พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 143 ก็แค่ไม่กี่พันล้าน
บทที่ 143 ก็แค่ไม่กี่พันล้าน
จางเจิ้นกั๋วยิ้มโต้อย่างโกรธจัด เห็นเพียงเขาโบกมือพลางพูดพึมพำว่า
“ช่างเถอะ เห็นพวกนายก็น่าสงสารพออยู่แล้ว ให้พวกนายดิ้นรนกันต่อไปแล้วกัน ดูท่าทางพวกนายคงไม่รู้ เมื่อกี้เครื่องบินของที่นี่ถูกเศรษฐีมือเติบคนหนึ่งเหมาซื้อไปหมดแล้ว เห็นไหม นี่แหละคือคนมีเงินของจริง!”
โจวลี่ซือชอบตื่นตระหนก มิน่าพวกเขาถึงกลับมาทางเดิม ที่แท้เครื่องบินทั้งหมดนี่ก็ถูกซื้อไปหมดแล้ว เป็นใครกันที่มีทรัพย์สินเงินทองมากมายขนาดนั้น จากที่รู้เครื่องบินเหล่านี้รวมกันเป็นราคาหลายพันล้านเชียวนะ
“เมื่อกี้พวกนายเป็นคนบอกเองไม่ใช่เหรอว่าเป็นคนมีเงิน ในเมื่อเป็นคนมีเงิน ทำไมไม่ไปแย่งซื้อกับเศรษฐีคนนี้ล่ะ ให้เศรษฐีคนนี้เอาหน้าใหญ่โต ไม่เหมือนนิสัยของพวกนายเลยนะ”
ในดวงตาของเนี่ยเฟิงมีรอยยิ้มเยาะหยันวาบผ่าน จางเจิ้นกั๋วพลันกลอกตามองบนทันที
“พวกเราเป็นคนมีเงิน เป็นความเข้าใจระหว่างคนมีเงินกับคนมีเงิน อย่าเอาฉันไปเทียบกับนายสิ ในเมื่อมหาเศรษฐีคนนี้ต้องการเหมาเครื่องบินทั้งหมด งั้นฉันก็ต้องช่วยส่งเสริมเขาสิ!”
“เกรงว่าต่อให้นายไม่ส่งเสริมเขาก็คงไม่มีปัญญาซื้อเครื่องบินพวกนี้หรอก? เห็นท่าทางนายช่างน่าสงสารจริงๆ ขนาดเครื่องบินถูกๆ ราคาไม่กี่แสนยังซื้อไม่ได้ เครื่องบินหลายล้านล้านเหล่านั้นแค่คิดก็ยังไม่กล้าคิดเลยมั้ง?”
จางเจิ้นกั๋วอับอายจนเกิดโทสะ “อย่านึกว่าเมื่อกี้มหาเศรษฐีคนนั้นเหมาเครื่องบินไปหมดแล้วก็จะกู้หน้าให้พวกนายได้ ไม่หัดประเมินตัวเองบ้างว่าหนักกี่ชั่งกี่ตำลึง เพราะเงินของฉันไม่เกี่ยวกับนายแม้แต่ครึ่งขน!”
“งั้นหรือ?”
เนี่ยเฟิงยิ้มเย็น จากนั้นก็มองไปคนรับผิดชอบของฝ่ายจัดงานที่กำลังเดินมาทางพวกเขาอย่างรีบร้อน
ทุกคนต่างยืดคอมอง อยากรู้ว่ามหาเศรษฐีคนนี้เป็นใครกันแน่ เพราะอย่างไรคนแบบนี้ก็ต้องสุดยอดมากเป็นแน่
ใช้เงินหลายพันล้านเหมาเครื่องบินที่อยู่ที่นี่ทั้งหมด คนรวยเช่นนี้อยู่ท่ามกลางพวกเขานับว่าโดดเด่นเหนือใคร
“ไม่ทราบว่า คุณคือคุณเนี่ยใช่ไหมครับ?”
เนี่ยเฟิงพยักหน้า จากนั้นก็ยื่นมือออกมาหาพวกเขา “สัญญาซื้อขายอยู่ที่ไหน?”
คนรับผิดชอบยิ้มทันที หยิบสัญญาซื้อขายอันหนาปึกกองหนึ่งมาจากมือเลขา พร้อมส่งไปให้อย่างเร่งร้อน จากนั้นก็ยิ้มแย้มกล่าวว่า
“คุณเนี่ยครับ นี่คือสัญญาซื้อขายเครื่องบินทั้งหมด เมื่อกี้มีบางส่วนขายออกไปบ้างแล้ว หากคุณยังต้องการอีก ผมสามารถจัดซื้อโมเดลแบบเดียวกันมาให้คุณได้”
ใบหน้าหนาๆ ของคนรับผิดชอบแย้มบานออกเป็นรอยยิ้ม เพราะอย่างไรนี่ก็คือลูกค้าคนสำคัญ ประเดี๋ยวเดียวก็เหมาเครื่องบินในงานของพวกเขาไปจนหมด นี่คือเรื่องที่ยอดเยี่ยมนัก
หลังจางเจิ้นกั๋วรวมถึงคนที่อยู่บนรถเมื่อกี้ ได้ยินก็ตกตะลึงจนปากอ้าตาค้าง นี่มันเกิดอะไรขึ้น? คนของฝ่ายจัดงานโง่ไปแล้วหรือเปล่า?
“พวกคุณเข้าใจผิดอะไรหรือเปล่า? ยาจกสองคนนี้ จะเหมาเครื่องบินทั้งหมดได้ยังไง?”
“นั่นสิ พวกเขาคือคนที่ถูกไล่ลงจากรถโดมเมื่อกี้ พวกเขาจะเหมาเครื่องบินทั้งหมดได้ยังไง!”
ทุกคนทำท่าไม่อยากจะเชื่อ สองตาเบิกกว้างไม่ค่อยจะเชื่อเท่าไหร่นักว่าเครื่องบินจะถูกเนี่ยเฟิงเหมาไปหมดแล้ว
ฝ่ายจัดงานทำหน้าดุร้ายทันที “เมื่อกี้เป็นใครกันที่ไม่เคารพต่อแขกอันสูงศักดิ์ของเรา? ขอโทษด้วย ต่อไปงานนิทรรศการของเราไม่ขอต้อนรับพวกคุณอีกแล้ว พวกคุณควรรีบออกไปจากที่นี่จะดีกว่า!”
เนี่ยเฟิงชอบฝ่ายจัดงานที่เป็นอย่างนี้มาก ด้วยเหตุนี้จึงลอบพยักหน้าให้
“งานนิทรรศการของพวกคุณทำได้ไม่เลวเลย แถมคุณเองก็ยังนับว่าตาถึง งั้นเอาอย่างนี้แล้วกัน ต่อไปหากพวกคุณจัดนิทรรศการ ผมจะออกทุนให้พวกคุณแล้วกัน”
พอฝ่ายจัดงานได้ยินเนี่ยเฟิงพูดเช่นนี้ ก็ยิ้มแย้มเบิกบานขึ้นมาทันที พวกคนรับผิดชอบพลันพยักหน้าราวกับทุบกระเทียม ดูมีความสุขเหนือคำบรรยาย
จางเจิ้นกั๋วอ้าปากหวอ ปากที่อ้าอยู่นั้นสามารถยัดไข่ไก่เข้าไปได้ฟองหนึ่ง เขาไม่ค่อยเข้าใจนักว่าทำไมเรื่องราวถึงคดีพลิกได้ เดิมพวกเขาสองคนก็คือยาจกนี่นา จะเอาเงินมากมายจากที่ไหนมาซื้อเครื่องบินทั้งหมดได้?
โจวลี่ซือเองก็ไม่เข้าใจเช่นกัน คำพูดเหล่านั้นที่เนี่ยเฟิงพูดออกมาอย่างหนักแน่นจริงจังเมื่อสักครู่ ราวกับคาดเดาได้แล้วว่าอีกเดี๋ยวจะเกิดอะไรขึ้น
หรือว่าเครื่องบินเหล่านี้เนี่ยเฟิงจะเป็นคนซื้อไว้จริงๆ เครื่องบินราคาหลายพันล้านเชียวนะ เนี่ยเฟิงไปเอาเงินมาจากไหน?
“จริงสิ ไล่เจ้าหมอนี่ออกไปเถอะ เห็นเขาแล้วผมก็โกรธขึ้นมา เดิมทีก็ไม่ใช่คนมีเงินอะไรนัก ยังจะมาคุยโวโอ้อวดอยู่ที่นี่อีก”
เนี่ยเฟิงพูดพลาง มือก็ชี้ไปที่จางเจิ้นกั๋วพลาง
จากนั้นรปภ.สองสามคนก็มาถึง มีคนหนึ่งหิ้วตัวจางเจิ้นกั๋ว โยนจางเจิ้นกั๋วออกไปอีกทาง ระหว่างนั้นจางเจิ้นกั๋วก็พยายามออกแรงขัดขืนพลางพูดว่า
“พวกนายถูกหลอกแน่แล้ว เจ้าหมอนี่ไม่มีทางมีเงินหรอก พวกนายต้องเข้าใจผิดอะไรแน่! พวกนายถึงกับกล้าไม่เคารพฉัน? รู้ไหมว่าฉันเป็นใคร? ฉันคือผู้จัดการใหญ่ของบริษัทสายการบินซ่าวซื่อ พวกนายรีบปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!”
แต่รปภ.ไม่ฟังที่เขาพูด แต่โยนคนออกไปแทน จางเจิ้นกั๋วกลายเป็นที่ขบขันในสายตาผู้คนมากมาย ส่วนคนอื่นๆ ก็ใช้สายตาเลื่อมใสมองเนี่ยเฟิงเช่นกัน
พวกเขาไม่รู้ว่าชายหนุ่มที่สวมชุดเรียบง่ายคนนี้ เป็นคุณชายจากบ้านไหนกันแน่ ถึงกับมีเงินมากมายก่ายกองเช่นนี้ บอกว่าจะซื้อทั้งหมดก็ซื้อทั้งหมด นี่มันหลายพันล้านเชียวนะ!
ฝ่ายจัดงานมองไปที่เนี่ยเฟิงอย่างประจบ “คุณเนี่ยครับ คนเกะกะเราได้เชิญออกไปแล้ว วันนี้คุณมีเวลาว่างไหมครับ หากว่างโปรดให้เกียรติมาทานข้าวกับพวกเราสักมื้อได้ไหม?”
เนี่ยเฟิงลูบปลายคาง ใคร่ครวญอยู่สักครู่ เห็นเพียงเขากวาดตามองผ่านไปที่คนเหล่านั้นที่ก่อความวุ่นวายอยู่ด้วยกันเมื่อกี้
พวกเขาต่างพากันก้มหน้าลง
บอกตามตรงให้พวกเขาซื้อเครื่องบินของที่นี่รวดเดียวหมด พวกเขาแบกรับไม่ไหวจริงๆ บริษัทพวกเขามีเงินหลายพันล้าน แต่จะให้เอามาซื้อเครื่องบินพวกเขาทำไม่ลง
เพราะอย่างไรเงินพวกนี้ก็ล้วนเป็นเงินทุนหมุนเวียนและทรัพย์สินถาวรของบริษัท พวกเขาจะเอามาใช้จ่ายฟุ่มเฟือยขนาดนี้ได้ยังไง?
เมื่อกี้พวกเขาล้วนล่วงเกินเนี่ยเฟิงกับโจวลี่ซือไป ตอนนี้จึงไม่กล้าพูดอะไรอีก แต่ละคนทำตัวราวกับนกกระทาอย่างไรอย่างนั้น
“เรื่องกินข้าวขอผ่านแล้วกัน เครื่องบินพวกเราค่อยมาที่นี่ใหม่ เอาไว้ที่นี่ก่อนแล้วกัน ค่าใช้จ่ายของโรงยิม เดี๋ยวผมจะโอนเข้าบัญชีของพวกคุณ”
เนี่ยเฟิงพูดพลางโบกมือพลาง จากนั้นก็มองไปที่โจวลี่ซือ
“พี่ห้า พี่อยากไปดูเครื่องบินลำนั้นที่พี่ชอบมากไหม?”
โจวลี่ซือยังไม่ได้สติ เธอยังจมอยู่ในความตกตะลึง
พอเนี่ยเฟิงถามเช่นนี้ โจวลี่ซือถึงค่อยรู้สึกตัวสมองที่หยุดทำงานค่อยๆ หมุนอย่างช้าๆ โจวลี่ซือพยักหน้าอย่างเชื่องช้า
“งั้นพวกเราก็ไปดูกันเถอะ”
เนี่ยเฟิงเรียกคนขับรถโดม มุ่งสู่AW609
“สมกับเป็นเครื่องบินที่พี่ห้าชอบ รูปทรงสวยจริงๆ ไม่รู้ประสิทธิภาพจะเป็นยังไง พี่อยากจะขึ้นไปขับดูไหม”
แม้โจวลี่ซือจะไม่มีปัญญาซื้อเครื่องบินในฝัน แต่เธอก็คิดมาตลอดว่าสักวันหนึ่งตนเองจะต้องลองขับAW609นี้ให้ได้
คิดไม่ถึงว่าโอกาสจะมาเร็วเช่นนี้
โจวลี่ซือขึ้นไปที่ห้องบังคับ ส่วนเนี่ยเฟิงก็นั่งอยู่ตำแหน่งรองคนขับ
ตอนที่เครื่องบินกำลังลอยวนเวียนอยู่นั้น โจวลี่ซือก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป
“เสี่ยวเฟิง นายทำได้ยังไงกัน? นายไปเอาเงินหลายพันล้านมาจากไหน เพื่อซื้อเครื่องบินทั้งหมดนี่ เรื่องมันเป็นมายังไงกันแน่? นายไม่ได้หลอกฉันใช่ไหม นายบอกฉันมาตามตรง!”
โจวลี่ซือขับเครื่องบินวันอยู่เหนือโรงยิม แต่สายตาของเธอกลับเอาแต่มองเนี่ยเฟิง