม่มีสิทธิ์์มาออกคำสั่งฉัน ยังไม่พูด? งั้นไอ้หมอนี่ก็คงต้องไปพบยมบาลแล้ว”
เนี่ยเฟิงมองพวกเขาด้วยความเย็นชา เหมือนมองดูคนตายไม่กี่คน
“นายปล่อยเขาก่อน ขอแค่นายปล่อยเขา พวกเราก็จะบอกว่าใครเป็นคนส่งพวกเรามา”
“งั้นก็ได้ ฉันจะเชื่อพวกนายสักครั้ง ว่าแต่อย่ามาลูกไม้กับฉัน คนอย่างฉันความอดทนมีขีดจำกัด”
เนี่ยเฟิงพูดเสร็จก็คลายมือลง แต่นึกไม่ถึงในพริบตาที่เขาคลายมือออก อีกฝ่ายจะลั่นไกปืน!
“รู้อยู่แล้วว่าพวกนายเชื่อไม่ได้”
เนี่ยเฟิงเตะเจ้าสามด้วยขาเดียวลอยกระเด็น ลูกกระสุนไม่มีความปรานีเจาะผ่านลำตัวของเจ้าสามไป ทำให้เจ้าสามถูกยิงเป็นรู
“เจ้าสาม!”
“พี่สาม!”
“อย่างพวกนายแบบนี้ก็คิดจะออกมาฆ่าคนเหรอ? ดูท่าทางสมองของอีกฝ่ายไม่น่าจะดีเท่าไหร่”
เนี่ยเฟิงเหลือกตามองบน
มองมือสังหารไม่กี่คนตรงนั้นด้วยดวงตาแดงก่ำ ขณะที่จะแก้แค้นให้เจ้าสาม เนี่ยเฟิงก็มาปรากฏตัวตรงหน้าพวกเขาปานปีศาจ “รู้ไหมว่าพวกนายแพ้ที่ตรงไหน? แพ้ตรงนี้พวกนายช้าเกินไป!”
“อ๊าก!”
เสียงร้องเจ็บปวดเป็นระลอกในซอย เจ้าใหญ่เจ้ารองกับเจ้าสี่ล้วนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเนี่ยเฟิง เนี่ยเฟิงใช้เวลาแค่หนึ่งนาทีก็ทำให้พวกเขาไม่กี่คนจำนนได้ มือไม้พวกเขาหักหมด ไม่สามารถถือปืนกับหาทางหนีไปได้
“เมื่อกี๊ฉันหักเส้นเอ็นที่ขาพวกนายแล้ว เกรงว่าต่อให้ไปโรงพยาบาล ครึ่งชีวิตที่เหลือคงได้แต่ต้องนั่งอยู่บนรถเข็น อีกฝ่ายให้เงินพวกนายเท่าไหร่ที่มาฆ่าฉัน?”
เนี่ยเฟิงเหลือบตาต่ำมองดูมือสังหารไม่กี่คนที่ตัวหงิกตัวงอกัน พวกเขาเจ็บจนเหงื่อท่วมหัว ดูแล้วก็น่าสงสาร ว่าแต่ที่ดูน่าสงสารก็มีที่ให้เกลียดชังเหมือนกัน
“พวกเรา… พวกเราไม่มีทางบอกแน่!”
“นั่นสิ! อยากจะได้อะไรจากปากพวกเรา นายจงฝันไปซะเถอะ!”
เนี่ยเฟิงยิ้มอย่างเย็นชา จากนั้นก็ค้นหาอุปกรณ์สื่อสารของพวกเขา พอเจออุปกรณ์สื่อสารแล้ว ก็เปิดอ่านข้อความในอุปกรณ์สื่อสาร
“อย่าเสียแรงเปล่าเลย ในอุปกรณ์สื่อสารไม่มีข้อความใดๆ หรอก”
ของพวกนี้พวกเขาลบทิ้งไปตั้งนานแล้ว จะให้โอกาสคนอื่นมาค้นเจอได้อย่างไร?
“อ้อ? งั้นเหรอ? เชื่อไหมว่าในเวลาไม่ถึง 5 นาทีฉันสามารถกู้คืนข้อความในมือถือที่นายลบกลับมาได้?”
“เป็นไปไม่ได้ นายจะมีความสามารถนี้ได้อย่างไร!”
“ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ เมื่อกี๊เพราะพวกนายดูถูกฉันถึงได้เสียท่าอย่างนี้ไม่ใช่เหรอ”
เนี่ยเฟิงกดมือถือไม่กี่ที พริบตาเดียวก็ถอดรหัสมือถือของพวกเขาได้ จากนั้นไม่ถึง 5 นาที ข้อความทั้งหมดในมือถือก็กลับคืนสู่สภาพเดิม
“คนที่ร่วมมือกับพวกนาย ไม่ใช่คนเมืองจินไห่หรอกเหรอ?