พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 119 กำลังเสริม
บทที่ 119 กำลังเสริม
มือสังหารไม่กี่คนตะลึงอยู่ที่พื้นไปชั่วขณะ พวกเขากระเดือกน้ำลายลงคอ ไอ้หมอนี่มันทำได้อย่างไร?
เนี่ยเฟิงกรองดูอย่างรวดเร็ว ดูเสร็จก็มองดูมือสังหารอย่างเย้ยหยัน
“พวกเขาดูจะยกหางพวกนายเกินไปแล้วล่ะ? ท่าทางอย่างพวกนายค่าตัวจะถึงสิบล้านเหรอ?”
เจ้าใหญ่เหงื่อแตกซ่ก เนี่ยเฟิงถึงขั้นรู้ว่าพวกเขารับเงินงานนี้เท่าไหร่เชียวเลยเหรอ?!
เนี่ยเฟิงโยนมือถือลงข้างตัวพวกเขาอย่างสนุก มองดูมือสังหารไม่กี่คนนี้ด้วยความเยือกเย็น จากนั้นก็ดีดนิ้วดังเปาะ อยู่ๆ ก็มีชายสิบคนปรากฏตัวขึ้นมารอบๆ อย่างเงียบเชียบ
“พาพวกมันไป ทรมานสอบปากคำ”
ดวงตาทั้งคู่ของเนี่ยเฟิงเหมือนธารน้ำแข็งแตกที่ลอยไป ออร่าในตัวมีแต่ความเย็นจับ
มือสังหารไม่กี่คนพร้อมทั้งรถกับอุปกรณ์สื่อสารถูกเก็บไปหมด ในชั่วพริบตา สถานที่เกิดเหตุถูกเก็บกวาดอย่างสะอาดไม่เหลืออะไรเลย
เนี่ยเฟิงหลับตาลง เหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง จากนั้นไม่นาน ถึงขึ้นรถไป แล้วสั่งภารกิจกับสำนักมังกร: “ส่งทหารมือวางอันดับหนึ่งประกบพี่สาวทั้ง7ของฉัน อย่าให้พวกเธอรู้ตัว หากรู้สึกว่ามีอะไร ให้รีบรายงานทันที”
เนี่ยเฟิงไม่ได้รู้สึกว่าอีกฝ่ายจะทำร้ายเขา สิ่งที่เขาห่วงคือเจ้าหมาบ้านั่นจะกระโดดกำแพง เอาบรรดาพี่สาวมาข่มขู่เขาเท่านั้น
ตอนนี้รู้แต่ว่ารหัสเมืองของอีกฝ่ายคือเมืองเยี่ยนตู ในเมื่อรู้รหัสเมืองแล้ว ทว่าจะสืบให้รู้คาดว่าปัญหาอยู่ที่เวลาเท่านั้นเอง
เนี่ยเฟิงหักข้อต่อ เก็บคืนความคิด ขึ้นรถกลับเข้าวิลล่า
“เศษสวะ! ไอ้พวกเศษสวะ! เรื่องเล็กแค่นี้ก็ทำไม่สำเร็จ กับคนแค่คนเดียวก็ฆ่าไม่ตาย!”
ในห้องที่วิลล่าหรูหราแห่งหนึ่ง คนคนหนึ่งปัดข้าวของที่อยู่บนโต๊ะทิ้งอย่างกับคนบ้า ดวงตาทั้งคู่แดงก่ำ
“เนี่ยเจิ้ง นายมันได้ลูกดีจริงๆ!”
หลังจากอีกฝ่ายระบายออกมา ก็เหมือนจะสงบลง “ตอนนี้เขาเก็บวิลล่าซิงเยว่ บ้านต้นตระกูล โรงพยาบาลเฟิร์สคืนไปหมดแล้วไม่ใช่เหรอ? ไปบอกฟางเทียนหลง ฉันจะจัดแจงคนของกรมที่ดินให้ร่วมมือกับเขา ฉันต้องเห็นมันตายภายในสามวัน!”
“ครับ!”
“เนี่ยเจิ้ง ฉันจะไม่ปล่อยครอบครัวนายไปแน่!”
เสียงคำรามของคนผู้นั้นดังไปทั่วห้อง
วันต่อมา เนี่ยเฟิงได้รับข่าวจากสำนักมังกร ตอนนี้พวกเขาสืบรู้มาว่าโทรศัพท์โทรมาจากโรงแรมเยียนซาน
“ที่เป็นรูปเป็นร่างสืบได้แค่โรงแรมเยียนซาน ที่นั่นมีเครื่องตัดสัญญาณคลื่นโทรศัพท์ ส่วนที่อยู่ในการส่งข้อความยังสืบไม่ได้ความแม่นยำ”
เนี่ยเฟิงหลับตาลง แล้วพูดว่า: “โรงแรมเยียนซานล่ะ? สืบลูกค้าที่เช็คอินเช็คเอาท์ไปถึงไหนแล้ว?”
“ตอนนี้กำลังคัดกรองอยู่ ไฟร์วอลล์ของอีกฝ่ายร้ายกาจมาก”
เนี่ยเฟิงลูบคาง “ได้ ไม่ต้องรีบร้อน ค่อยๆ คัดกรองไป ให้ละเอียดหน่อยก็แล้วกัน”
เขาอยากจะค่อยๆ เล่นกับอีกฝ่าย เพื่อดูว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นใครกัน
เนี่ยเฟิงดื่มน้ำไปหนึ่งอึก วางมือถือลง
ในเวลานี้เอง ชิวมู่งเฉิงก็รีบลงมาจากชั้นบน เนี่ยเฟิงเห็นสีหน้าชิวมู่เฉิงรีบร้อน จึงถามขึ้นมาว่า: “พี่ใหญ่ พี่เป็นอะไรไป? ดูท่าทางเหมือนร้อนใจ”
เมื่อกี๊ชิวมู่เฉิงมัวดูมือถือ เลยไม่สังเกตเห็นเนี่ยเฟิง พอเนี่ยเฟิงพูดขึ้นมาจากข้างๆ ชิวมู่เฉิงถึงได้รู้ตัวขึ้นมา
“เสี่ยวเฟิง ทำไมถึงตื่นมาแต่เช้า? ไปนอนต่ออีกสักเดี๋ยวสิ ตอนนี้พี่จะไปเทียนหลงอินเตอร์สักหน่อย”
ชิวมู่เฉิงพูดจบ ก็คว้ากุญแจจะเดินออกไป
“งั้นก็เอาผมไปด้วยสิ”
เนี่ยเฟิงนั่งลงตรงที่นั่งข้างคนขับตามสถานการณ์
“เกิดอะไรขึ้น? พี่ใหญ่ สีหน้าของพี่ดูไม่ดีเลย”
หลังจากชิวมู่เฉิงขับรถออกมา เนี่ยเฟิงจึงเอ่ยปากถาม
“เมื่อกี๊ได้รับสายจากเลขา บอกว่ามีคนเข้ามาตรวจสอบโปรเจ็คบางโปรเจ็ค ฉันเลยต้องไปดูหน่อย”
รถของชิวมู่เฉิงเลี้ยงเข้าถนนหลวง สีหน้าดูคร่ำเคร่ง
“ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนที่ถูกต้องไม่ใช่เหรอ? โปรเจ็คพวกนั้นทำไมเหรอ?”
เนี่ยเฟิงถามอย่างไม่เข้าใจ
“โปรเจ็คพวกนั้นของเราถูกระงับไว้ ว่าตามหลักเบื้องบนไม่น่าจะมาตรวจสอบแล้วถึงจะถูก เที่ยวนี้ไม่รู้ว่าทำไม ฉันเลยต้องเข้าไปดูด้วยตัวเอง”
ชิวมู่เฉิงก็รู้สึกประหลาดใจ มีโปรเจ็คหลายตัวของบริษัทที่ทำให้เธอยุ่งจนหัวเป็นจุณ แต่ที่เธอจัดการไปก่อนก็คือวิลว่าซิงเยว่กับบ้านต้นตระกูล
ไม่ว่าอย่างไรก็ตามแต่ มีเพียง2โปรเจ็คนี้ที่ชิวมู่เฉิงเอาใจใส่ มันเป็นความคิดถึงของเนี่ยเฟิง ในฐานะที่เขาเป็นพี่สาวคนโตจะให้น้องชายตัวเองเสียใจไม่ได้
ชิวมู่เฉิงรับสายที่โทรเข้ามา สถานที่ที่อีกฝ่ายไปตรวจสอบไม่ใช่ที่ไหน แต่เป็นฐานวิลล่าซิงเยว่กับบ้านต้นตระกูล
ชิวมู่เฉินกะไปดูแล้วก็จัดการเอง แต่นึกไม่ถึงว่าเนี่ยเฟิงจะว่องไว พรวดพราดขึ้นมาในรถ ชิวมู่เฉิงก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่พาเนี่ยเฟิงมาด้วย
พวกเขามาที่ฐานบ้านต้นตระกูลก่อน
เนี่ยเฟิงมองเห็นรถยนต์ไม่กี่คันของกรมที่ดินจอดอยู่ข้างๆ บ้านต้นตระกูลที่กำลังสร้างเหล่าคนงานหยุดทำงาน ต่างมองหน้ากัน ตะลึงอยู่กับที่ อยู่ๆ ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี
“ผู้รับผิดชอบของพวกคุณจะมาถึงกันเมื่อไหร่?”
คนที่เป็นหัวหน้ามองดูนาฬิการด้วยความรู้สึกเซ็ง
“เราแจ้งประธานของเราไปแล้ว เดี๋ยวเธอก็มาถึง เชิญคุณรอสักครู่”
เลขาฯ พูดพลางค้อมตัว
“มันก็ต้องรู้จักเวลากันบ้าง ไม่ดูเลยว่านี่มันกี่โมงแล้ว เรายังมีงานอื่นต้องไปทำอีก เวลามีค่ามาก มีอย่างพวกคุณที่ไหนอยากให้เสียเวลาก็เสียไป?”
เฮ้อ… คนจากกรมที่ดินสมัยนี้เขาอวดเบ่งกันอย่างนี้เลยเหรอ?
เนี่ยเฟิงหลับตาลง ลงจากรถมาพร้อมกับชิวมู่เฉิง
“ขอโทษด้วยค่ะ พวกคุณมาเยือนกะทันหัน ดิฉันไม่ได้รับแจ้งใดๆ เลย ก็เลยมาช้านิดหน่อย”
ชิวมู่เฉิงเดินมาอย่างช้าๆ ดูไม่รีบร้อนแม้แต่น้อย
“คุณช่วยรู้จักเวลาหน่อยได้ไหม? พวกเราอยู่ๆ มาเยือนอะไรกัน เราได้แจ้งทางเทียนหลงอินเตอร์ก่อนหน้าครึ่งชั่วโมงแล้ว ว่า เราจะทำการตรวจสอบที่ดินถนนเหมยหยวน พวกคุณทำงานประสาอะไรกัน?”
หัวหน้าดูรำคาญอย่างที่สุด เขาหันกลับมาว่าจะด่าสักยก ปรากฏเห็นความงามของชิวมู่งเฉิงเข้า อยู่ๆ ก็ด่าไม่ออก
“หัวหน้า คนนี้ก็คือประธานของเทียนหลงอินเตอร์”
พอเลขาฯ เห็นชิวมู่เฉิงมา ถึงได้โล่งอกขึ้น รีบตรงมารายงานสถานการณ์ทันที
“ท่านประธาน คืออย่างนี้ เมื่อเช้าทางบริษัทได้รับหมายค้นจากกรมที่ดิน กล่าวหาว่าเราบุกรุกที่ดินผู้อื่นโดยผิดกฎหมาย พวกเขาจะดำเนินการตรวจสอบและทำการวัดแบ่งที่ดินอีกครั้ง”
ชิวมู่เฉิงพยักหน้าเล็กน้อย “สวัสดีทุกคน ฉันชื่อชิวมู่เฉิง เป็นประธานบริหารเทียนหลงอินเตอร์ พวกเรามีเอกสิทธิ์์ถือครองที่ดินแห่งนี้ ไม่ทราบว่าที่พวกคุณบอกว่าบุกรุกที่ดินของผู้อื่น เรื่องราวเป็นอย่างไรคะ?”
หัวหน้ามองดูชิวมู่เฉิง จนน้ำลายแทบจะย้อยออกมาแล้ว
“หัวหน้า หัวหน้า?”
เจ้าหน้าที่ที่อยู่ข้างๆ เรียกอยู่หลายครั้ง หัวหน้าถึงได้มีสติขึ้นมา เขาเช็ดมุมปากโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็กระแอมไอพูดขึ้นว่า: “เหอะๆ ฉโนดที่ดินของพวกคุณล่ะ?”