พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 121 มาเตือนก่อนล่วงหน้า
บทที่ 121 มาเตือนก่อนล่วงหน้า
“ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ฉันส่งนายกลับไปก่อนแล้วกัน สถานที่นั้นไม่ค่อยน่าไปเท่าไร”
ชิวมู่เฉิงพูดจบ ก็พาเนี่ยเฟิงกลับไปด้วยจิตใจกระวนกระวายอยู่ไม่สุข
ชิวมู่เฉิงยุ่งมาตลอดจนถึงช่วงค่ำ เธอเพิ่งจะได้หายจากความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า
เธอถอนหายใจออกมาหนึ่งเฮือกใหญ่ นั่งอยู่บนโซฟาด้วยท่าทางที่ดูเหน็ดเหนื่อย
เนี่ยเฟิงเดินเข้าไปรินน้ำให้กับชิวมู่เฉิงหนึ่งแก้วด้วยความห่วงใย ชิวมู่เฉิงดื่มน้ำ พยักหน้าหน้าขอบคุณ
“พี่ใหญ่เรื่องธุระเป็นยังไงบ้าง? ดูเหมือนพี่จะเหนื่อยมากนะ ทำไม่สำเร็จใช่ไหม? ฟางหลงเทียนจงใจกลั่นแกล้งพี่ใช่ไหม?”
“เขาไม่กล้ามาทำอะไรฉัน ครั้งที่แล้วเขาสูญเสียไปเยอะ เขาก็น่าจะตระหนักได้ถึงฤทธิ์เดชของผมแล้ว แต่แค่ว่าอำนาจทั้งหมดในตอนนี้ก็ไม่แน่ใจว่าเป็นของใครกันแน่……”
ชิวมู่เฉิงถอนหายใจออกมาอย่างไม่สบอารมณ์“ขอโทษนะ พี่ใหญ่ใช้ไม่ได้จริงๆ ขนาดแค่เรื่องเล็กๆน้อยๆก็ยังทำให้ดีไม่ได้เลย ฉันไม่มีหน้ามาสู้หน้านายแล้วจริงๆ”
“เรื่องนี้จะโทษพี่ได้ยังไงกันล่ะ? เป็นเพราะพวกมันสมรู้ร่วมคิดกันทำเรื่องชั่วๆต่างหากล่ะ มันทั้งสองคนรวมหัวกันกลั่นแกล้งพวกเรา ต่อให้พวกเรามีความสามารถมากมายขนาดไหนก็ไม่ใช่ว่าจะไปต่อกรกับกรมที่ดินได้หรอกนะ พวกเขามีถือครองทรัพยากรมากมายขนาดนั้น พวกเราก็แค่คนทั่วไปตัวน้อยๆ จะให้ไปสู้กับพวกตัวใหญ่แบบนั้นไม่ไหวหรอก”
การที่เนี่ยเฟิงเป็นคนเข้าใจจิตใจคนได้เป็นอย่างดี ทำให้ชิวมู่เฉิงยิ่งรู้สึกลำบากใจขึ้นไปอีก ชิวมู่เฉิงตบๆมือของเนี่ยเฟิง พร้อมกับบอกเขาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“เสี่ยวเฟิงนายวางใจได้ พี่สาวจะต้องคิดหาวิธีให้ได้ แต่ที่ดินที่เป็นของพวกเรา พวกเราต้องไม่แบ่งส่วนไปแม้แต่สักนิ้วเดียว ฉันอยากจะต้องคิดหาแผนการรับมือให้ดีๆสักหน่อย นายพักผ่อนเถอะ ไม่ต้องแบกรับอะไรไว้ในใจมากมายหรอก”
เนี่ยเฟิงพยักหน้า“ตอนนี้ผมยังนอนไม่หลับ ผมอยากจะไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อสักหน่อย”
ชิวมู่เฉิงชะงักไปสักพัก จากนั้นก็พูดขึ้นมาด้วยความกังวล“นายอย่าไปหาเรื่องใครในตอนนี้ล่ะ ที่พวกเราต้องการคือหลักฐาน ขอแค่มีหลักฐานที่มีน้ำหนักมากพอ ก็จะจัดการพวกมันได้”
“วางใจได้ครับ ผมไปร้านสะดวกซื้อจริงๆ อีกอย่างผมจะไปพูดคุยอะไรกับใครที่นั่นได้ล่ะ? พวกเขาก็แทบไม่ต่างกัน ถึงผมจะไปที่นั่น ก็แค่ถูกพวกเขาพูดจาพล่อยๆใส่ก็เท่านั้น”
เนี่ยเฟิงโบกมืออย่างยิ้มๆ จากนั้นก็เดินออกไป หลังจากที่เขาออกไปแล้วก็เดินเลี้ยวไปเข้ายังซอยทันที ที่นั่นมีรถโรลส์รอยซ์จอดอยู่หนึ่งคัน
ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเนี่ยเฟิงหายวับไปในทันที ถูกแทนที่ด้วยสีหน้าที่เยือกเย็น
“หาเจอหมดแล้วสินะ ถ้าหาเจอแล้วก็ไปกันเถอะ มันต้องพึ่งพาคนที่มีอำนาจบารมีใช่ไหมล่ะ? ถ้าอย่างนั้นฉันจะถอนอาวุธกับเขี้ยวเล็บของมันให้หมด ให้มันหมดหนทางจะมาต่อกรกับฉัน”
ตอนแรกกะที่จะไว้ชีวิตเขา แต่คิดไม่ถึงว่าจู่ๆก็มีคนที่ส่งเขาไปตายให้ซะอย่างนั้น
ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้เนี่ยเฟิงหาตำแหน่งของอีกฝั่งเจอหมดแล้ว ดังนั้นสำหรับเนี่ยเฟิงแล้วฟางหลงเทียนก็ไม่มีความสำคัญที่จะต้องอยู่ต่อแล้ว
ไม่นานรถก็แล่นมาถึงตึกอาคารที่อยู่อาศัยแถวหนึ่ง หลังจากที่เนี่ยเฟิงลงจากรถแล้วก็ค่อยๆเดินขึ้นไป
เขาขึ้นลิฟต์มาถึงชั้นสามสิบห้องหมายเลขสี่ เนี่ยเฟิงยื่นมือออกมากดกระดิ่งประตู
“ใครกัน? ดึกขนาดนี้แล้ว”
อีกฝั่งเปิดประตูออกมาด้วยความรำคาญ พอเห็นคนที่มา เขาก็ถลึงตาโตทันที ปากของผู้อำนวยการจ้าวอ้ากว้างจนสามารถยัดไข่ไก่ไปได้หนึ่งใบเต็มๆ
“เห็นผมมาที่นี่แล้วรู้สึกประหลาดใจใช่ไหม? คุณมาอาศัยอยู่ที่นี่ได้มีบอกเมียกับลูกของตัวเองบ้างหรือเปล่า? ผมเข้าใจแล้ว คุณคงไม่ได้บอกพวกเขาสินะ ที่คุณบอกพวกเขาก็คือคุณกำลังทำงานล่วงเวลาอยู่สินะ”
เนี่ยเฟิงพูดพลางผลักผู้อำนวยการจ้าวเดินเข้าไป เขามองสำรวจการตกแต่งภายในห้องอยู่สักพัก
“ทำได้ดีเชียวนี่ ดูสวยงามเจิดจรัส”
เนี่ยเฟิงพูดจบก็นั่งลงบนโซฟา ง้างสองขาออก ผู้อำนวยการจ้าวในตอนนี้เพิ่งจะนึกขึ้นมาได้ว่าตนเองเป็นเจ้าของห้องห้องนี้ นายคนนี้กล้าดียังไงถึงเข้ามาโดยพลการแบบนี้?
“คุณรู้ไหมว่าถลำเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวของคนอื่นมีโทษหนักแค่ไหน? ตอนนี้ผมขอสั่งให้คุณออกไปให้เร็วที่สุด ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่คุณควรจะมาเล่นอะไร!”
ผู้อำนวยการจ้าวชี้ไปที่ประตูพร้อมกับกัดฟันกรอดๆ เนี่ยเฟิงกลับส่ายหัว
“ไม่ได้ ผมเป็นคนปากสว่างซะด้วยสิ ถ้าคุณให้ผมออกไปตอนนี้ ผมจะต้องป่าวประกาศไปทั่วแน่นอน ถึงตอนนั้นไปเข้าหูของเมียและลูกของคุณขึ้นมา คุณลองคิดดูสิว่าคุณจะเจอกับอะไรบ้าง?”
“นี่คุณกำลังขู่พวกเราอยู่เหรอ?”
ผู้อำนวยการจ้าวเอาเงินของฟางหลงเทียนกับคนคนนั้นไปเยอะขนาดนั้น ไม่ว่ายังไงเขาก็ต้องทำอะไรสักอย่างสิ
“ถ้าเป็นเรื่องของที่ดินของวันนี้ เกรงว่าคุณคงต้องกลับไปซะแล้วล่ะ คุณต้องรู้ว่าที่ดินนี้คุณไม่มีสิทธิ์อะไรทั้งนั้น พวกคุณไม่มีโฉนดที่ดิน นี่มันเป็นความจริงที่คุณต้องรู้”
“เป็นเรื่องจริงหรือไม่นั้น คุณก็รู้อยู่แก่ใจ”
เนี่ยเฟิงขำเบาๆ
“ผมไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดอะไรอยู่”
ผู้อำนวยการจ้าวแสร้งทำเป็นโง่ ถึงยังไงอีกฝั่งก็หาเบาะแสอะไรจากเขาไม่ได้อยู่แล้ว
“ผู้อำนวยการจ้าว ที่ผมมาในวันนี้ก็เพื่อมาบอกคุณเรื่องเรื่องหนึ่ง”
เนี่ยเฟิเงยมองผู้อำนวยการจ้าว ในตอนนี้ผู้อำนวยการจ้าวรู้สึกสับสนมึนงงไม่น้อย นายคนนี้สามารถหาที่นี่จนเจอได้ ดูท่าแล้วอีกฝั่งคงจะทำการตรวจสอบมาหนึ่งรอบแล้วแน่ๆ แต่ว่า……
แต่สินทรัพย์ของเขาอยู่ในธนาคารไป่ฮัวอยู่ตลอด ต่อให้อยากจะตรวจสอบ ก็น่าจะตรวจไม่เจอหรอก
ธนาคารไป่ฮัวช่วยกันปลอมแปลงบัญชีให้กับลูกค้ารายใหญ่แบบพวกเขามาทุกปี พวกเขารู้อยู่แก่ใจ
“เรื่องชั่วที่เคยทำไว้ ยังไงก็ต้องปรากฏขึ้นสักวัน วันนี้ผมให้โอกาสคุณหนึ่งครั้งแล้ว แต่น่าเสียดายที่คุณไม่ได้เห็นค่าของมัน ในเมื่อเป็นแบบนี้ คุณก็อย่ามาว่าผมไม่เมตตาก็แล้วกัน ในเมื่อคุณอยู่ฝั่งฟางหลงเทียนแล้วคิดที่จะบิดเบือนความจริง ถ้าอย่างนั้นตำแหน่งผู้อำนวยการนี้ของคุณก็อย่าเป็นมันซะเลย”
ผู้อำนวยการจ้าวไม่รู้สึกเลยว่าเขาก็มีความสามารถแบบนี้เหมือนกัน!
“ที่ผมมาที่นี่ แค่จะมาแจ้งให้คุณทราบล่วงหน้าก็เท่านั้น ตอนนี้ผมต้องกลับไปนอนแล้ว พรุ่งนี้ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะเปิดเผยออกมาเอง แต่ผมให้เวลาคุณ คืนนี้คุณจะหลบหนีไปได้ไหม นั่นมันก็ขึ้นอยู่กับโชคของคุณแล้ว”
เนี่ยเฟิงยิ้มอย่างมีเลศนัย เขาออกจากห้องของผู้อำนวยการจ้าว ผู้อำนวยการจ้าวขมวดคิ้วอย่างสับสนไม่เข้าใจ ไอ้หนุ่มคนนี้เอาความมั่นใจมาจากไหนกัน?
ผู้อำนวยการจ้าวครุ่นคิดดู นี่มันก็แค่เป็นวิธีการยั่วยุของนายคนนี้เท่านั้น
แม้ว่าไม่รู้ว่าเนี่ยเฟิงมาที่นี่เพื่ออะไร แต่ไอ้หนุ่มคนนี้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้หรอก หลังจากที่ผู้อำนวยการจ้าวปิดประตูแล้ว ก็นอนกอดคนรักของตัวเองจนหลับไป
วันต่อมา ตอนแรกเป็นวันหยุดของผู้อำนวยการจ้าว แต่กลับได้รับสายจำนวนมาก ผู้อำนวยการจ้าวลูบๆมือถือด้วยความสับสน พอเขามองดูให้ชัดๆก็ถลึงตาโต
ธนาคารไป่ฮัวล้มละลาย ท่านประธานของธนาคารไป่ฮัวยอมสารภาพอย่างตรงไปตรงมา ว่าตัวเองได้ปลอมแปลงบัญชีให้กับนักธุรกิจจำนวนมาก ตอนนี้ถูกคุมขังโทษคดีอาญาเรียบร้อยแล้ว
แต่สำหรับเนื้อหาที่ตัวเองได้ทำการปลอมแปลงบัญชี ประธานของธนาคารไป่ฮัวไม่ได้รับการยอมรับ ตอนนี้คนอื่นๆกำลังอยู่ในการตรวจสอบอยู่
ผู้อำนวยการจ้าวกลืนน้ำลายหนึ่งอึกด้วยความยากลำบาก นึกถึงคำพูดที่เนี่ยเฟิงพูดไว้กับตัวเองเมื่อคืน หรือว่าไอ้เด็กนั่นเป็นคนทำ? เขามีความสามารถมากขนาดนี้เลยเหรอ?!
ผู้อำนวยการจ้าวถกผ้าห่มออกอย่างลุกลี้ลุกลน ก่อนจะลุกสวมรองเท้าอย่างลนลาน เขารีบพุ่งตรงไปที่กรมที่ดินอย่างรวดเร็ว“เหล่าจ้าวคุณมาพอดีเลย หัวหน้ากำลังอยากพบคุณอยู่พอดี”