พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 122 ผลของการที่มายุแหย่กับเนี่ยเฟิง
บทที่ 122 ผลของการที่มายุแหย่กับเนี่ยเฟิง
ผู้อำนวยการจ้าวสั่นไปทั้งตัว ใจของเขาก็สั่นอยู่ไม่น้อย
แม้ว่าจะเป็นแบบนี้ แต่ในเมื่อหัวหน้าเรียกแล้วจะไม่ไปก็ไม่ได้ ดังนั้นผู้อำนวยการจ้าวจึงขึ้นไปข้างบนอย่างระมัดระวัง
“หัวหน้าคุณอยากพบผมเหรอครับ?”
“ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า ในกรมที่ดินของพวกเราจะมีสภาพที่เสื่อมโทรมจนน่ากลัวได้ขนาดนี้ คุณดูสิว่าพวกนี้มันคืออะไร!”
หัวหน้าโยนเอกสารทิ้งลงด้วยความโกรธถึงขั้นสุด ผู้อำนวยการจ้าวก็รีบเข้ามาตรวจดูเอกสารเหล่านี้อย่างรวดเร็ว ชักมุมปากทันที
“จะต้องมีคนกำลังเล่นงานผมอยู่แน่ๆครับ นี่มันของปลอมทั้งนั้น ไม่มีข้อมูลรับรองอะไรเลย หัวหน้าอย่าเชื่อพวกคนชั้นต่ำสิครับ!”
“วันนี้เรื่องของธนาคารไป่ฮัวเพิ่งจะแดงออกมา ตอนนี้พวกเราก็ได้รับเอกสารแบบนี้อีก คุณจะให้ผมเชื่อว่ายังไง”
หัวหน้าพูดพลางดึงๆเสื้อเชิ้ตของตัวเอง ดูท่าแล้วเขาคงจะโกรธไม่เบาเลย โกรธจนเหงื่อไหลอาบเต็มหน้า
ในความจริงผู้อำนวยการจ้าวก็ลนลานเหมือนกับมดที่อยู่บนหม้อร้อนๆเช่นกัน ธนาคารไป่ฮัวปิดตัวไปแล้ว ถ้าอย่างนั้นการที่จะสืบมาถึงตัวเขา ก็เป็นเรื่องที่จะต้องเกิดขึ้นแน่นอนไม่ช้าก็เร็ว ตอนนี้ถ้าไม่รีบหาโอกาสถอยตัวหนีไป เขาก็จะต้องยอมรับสารภาพอยู่ที่นี่ตลอดชีวิตแน่นอน
ตอนนี้ผู้อำนวยการจ้าวก็ไม่ได้มีเวลาคิดเยอะขนาดนั้นแล้ว แม้ว่าในใจของเขาจะกำลังสับสนว่าเรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับเนี่ยเฟิงหรือเปล่า แต่ผู้อำนวยการจ้าวก็รู้สึกแปลกไม่น้อย เนี่ยเฟิงมีความสามารถขนาดนี้จริงๆเหรอ? ธนาคารไป่ฮัวที่ถูกปิดไปมันเกี่ยวกับเขาจริงๆไหม?
แต่ไม่ว่ายังไงหลบหนีไปก่อนดีที่สุด ยังดีที่ผู้อำนวยการจ้าวพูดโน้มน้าวหัวหน้า ให้หัวหน้าปล่อยเขาไปตรวจสอบก่อน เขาจึงรีบกลับไปที่บ้านวิลล่าทันที
หลังจากมาถึงบ้านวิลล่าแล้ว เขาก็รีบเปิดพื้นออก หอบเอาเงินออกมาจากข้างในทีละกองๆ เงินพวกนี้เป็นเงินที่โกงมา ไม่สามารถฝากเข้าไปในธนาคารได้ ทั้งหมดล้วนแต่เป็นเงินที่รับมาจากการติดสินบนทั้งสิ้น
ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เขาจะต้องถูกตรวจพบแน่นอน!
ผู้อำนวยการจ้าวไม่สามารถปล่อยให้มันล้มเหลวโดยที่ยังไม่ทันได้ทำอะไรเลยไม่ได้!เขาเก็บเงินไว้นานขนาดนี้ ไม่ได้ใช้เลยแม้แต่ใบเดียว ตอนนี้เงินพวกนี้กองสูงอยู่ตรงหน้าของเขาราวกับภูเขาขนาดย่อม
“คุณดูลนลานมากเลยนะ แต่ว่าคุณจะสามารถหอบเอาเงินพวกนี้ไปได้หรือเปล่านี่สิ?”
ในตอนนี้มีเสียงเบาๆลอยเข้ามา ทำให้ผู้อำนวยการจ้าวตกใจจนแทบจะสำลัก ผู้อำนวยการจ้าวมองไปตามทิศทางของเสียง เขาเห็นเนี่ยเฟิง เนี่ยเฟิงไม่รู้ว่าโผล่มานั่งอยู่บนเก้าอี้ตรงมุมตั้งแต่เมื่อไร ในมือถือเงินไว้หนึ่งปึก มองมาที่เขาด้วยสีหน้ายิ้มแต่ก็เหมือนไม่ยิ้ม
ผู้อำนวยการจ้าวตกใจจนอ่อนระทวยไปทั้งตัว ล้มลงไปคุกเข้าอยู่บนพื้นอย่างจัง เขากลัวจนมือไม้สั่น ร่างกายสั่นไปหมด
“จะมาร้องขอความเมตตาตอนนี้ไม่ทันแล้วล่ะ เมื่อคืนผมก็ให้โอกาสคุณแล้วไม่ใช่เหรอ? ผมว่าคุณนี่มันเป็นพวกที่เชื่อแบบไม่ลืมหูลืมตาจริงๆ”
ผู้อำนวยการจ้าวกลืนน้ำลายหนึ่งเฮือกด้วยความยากลำบาก“คุณเนี่ยครับ ผมสำนึกผิดแล้ว กว่าผมจะเก็บเงินมากมายขนาดนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย คุณก็รู้ว่าผมเป็นแค่พนักงานตัวเล็กๆในกรมที่ดินเท่านั้น พนักงานตัวเล็กๆแบบนี้จะทำเรื่องใหญ่โตอะไรได้ล่ะครับ? ผมก็ต้องห่วงอนาคตในภายภาคหน้าของผมเหมือนกันนะ!”
“ฟังดูแล้วเหมือนจะลำบากน่าดูเลยนะ”
เนี่ยเฟิงพยักหน้าอย่างจริงจัง“แต่ทำยังไงได้? ผมคนนี้ไม่ได้เป็นคนที่เห็นอกเห็นใจคนอื่นซะด้วยสิ พอผมนึกถึงเรื่องที่เมื่อคืนคุณกับฟางหลงเทียนร่วมมือกันจัดการผมกับพี่สาวของผม ผมก็รู้สึกไม่สบอารมณ์ขึ้นมาทันที พี่สาวของผมอดหลับอดนอนทั้งคืนเพราะว่าเรื่องของพวกคุณ ตอนนี้ผมก็ยังคงอารมณ์เสียอยู่เลยนะ”
เนี่ยเฟิงแบะปาก“ตอนแรกผมกะจะไม่ลงมือกับพวกคุณเร็วขนาดนี้ แต่ดันมีคนมารนหาที่ตายเองซะอย่างนั้น ถ้าเกิดผมไม่ลงมือกับพวกคุณ ผมก็จะถูกพวกคุณมองว่าเป็นพวกสะบัดสะบิ้งไม่เด็ดขาดสินะ?”
“ไม่ใช่นะครับๆ ผมมีตาหามีแววไม่ ขอร้องละ คุณปล่อยพวกผมไปเถอะนะครับ ผมสำนึกผิดแล้ว จากนี้ไปคุณจะให้ผมทำอะไรก็ได้ ผมจะไม่ไปติดต่อยุ่งเกี่ยวกับฟางหลงเทียนอีก เรื่องที่ฟางหลงเทียนให้ผมทำ ผมจะไม่ไปทำคุณไว้ชีวิตผมเถอะนะ ให้โอกาสผมสักครั้ง!”
เนี่ยเฟิงเดินถือเงินเข้ามา เขามองต่ำลงมายังผู้อำนวยการจ้าวที่นั่งคุกเข่าอยู่ที่พื้น
“ถ้าเกิดเมื่อวานคุณไม่ได้บังคับเธอขนาดนั้น วันนี้ผมก็กะจะปล่อยคุณไปแล้ว แต่น่าเสียดายเมื่อวานคุณบังคับกดขี่ผมกับพี่สาวซะขนาดนั้น ตอนนี้ผมยังรู้สึกไม่สบอารมณ์อยู่เลย ดังนั้นผมไม่มีทางให้โอกาสคุณหรอก”
เนี่ยเฟิงฉีกยิ้มกว้าง โยนเงินในมือของตัวเอง ธนบัตรสีแดงปลิวกระจัดกระจายทันที
“คุณก็หอบเงินของคุณเข้าไปในคุกแล้วกันนะ”
เนี่ยเฟิงยิ้มอ่อนๆ ต่อมาเขาเหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ เขาก้มลงไปพูดกับผู้อำนวยการจ้าวเบาๆ
“ใช่แล้ว มีหนึ่งเรื่องที่ผมควรจะบอกคุณ นั่นก็คือเงินของคุณที่อยู่ต่างประเทศ ตอนนี้เข้ามาในกระเป๋าของผมหมดเรียบร้อยแล้ว ส่วนคุณก็กอดเงินของคุณกองนี้เข้าไปอยู่ในคุกแล้วกันนะ”
เนี่ยเฟิงพูดจบ ก็เตะผู้อำนวยการจ้าวเข้าไปหนึ่งที ก่อนจะเดินไปที่ประตู เขาบิดเอวขี้เกียจ ผู้อำนวยการจ้าวคนนี้ทำให้คนอื่นเสียหายไปไม่น้อย มันเลยทำให้เขาต้องลุกขึ้นมาลงมือจัดการเร็วขนาดนี้
“จริงๆแล้วการที่จะลงมือฆ่าคุณกับฟางหลงเทียนสำหรับผมแล้วเป็นเรื่องที่ง่ายมาก แต่โลกใบนี้มีวิธีการที่ทำให้อีกฝั่งทรมานได้มากกว่าการฆ่า คุณชอบเงินไม่ใช่เหรอ? ถ้าอย่างนั้นผมก็จะทำให้คุณไม่เหลือเงินแม้แต่แดงเดียว คุณชอบอำนาจไม่ใช่เหรอ? ถ้าอย่างนั้นผมก็จะทำให้คุณไร้ซึ่งอำนาจบารมี”
ผู้อำนวยการจ้าวมองเนี่ยเฟิงที่ยืนอยู่ตรงประตูด้วยความหวาดกลัว เนี่ยเฟิงหันหลังให้เขา แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องลงมา ทำให้เรือนร่างของเขาเป็นสีทองอร่าม แต่เงาหลังของเขากลับแอบแฝงอยู่ในความมืดมิด
ในเวลานี้เนี่ยเฟิงค่อยๆหันหน้ากลับมา“คุณไม่มีเวลาให้หนีแล้ว”
เนี่ยเฟิงเพิ่งจะก้าวเดินไป คนของสถานีตำรวจก็พากันวิ่งเข้ามาทันที
ตอนที่พวกเขาเห็นข้างใต้พื้นดินมีแต่เงินกองรวมกันนั้น สองตาของพวกเขาก็เปิดกว้างอย่างช่วยไม่ได้
ส่วนอีกด้านหนึ่ง ฟางหลงเทียนพอได้รับทราบถึงข่าวการปิดตัวลงของธนาคารไป่ฮัว ก็สั่นไปทั้งตัว
“นายไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม ธนาคารไป่ฮัวก่อตั้งมาตั้งนานหลายปีขนาดนั้นจะถูกปิดได้ยังไง?”
แถมธนาคารไป่ฮัวมีคนมากมายขนาดนั้นคอยสนับสนุนอยู่ จู่ๆเขาบอกว่าจะปิดตัวก็ปิดตัวลงซะอย่างนั้นได้ยังไง?!
“ท่านประธาน นี่มันคือเรื่องจริง แถมตอนนี้ท่านประธานของธนาคารไป่ฮัวก็กำลังถูกตรวจสอบอยู่ ผมกังวลว่าทางฝั่งของตำรวจอาจจะมาถึงคุณแล้วก็ได้ คุณระวังตัวด้วยนะครับ!”
ในตอนแรกผู้ช่วยกับฟางหลงเทียนเป็นพวกเดียวกัน แต่ผู้ช่วยก็ได้รับสินบนไปไม่น้อย เขาในตอนนี้ก็ลนลานอยู่ไม่สุขราวกับมดบนหม้อร้อนๆเหมือนกัน กลัวจนสุดขีด
“นอกจากนี้แล้ว วันนี้ผมยังเห็นคนของสถานีตำรวจพาตัวของผู้อำนวยการจ้าวจากกรมที่ดินไปแล้วด้วย ผมคิดว่าเรื่องที่พวกเราทำ ไม่นานก็จะต้องแดงออกมา พวกเรารีบคิดหาวิธีหนีไปดีกว่าครับ!”
ผู้ช่วยพูดจบก็วางสายลง ฟางหลงเทียนยังคิดที่จะพูดอะไร แต่ก็โทรไม่ติดแล้ว
ฟางหลงเทียนกำหมัดแน่นตรวจพลางดูสถานการณ์ของวันนี้ สำหรับเขาและตระกูลฟางแล้วนี่เป็นการโจมตีที่ถึงแก่ชีวิตได้เลย!
ฟางหลงเทียนในตอนนี้ก็โทรไปทางนั้นไม่ติด ดูท่าแล้วทางนั้นคงกะจะไม่ช่วยเขาอีกแล้ว ฟางหลงเทียนโกรธจนกัดฟันกรอดๆ เขารีบเก็บเงินแล้วก็หนีไปทันที
แต่ฟางหลงเทียนคิดไม่ถึงว่าสังคมกำลังตามตัวเขาอยู่ ตอนนี้เขาถึงขั้นที่ไม่มีคนที่สามารถติดต่อได้แล้ว
ฟางหลงเทียนโกรธสุดๆ หลังจากที่วุ่นไปวุ่นมาตลอดทั้งวัน ฟางหลงเทียนก็ดูเหมือนจะใช้อำนาจของตัวเองหาเรือสินค้ามาได้หนึ่งลำ
ตกช่วงกลางคืนที่เงียบสงัด ฟางหลงเทียนแอบมาถึงตรงท่าเรืออย่างเงียบๆ
วันนี้เขาเหมือนกับหนูที่เดินตามริมถนน